ตอนที่แล้วDual Cultivation บทที่ 659 - ปรามรัชทายาท
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDual Cultivation บทที่ 661 - กระบี่สังหารปีศาจ

Dual Cultivation บทที่ 660 - สาวงามลึกลับ


Dual Cultivation บทที่ 660 - สาวงามลึกลับ

ซูหยางมองไปยังนางฟ้าแสนสวยผู้นี้ ที่ปรากฏตัวออกมาจากอากาศอันว่างเปล่าอย่างเงียบๆ ในเมื่อรูปลักษณ์เธอเทียบได้กับวูจิงจิง ซูเมิ่งอี้ และแม้แต่ซีซิงฟาง

"เจ้ามาทำบ้าอะไรที่นี่" เหลียนเหิงพูดกับเธอพร้อมกับขมวดคิ้ว

สาวสวยเหลือบมองเขาก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเฉยเมย "ข้าก็อยากจะถามเจ้าเช่นเดียวกันว่า เจ้ามาทำบ้าอะไรที่นี่"

"มันมิใช่เรื่องของเจ้า ดังนั้นรีบออกไปให้พ้นหน้าข้าซะ" เหลียนเหิงกล่าวโดยไม่สนใจน้ำเสียงไม่เคารพของเธอ

"มิใช่กิจของข้างั้นรึ ข้าได้เห็นทุกอย่างตั้งแต่แรกแล้ว และการกระทำของเจ้าก็ชวนให้อาเจียน เจ้ากำลังพยายามจะทำลายชื่อเสียงของตระกูลเหลียนด้วยเรื่องไร้สาระของเจ้า ความจริงแล้วข้ากำลังจะเข้าไปแทรกแซง แต่เมื่อข้าเห็นเจ้าถูกทุบตีเหมือนสุนัข ข้าจึงต้องหยุดตัวเองเอาไว้ เพราะไม่ต้องการขัดฉากสนุกสนานแบบนี้"

"หุบปากเชี่ยนั่นซะ และออกไปให้พ้นทางของข้า" เหลียนเหิงคำรามใส่เธอ

"โอ เจ้าไม่ต้องกังวลว่าข้าจะไปขวางทางของเจ้าข้าอยู่ที่นี่ในฐานะผู้ชม" เธอตอบอย่างใจเย็น ไม่รู้สึกกดดันแม้จะเผชิญหน้ากับรัชทายาท ทั้งยังโต้เถียงกับเขาอีกด้วย

'ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน' ซูหยางรู้สึกทึ่งกับการปรากฏตัวที่ผิดธรรมดาของผู้หญิงลึกลับคนนี้

เมื่อสังเกตเห็นการจ้องมองของซูหยาง สาวงามจึงหันมามองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา "ข้ามิรู้ว่าเจ้าเป็นใครและข้าอยากจะให้รางวัลเจ้าที่ตีสุนัขตัวนี้ แต่ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร เจ้าได้ยกมือมาแตะต้องคนของตระกูลเหลียนแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะเตรียมพร้อมกับผลของการท้าทายตระกูลเหลียน"

เมื่อได้ยินคำเตือน ซูหยางก็ยิ้มและพูดว่า "ข้ามิรู้เหมือนกันว่าเจ้าเป็นใคร และข้าก็มิได้สนใจ แต่ถ้าใครกล้าแตะต้องผู้หญิงของข้า แม้ว่าพวกเขาจะเป็นลูกชายของจักรพรรดิ ข้าจะจัดการกับพวกเขาทันที เขาโชคดีอย่างมากที่ข้ามิได้ฆ่าเขาเพราะพยายามแทะโลมผู้หญิงของข้า"

ผู้หญิงคนนั้นหรี่ตามองเขา และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "คำพูดของเจ้าเมื่อกี้… ข้าจะถือว่านั่นเป็นคำท้าทายตระกูลเหลียนได้ ใช่ไหม"

เมื่อเห็นปฏิกิริยาที่รุนแรงของเธอ ซูหยางก็สามารถคาดเดาถึงตัวตนเธอได้ และเขาก็พูดว่า "เจ้าต้องเป็นสมาชิกของตระกูลเหลียนด้วยเช่นกัน มิแปลกใจเลยว่า ทำไมเจ้าถึงกล้าพูดกับเจ้างี่เง่าคนนั้น อย่างเท่าเทียมกัน"

"ซูหยาง นั่นคือพี่สาวของรัชทายาท และยังเป็นลูกสาวคนเดียวของจักรพรรดิเหลียน เหลียนลี่" วูจิงจิงพูดกับเขาจากนอกเวที

"ไม่สำคัญว่าพวกเขาจะเป็นใคร ถ้าพวกเขากล้าที่จะขัดแย้งกับข้า ข้าก็จะทำให้พวกเขาลงมาจากตำแหน่งของพวกเขาได้" ซูหยางกล่าวด้วยกระแสพลังอันกดดันรอบตัวเขา

เขาหรี่ตาไปยังเหลียนลี่และพูดต่อว่า "ถ้าเจ้ามีปัญหากับเรื่องนี้ เจ้าสามารถขึ้นมาที่นี่ได้ หลังจากที่ข้าจัดการกับเจ้างี่เง่านั่นแล้ว ถ้าเจ้ารอไม่ไหวข้าก็ไม่รังเกียจที่จะจัดการเจ้าทั้งสองในคราเดียวกัน"

"ช่างอวดดีนัก" เหลียนลี่ตะโกนและพลังการฝึกปรือของเธอที่อยู่ในระดับแรกของเขตราชันวิญญาณอย่างน่าประหลาดใจก็แผ่กระจายเต็มไปทั่วทั้งเวที

"ทำไมเรามิสงบสติอารมณ์กันสักครู่"

ทันใดนั้นแรงกดดันในเขตราชันวิญญาณของคนอีกคนก็ปรากฏขึ้นทำลายแรงกดดันของเหลียนลี่

ผู้คนที่นั่นหันไปมองทางท้องฟ้าในทันที ซึ่งที่นั่น ชายคนหนึ่งที่เปล่งกระแสพลังอันแข็งแกร่งก็กำลังลงมาที่เวที

"เจ้าสำนัก" เหล่าศิษย์ที่นั่นพากันทักทายชายคนนี้

"พ่อ ..." วูจิงจิงคาดหวังถึงการปรากฏตัวของเขาไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่เห็นเขาปรากฏตัวที่นี่ แม้ว่าเธอจะไม่ต้องการให้ซูหยางและพ่อเธอพบกันในสภาพเช่นนี้

"อาจารย์" เหลียนเหิงและเหลียนลี่คำนับวูเจียงทั้งที่มีฐานะเป็นราชวงศ์ก็ตาม โดยแสดงถึงความเคารพอย่างลึกซึ้งต่อเขา

วูเจียงพยักหน้าไปทางสองพี่น้องชนชั้นสูง ก่อนที่จะหันไปมองซูหยางด้วยสายตาที่ลึกล้ำ

'ชายหนุ่มคนนี้คือซูหยางงั้นรึ ...' วูเจียงตื่นตระหนกเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของซูหยางที่ดูเยาว์วัย เพราะเขาคาดหวังว่าจะมีคนอายุมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามรูปร่างหน้าตาสามารถหลอกลวงได้ในยุทธภพ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าตัดสินโดยผิวเผิน

"ข้ารีบมาที่นี่หลังจากที่ได้รับคำอธิบายคร่าวๆเกี่ยวกับสถานการณ์ แต่ก่อนที่เราจะเริ่มต้น ข้าต้องการรู้อะไรบางอย่าง ..." วูเจียงพูดในเวลาต่อมา ขณะที่สายตาเขายังจ้องไปที่ซูหยาง

ซูหยางสามารถเดาได้อย่างง่ายดายว่า วูเจียงต้องการถามอะไร เขาจึงกระแอมในลำคอ และพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและชัดเจนว่า "ข้าชื่อซูหยางและอย่างที่เจ้าเดาได้ ข้าเป็นคนที่ทำให้วูจิงจิงท้อง ซึ่งในเวลาหลังจากนั้นเธอก็ให้กำเนิดวูหมิน ยินดีที่ในที่สุดก็ได้พบกับท่าน พ่อตา"

"พ-พ่อตา" วูเจียงจ้องมองซูหยางด้วยสีหน้าว่างเปล่า ในขณะที่เขาไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัวจากซูหยาง

"เจ้าเกี่ยวข้องกับธิดาเทพเซียนซูเยว่โดยบังเอิญหรือไม่" ทันใดนั้นวูเจียงก็ถามเขาด้วยสีหน้าจริงจัง

"นางฟ้าเซียนซูเยว่รึ ไม่ ข้ามิเคยได้ยินชื่อเธอมาก่อน เนื่องจากข้ามิได้มาจากที่แถวนี้" ซูหยางโกหกด้วยใบหน้าเรียบเฉย

หลังจากยืนยันว่าเขาไม่เกี่ยวข้องกับธิดาเทพเซียนซูเยว่ วูเจียงก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะเขาไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับธิดาเทพเซียนซูเยว่และราชวงศ์

ในช่วงเวลาแห่งความเงียบงันต่อมา วูเจียงก็พูดพร้อมกับขมวดคิ้ว "ข้าจำไม่ได้ว่าวูจิงจิงกำลังหมั้นหมายกับใคร และจากความเข้าใจของข้า เจ้าบอกว่าลูกสาวข้าว่าเจ้าจะไม่รับผิดชอบในการทำให้เธอท้อง ดังนั้นเธอจึงต้องดูแลวูหมินเพียงลำพังมาตั้งแต่เกิด"

"นั่นคือสิ่งที่ข้าเคยพูดกับเธอก่อนหน้านี้ แต่สิ่งต่างๆได้เปลี่ยนไปแล้ว และข้าได้ตัดสินใจที่จะรับผิดชอบ และรับเธอเข้ามาอยู่ในตระกูลของข้า ด้วยเหตุนี้ข้าจึงมาที่สำนักเทพกระบี่ในวันนี้" ซูหยางกล่าว

"เขากำลังพูดความจริง พ่อ เรากำลังจะไปพบท่าน แต่รัชทายาทได้ขัดขวางเส้นทางของเราอย่างอุกอาจ จึงทำให้เราต้องมาจนถึงขั้นนี้" วูจิงจิงพูดกับเขา

"ข้าเข้าใจความขุ่นเคืองและสถานการณ์ของเจ้า แต่นั่นมิได้เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องทุบตีรัชทายาทจนอยู่ในสภาพที่เลวร้ายเช่นนี้" วูเจียงพูดกับเธอก่อนที่จะมองไปที่ซูหยางและพูดต่อไปว่า "เนื่องจากเจ้าทำให้ตระกูลเหลียนขุ่นเคือง แม้แต่ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้ อย่างไรก็ตามเจ้ายังสามารถช่วยวูจิงจิงได้โดยอยู่ห่างจากเธอไว้ ข้าไม่ต้องการให้เธอเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวายของเจ้า"

"พ่อ ท่านกำลังพูดอะไร" วูจิงจิงตะโกนใส่เขาด้วยใบหน้างุนงง

อย่างไรก็ตาม วูเจียงไม่สนใจเธอ และรอการตอบกลับจากซูหยาง

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ซูหยางก็พูดด้วยสีหน้าเยือกเย็นว่า "เช่นเดียวกับเจ้างี่เง่าตรงนั้น ถ้าท่านต้องการเอาวูจิงจิงไปจากข้า ท่านจะต้องเอาชนะข้าด้วยการต่อสู้ด้วยกระบี่"

เสียงกลืนน้ำลายมากมายดังมาจากรอบข้าง หลังจากที่พวกเขาได้ยินคำพูดที่อาจหาญของซูหยาง

"ข-เขาเพิ่งท้าดวลกับเทพกระบี่ด้านกระบี่อยู่งั้นรึ ..."

"ช่างกล้า ช่างใจถึง"

"อะไรกันวะเนี่ย กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นคนงี่เง่ามาโดยตลอด ข้ารู้สึกสงสารศิษย์พี่หญิงวู"

สถานที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและเสียงอื่นๆอีกมากมายอย่างรวดเร็ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด