ตอนที่แล้วตอนที่ 7 การตายของพี่เขย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 9 เจ้าไม่มีค่าพอจะอยู่ที่นี่

ตอนที่ 8 สุนัขที่ไม่เชื่อฟัง


ตอนที่ 8 สุนัขที่ไม่เชื่อฟัง

ฟางหรูฉีคือชายวัยกลางคนอายุราวห้าสิบปี ผมบนศีรษะของเขาเริ่มเป็นสีขาว ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความโกรธอันเย็นเยือก

เมื่อฟางหลิงหยานนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับมารดา นางจึงรู้สึกเกลียดชังเขาเข้าไส้ และไม่ต้องการจะคารวะทักทาย นางต้องการแค่เดินผ่านเขาไป

แต่ฟางหรูฉีได้ขวางทางไว้พร้อมตะโกนขึ้นเสียงดัง

"หยุด!!" ฟางหรูฉีมองอย่างเย็นเยือก

ฟางหลิงหยานใบหน้าตื่นกลัวขณะกัดฟันแน่นไปด้วย

"ท่านลุงหมายความยังไง?" ฟางหลิงหยานหันไปมองอย่างไม่พอใจเล็กน้อย

ฟางหรูฉีกล่าวอย่างเย็นชา "หลิงหยาน นับวันเจ้ายิ่งไร้มารยาทขึ้นทุกที แต่ด้วยความเศร้าโศกของเจ้า ลุงจึงไม่โทษอะไรครั้งนี้ สำหรับเรื่องของเฉินหลี่ เจ้าไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง ข้า จะเป็นคนจัดการเรื่องพิธีศพให้เขาเอง"

ฟางหลิงหยานกัดฟันแน่นพร้อมกล่าว "เหตุใดข้าถึงไม่สามารถไปยุ่งกับศพพี่ใหญ่? มันมีอะไรที่ข้าไม่ควรทราบเกี่ยวกับเขาหรือเปล่า?"

ฟางหลิงหยานไม่ใช่คนโง่ นางไม่เชื่อว่าการตายของฟางเฉินหลี่จะเป็นเหตุบังเอิญ

ฟางหรูฉีกล่าว "หากพี่ชายเจ้าตายที่อื่นก็ว่าไปอย่าง แต่ในสถานที่แบบนั้นมันไม่ต่างจากจะไปจุดผลุให้คนทราบ เรื่องน่าอัปยศเช่นนี้จะต้องจัดการด้วยความเรียบง่าย นอกจากนั้นเจ้ายังเป็นสตรี มันไม่ค่อยเหมาะสมที่จะไปสถานที่เช่นนั้น ไม่ต้องห่วง ยังไงเฉินหลี่ก็เป็นคนในครอบครัว เฉินกังได้จัดเตรียมสถานที่ในการทำพิธีเพื่อฝังเขาไว้แล้ว"

ฟางหลิงหยานเปิดตากว้างพร้อมกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว "คำของท่านลุงดูเหมือนพี่ใหญ่ข้าจะไม่ถูกฝังในสุสานตระกูลฟางสินะ?"

ฟางหรูฉีกล่าวตอบอย่างเยาะเย้ย "เขาตายอย่างน่าอับอาย แล้วยังจะให้ฝังในสุสานตระกูลอีกหรือ? แค่ให้เฉินกังไปเก็บศพกลับมาก็นับว่าเป็นเมตตาที่สุดแล้ว หลิงหยาน อย่าคิดว่าตนเองทำประโยชน์ให้ตระกูลเพียงเล็กน้อยแล้วจะโอหังได้!"

ขณะที่ฟางหรูฉีกล่าว เขาหันไปมองเซียวอี้อย่างเย็นชา

ตั้งแต่มาถึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขามองเซียวอี้

ในดวงตาของเขา ชายหนุ่มผู้นี้ไม่เคยเป็นคนของตระกูลฟาง แต่เป็นเพียงสัตว์ที่รอโดนเชือดเท่านั้น

ฟางหลิงหยานกัดริมฝีปากของตนอย่างดุเดือดเมื่อเผชิญกับแรงกดดันของลุงผู้นี้ นางต้องการโต้เถียงแต่ก็ไม่กล้าพอ

ผลลัพธ์เดียวที่จะได้จากการทำเช่นนั้นคือถูกขัง

เซียวอี้มองไปยังดวงตาฟางหรูฉีอย่างไม่สบอารมณ์

ชายอายุห้าสิบกว่าปีบ่มเพาะพลังได้ถึงขั้นปฐพีระดับหนึ่งเท่านั้น... ด้วยความกระจอกเพียงเท่านี้ยังจะกล้าโอหังอีกหรือ?

เซียวอี้กล่าวขึ้น "คนในครอบครัวนางตาย แต่ท่านกลับไม่ให้พวกเราไปดู หากไม่ใช่ความอยุติธรรมของตระกูล ก็คงเพราะกลัวพวกเราอาจจะเห็นปมอะไรบางอย่าง ข้าคิดว่าน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า เพราะแม่สะใภ้ของข้าเองก็เพิ่งถูกวางยาพิษเมื่อคืนนี้ ผู้อาวุโสน่าจะมีความทรงจำเรื่องนี้ในหัวนะ"

ฟางหรูฉีหรี่ตาลงก่อนจะกล่าวเย้ยหยัน "เซียวอี้ เจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาพูดกับผู้อาวุโสแบบนี้?"

เซียวอี้โค้งมุมปากเล็กน้อยขณะตอบ "ถึงแม้ข้าจะแต่งกับหลิงหยาน ข้าก็ยังไม่ใช่คนของตระกูลฟาง และท่านเองก็ไม่ถือว่าข้าเป็นคนในตระกูลเช่นกัน แล้วเหตุใดข้าถึงจะพูดแบบนี้ไม่ได้? ในตระกูลฟางมีเพียงคนเดียวที่สามารถหยุดข้าได้ก็คือพ่อของท่าน และเขาได้ให้อิสระกับข้า หากไม่ใช่หัวหน้าตระกูล เช่นนั้นท่านเองก็ไม่มีคุณสมบัติพอจะมาหยุดข้า!"

ใบหน้าฟางหรูฉีเขียวขึ้นมาทันที "เจ้าอย่าเอาเขามาข่มขู่ข้า คิดหรือว่าเจ้า..."

"คิดว่าข้าอะไร? พูดให้ดัง ๆ หน่อยข้าจะได้เข้าใจชัดเจน" เซียวอี้กล่าวอย่างเย็นเยือก

คำของฟางหรูฉีติดอยู่ที่ลำคอ

เซียวอี้มีบรรพชนเซียวเป็นตัวประกัน ดังนั้นฟางหรูฉีจึงไม่สามารถทำอะไรเขาได้ตอนนี้ ยิ่งกว่านั้นหากเซียวอี้หยุดบ่มเพาะพลัง มันจะเป็นเขาที่เป็นคนทำลายแผนการของตระกูลฟางทั้งหมด

เวลานั้นผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็จะเป็นเขาเอง

ฟางหรูฉีเริ่มจะนึกขึ้นมาได้ว่าเจ้าหมูรอเชือดตัวนี้หาได้กลัวน้ำร้อนไม่ อีกทั้งยังคิดจะกระทำการบ้าคลั่งกับทุกคน!

"เมื่อท่านไม่ว่าอะไร เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ" เซียวอี้ยิ้มพร้อมดึงตัวฟางหลิงหยานเดินออกจากบ้าน

ฟางหรูฉีกำหมัดแน่น เขาอยากจะตีสั่งสอนเซียวอี้สักหมัดแต่ก็ไม่อาจทำได้

ในใจฟางหลิงหยานยังคงกระวนกระวายอยู่ แต่เมื่อเห็นฟางหรูฉีไม่เข้ามาขวางแล้ว นางจึงรู้สึกโล่งอก กล่าวตามตรง นิสัยเจ้าเล่ห์ของเซียวอี้บางครั้งก็ค่อนข้างมีประโยชน์...

ทั้งสองเดินออกไปประตูไปอย่างรวดเร็ว

"เซียวอี้ เจ้าไม่กลัวจะทำให้เขาขุ่นเคืองงั้นหรือที่ทำแบบนี้?" ฟางหลิงหยานอดไม่ได้ที่จะถาม

เซียวอี้หัวเราะก่อนจะตอบ "กลัวว่าเขาจะทำอะไร? ถึงแม้คนในตระกูลฟางจะเกลียดข้า ท้ายที่สุดก็ยังสังหารข้าไม่ได้ นอกจากนั้นหากข้าถ่อมตัวและใช้ชีวิตเยี่ยงสุนัข พวกมันก็ยิ่งรู้สึกได้ใจขึ้นไปอีกใช่หรือไม่?"

ฟางหลิงหยานเข้าใจกระจ่างเมื่อได้ยิน นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าเซียวอี้จะทำอะไร ตระกูลฟางก็ไม่สนใจเขาอยู่แล้ว ดังนั้นอยู่อย่างสำราญจึงเป็นทางที่ดีกว่า

"ข้าขอโทษที่ทำร้ายเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้า เจ้าคงไม่ต้องมาเป็นแบบนี้ที่..."

เมื่อเห็นฟางหลิงหยานเอ่ยคำขอโทษ เซียวอี้ได้สะบัดมือขัด "ข้าไม่สนใจอดีต ยิ่งกว่านั้นหากไม่ใช่เพราะเจ้า ตระกูลฟางคงส่งคนอื่นมาหลอกลวงข้าอยู่ดี ท้ายที่สุดเจ้าก็อยู่กับข้าแล้ว เช่นนั้นไม่ต้องมากพิธี"

ฟางหลิงหยานรู้สึกอายขึ้นมาก่อนจะมองเขาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย "ข้าขอโทษอย่างจริงใจ เจ้าจะจริงจังกับมันหน่อยไม่ได้หรือ?"

"ความจริงจังของผู้ชายต่อหน้าสตรีล้วนเป็นของปลอม" เซียวอี้ยิ้มเยาะ

ฟางหลิงหยานยิ้มอย่างขมขื่น นางรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

เมื่อทั้งสองไปถึงหอนางโลมฉิงฟางเหลา องครักษ์สี่คนของตระกูลฟางได้ยืนขวางอยู่ด้านนอก

ฟางเฉินกังอยู่ข้างในกำลังเจรจากับมือปราบเจ้าเก่า

นายน้องตระกูลฟางตายในหอนางโลมทั้งคน เช่นนั้นจะปล่อยให้ข่าวแพร่ออกไปมากกว่านี้ได้ยังไง...

เมื่อเห็นฟางหลิงหยานและเซียวอี้มา องครักษ์ทั้งสี่ได้ก้าวไปขวางพวกเขาทันที

"คุณหนูสิบสาม หยุดก่อน" หัวหน้าองครักษ์กล่าวอย่างเย็นชาแฝงด้วยแววตาเหยียดหยาม

ฟางหลิงหยานไม่สนใจเขาพร้อมตะโกนตอบ "หลีกทางให้ข้าเดียวนี้!"

เซียวอี้ยิ้ม "ไร้สาระน่า พวกมันก็แค่สุนัขรับใช้ที่ถูกเลี้ยงโดยตระกูลฟาง และพวกเราก็เป็นเจ้านาย เมื่อสุนัขไม่เชื่อฟัง เช่นนั้นก็สังหารทิ้งเสีย"

หัวใจฟางหลิงหยานสั่นสะเทือน สังหาร? มันโหดร้ายเกินไป...

ก่อนจะมาถึง เซียวอี้ได้บอกให้นางดุร้ายกว่านี้อีกหากถูกขัดขวาง - อย่ายอมรับความอ่อนแอ มิเช่นนั้นจะเป็นเราเองที่ถูกรังแก!

แต่นางก็ไม่กล้านึกถึงขั้นสังหารทิ้ง

องครักษ์หันไปมองพร้อมกัดฟันแน่น "เจ้าว่าใครเป็นสุนัข?"

เซียวอี้ยิ้ม "แน่นอนว่าหมายถึงเจ้า"

หลังจากกล่าวจบ เซียวอี้ได้ชักมีดสั้นออกมาจากเอวเฟิงหลิงหยาน เขาสะบัดแขนแทงดาบไปยังหน้าอกองครักษ์อย่างไม่ลังเล!

ดวงตาขององครักษ์สั่นไหวราวกับลูกกระดิ่ง เขาถอยหนีด้วยความตกใจขณะที่เลือดไหลออกมาจากหน้าอก

องครักษ์อีกสามคนได้รีบเข้ามาพยุงเขาไว้ด้วยอาการตกตะลึง "พี่หยาง!"

"นำตัว..."

เมื่อองครักษ์หยางเฉินกำลังจะออกคำสั่งให้ทั้งสามไปจับตัวเซียวอี้ เซียวอี้ได้พลันหัวเราะขัด "เจ้าคิดจะทำอะไรเขยของตระกูลฟางงั้นหรือ? ถึงแม้จะเป็นเขย แต่ข้าก็มีศักดิ์สูงกว่าสุนัขอย่างเจ้า"

คนในตระกูลฟางส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสถานะของเซียวอี้ มีเพียงฟางเทียนจี้ ฟางหรูฉี ฟางเฉินลั่ว ฟางหลิงหยาน และหงเตี่ยเท่านั้นที่ทราบ

สำหรับคนอื่น พวกเขาคิดว่าเซียวอี้เป็นเพียงคนล่าสัตว์ที่รอถูกเชือดของตระกูลเท่านั้น

แต่ใครจะคาดคิดว่าวิธีการของคนล่าสัตว์ผู้นี้จะโหดเหี้ยม เขาถึงกับชักมีดแทงผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับตนอย่างไม่ลังเล!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด