ตอนที่แล้วตอนที่ 147 ทหารของกองทัพไทกีล่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 149 ทุ่งหญ้าที่เปลี่ยนเป็นนรกเพลิง

ตอนที่ 148 สนามรบบนต้นไม้


ตอนที่ 148 สนามรบบนต้นไม้

ไนเรลขี่ม้ายักษ์เคลื่อนที่ อย่างรวดเร็วออกจากเขตสนามแม่เหล็กที่ตัดสัญญาณการสื่อสาร ทันทีที่ตัวของไนเรลและม้ายักษ์ออกมาพ้นอุปกรณ์สื่อสารที่ข้อมือของเขาก็เต็มไปด้วยเสียงเรียกเข้าของซีโร่ จูเรีย เอวาและไคโรพ่อของเขา

ข้อความแรกติดต่อมาจากซีโร่รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงใหม่ไทกีล่า จากนั้นก็เป็นเอวาที่พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน แต่ดูเหมือนทั้งหมดจะไม่สามารถติดต่อเขาได้

ทุกคนต่างหากันหยุดม้ายักษ์ที่ตนเองขี่

“พี่ชายเกิดอะไรขึ้น ทำไมมีข้อความจากสมาพันธ์นักล่าส่งมาถึงพวกเรามากขนาดนี้” นิเรียใช้มือปัดน้ำฝนบนหน้าจออุปกรณ์สื่อสารของเธอเพื่ออ่านข้อความที่ได้รับ

ไม่ได้มีแค่เด็กสาวที่ตรวจเช็คอุปกรณ์สื่อสารของตัวเอง คนอื่น ๆ ก็ตรวจดูอุปกรณ์สื่อสารที่ข้อมือของตัวเองและก็เห็นว่ามีข้อความที่ส่งมาเช่นกัน แต่พอพวกเขาติดต่อกลับไปปรากฏว่ามี่สัญญาณตอบรับ เหมือนกับมีบางสิ่งปิดกั้นสัญญาณ

“เกิดเรื่องขึ้นแล้ว” นี่คือสิ่งที่ทุกคนคิดในตอนนี้

“ซีโร่...” ไนเรลพยายามติดต่อซีโร่เช่นกัน และก็ได้รับการตอบกลับจากซีโร่

“ท่านไนเรล” เสียงของซีโร่ดังขึ้นมาเหมือนเช่นปกติ

“เกิดอะไรขึ้นรายงานสถานการณ์มาด่วน มันเกิดอะไรขึ้น” ไนเรลพูดด้วยความนิ่งสงบ คนอื่น ๆ ที่เห็นท่าทีของชายหนุ่มก็พากันตั้งสติรอฟังรายงานของซีโร่อยู่ด้านข้าง

“หลังจากท่านไนเรลออกเดินทางและเข้าเขตสนามแม่เหล็กสัญญาณก็หายไป หลังจากนั้นเกิดการระบาดของฝูงซอมบี้ที่ออกมาจากเมืองหลวงซานติเกีย หลังจากนั้นสองวันเกิดเรื่องบางอย่างที่เมืองหลวงใหม่ไทกีล่า สัญญาณการติดต่อทุกอย่างถูกตัดขาด สันนิษฐานว่าเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ แต่ไม่ทราบว่ากองกำลังฝ่ายไหน”

ซีโร่ยังคงอธิบายต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้แต่คิดตามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลาไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์กับเกิดเรื่องมากขนาดนี้

“หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมงมีกองกำลังที่เดินทางออกจากเมืองหลวงไทกีล่าใหม่ แต่ก็ขาดหายไประหว่างทาง หลังจากนั้นหนึ่งวันเกิดเหตุการณ์เดียวกับเมืองหลวงใหม่ไทกีล่า สัญญาณทั้งหมดถูกปิดกันกินอาณาเขตตั้งแต่เมืองซานติเกียจนถึงเมืองย่อย 101 ตอนนี้ทางผมกำลังทำการแฮกระบบเพื่อติดต่อท่านจูเรีย”

“จากข้อมูลทั้งหมด ทำการจำลองสถานการณ์ได้ 1,045 แบบจึงสรุปได้ว่าสมาพันธ์นักล่ากำลังโดนโจมตีจากกองกำลังที่ยังไม่สามารถยืนยันได้ร้อยเปอร์เซ็นต์” ซีโร่รายงานตามข้อมูลที่มันรู้

“นายคิดว่ามีใครบ้างที่สามารถทำเรื่องนี้ได้” ไนเรลถามออกมาและแน่นอนว่าเขาถามซีโร่

“รัฐบาลไทกีล่า 12.60 %, จีนาส 18.40 %, พาราซัส 45.12 %, อามิวกัส 15.88 % และอื่น ๆ อีก 8 %

แต่ถ้าจากข้อมูลตอนนี้ พาราซัสก็คือจีนาสดังนั้นจึงคิดว่ามีโอกาสเป็นจีนาส 63.52 %” ซีโร่รายงานสิ่งที่มันคำนวณไดออกมาจากข้อมูลทั้งหมดที่ยังคงใช้งานได้อยู่

ไนเรลเองก็คิดเหมือนกับซีโร่ เพราะเขารู้ว่าไม่ช้าก็เร็วเรื่องนี้จะต้องเกิด ส่วนที่ซีโร่คิดว่ามีโอกาสที่จะเป็นรัฐบาลไทกีล่านั้นน้อยมากก็เพราะรัฐบาลยังมีผลประโยชน์กับสมาพันธ์นักล่าอยู่ ไม่มีทางทำลายแขนขาของตัวเองอย่างแน่นอน เพราะสมาพันธ์นักล่าคือองค์กรที่รวบรวมมนุษย์ชั้นสูงและนักล่าไว้จำนวนมากที่สุดภายในประเทศไทกีล่า

นั้นทำให้รัฐบาลสามารถออกคำสั่งผ่านภารกิจของสมาพันธ์นักล่าได้และที่ผ่านมาก็เป็นเช่นนั้น

ดังนั้นต้องเป็นพาราซัส ในชีวิตก่อนพาราซัสก็เป็นเนื้อร้ายของไทกีล่าและประเทศอื่น ๆ ส่วนอีกสองบริษัทข้ามชาติหนึ่งอยู่อีกทวีปตอนนี้เป็นตายร้ายดียังไงไม่ทราบ อีกหนึ่งน่าจะโดนทำลายไปแล้วซึ่งเขาก็ไม่ทราบเรื่องนี้

พาราซัสคือจีนาสและตอนนี้จีนาสต้องการรวบรวมไทกีล่าให้อยู่ภายใต้อำนาสของตนเอง

“คนภายในรัฐบาลขายชาติไปซะแล้ว...” ไนเรลพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เบามาก แต่มันกับดังก้องอยู่ในหูของทุกคนที่นี่

“หมายความว่าไง อะไรคือขายชาติ” เมสันได้ยินก็ต้องตกใจเช่นกันไม่ต่างจากคนอื่น ๆ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถามและความสับสน

“เมืองหลวงเกิดการผิดปกติ เดาว่าพาราซัส ไม่สิจีนาสนายของพวกพาราซัสซื้อคนในรัฐบาลไปแล้ว และแน่นอนว่าต้องเป็นคนที่สามารถค้านอำนาจกับนายกรัฐมนตรีไทกีล่าได้” ไนเรลพูดด้วยความเงียบขรึม ถึงที่ผ่านมาเขาจะไม่ค่อยสนใจแบ่งแยกผู้คนและประเทศ เพราะอย่างๆ รก็เป็นมนุษย์เช่นกัน

แต่พอมันเกิดขึ้นจริงใจของขาก็หวิว ๆ เช่นกัน มันเหมือนบางอย่างหายไป แต่ก็เกิดขึ้นไม่นานไนเรลปรับอารมณ์ตัวเองอย่างรวดเร็ว

“เรื่องนี้กลับไปก่อนค่อยพูดกันอีกที ต้องรีบไปที่เมืองซานติเกียและสมาพันธ์นักล่า” ไนเรลควบม้ายักษ์ออกไปทันที

นิเรียและคนอื่น ๆ ก็ตามไนเรลไปเช่นกัน มาได้สักพักด้วยความเร็วสุดขีดของม้าก็อยู่ห่างเมืองซานติเกียประมาณ 2,000 กิโลเมตรไนเรลกับบังคับม้าไปทางตะวันตกที่ซึ่งเมืองหลวงเก่าไทกีล่าตั้งอยู่

“พี่เราจะไปไหน เมืองซานติเกียอยู่ทางนี้” นิเรียพูดในขณะที่ดึงเสื้อคลุมกันฝนที่กระทบใบหน้า ด้วยความเร็วกว่า 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงน้ำที่กระเด็นโดนจึงเจ็บมาก

“ถ้าเกิดเรื่องที่เมืองซานติเกีย แค่กองกำลังพวกเรายังคงไม่พอต้องไปตามกองกำลังทั้งสามที่ไล่ล่าฝูงซอมบี้กลับมาช่วยด้วย พวกน้องกลับไปก่อนได้เลย พามันกลับไปด้วย” ไนเรลชี้ไปที่ม้าที่ตัวเองขี่อยู่จากนั้นก็ส่งสายบังเหียนให้กับคนในกลุ่มจากนั้นเขาก็ดีดตัวบินขึ้นท้องฟ้าไปอย่างรวดเร็ว

การกระทำของไนเรลชัดเจนนั้นก็คือให้ทุกคนกลับไปสมทบก่อน ด้วยนิเรียที่มีพลังระดับสีน้ำเงินขึ้นต้น คงจะสามารถทำอะไรบ่างอย่างได้ถ้าเกิดเรื่อง และการที่ไนเรลต้องเป็นคนไปตามก็เพราะว่าเขาบินได้

นิเรียหรี่ตามองพี่ชายของเธอที่บินไปบนฟ้าผ่านเมฆฝนหายไป จึงบังคับควบม้าพาคนที่เหลือกลับไปที่เมืองซานติเกียก่อน

ม้าของทั้งสิบสี่คนกระโดดลัดเลาะไปตามกิ่งไม้ที่ทอดยาวหลายร้อยเมตรจากนั้นก็ลงไปตามรากใหญ่ยักษ์ของต้นไม้ในผืนป่าตามแต่เส้นทางที่สามารถไปได้

.....

ทางด้านของกองกำลังหมาป่าที่นำโดยโลแกนก็กำลังสู้พัวพันอยู่กับฝูงซอมบี้สี่หมื่นตัวที่นำโดยซอมบี้สติปัญญาระดับ 4 หนึ่งตัว และซอมบี้สติปัญญาระดับ 3 อีก สามตัว ซึ่งอันที่จริงแล้วฝูงนี้คือการรวมกันของซอมบี้สี่ฝูงที่นำโดยซอมบี้ระดับ 3 หนึ่งตัวต่อหนึ่งฝูง

จนเมื่อเช้าพวกมันรวมฝูงกันจากนั้นซอมบี้สติปัญญาตัวหนึ่งก็วิวัฒนาการเป็นระดับ 4

จากเกิดความผิดปกติที่เมืองซานติเกีย ทั้งโลแกนและเฒ่าไมเคิลจึงปรึกษากันว่าจะถอนกำลังกลับไปที่เมืองซานติเกียก่อนเพื่อดูสถานการณ์

แต่ใครจะคิดว่าตอนที่ถอนกำลังกลับ กองกำลังหมาป่ากับถูกซุ่มโจมตีโดยซอมบี้ หน่วยสอดแนมที่เป็นมนุษย์ชั้นสูงที่ส่งไปก่อนหน้านี้ก็หายตัวไป

จึงติดต่อกองกำลังเวหาให้แจ้งต่อกองกำลังพยัคฆ์ให้มาช่วยพวกเขา เพราะตอนนี้มีฝูงซอมบี้จำนวนมากล้อมพวกเขาไว้ตรงกลาง แต่ดูเหมือนสัญญาณการติดต่อกับกองกำลังเวหาก็จะหายไปด้วย ทั้งหมดไม่สามารถติดต่อใครได้จึงได้แต่พึ่งพาตัวเอง

โลแกนสั่งให้ทุกคนขึ้นไปด้านบนของต้นไม้ยักษ์อาศัยมันเป็นทางเดินข้ามฝูงซอมบี้ที่อยู่บนพื้น แต่พวกเขาก็ต้องระวังซอมบี้ปีกและซอมบี้เงาที่รวดเร็ว และแล้วสงครามบนต้นไม้ยักษ์ก็เริ่มขึ้น

แต่แน่นอนว่าการกระทำแบบนี้ก็ยังมีปัญหาอยู่คือม้ายักษ์ถึงกิ่งไม้ที่ถอดยาวจะกว้างใหญ่ แต่ก็ไม่ได้กวางพอเหมือนพื้นดินดังนั้นจึงมีม้าที่ตกลงไปตายอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นจึงแบ่งกองกำลังส่วนหนึ่งจัดการดูแลม้ายังหลายร้อยตัวพวกนี้

ซอมบี้ปีกและซอมบี้เงาถึงจะน่ากลัว แต่ก็ไม่สามารถสู้มนุษย์ชั้นสูงที่กลายร่างเป็นอมนุษย์ ครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์ได้ เพราะป่าคือสนามรบที่สมบูรณ์แบบของพวกมนุษย์ชั้นสูงที่มีความสามารถประเภทกลายร่าง

จะติดก็แต่ปัญหาเดียวซอมบี้ระดับสูงพวกมันมีมากเกินไป แค่ซอมบี้ระดับ 4 ก็มีเกือบร้อยตัวแล้ว ยังไม่รวมซอมบี้ระดับสามอีกแปดถึงเก้าร้อยตัว

ในกองกำลังหมาป่าคนที่มีระดับสีเขียวนั้นมีไม่ถึง 10 คนซึ่งส่วนใหญ่พัฒนาระดับได้หลังจากที่ทำผลงานและได้รับยายกระดับความสามารถที่มีอยู่น้อยนิด จนความสามารถเป็นระดับ D จึงเลือนระดับสีเขียวได้

ส่วนคนที่เหลือในกองกำลังทั้งหมดอยู่ที่ระดับ 2 และ 3 สลับกันไปอย่างละครึ่ง แม้ว่าดูเหมือนระดับพลังของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นช้า แต่อันที่จริงแล้วมันถือว่าเร็วมากเมื่อเทียบกับเวลาที่เขาพัฒนาเป็นมนุษย์ชั้นสูงเมื่อไม่นานมากนี้ เหตุผลหนึ่งก็จะน่ามาจากกองกำลังหมาป่าต้องต่อสู้อยู่ตลอดและในป่าก็มีสัตว์กลายพันธุ์ให้ล่าจำนวนมาก ต่อให้ไม่มีแก่นพลังงานเนื้อของสัตว์กลายพันธุ์ก็มีพลังงาน นั้นจึงเป็นเหตุผลที่พลังของพวกเขาเลื่อนขึ้นเร็ว

แต่ตอนนี้ดูเหมือนมันจะไม่เร็วพอซะแล้ว

ดังนั้นโลแกนที่เป็นผู้นำกองกำลังหมาป่าจึงต้องใช้ยุทวิธีที่ใช้เป็นประจำนั้นก็คือกับพวกซอมบี้ระดับสูงนั้นก็คือ จับมันแยกและลุมฆ่า

ร่างของซอมบี้ปีกระดับ 4 ที่บินลงมาด้วยความรวดเร็วจนเกิดเสียงตัดผ่านอากาศโจมตีหนึ่งในมนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำตาลที่มีความสามารถ [แมงมุมเงา F] แต่ก่อนที่มันจะถึงตัวของมนุษย์ชั้นสูงแมงมุมก็ติดเข้ากับใยแมงมุมที่มาจากความสามารถของอมนุษย์แมงมุม

และก็ไม่ได้มีอมนุษย์แมงมุมแค่หนึ่ง แต่มีถึงสามคน ทั้งสามช่วยกันใช้ใยพันปีกและตัวของมันจากนั้น หนึ่งในอมนุษย์หมีที่มีพละกำลังมหาศาลก็ตรงเข้าหาซอมบี้ปีกระดับ 4 ฉีกปีกบนหลังของมันออกกระจุยกระจายด้วยกรงเล็บและปาก

และแน่นอนว่าซอมบี้ปีกที่บินไม่ได้ก็ไม่ต่างจากลูกนกที่ตกลงฝูงมดมันถูกฆ่าตายในทันที ไม่ต่างจากซอมบี้ที่ลุมฆ่าคนธรรมดา

ไม่ว่าซอมบี้หรือมนุษย์ก็ตายได้เหมือน ๆ กัน และมันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อหนึ่งในมนุษย์ชั้นสูงระดับ 4 ถูกซอมบี้ปีกระดับ 4 นับ 10 ตัวโฉบดึงตัวไปฉีกกระชากกะซวกไส้กลางอากาศแต่มนุษย์ชั้นสูงคนนั้นก็ยังสู้สุดชีวิตสร้างความเสียหายให้กับซอมบี้ปีกได้จำนวนมาก

แม้เลือดที่ล่วงหล่นลงมาพร้อมกับเม็ดฝนไม่สามารถเปลี่ยนพื้นดินเบื้องล่างให้แดงฉานเหมือนโลหิตได้

แต่มันกลับเปิดโอกาสให้กองกำลังหมาป่าหนีออกมาได้ โลแกนที่อยู่ในร่างของหมาป่าสังหารซอมบี้ปีกที่บาดเจ็บได้สามตัวและอีกสองตัวตกตายไปกับกองกำลังมนุษย์ชั้นสูงที่ตามหลังมา

ขณะนี้พวกเขาฆ่าซอมบี้ทั้งซอมบี้เงาและซอมบี้ปีกไปแล้วไม่น้อยกว่าหมื่นตัวทั้งระดับต่ำและสูง

แต่ในสุดท้ายเส้นทางของต้นไม้ก็ต้องหยุดลง เพราะเบื้องหน้ามันเป็นทุ่งกว้างกินเนื้อที่กว่า 20 กิโลเมตร จะบอกว่าระยะทางมันสั่นก็สั้นจะไกลก็ไกล

“โลแกนฉันมีเรื่องจะเสนอ ถ้าหนีแบบนี้ก็หนีพวกมันไม่ทัน อย่างนั้นทำไมเราจึงไม่ใช้ที่นี่เป็นทุ่งสังหารพวกมันเลยละ” เฒ่าไมเคิลกล่าวด้วยท่าทีเหนื่อยเล็กน้อย

“แผนคือ?”

“ในกองกำลังของเรามีมนุษย์ชั้นสูงที่ใช้ความสามารถสายพลังธาตุอยู่ โดยเฉพาะ ธาตุไฟ เราก็จะเผาทุ่งหน้าข้างหน้านี้ให้กลายเป็นทะเลเพลิง” เฒ่าไมเคิลชี้ไปที่ทุ่งหญ้าด้านหน้าและกล่าวต่อ

“ฉันจะไม่ใช่คนหนุ่ม ๆ เหมือนนายแล้ว แต่ฉันก็มีข้อดีอยู่ คือคนแกมักจะว่างเสมอ ดังนั้นฉันจึงเปิดอ่านข้อมูลที่ประธานเขียนเก็บไว้ในสมาพันธ์นักล่า และหนึ่งในนั้นก็คือพืชที่เหมือนกับทุ่งหญ้านี่ มันคือหนึ่งในหญ้าที่สามารถติดไฟได้ง่ายแม้จะเปียกน้ำก็ตาม...”

เมื่อฟังเฒ่าไมเคิลพูดมาถึงตรงนี้แล้วโลแกนก็พอจะเดาความคิดของชายชราออก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด