ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 2 ลูกไม่มีพ่อ

ตอนที่ 1 ยืมเงิน


เมืองหยุนไห่, โรงพยาบาลประชาชน, ห้อง ICU

เจียงเป่ยเฉินยืนอยู่นอกประตูโดยถือสลิปค่ารักษา

“หัวใจของพ่อคุณไม่สามารถทนได้อีกแล้ว คุณต้องจ่ายเงิน 200000 เผื่อทำการผ่าตัดใส่ขดลวด ไม่งั้นชีวิตคนไข้จะมีอันตราย”

ด้วยคำพูดของพยาบาลที่ดังเข้ามาในหูอย่างต่อเนื่อง ทำให้มือของเจียงเป่ยเฉินถึงกับสั่น เงินเพียงแค่สองแสนสำหรับเขาถ้าเป็นในอดีตมันเป็นเพียงแค่เศษเงินในกระเป๋าเท่านั้นแต่สำหรับเขาตอนนี้มันเป็นเงินจำนวนมหาศาล! ด้วยเวลาเพียงสองสัปดาห์ กวังฮุยกรุ๊ป ที่ร่วมมือกับเจียงเทียนเฉิงพ่อของเขาได้ยกเลิกสัญญาเงิน 200 ล้านหยวนที่กู้มากลายเป็นสูญ พ่อของเขาล้มป่วยอย่างหนักและถูกนำส่งโรงพยาบาล ตอนนี้ทรัพย์สิน ของบริษัทถูกอายัดโดยธนาคารทำให้ไม่สามารถใช้เงินได้เลย

“พ่อ, อดทนไว้ก่อนนะครับ, พ่อและแม่พยายามมาหลายปี, ผมจะไม่ปล่อยให้เราต้องลำบากแบบนี้แน่นอน!”

เจียงเป่ยเฉินเช็ดน้ำตาและตัดสินใจที่จะไปหายืมเงินเพื่อมาจ่ายค่ารักษาพ่อของเขาให้ได้ เขาตัดสินใจไปที่บ้างของตระกูลเจียงในเมืองหยุนซาน เพื่อที่จะขอยืมเงินจากปู่ของเขา แต่เขาถูกขัดขว้างไว้โดยลุงของเขา

“เจียงเป่ยเฉินไม่มีประโยชน์หรอกที่จะมาหาปู่ของแกน่ะ!”

“ทรัพย์สมบัติของตระกูลเจียง ตอนนี้อยู่ในมือฉันแล้ว และฉันจะไม่ให้แกได้ไปสักแดงเดียว!”

ลุงเจียงเทียนหมิงพูดอย่างไร้ปราณี

เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจียงเป่ยเฉินก็ตัวสั่นด้วยความโกรธ ตระกูลเจียงยังเป็นตระกูลที่ร่ำรวยในเมืองหยุนซานมีทรัพย์สินมากกว่า 100 ล้านหยวน ในตอนนั้นพ่อของเขาได้ยกทรัพย์สินของครอบครัวให้กับลุงเจียงเทียนหมิงและไปที่หยุนไห่เพื่อเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง อย่างไรก็ตามตอนนี้พ่อของเขากำลังป่วยหนักลุงกลับไม่ยอมจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยเหลือน้องชายของตัวเอง!

“ลุงอย่าลืมนะลุงเคยติดการพนันที่ออสเตรเลียเมื่อไม่กี่ปีก่อนและสูญเงินไปหลายสิบล้านและพ่อของผมเป็นคนให้ยืมเงินเพื่อช่วยลุงรักษา บริษัท ไว้!”

ในตอนนั้นพ่อของเขาก็กังวลมากเช่นกัน แต่เขาก็ยังให้ลุงของเขายืมซึ่งไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องการจ่ายคืนเลยสักครั้ง

“นั้นนับเป็นการขอยืมหรอ?”

“ในฐานะน้องชาย, เขาจ่ายหนี้ให้ฉันมันก็ถูกต้องแล้ว”

เจียงเทียนหมิงยกยิ้มมุมปากด้วยสีหน้าไร้ยางอาย

“ลุงพ่อฉันจ่ายหนี้ให้ลุงแล้วลุงก็ควรรักษาพ่อฉันใช่หรือเปล่า?”

เจียงเป่ยเฉินยังไม่ปักใจเชื่อ

“หนึ่งหลาเป็นหนึ่งหลา!”

“ตอนนั้นพ่อของคุณเป็นนายใหญ่นี่และเขามีเงินด้วย ตอนนี้เขาไม่มีอะไรเลยแม้ว่าฉันจะให้ยืมเขา เขาจะสามารถจ่ายมันคืนได้ไหม?”

เจียงเป่ยเฉินตะลึงเขาคิดไม่ถึงว่าลุงของเขาจะพูดออกมาเช่นนี้

“ลุง, ให้ผมยืมเงินก่อนได้ไหม, ผมจะทำงานเพื่อหาเงินมาจ่ายคืนลุงให้ได้”

เมื่อคิดถึงอาการป่วยของพ่อ มือที่กำแน่นของเจียงเป่ยเฉินก็คลายออก

“แกจะจ่ายคืนฉันหรอ?”

“พ่อแกนอนเป็นผักอยู่, แกจะจ่ายได้ยังไง?”

ลุงพูดจาเหยียดหยาม

เจียงเป่ยเฉินนั้นเติมโตขึ้นมาอย่างไร้กังวล ดังนั้นในสายตาของเจียงเทียนหมิง เจียงไป่เฉินที่ไม่มีพ่อจึงไม่ต่างจากสุนัขจรจัดข้างถนนไม่มีทางเลยที่จะหาเงินมาได้

“ผมไม่คุยกับคุณแล้ว, ผมจะเข้าไปหาคุณปู่!”

เจียงเป่ยเฉินหน้าแดงด้วยความโกรธและอดไม่ได้ที่จะรีบเข้าไป แต่เขาถูกคนรับใช้หลายคนช่วยกันโยนเขาออกไป

ฝนซัดสาดลงมาบนถนน

“ลุง, พ่อเป็นน้องชายของลุงนะ, ลุงจะไม่ช่วยจริงๆหรอ?”

เจียงไป่เฉินลุกขึ้นมาจากพื้นถามย้ำกลับไปอีกครั้ง

“น้องชาย?”

เจียงเทียนหมิงหัวเราะเยาะดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก "ตั้งแต่วันนี้ฉันไม่มีน้องชายอีกแล้ว พวกแกสองพ่อลูกจะถูกไล่ออกจากตระกูลเจียง!"

“ไอ้สาระเลว!”

เจียงไป่เฉินรีบวิ่งไปที่ประตุอย่างรวดเร็ว

“บัดซบ!”

เขากระแทกหมักเข้ากระประตูจนทำให้มันสั่นอย่างแรง หยดน้ำตาร่วงลงทีละหยด เขาไม่คิดเลยว่าลุงของเขาจะไร้ความรู้สึกเช่นนี้ ตอนนี้เขาทำได้เพียงเช็ดน้ำตาและตั้งหน้าตั้งตาหาเงินมารักษาพ่อของเขาต่อไป จากนั้นเขาก็ไปหาญาติคนอื่นๆ แต่ก็ถูกพวกเขาปฏิเสธทั้งหมด จากญาติที่พ่อเขาเคยช่วยเหลือเคยได้รับของจากพ่อของเขาเคยสนิทกัน มาวันนี้กลับกลายเป็นแค่คนแปลกหน้ากัน พูดจาไม่ดีใส่เขา แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก

เจียงเป่ยเฉินตัดสินใจไปหาลุงหวังซึ่งเป็นเหมือนพ่อบุญธรรมของเขา บริษัทของลุงหวังกำลังเร่งมือ และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะช่วยเหลือพ่อของเขาทั้งนี้ลุงหวังและพ่อของเขายังได้ทำข้อตกลงในการแต่งงานของเขาไว้แล้ว ตอนนี้ลุงหวังเป็นพ่อตาในอนาคตของเขา และในเวลานี้ตัวเขาและลูกสาวคนเล็กของลุงหวัง หวังซือฉิง ได้เริ่มมีความสัมพันธ์กันบ้างแล้ว เขาเชื่อว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวลุงหวังจะช่วยเขาได้อย่างแน่นอน

ก่อนที่เขาจะไปที่บ้านของลุงหวังเขาโทรหาลุงหลัวงก่อนและรู้ว่าลุงหวังไปทำธุระข้างนอกแล้ว แต่ลุงหวังบอกให้เขาไปหา หวังซือฉิง ที่บ้านเมื่อเขามาที่บ้านของตระกูลหวัง หวังซือฉิง กำลังจัดงานเลี้ยงที่บ้านเสียงเพลงเมทัลโอบล้อมวิลล่าทั้งหลังและกลุ่มทายาทรุ่นที่สองที่ใส่ชุดว่ายน้ำก็เต้นอยู่รอบสระ

เจียงเป่ยเฉิน รู้จักทายาทบ้างคนที่เป็นรุ่นที่สองที่มีชื่อเสียงใจเมือ งเจียงเป่ยเฉินต้องการเดินตรงไปที่หวังซือฉินแต่กลับถูกเหล่าทายาทรุ่นที่สองหลายคนหยุดเขาเอาไว้เบื้องหลังรุ่นที่สองเหล่านี้คือชายหนุ่มผู้แต่งตัวหรูหรา เมื่อเห็นว่าเป็นเจียงเป่ยเฉินดวงตาของชายหนุ่มคนนั้นก็ฉายแววดูถูกเหยียดหยามและยกยิ้มมุมปากของเขาขึ้นเล็กน้อย

“ทำไมมาอยู่ที่นี้ละ น้องชาย”

คนๆนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นลูกพี่ลูกน้องของ เจียงเป่ยเฉิน เจียงซวนหยวน

เจียงซวนหยวยนั้นชอบหวังซือฉินตั้งแต่เด็กแล้ว ถึงแม้ว่าหวังซือฉินจะได้หมั้นหมายกับเจียงเป่ยเฉินแล้วเขาก็ยังไม่ยอมแพ้ ด้วยเหตุนี้พวกเขาทั้งสองจึงไม่ถูกกัน ทั้งยังมีการเผชิญหน้ากันในบางครั้ง

อีกด้านหนึ่ง หวังซือฉิน กำลังนั่งอยู่ริมสระว่ายน้ำ เธอสวมชุดว่ายน้ำสีม่วงอ่อนเผยให้เห็นร่างอันน่าภาคภูมิใจของเธอ ลำคอขาวหน้าท้องแบนราบและขาที่สวยงามยาวเหยียดลงไปในน้ำมองจากระยะไกลเหมือนหงส์ขาวผู้สูงศักดิ์

หวังซือฉินหันศีรษะไปมองไปที่เจียงเป่ยเฉิน ไปดวงตาของเธอเย็นชา โหดเหี้ยม และมีแม้แต่ร่องรอยของความรังเกียจและการดูถูกราวกับว่าเห็นคางคกอยู่ข้างถนน! แต่ ซูลี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ข้างๆเดินเข้ามา "โอ้นี่ไม่ใช่ลูกชายคนที่สองหรอ ทำไมคุณมาที่นี่?"

เจียงเป่ยเฉินหายใจเข้าลึกๆ “ฉันมาที่นี่...” “ซือฉิน ดูเหมือนว่าฉันจะไม่ได้รับเชิญสินะ?”

ซูลีพูดอย่างเย็นชา “แกนะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว!”

เธอเป็นศัตรูกับ เจียงเป่ยเฉิน มาโดยตลอดเพราะ เจียงเป่ยเฉิน พูดเรื่องไม่ดีของเธอกับ หวังซือฉิน โดยบอกว่าชีวิตส่วนตัวของเธอนั้นมันวุ่นวายเกินไปและหวังซือฉินควรอยู่ห่างจากเธอ

เจียงเป่ยเฉินตอบ “ฉันมาที่นี่เพื่อตามหา ซือฉิน”

“นายมีคุณสมบัติอะไรในการมาหาเธอ?”

ซูลิ พูดอย่างเย็นชา “พ่อของนายสูญเสียธุรกิจกว่า 200 ล้านหยาวและทรัพย์สมบัติของนายก็ถูกธนาคารยึด!”

“นี่นายยังคิดว่านายยังเป็นคุณชายเจียงอย่างงั้นหรอ?”

“นายมันยากจนเกินไป ไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาพูดคุยกับเราอีก!”

“เธอ!”

ตู้มม!! ไม่รู้ว่าใครที่ผลัก เจียงเป่ยเฉินตกลงไปในสระว่ายน้ำ และกลายเป็นตัวตลกไปในทันที

ทันใดนั้นเจียงซวนหยวนก็หัวเราะและพูดขึ้นมา “นี่มันเหมือนหมาตกน้ำเลย แต่ว่านะเจียงเป่ยเฉินแกนะมันต่ำยิ่งกว่าหมาอีกรู้ไว้สะด้วย!”

คนอื่นๆต่างรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงในครอบครัวของเจียงเป่ยเฉิน สำหรับทายาทรุ่นที่สอง พวกคนยากจนที่ไม่มีเงินก็ไม่ต่างจากสุนัข เมื่อเห็นสภาพของเจียงเป่ยเฉิน พวกทายาทรุ่นที่สองก็พากันยิ้มเยาะ เจียงเป่ยเฉิน พยายามที่จะขึ้นมาจากสระแต่ก็ถูกเตะกลับลงไปอีกครั้ง

แววตาของ ซูลิ แสดงออกถึงความดูถูกอย่างเห็นได้ชัด “บ้าเอ่ยไอ้ขยะนี่มันตกลงไปในน้ำแล้ว ฉันจะลงไปว่ายน้ำได้ยังไง”

หลังจากพูดจบเธอก็เอามือปิดปากและจูกราวกับว่าเจียงเป่ยเฉินเหม็นเหมือนกลิ่นขยะ

เจียงเป่ยเฉินที่กลืนน้ำไปหลายอึกตะเกียดตะกายขึ้นมาจากสระและมองไปที่ ซูลิ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ “นี่มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ หลบไปให้ไกล!”

“ซือฉิน, ฉันมีบางอย่างจะบอกเธอ!”

เจียงเป่ยเฉินกัดฟันพูดออกไป ในฐานะแฟนของเธอ เธอที่เห็นเขาลำบากแต่ก็ยังคงเฉยเมย และหวังซือฉินยังคงมองออกไปที่สระน้ำอย่างเงียบๆ ราวกับไม่ได้ยินที่เจียงเป่ยเฉินพูด

สายลมที่พัดผ่านมาทำให้เจียงเป่ยเฉินรู้สึกเย็นไปถึงกระดูก

“ซือฉิน ฉันพูดกับเธออยู่นะ!”

เขากดเสียงต่ำลงแล้วพูดกับเธออีกครั้ง ซือฉินยังคงนิ่งเฉยและไม่เหลียวมองไปที่เขาเลย ทำเหมือนกับว่าตอนนี้เจียงเป่ยเฉินไม่มีคูณสมบัติพอที่จะคุยกับเธอ

“เหอะๆ เจียงเป่ยเฉินคุณรู้อะไรไหม?”

“ฉันบอกนายไปแล้วนี่ว่านายนะเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากหมา นายคิดว่าซือฉิงอยากที่จะคุยกับหมาหรอ?”

เมื่อเห็นฉากตรงหน้านี้ เจียงซวนหยวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ

1 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด