ตอนที่แล้วตอนที่ 145 ไม่มีอะไรเปลี่ยน
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 147 ทหารของกองทัพไทกีล่า

ตอนที่ 146 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทกีล่า


ตอนที่ 146 สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทกีล่า

ทุกคนนั่งพักกันอย่างหมดแรง โดยมีเสียงฝนที่กระทบกับพื้นและเสียงกรีดร้องการสังหารหมู่ฝูงลิงบาบูนของไนเรลดังมาไกล ๆ เป็นครั้งคราว

ขณะที่รอคอยพวกเขาก็แบ่งกันกระจายออกไปก็จัดการเรื่องซากของลิงบาบูนไปด้วย เนื่องด้วยจำนวนที่มากกว่าหมื่นตัว พวกเขาจึงเลือกเก็บเนื้อลิงบาบูนเฉพาะระดับ 4 ไว้ ส่วนระดับต่ำกว่านั้นได้แต่ทุบกะโหลกหาแก่นพลังงานและทิ้งซากไปเท่านั้นอย่างน่าเสียดาย

“ถ้าเอาไปขายอย่างน้อยก็ได้หลายเหมือน G” เบรนบ่นอย่างเสียดาย

“ถึงจะเสียดายแต่จะทำไงได้” เจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้าง ๆ เบรนพูด

ถึงจะพวกเขาจะบอกว่าเสียดาย แต่อันที่จริงแล้วทุกคนกลับยินดีอยู่ลึก ๆ ไม่ใช่เพราะเรื่องซากสัตว์ระดับ 4 ที่มีจำนวนมาก แต่ตอนนี้ระดับพลังของพวกเขาเลือนเป็นระดับสีน้ำตาลแล้ว

เมสันและชารอนเองก็เลือนผ่านระดับสีน้ำตาลเป็นระดับสีเขียวแล้วเช่นกัน ทุกคนคิดว่าวิธีของไนเรลนั้นเหลือเชื่อมากที่ผลักดันจนระดับพวกเขาเพิ่มอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่มีใครโลภมากจะวิ่งไปหาลิงบาบูนเพื่อสู้แบบบ้าระห่ำอีก เพราะตอนนี้ต้องทำการปรับตัวเข้ากับระดับใหม่ก่อน

อีกอย่างทุกคนต้องพักอย่างน้อยก็หนึ่งวัน เพราะตอนนี้ร่างกายที่รีดพลังจนหมดและเติ่มเข้าไปใหม่อีกหลาย ๆ ครั้งมันกลับทำให้พวกเขาปวดเมื่อยและเหนื่อยมาก

หลังจากตกเย็นไนเรลก็กลับมา พร้อมกันนั้นนิเรียที่กินแก่นพลังงานระดับ 5 ไปก็ลืมตาขึ้นทุกคนก็หันไปมอง แต่ก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้นตาของนิเรียส่องแสงสีทองกวาดผ่านทุกคนไป

พวกเขาสามารถรู้สึกได้เลยว่าทุกการเคลื่อนไหวของตัวเอง นิเรียสามารถรับรู้และเห็นทั้งหมด แต่ความรู้สึกนั้นอยู่เพียงเสี้ยววินาทีก็หายไป

นิเรียกะพริบตาถี่ ๆ ไม่กี่ครั้งก็ปรับตัวได้ พร้อมกันนั้นเธอก็รู้ตัวเองก้าวผ่านระดับสีเขียวเป็นสีน้ำเงินแล้ว นิเรียกล้มมองน้ำที่พื้นสะท้อนเห็นคริสตัลวิวัฒนาการที่หน้าผากที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินตามระดับพลังของเธอ

มันไม่เข้มมากนักแต่ก็เป็นสีน้ำเงิน

“ยินดีด้วยนะน้องพี่ ทำได้ดีมาก” ไนเรลเดินเข้ามาลูปหัวนิเรียด้วยความเอ็นดู แต่เพราะเนื้อตัวที่เปียกน้ำฝนและดินโคลนจากการต่อสู้มันจึงดูตลกเล็กน้อย

ไนเรลเดินมาหยุดอยู่หน้าซากของราชาบาบูนที่พวกเขาเก็บมาวางรวมกับเนื้อลิงบาบูนระดับ 4 ชายหนุ่มไม่รอช้าใช้ความสามารถ [ร่างกาบหอยแครง F] ย่อยราชาบาบูนไปทั้งตัวอย่างคาดหวัง

แต่หลังผ่านไปสักพักนิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากันมันกลับกลายเป็นว่าไม่มีพลังใหม่เกิดขึ้น ใบไม้รอยสักไม่สามารถก่อตัวจนสมบูรณ์ได้

“ไม่พอ...” ไนเรลพึมพำพร้อมกับหันไปมองซากลิงบาบูนนับร้อยตัวเขาจึงจัดการพวกมันเหมือนซากราชาบาบูนไปกว่า 40 ตัวในที่สุดก็สามารถก่อร่างใบไม้รอยสักสำเร็จ แต่เขาก็ดีใจได้ไม่นานเพราะใบไม้รอยสักเป็นแค่ความสามารถ [เคลื่อนที่เร็ว C] เท่านั้นและตอนนี้มันก็โดนความสามารถ [ราชานักวิ่งระดับ C] กลืนกินทันที

จนความสามารถราชานักวิ่งพัฒนาเป็นระดับ B

“อย่างน้อยก็ยังมีเรื่องดี” ไนเรลยิ้มพลางส่ายหัว ถึงจะเสียดายที่ไม่ได้ความสามารถลึกลับของราชาบาบูนมาแต่ก็ยังดีที่ความสามารถราชานักวิ่งพัฒนาขึ้นอีกระดับ แม้เขาจะไม่ค่อยได้ใช้มันก็เถอะนะ

“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า” นิเรียเดินเข้ามาดู

“เปล่าไม่มีอะไร ไปกันต่อเถอะ”

“ท่านไนเรล นี่คือแก่นพลังงานที่พวกเราเก็บมาจากซากลิงบาบูน” ชารอนยื่นถุงผ้าที่ใส่แก่นพลังงานจนเต็มให้กับชายหนุ่ม

ไนเรลรับมาและแบ่งไปครั้งหนึ่งจากนั้นก็โยนกลับไปให้ชารอนพร้อมกับบอกว่า “ที่เหลือไปแบ่งเท่า ๆ กันถึงอย่างไรทุกคนก็ช่วยกันฆ่า”

ทุกคนได้ยินก็ยิ้มออกมาด้วยแก่นพลังงานในถุง แม้จะแบ่งกันสิบกว่าคน แต่ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่มากอยู่ดี

ทุกคนเดินทางไปที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทกีล่าด้วยพลังใจเต็มเปี่ยม แม้ตัวจะเหนื่อยมากก็ตาม

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทกีล่า เป็นอาคารขนาดใหญ่แบ่งออกเป็นตึกกลาง ตึกฝั่งตะวันออกและตก โดยตึกทั้งหมดอยู่ภายในกำแพงหน้าสูงกว่า 3 เมตร

พวกเขาเปิดประตูเข้าก็ต้องแปลกใจเล็กน้อยเนื่องจากภายในไม่มีซอมบี้อยู่เลยแม้แต่น้อย นอกจากสัตว์กลายพันธุ์ขนาดเล็กที่ไม่ได้เป็นอันตรายทำรังอยู่ในบางจุดของตึกเท่านั้น

ด้านในมีร่องรอยการต่อสู้และทำลายอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มาก ของทุกอย่างแทบจะเรียกได้ว่ายังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์

ทุกคนเดินตามแผนที่ซึ่งได้มาจากที่ซีโร่ดาวโหลดเก็บไว้ในอุปกรณ์สื่อสารของพวกเขา จนมาถึงตึกปีกตะวันตกเป็นเขตพักอาศัยของพนักงานในสถาบันวิจัย ที่นี่ก็ไม่มีใครรอดชวิตเช่นกัน

“พักกันที่นี่ก่อน ตอนนี้เรามาถึงถามเวลาที่กำหนดไว้มีเวลาหาของอีก 2 วันพรุ่งนี้ค่อยแยกกันไปสองทีมค้นหาของที่ต้องการ” ไนเรลพูดจบก็หาอะไรกินกัน เนื่องจากที่นี่เป็นเขตตึกที่พักอาศัยจึงมีห้องครัวอยู่ชารอนจึงอาสานำอาหารให้ทุกคนนิเรียเองก็คิดว่านานแล้วที่ไม่ได้ทำอาหารให้พี่ชายเธอกินจึงเข้าไปช่วยชารอนด้วย

หลังจากกินมื้อใหญ่ที่หรูหรามากเป็นพิเศษพวกเขาก็หาที่พักผ่อนของใครของมัน แต่ก็ไม่ไกลกันมาก เพราะแม้ว่าสถานที่นี้ดูจะปลอดภัย แต่ก็อาจจะมีอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

กลางดึกที่เงียบสงัดทุกคนหลับกันหมด เหลือคนที่แบ่งมาสลับกันทำหน้าที่เฝ้ายามก็พากันนั่งรอบกองไฟที่ก่อไว้ในถังสีเหล็กที่หามาจากแถวนี้ ส่วนไม้แห้งก็เช่นกัน

เสียงเปลวไฟเผาไหมกับไม้ดังเปาะแปะปนไปกับเสียงฝน ทันใดนั้นเสียงคำรามของซอมบี้ก็ดังมาไกล ๆ จนแทบไม่สามารถแยกออก แต่กลับมีสองคนที่รับรู้ได้นั้นก็คือ นิเรียและไนเรลที่ยืนมองไปนอกหน้าต่าง

“พี่ชาย ซอมบี้พวกนี้จะให้เก็บเลยไหม”

“ช่างมันเถอะ พวกมันคงตามกลิ่นเลือดของลิงบาบูนมาอีกอย่างคงจะเข้ามาที่นี่ไม่ได้ ไปนอนกันเถอะตอนเช้ายังต้องออกแรงทำงานกันอีก” ไนเรลยกมือปิดปากหาว

“อย่างพี่เนี่ยนะทำงาน” นิเรียพูดประชดเล็กน้อย

“เอานะ ไปนอนได้แล้ว”

ไนเรลหันกลับไปนอนบนเตียงที่ไม่รู้ว่าไปหามาจากไหนนอนหลับไปอย่างสบายใจ

......

เช้าวันต่อมามีซอมบี้มาเกาะที่ข้างรั่วอยู่หลายตัว แต่เพราะประตูทางเข้ามันถูกปิดพวกมันจึงไม่สามารถเข้ามาได้

ปัง! เสียงปืนดังขึ้นร่างของซอมบี้ระดับต่ำพวกนี้ก็ระเบิดหายไปในทันที ซึ่งคนที่ยิงก็คือนิเรียที่ใช้ปืนสไนเปอร์เรียวกันระบบร่างคู่ยิงมาจากบนหลังคาตึกที่อยู่ห่างไป 2 กินโลกเมตร

“พี่สาวยิงแม่นมาก” เจคอบที่อยู่ข้าง ๆ หยิบกล้องส่องทางไกลมองดูอยู่

“แน่นอนอยู่แล้ว” นิเรียยิ้มออกมาด้วยท่าทีน่ารัก ทำเอาหัวใจหนุ่มน้อยอย่างเจคอบเต้นไม่เป็นจังหวะ แต่ก็อยู่ ๆ ก็มีคนเขกหัวของเด็กหนุ่มอย่างแรก จนเจ้าตัวร้อง “โอ๊ย” ออกมา

“ตัวต่อไป” ไนเรลพูดเสียงเรียบอยู่ด้านข้าง ๆ

เจคอบมองไนเรลอย่างไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไหร่ จากนั้นก็สองกล้องดูซอมบี้ที่นิเรียยิ่งตายไปอีกตัวที่ออกไปเกือบสามพันเมตรเลยทีเดียว

เหตุผลที่นิเรียมาซ้อมยิ่งซอมบี้อยู่ที่นี่ก็เพราะต้องการทดลองปละปรับตัวกับระดับพลังที่เพิ่มขึ้นมา อีกอย่างพวกเขาว่างโดยเฉพาะไนเรลตอนนี้ไม่รู้จะทำอะไรได้แต่รอ

ชารอนและเมสันที่พาเจ้าหน้าที่สิบคนแบ่งไปเป็นสองทีมพากันไปคนหาของที่ตัวเองต้องการ

ชารอนมีที่จุดหมายของเธออยู่แล้วมันคือตึกตะวันออก เครื่องจักรเกี่ยวกับการผลิตยาและสารสังเคราะห์ต่าง ๆ ในนั้นเธอยังเจอของที่เป็นประโยชน์อีกมาก ซึ่งทั้งหกคนรวมทั้งเธอด้วยต่างช่วยกันแยกและขนสิ่งที่ต้องใช้ออกมารวมกัน

ทางด้านเมสันได้พาเจ้าหน้าที่แยกไปตามจุดต่าง ๆ มีทั้งของที่เป็นเครื่องจักร หุ่นยนต์ แต่ที่เมสันหาเป็นจะเป็นพวกอุปกรณ์พิมพ์สามมิติที่ใช้พิมพ์โลหะโดยเฉพาะ และยังมีเครื่องกําเนิดพลังงานไฟฟ้าและพลังงาน

ยังมีอุปกรณ์หลายอย่างที่ไนเรลไม่รู้จักด้วย ซึ่งไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยกำลังของพวกเมสัน หลังจากผ่านพ้นไปหนึ่งวันทั้งเมสันและชารอนก็ค้นหาสิ่งที่ต้องใช้ได้ครบ

อีกทั้งยังมีของหลายอย่างที่คิดว่ามีประโยชน์กับจูเรียเช่นอุปกรณ์ไอทีและเครื่องเซิร์ฟเวอร์ของสถาบันวิจัย ไนเรลก็สั่งให้คนรวบรวมทุกอย่างที่ใช้ได้มาจนหมด

แต่กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ตกเย็นแล้ว ดังนั้นไนเรลจึงเลือกเดินทางในเช้าวันต่อมาเพื่อกลับไปที่เมืองซานติเกีย และแน่นอนว่าของทุกอย่างถูกชายหนุ่มยัดเข้าไปในเงา

ซึ่งใช้พลังงานเพิ่มขึ้นพอสมควรไนเรลจึงกินแกนพลังงานทุก ๆ 4-5 ชั่วโมงเพื่อเติมเต็มพลังงานให้พร้อมใช้อยู่เสมอ และแน่นอนว่ามันก็คือแก่นพลังงานที่ได้มาจากฝูงลิงบาบูน

หลังจากออกจากหมอกพิษพวกเขาก็เจอกับม้ายักษ์ที่ทิ้งไว้ โชคดีที่พวกม้ายังปลอดภัยไม่ได้มีสัตว์กลายพันธุ์ที่ดุร้ายมากินพวกมันซะก่อนพวกเขาจึงไม่ต้องเดินเท้ากลับ

ไนเรลและกลุ่มกระโดดขึ้นหลังมาขี่ไปยังทิศทางที่เคยมา

.......

ขณะเดียวกันที่เมืองย่อย 92 ภายในบ้านพักกลุ่มคนท่าทางมีพิรุธกำลังจัดการเอกสารกันอย่างขะมักเขม้น ใบรายชื่อของคนเรร่อนและพวกที่ต้องการเดินทางไปที่เมืองย่อย 101 ก็ถูกส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

และแน่นอนว่าพวกเขาก็คือคนของสมาพันธ์นักล่าที่ทารรับสมัครผู้คนอย่างลับ ๆ เพื่อเดินทางไปที่เมืองซานติเกีย โดยที่นี้ถูกดูแลโดย ลีวาย มนุษย์ชั้นสูงระดับสีน้ำตาลผู้มีความสามารถ [เพลิง F] หนึ่งในกลุ่มนักล่าผู้ร่วมก่อตั้งสมาพันธ์นักล่า

ในทุก ๆ วันพวกเขาจะต้องส่งคนจำนวนกว่าห้าพันคนไปทางรถไฟ และคืนนี้ก็เช่นกัน แต่คืนนี้ดูจะไม่ใช่คืนที่สงบสุขนักเนื่องจากมีกองกำลังลึกลับไม่ทราบที่มากำลังเคลื่อนที่เข้ามาล้อมพวกเขาไว้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด