Ep.826 - ยกระดับต่อเนื่องสู่เลเวล B7

4/5

Ep.826 - ยกระดับต่อเนื่องสู่เลเวล B7

ดอกไม้แห่งการทำลายล้าง ปลดปล่อยกลิ่นอายความมืดอันเข้มข้นรุนแรง ท่วมทับจักรพรรดิสัตว์ร้ายตัวใหญ่ทันที

สัตว์ร้ายในมิติต้องห้าม ไม่สามารถใช้พลังงานใดๆได้ แม้พวกมันครอบครองพละกำลังมหาศาล กระนั้นในระหว่างการเจริญเติบโต ได้เกิดจุดอ่อนร้ายแรงขึ้น!

--สำหรับการดำรงอยู่ระดับจักรพรรดิ เอาจริงๆมังกรตลบปฐพีสมควรใช้งานอบิลิตี้ดินได้ สามารถสร้างเขตแดนปฐพี เปิดใช้งานเทคนิคหนามพิภพและเทคนิคอุกกาบาตสวรรค์ บดขยี้ฉินเฟิงให้แดดิ้น

ทว่าจักรพรรดิมังกรดินตรงหน้าเขา กลับไม่ยอมทำ … ไม่สิ ต้องบอกว่าทำไม่ได้ต่างหาก!

ด้วยประการฉะนี้แล สุดท้ายมันเลยตกเป็นเป้าโจมตีเพียงอย่างเดียว ฉินเฟิงไม่ถึงขั้นต้องใช้อบิลิตี้สี่ประสาน อาศัยเพียงเขตแดนเปลวเพลิง และดอกไม้แห่งการทำลายล้าง ที่เกิดจากเขตแดนแห่งความมืด ก็สะกดฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว

ด้วยอำนาจของเทคนิคดอกไม้แห่งการทำลายล้าง ส่งผลให้ร่างของจักรพรรดิมังกรดินอ่อนแอลง เซลล์เริ่มแห้งเหี่ยว เปราะบางอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ร่างของฉินเฟิงวูบไหวเป็นหลายร้อยหลายพันเงา ทุกตำแหน่งที่ร่างหลักไป จักผ่าหนังชั้นนอก เปิดเผยเนื้อขาวๆออกมาให้เห็น ขณะเดียวกัน เงาอื่นๆล้วนเกิดจากการรวมตัวกันของพลังงานแห่งความมืด กระโจนจมหายเข้าไปในร่างจักรพรรดิมังกรดิน ลดทอนพลังชีวิตมัน

จักรพรรดิมังกรดินดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง

ดูจากในมุมมองของคนนอก จะเห็นแค่ว่าจักรพรรดิมังกรดินตกอยู่กลางวงล้อมธารลาวายาวนับกิโลเมตร และพยายามหลบหนีตลอดเวลา ทว่าร่างของมันถูกขัดขวางไว้โดยมังกรไฟและเสาลาวานับไม่ถ้วน

เฝ้ามองไปยังพลังทำลายล้างชนิดระเบิดฟ้าสะเทือนผืนดิน ชาวเมืองต่างเกิดความคิดว่า หากพวกตนไม่ได้ยืนอยู่บนเมืองลอยฟ้า ป่านนี้คงได้รับผลพวงจากแผ่นดินไหว ถูกเขย่าจนตายไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายในพลังทำลายล้างอันยิ่งใหญ่นี้ คนๆนั้นกลับยังสามารถยืนหยัดต่อสู้อย่างไม่หวั่นไหว

ช่วงเวลานี้ ผู้รอดชีวิตที่สามารถกลายเป็นผู้ใช้พลัง จากเดิมที่กำลังย่ามใจในความแข็งแกร่งของตน บัดนี้ต่างปิดปากเงียบ ไร้ซึ่งความอิ่มเอมใจอีกต่อไป

นั่นเพราะพวกเขาตระหนักแล้วว่าหนทางยังอีกยาวไกล ตนไม่อาจเทียบเคียงผู้ใช้อบิลิตี้ได้เลย สิ่งที่พวกเขามีคือความแข็งแกร่งของผู้ใช้วรยุทธโบราณ แต่เรื่องที่ว่าตนจะสามารถฝึกฝนกำลังภายในได้หรือไม่ นั่นคงต้องมาพูดกันอีกที

สรุปโดยสังเขป ไม่ว่าความคิดในใจพวกเขาจะซับซ้อนเพียงใด แต่สิ่งแรกที่พวกเขาคะนึงถึง คือความแข็งแกร่งของฉินเฟิง

บุคคลเช่นนี้เอง ที่ควรค่าแก่การเคารพและยอมศิโรราบของทุกคน!

ห่างออกไป 10,000 เมตร จักรพรรดิมังกรตลบปฐพีตัวใหญ่ ได้จมหายลงในธารลาวาอย่างสิ้นเชิง ฉินเฟิงย่ำเท้าลงบนตัวมัน ปลุกเร้าอบิลิตี้มืด เจาะเข้าไปในร่างของสัตว์ร้ายตัวนี้

กระบวนการดูดซับพลังอย่างบ้าคลั่ง เริ่มขึ้นอีกครั้ง

นี่คือร่างของจักรพรรดิสัตว์ร้ายซึ่งมีความยาวกว่า 700 เมตร และด้วยคุณสมบัติพิเศษของมิติต้องห้าม ส่งผลให้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของฉินเฟิง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในเวลานี้ อีกด้านหนึ่ง ผนึกลูกบาศก์แตกสลายลง ชิ้นเนื้อนับไม่ถ้วนของจักรพรรดิมังกรถูกแล่โดยไป๋หลี  ร่วงตกลงจากฟ้า

ปัจจุบัน ขนาดชิ้นเนื้อมังกรดินที่ใหญ่ที่สุด หดเล็กลงเหลือไม่ถึง 100 เมตร ระดับถดถอยมาอยู่ในส่วนราชันย์ แม้มันยังดูเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ แต่สำหรับฉินเฟิงกับไป๋หลี มันได้กลายเป็นแค่ลูกแกะที่เฝ้ารอให้พวกเขาเชือดเท่านั้น!

“กี๊ กี๊ กี๊”

ราชันย์มังกรดินขนาดยาวเพียง 100 เมตรเหล่านี้ เพิ่งถูกตัดขาดออกจากกัน หัวและหางยังไม่ทันงอกได้เต็มที่ ก็ร่วงไปในธารลาวา ไม่ต่างจากเนื้อตกลงในกระทะ บังเกิดเสียงทอดดังฉ่า ฉ่า

ชิ้นเนื้อมังกรตลบดินหลายสิบตัว สูญสิ้นพลังชีวิตไปทันที ฉินเฟิงเหยียบลงบนหนังของจักรพรรดิมังกร ทะยานขึ้นจากธารลาวา ย่ำซากมังกรดินที่ยังเหลืออยู่จมลงไปทันที

อีกด้านหนึ่ง สัตว์เทวะอย่างไป๋หลี ได้ตัดหั่นจักรพรรดิมังกรดินตัวสุดท้ายเป็นชิ้นๆไปแล้ว สิ่งมีชีวิตที่อาจก่อภัยคุกคามใหญ่หลวง ตกตายลงโดยสมบูรณ์

ต่อมา คลื่นพลังงานมหาศาล วิ่งขึ้นมาจากเบื้องล่างของธารลาวา ดาวเคราะห์เพชรของฉินเฟิง หมุนวนอย่างบ้าคลั่ง พลังพิเศษดูดกลืนปะทุถึงจุดสุดยอด

หลังจากดูดซับจักรพรรดิมังกรดินขนาดยาว 700 เมตร ฉินเฟิงก็สามารถยกระดับได้อีกขั้น

เลเวล B7!

ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาได้เพิ่มขึ้นมาเป็นเลเวล B7 แล้ว!

ในการต่อสู้เดียว แถมยังกินระยะเวลาเพียงสั้นๆ ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงยกระดับอีกครั้งและอีกครั้ง ยังไม่หมดแค่นั้น หลังการตายอย่างสิ้นเชิงของจักรพรรดิมังกรดิน พลังวิญญาณของมัน ได้กระจายเข้าหล่อเลี้ยงพลังสมาธิของฉินเฟิงทันที กระนั้น อาจเป็นเพราะตัวมันไม่มีอบิลิตี้ ทำให้การหล่อเลี้ยงในครั้งนี้ไม่มากพอที่จะยกระดับพลังสมาธิของฉินเฟิงให้ขึ้นจากเลเวล B5 ได้

อย่างไรก็ตาม มีดกษัตริย์ครามเริ่มส่งเสียงหึ่ง หึ่ง อีกครั้ง จิตวิญญาณขนาดใหญ่ถูกดูดเข้าไปกักขัง จากเงาสะท้อนของใบมีดกษัตริย์คราม คุณสามารถมองเห็นร่างเงาที่กำลังดิ้นรนขัดขืน มันเหล่านั้นถูกฉุดลากขึ้นจากธารลาวา ตนแล้วตนเล่า ถูกดูดเข้ามาหลอมรวมกัน ก่อตัวเป็นร่างพลังงานขนาดหลายร้อยเมตร

ร่างพลังงานนี้ว่ายวนรอบกายฉินเฟิง โดยปลายหางของมันเชื่อมต่อเข้ากับมีดกษัตริย์ครามในมือเขา

--นี่คือจิตวิญญาณของจักรพรรดิมังกรตลบปฐพี!

ขณะนี้ สองเท้าของฉินเฟิงกำลังเหยียบย่ำลงบนหนังชั้นนอกของจักรพรรดิมังกรดินที่กำลังลอยอยู่บนธารลาวา โดยมีฉากหลังเป็นเงาวิญญาณสัตว์ร้ายพรุดพรายจากมีดกษัตริย์คราม บนท้องฟ้า ปรากฏเมฆทะมึนเชื่อมติดกันเป็นแนวยาวด้วยพลังของอบิลิตี้มืด

ส่งผลให้ในสายตาของผู้อื่นที่มองมาตอนนี้ ฉินเฟิงไม่ต่างจากโคตรพยัคฆ์แห่งยุคโลกาวินาศ!

ภาพนี้ได้ติดตรา ตรึงอยู่ในหัวใจของทุกคนที่รับชมการต่อสู้!

“จงกลับคืน!”

เปลวเพลิงย้อนกลับมา เมฆหมอกทะมึนสลายไป จิตวิญญาณสัตว์ร้ายบนตัวมีด ได้ถูกฉินเฟิงผนึกลงในฝัก

ทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง บนท้องฟ้ากลับมาเป็นสีคราม สิ่งเดียวที่เปลี่ยนแปลงไปก็คือผืนดิน บัดนี้เหลือทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันไอร้อน และหินแข็งสีเทา

ฉินเฟิงหันหน้าไปอีกทาง มองไปยังมิติทับซ้อน เขาพบว่าบันไดพังทลาย เมืองฉงโหลวล่มสลายกลายเป็นซากปรักหักพัง

ก่อนการเกิดใหม่ของฉินเฟิง ในความทรงจำเหมือนจะมีภาพๆนี้เช่นกัน

“ก่อนเกิดใหม่ น่ากลัวว่าเจ้าสัตว์ร้ายตัวนี้คงปรากฏขึ้นเช่นกัน และเกรงว่าช่วงเวลานั้น ผู้คนที่รอดชีวิตในเมืองฉงโหลว คงเหลือไม่ถึง 10,000 คนแล้ว!”

ในหัวใจของฉินเฟิงพลุ่งพล่านไปด้วยอารมณ์อันซับซ้อน แต่ในชีวิตก่อนไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้

และขอยอมรับว่าการคาดเดาของฉินเฟิงเกือบถูกต้องจริงๆ ในชีวิตก่อน เมื่อเมืองฉงโหลวซ้อนทับเข้ากับอีกมิติหนึ่ง ผู้คนนับไม่ถ้วนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาชีวิตรอด แต่พวกเขาไม่มีอบิลิตี้มิติของไป๋หลี ทำให้ไม่สามารถเปิดช่องว่างมิติได้ และยิ่งไม่ทราบ ว่าข้างในนี้เป็นมิติปิดล้อม

ดังนั้น พวกเขาเลยไม่ยอมแพ้ในทันที ทำการค้นคว้าวิจัยอย่างต่อเนื่อง แต่พอสองเดือนต่อมา จักรพรรดิมังกรตลบปฐพี สัตว์ร้ายที่ครอบครองขนาดใหญ่ยักษ์อย่างไม่น่าเชื่อปรากฏขึ้น บดขยี้เมืองฉงโหลวทั้งเมืองอย่างสิ้นเชิง

พวกเขาเฝ้ามองฉากนี้ ในที่สุดก็ยอมพ่ายแพ้ไป แม้มีหลายชีวิตเอาชีวิตรอดมาได้ถึงสองเดือน แต่สัตว์ร้ายที่บุกเข้ามา อย่างน้อยสมควรมีระดับจักรพรรดิไม่ก็สัตว์เทวะ ดังนั้นพวกเขาไม่กล้าตรวจสอบมัน หวาดกลัวสิ่งมีชีวิตดังกล่าว จนสุดท้ายถูกมันฆ่าตายไป

ทว่าหลังจากฉินเฟิงกลับมาเกิดใหม่ ประวัติศาสตร์แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากไป๋หลีเปิดช่องว่างมิติ ส่งผลให้พลังงานจากมิติโลกมนุษย์หลั่งไหลเข้าไปในมิติต้องห้าม ดึงดูดจักรพรรดิมังกรตลบปฐพีให้บุกเข้ามาเร็วกว่ากำหนดถึงหนึ่งเดือน

แต่โดยไร้ข้อกังขาใดๆ ผู้รอดชีวิตราวๆ 10,000 คนในชีวิตก่อน ในชีวิตนี้เป็นฉินเฟิงช่วยชีวิตเอาไว้อย่างแน่นอน เพราะก่อนเกิดใหม่ หลังการรุกรานของมังกรดิน ทั้งเมืองฉงโหลวถูกขุดรากถอนโคน ไม่เหลือชีวิตใด

และตอนนี้ เมื่อการต่อสู้สิ้นสุดลง ก็ถึงเวลาแล้วที่ฉินเฟิงจะได้รับรางวัลของความพยายาม

ฉินเฟิงก้าวไปตามอากาศที่ว่างเปล่า มุ่งหน้าสู่เมืองลอยฟ้า สายตาของผู้ใช้พลังทั้ง 50,000 - 60,000 คน ต่างจับจ้องมายังร่างของฉินเฟิง

ภายใต้สายตาของฝูงชน ฉินเฟิงเอ่ยปากว่า “เมืองฉงโหลวถูกทำลายลงแล้ว ดังนั้น นับจากนี้ไปกลุ่มเฟิงหลีจะขอรับผิดชอบดูแลพวกคุณเอง มีใครจะคัดค้านหรือไม่?”

แน่นอน ณ จุดๆนี้ ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากโต้แย้งใดๆ