ตอนที่แล้วตอนที่ 32: เห็ดมัตสุทาเกะย่างเตาถ่าน (1) (ฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 34: เห็ดมัตสุทาเกะย่างเตาถ่าน (3)

ตอนที่ 33: เห็ดมัตสุทาเกะย่างเตาถ่าน (2) ฟรี


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

--------------------------------------------------------------------------------------------

สีหน้าของชิยูดุขึ้น เธอแซะไปว่า “เธอกำลังจะบอกว่าชั้นเป็นขอทานงั้นเหรอ?”

 

“ชั้นปล่าวนะ” โม่หยินยักไหล่พร้อมกับทำสายตาประชดชัดมาก “ใครอยากรับก็รับสิ”

 

ชิยูยกถ้วยชาขึ้นมาสาดใส่หน้าเธอ “ปากเธอนี่เหม็นนะ ล้างบ้างก็ดี”

 

การกระทำของเธอทำให้คนรอบๆตะลึง ไม่มีใครคิดเลยว่าเธอจะกล้าแบบนั้น.

 

“ว๊าย-!” แต่แค่แปปเดียวโมหยินก็ได้สติกลับมา. เธอเช็ดชาออกจากหน้าแล้วหยิบดาบพุ่งไปทางชิยูแล้วตะโกน “อีชั้นต่ำนี่! ชั้นจะฆ่าแก!”

 

ศัตรูของเธอมีพลังอยู่ที่ระดับพื้นฐานที่8 ถ้าชิยูสู้กับเธอจริงๆเธอจะเป็นฝ่ายแย่ซะเอง. ทุกๆคนไม่ได้เหมือนกับเจ้าหลินฟ่านที่ข้ามระดับได้และชนะศัตรูแกร่งๆมันทุกรอบซะหน่อย. เธอเคลื่อนตัวไปใกล้ๆหน้าต่างที่เปิดอยู่ ถ้าเห็นท่าไม่ดีแล้วล่ะก็เธอจะหนีขึ้นเจ้าสัตว์เมฆไป.

 

ระดับจะยังไงก็ช่าง ถ้าศัตรูบินไม่ได้ล่ะก็ เธอก็รอดแน่นอน. ถ้าเธออยากจะไปจริงๆคนพวกนี้ห้ามเธอไม่ได้หรอก.

 

“พอซักที!” ทันใดนั้นเฟิ้งโหลวก็ออกตัวแล้วปัดดาบทิ้งจากมือของโม่หยินไป “เธอทำเกินไปแล้ว”

 

“ชั้นทำเกินไปงั้นเหรอ?!” เสียงของโมหยินสูงจนแทบจะกรี๊ดออกมาอยู่แล้ว “นายไม่เห็นเหรอว่ามันสาดชาใส่หน้าชั้นน่ะ? นายกล้ามาด่าชั้นแทนคนนอกได้ยังไง! เฟิ้งโหลว, นี่นายแอบชู้กับยัยสารเลวนั่นเหรอ!”

 

ใบหน้าของเฟิ้งโหลวจริงจังขึ้น “โม่หยิน ถ้าเธอกล้าพูดอะไรแบบนั้นอีก ชั้นไม่รับประกันนะว่าจะไม่ทำร้ายผู้หญิง!”

 

โมหยินชะงักไปและไม่กล้าพูดอะไรต่อ.

 

เธอรู้ว่าเฟิ้งโหลวโกรธจริงๆ. คนอื่นๆที่ไม่กล้าแหยมกับเฟิ้งโหลวจึงดึงเธอกลับแล้วบอก “เฟิ้งโหลวนายก็รู้นี่นาว่าน้องหยินน่ะเป็นคนตรงๆ อย่าโกรธเลยนะ”

 

หลิวยี่เองก็พูดขึ้นมา “น้องหยินน่ะเป็นคนตรงๆแต่ไหนแต่ไรแล้วแต่รอบนี้ เธอก็ผิดจริงๆนะน้องหยิน เธอ…”

 

เขายังพูดไม่จบเลยโม่หยินก็พุ่งเข้ามาหาด้วยตาแดงก่ำ “นี่นายก็คิดว่าชั้นผิดเหรอ! ชั้นเกลียดนาย!” พอพูดเสร็จเธอก็วิ่งออกไป.

 

พอโม่หยินออกไปแล้ว คนอื่นๆก็พากันมองหน้ากันแล้วรีบตามไป. คนที่เหลืออยู่ก็มีแค่เฟิ้งโหลวที่หน้าตาดุมากๆ, หลิวยี่ที่กำลังเอ๋อๆกับชิยูที่เตรียมพร้อมจะหนีตั้งแต่แรกแล้ว.

 

แต่ในเมื่อเรื่องมันออกมาเป็นอย่างงี้ เธอก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องไปแล้ว. เธอค่อยๆกลับไปนั่งที่เดิมแล้วกินต่อ.

 

“ชั้นจะไปดูเธอหน่อยแล้วกัน” แล้วหลิวยี่ก็ออกไป.

 

ชิยูมองเขาเดินออกไปแล้วคุยกับเฟิ้งโหลว “แผลเขายังไม่หายสนิทนะ. อีกอย่างชั้นสงสัยมานานแล้ว ถ้าเขามีความรู้สึกดีๆให้กับโม่หยินแล้วทำไมไม่คบกันซักที?” การที่โม่หยินมองแรงแบบนั้นทั้งวันมันไม่สนุกหรอก ถ้าพวกเขาจะเล่นเกมกันจริงๆ อิจฉากันนิดหน่อยก็พอทนได้อยู่หรอก แต่มาทำอย่างงี้ปวดหัวสุดๆ.

 

เฟิ้งโหลวไม่นึกว่าชิยูจะมองหลิวยี่กับโม่หยินออกหมดแบบนั้น. เขาจึงถอนหายใจออกมาแล้วกล่าวขอโทษ “ขอโทษเธอด้วยจริงๆนะ แต่ก่อนพวกเขาไม่ได้เป็นแบบนี้หรอก”

 

“ไม่ต้องขอโทษหรอก ชั้นน่าจะขอบคุณนายมากกว่าที่พยายามอยู่ข้างชั้นตลอดที่ผ่านมา” ชิยูกล่าว. แต่เนื่องจากเธอไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องนี้อีกแล้วจึงเปลี่ยนเรื่องคุย “ชั้นมั่นใจว่าพวกนายน่ะมาที่ภูเขาสัตว์ปราณไม่ใช่แค่จะมาหาประสบการณ์หรอกใช่มั้ย?”

 

กลุ่มนี้ทุกคนนั้นมีระดับพลังพื้นฐานอยู่ประมาณระดับที่ 9 โดยที่เฟิ้งโหลวเป็นคนที่แกร่งที่สุดอยู่ระดับฝึกหัดที่1. ถ้าพวกเขาอยากมาหาประสบการณ์จริงๆ พวกเขาคงเอาอาวุธมาเยอะกว่านี้และส่งออร่าน่ากลัวมากกว่านี้. แต่เธอรู้สึกว่ากลุ่มเด็กวัยรุ่นพวกนี้สนใจมาเที่ยวสนุกกันซะมากกว่า.

 

“พวกเขาแค่มาหาของกับชั้นน่ะ” เฟิ้งโหลวพยักหน้า “ที่ภูเขาสัตว์ปราณมีสมุนไพรกับพืชที่มีสรรพคุณทางยาอยู่เยอะและมีอย่างนึงที่หาได้ในเฉพาะที่นั่น. ชั้นกำลังตามหาสมุนไพรพิเศษอันนึงอยู่น่ะ”

 

“อะไรเหรอ?” ชิยูเริ่มสนใจในบทสนทนานี้.

 

“ดอกบัวหยกอมตะน่ะ”

 

“....” บังเอิญไปป้ะเนี่ย?

 

ชิยูวางตะเกียบลงแล้วพูด “ของนั่นดูท่าทางจะมีค่านะ แทนที่จะมาเสี่ยงหาในภูเขาอันตรายแบบนั้น ทำไมไม่หาซื้อเอาล่ะ?”

 

“ก็ถ้าเงินมันแก้ปัญหาได้ง่ายแบบนั้นอ่ะนะ” เฟิ้งโหลวยิ้มเจื่อนๆ “ดอกบัวหยกอมตะน่ะมันแตกต่างจากพืชอื่นๆ มันขึ้นได้เฉพาะในน้ำเท่านั้น จะเป็นน้ำแบบไหนก็ได้ ไม่ว่าจะน้ำนิ่งหรือน้ำไหลก็ได้หมด. มันอาจจะเกิดอยู่ในใจกลางบึงใหญ่ๆไม่ก็หนองเล็กๆก็ได้ ถ้าไม่มีโชคก็คงจะไม่มีวันหามันเจอหรอก”

 

ชิยูพยักหน้า สงสัยว่าโชคเธอคงจะดีมากๆ.

 

“นายรีบใช้มันรึป่าว?” ชิยูเอียงหัว “ชั้นอาจจะมีเพื่อนที่มีมันอยู่”

 

“จริงเหรอ?” ตาของเฟิ้งโหลวเต็มไปด้วยความหวัง.

 

“อืม มันดูคล้ายๆดอกบัวแต่กลีบเป็นสีหยกใช่ไหมล่ะแล้วก็มีกลิ่นหอมหวานที่แรงมากๆ?”

 

“ใช่!” เฟิ้งโหลวลุกขึ้นด้วยความตื่นเต้นทันที “เพื่อนเธอจะยอมแบ่งให้ชั้นได้มั้ย? ตระกูลเฟิ้งของเราจะยอมจ่ายให้ทุกอย่างเลย”

 

พอเห็นเขาเป็นแบบนั้นแล้ว ชิยูก็เข้าใจทันทีว่ามันคงสำคัญต่อเขามาก เพียงแต่เธอยังไม่รู้ว่าดอกบัวหยกอมตะนี้เอาไว้ทำอะไร.

“งั้นก็ได้ พอเราไปถึงเมืองหลวงแล้วชั้นจะลองไปตามหาเขาดู”

 

“ขอบคุณมากๆ” นี่เป็นสิ่งที่เฟิ้งโหลวคาดไม่ถึงจริงๆ เพราะตอนแรกเขาออกมาหาดอกบัวหยกอมตะแบบไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้ว.

 

ขณะที่ทั้งสองคนคุยกันอยู่ เหมิงลี่ก็แอบมองจากริมประตู หน้าตาน่ารักของเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้น.

 

ในอีกมุมนึงนั้น เฟ้ยเหย่ก็เล่นใหญ่ชี้หน้าหลิวยี่ว่า “แกนี่มันน่ารังเกียจจริงๆนะ เห็นสาวดีกว่าเพื่อน. นายรู้จักโม่หยินมาตั้งนานแต่กลับมองดูเธอถูกคนอื่นรังแกนี่นะ”

 

หลิวยี่ไม่พอใจ “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันวะ? ชิยูเป็นคนช่วยชีวิตชั้นนะแล้วตอนพวกนายรุมแกล้งเธอชั้นก็ไม่ได้พูดอะไรเลยด้วย. วันนี้โม่หยินเป็นคนทำร้ายเธอด้วยคำพูดก่อน. ถึงชิยูจะทำเกินไปเรื่องชาบ้าง แต่นายคิดเหรอว่ามันจะหายกันกับที่โม่หยินทำมาทั้งหมดน่ะ?”

 

“อ๋อนี่สรุปนายหลงเสน่ห์ยัยปีศาจจิ้งจอกนั่นแล้วสินะ?” เฟ้ยเหย่ฉุนขึ้นมา.

 

“ปีศาจจิ้งจอกอะไรของแก ชั้นบอกไว้เลยนะ นางเป็นของชั้น ดังนั้นจะขอบคุณมากถ้าพวกนายไม่ยุ่งกับเธอ”

 

ทั้งสองเถียงกันจนดังไปถึงหูของโม่หยิน.

 

“สรุปนายรักเธอเข้าแล้วใช่มั้ย?”

 

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ!”

 

…..

 

ขณะที่ชิยูกินข้าวเย็นเสร็จและกำลังจะเข้านอนแล้ว เธอก็ได้ยินเสียงคนพวกนั้นว่าเธอ.

 

ยิ่งพวกนั้นทุกข์มากเท่าไหร่ เธอก็ยินดีมากเท่านั้น!

 

บ่ายวันต่อมาชิยูลงไปที่เมืองเพื่อหาซื้อของ, ฤดูใบไม้ผลิมาถึงแล้วและมีผักขายอยู่เยอะมากๆ. ผักที่ขายดีที่สุดตอนนี้ก็น่าจะเป็นเห็ดมัตสุทาเกะ.

 

เจ้ามัตสุทาเกะนี้เป็นเห็ดประเภทหนึ่งที่โตใกล้ๆกับต้นเกี๊ยะ. เป็นของขึ้นชื่อของเมืองเชินเจิ้น. พอหิมะละลายแล้วดินด้านล่างก็จะนุ่มขึ้น เจ้าเห็ดมัตสุทาเกะนี่ก็โตขึ้นแบบข้ามคืนทันที. พอพระอาทิตย์เริ่มฉายแสงออกมา เจ้าเห็ดมัตสุทาเกะนี่ก็จะหายวับไปเลย.

 

ชิยูซื้อมาประมาณ45โลได้แล้วโยนเข้ามิติไป เอาไว้ค่อยๆกินทีหลัง.

 

พอเธอกลับมาที่โรงเตี๊ยมคืนนั้น เธอก็เตรียมตัวไปจากกลุ่มวัยรุ่นพวกนี้. เธอมาเข้ากลุ่มนี้เพราะอยากหาเพื่อนและเปลี่ยนบรรยากาศให้ครื้นเครงบ้าง. แต่ดันเป็นกลุ่มที่มีแต่ดราม่าและพาลใส่กันตลอด สมองผู้ใหญ่ของเธอทนไม่ไหวอีกแล้ว.

 

ขณะที่เธอกำลังเก็บของอยู่นั้น เธอก็ดันไปเห็นเฟิ้งโหลวมีปากเสียงกับสาวของเขาอยู่ แต่ดูเหมือนว่าจะมีปากเสียงกันรุนแรงมาก…..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด