ตอนที่ 5 ควบคุม
ตอนที่ 5 ควบคุม
เซียวอี้ขยับตัวไปใกล้ฟางหลิงหยาน
นางขมวดคิ้วแน่นและคิดจะหลีกหนี แต่ฝ่ามือของเซียวอี้ได้จับไหล่นางไว้แน่น
เซียวอี้มองฟางเฉินลั่วพร้อมกล่าว "เจ้าฝังนางทั้งเป็นแบบนี้นะหรือ? หากข้าไม่ช่วยชีวิตสุนัขของเจ้า เช่นนั้นยังจะเห่าแบบนี้ได้อยู่หรือไม่?"
ขณะเดียวกัน เขาได้โคจรพลังหมื่นพิษในตัวหลิงหยาน เพื่อปลดผนึกพลังวิญญาณที่เขาสกัดไว้!
เวลานี้ พลังวิญญาณของนางได้กลับมาแล้ว อีกทั้งฟางหลิงหยานยังรู้สึกได้ถึงพลังที่เอ่อล้นขณะเปิดตากว้าง
"จัดการเขาซะ! ข้าจะปกป้องเจ้าเอง นายน้อยฟางจะไม่ตอบโต้เจ้า นอกจากนั้นเจ้าเองก็กำลังหาใครสักคนเพื่อระบายอารมณ์อยู่ไม่ใช่หรือ? เจ้าตีข้าไม่ได้ แต่เจ้าตีเขาได้" เซียวอี้กล่าวพร้อมรอยยิ้ม
ฟางหลิงหยานชะงัก แต่นางก็ไม่ได้โง่ นางทราบดีว่าเวลานี้เซียวอี้มีผลประโยชน์มากที่สุดต่อตระกูล อีกทั้งปู่ของนางก็จะไม่ลงโทษเพราะเป็นภรรยาของเซียวอี้!
ทันใดนั้น โทสะของนางได้พลุ้งพล่านขึ้นในใจ ปีศาจที่อยู่ภายในได้ปะทุออกมาทันที!
ซู่!
เวลานี้ฟางเฉินลั่วยังไม่รู้ตัว ฟางหลิงหยานที่โกรธเกรี้ยวค่อย ๆ เดินไปหาเขาพร้อมพลังปราณที่โคจรไปยังหมัดขวา นางเหวี่ยงกำปั้นไปยังแก้มซ้ายของฟางเฉินลั่วอย่างไม่ลังเล!
เมื่อเห็นฟางหลิงหยานเข้ามาเช่นนั้น เขาจึงรีบกำหมัดแน่น ใบหน้าของเขาเย็นเยือกขณะคิดจะโต้กลับ แต่มันก็สายเกินไปในระยะใกล้เพียงนี้!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือฟางเฉินลั่วไม่คาดคิดว่าฟางหลิงหยานจะโจมตีมาจริง ๆ !
ปั้ง!
กำปั้นของฟางหลิงหยานกระแทกฟางเฉินลั่วปลิวไปไกลพร้อมกับเสียงร้องโอดครวญ
หลังจากต่อยไปแล้ว ใบหน้าเริ่มกลายเป็นซีดเผือดทันที
เพราะนางรู้สึกกลัวคนอื่น ๆ ในตระกูล
ท้ายที่สุดนางเองก็ไม่เคยมีใครคอยสนับสนุน
ในตระกูฟาง นางมีสถานะสูงกว่าสาวใช้อยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น มันจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนางจึงถูกทอดทิ้งโดยไร้เยื่อใย และกลายมาเป็นเหยื่อของเซียวอี้
ฟางเฉินลั่วเลือดไหลซึมตรงมุมปากขณะพยายามลุกขึ้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวขณะตะโกนดังลั่น "ฟางหลิงหยาน นางสารเลว กล้าดียังไงมาตีข้า! ข้าไม่ไว้ชีวิตเจ้าแน่วันนี้!"
ฟางหลิงหยานตัวสั่นขณะที่คิดจะกล่าว ทันใดนั้นเซียวอี้ได้เดินมาอยู่ข้างนาง เขามองไปยังฟางเฉินลั่วพร้อมรอยยิ้ม "หากเจ้ากล้าแตะต้องนาง ข้าจะไม่บ่มเพาะพลังเป็นเวลาครึ่งปี ตระกูลของเจ้าขึ้นอยู่กับขั้นพลังของข้าโดยคำสั่งหัวหน้าตระกูล ข้าเกรงว่าเจ้าจะแบกรับความรับผิดชอบนี้ไม่ไหวเอานะ"
ทันใดนั้นสีหน้าของฟางเฉินลั่วเปลี่ยนไปทันที เซียวอี้จะเริ่มบ่มเพาะพลัง? ยิ่งกว่านั้นมันยังเป็นคำสั่งของตาแก่นั่น?
เกิดอะไรขึ้นแน่? ถึงแม้จะสับสน เขาก็ไม่กล้าวู่วาม
เพราะในตระกูลฟาง ไม่มีใครกล้าจะทำให้ปู่ของพวกเขาขุ่นเคือง
"ย่อมได้ ย่อมได้!" ฟางเฉินลั่วมองไปยังเซียวอี้และฟางหลิงหยานอยู่นาน ท้ายที่สุดเขาก็ตัดใจที่จะกล่าวและจากไปพร้อมใบหน้าที่เป็นรอยกำปั้น
เซียวอี้ส่ายหัว "ก็แค่พวกหัวเสือใจสุนัข มันไม่ต่างอะไรจากสัตว์ไร้กระดูกสันหลัง ผู้ชายจากตระกูลฟางนี้ช่างไร้ค่านัก"
ฟางหลิงหยานทำหน้าบูดบึ้งก่อนจะเอ่ย "ในตระกูลฟาง ไม่มีใครไม่กลัวท่านปู่ อย่าคิดว่าเขาจะกลัวเจ้าเช่นกัน"
เซียวอี้กลอกตามอง จากนั้นเขาได้คว้าเอวของฟางหลิงหยานด้วยมือขวาพร้อมบีบบั้นท้ายนาง ฟางหลิงหยานร้องลั่น "เจ้าคิดจะทำอะไร?"
เซียวอี้เผยรอยยิ้ม "แล้วเจ้าล่ะจะทำอะไร? ข้าควรลงโทษกับสิ่งที่เจ้าพูดมาสักหน่อยดีหรือไม่? ฟางหลิงหยาน ข้ายังยืนยันคเดิม ตราบใดที่เจ้ายังเชื่อฟังข้า เช่นนั้นข้าก็สัญญาว่าจะไม่มีใครสามารถรังแกเจ้าได้อีกนอกจากตัวข้า หากมีใครกล้ามารังแกเจ้า เซียวอี้ผู้นี้จะช่วยเจ้าเอาคืนมันเป็นร้อยเท่า!"
ดวงตาฟางหลิงหยานสั่นระริก ชายคนนี้ถูกทรมานจนสมองเพี้ยนไปแล้วหรือ?
"เซียวอี้ เจ้าไม่สามารถใช้คำเหล่านั้นมาหลอกลวงข้าได้หรอก ข้าไม่เชื่อเจ้า ข้าไม่มีวันกระทำกับเจ้าอย่างจริงใจแน่นอน!" หลังจากฟางหลิงหยานนึกได้ก็เอ่ยขึ้นอย่างเย็นเยือก
เซียวอี้กล่าว "ใครสนล่ะว่าเจ้าจะจริงใจหรือไม่? ข้าก็แค่ทำในสิ่งที่ผู้ชายทำกัน หลังจากกลับไป เจ้าต้องอธิบายให้ข้าฟังอย่างตรงไปตรงมาถึงปัญหากับฉินเหิง มิเช่นนั้นข้าจะไม่ให้เจ้าลุกออกจากเตียงเป็นเวลาครึ่งเดือน"
"เจ้า!" ฟางหลิงหยานรู้สึกอายขึ้นมาทันที
เซียวอี้ไม่ได้คิดจะปกป้องหลิงหยานอย่างแท้จริง เขาแค่ต้องการหลอกใช้สตรีผู้นี้เท่านั้น
เพราะตอนนี้เขายังไม่ได้เป็นอิสระจากตระกูลฟาง อีกทั้งยังไม่ทราบว่ามีสายตากี่คู่ที่จดจ้องมา ดังนั้น การบ่มเพาะพลังลูกแก้วหมื่นพิษของเขาจึงได้ถูกจำกัดด้วยเหตุผลนี้
เขาจึงต้องการใช้ใครสักคนเพื่อช่วยให้ตนรวบรวมพิษอย่างสบายใจ! ฟางหลิงหยานคือคนที่เหมาะสมที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย หากนางสามารถถูกควบคุมโดยตระกูลฟาง เช่นนั้นก็สามารถถูกเขาควบคุมได้เช่นกัน
สวนของฟางหลิงหยานนั้นอยู่ตรงหัวมุมทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้านฟาง มีคนรับใช้หญิงชายอยู่เพียงหกคนเท่านั้น กล่าวได้ว่าเป็นบ้านที่อยู่ระดับล่างสุดของตระกูล
"คุณหนู!"
คนรับใช้สองคนรีบเข้ามา และหงเตี่ยที่อยู่ข้างกายนางก่อนหน้านี้ด้วยเช่นกัน
ฟางหลิงหยานขมวดคิ้วพร้อมกล่าว "หงเตี่ย มีอะไรงั้นหรือ? เหตุใดเจ้าถึงดูไม่ค่อยดีนัก?"
"ตอนที่ข้ากลับเข้ามา ลวี่อิงได้บอกว่าคุณหญิงอาเจียนเป็นเลือด ดังนั้นนางจึงรีบไปบอกคุณชายใหญ่ จากนั้นจึงได้เรียกหมอหลิวมาตรวจอาการ แต่หมอหลิวก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ตอนนี้คุณหญิงยังคงนอนไม่ได้สติ" หงเตี่ยกล่าวอย่างรีบร้อน
คุณชายใหญ่ที่หงเตี่ยกล่าวคือ ฟางหรูกี๋ พ่อของฟางเฉินลั่ว
ฟางหรูกี๋คือลูกชายคนโตของฟางเทียนจี เรื่องทั่วไปของตระกูลฟางนั้นมักจะถูกจัดการโดยเขา
ฟางฟลิงหยานกล่าว "ข้าจะไปดูอาการท่านแม่!"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น นางจึงรีบขึ้นไปยังห้องของมารดา จืออวี้จวิ๋น
เซียวอี้เองก็ตามไปเช่นกัน
ภายในห้อง จืออวี้จวิ๋นกำลังนอนหน้าซีดพร้อมขมวดคิ้วแน่น มันดูเหมือนนางอาการไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
ถึงแม้นางจะอายุราวสี่สิบปี แต่ก็ยังดูมีเสน่ห์อันงดงามไม่น้อย
สาวใช้ลวี่อิงปาดน้ำตาบนใบหน้าของตน
"ท่านแม่! ท่านแม่!” ฟางหลิงหยานเบิกตากว้างขณะดึงแขนจืออวี้จวิ๋น แต่นางก็ยังไม่ตื่น
เซียวอี้ที่ยืนด้านข้างได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
นางถูกพิษ...
เป็นแม่หม้ายแล้วยังมีใครทำร้ายนางอีก?
เซียวอี้ไม่สนใจเกี่ยวกับความจริง เขาสนใจแค่พิษในร่างนาง
ขณะเหล่ตามอง ประกายแสงสีม่วงได้ไหลเข้าดวงตาของเขา จากนั้นมุมปากของเซียวอี้ได้ยกขึ้น มันเป็นพิษกร่อนกระดูกของแมลง เมื่อถูกพิษนี้ มันจะทำให้กระดูกของเหยื่อถูกกัดกร่อน และลมปราณภายในถูกสกัด
แทบไม่มีพิษใดในโลกนี้ที่เซียวอี้ไม่รู้จัก ต่อให้มีพิษนับหมื่นมากองอยู่ตรงหน้า เขาก็จำแนกได้อย่างง่ายดายเมื่อลูกแก้วหมื่นพิษอยู่ในตัว
"ท่านแม่ เกิดอะไรขึ้นกับท่าน?" ฟางหลิงหยานร้องไห้อย่างเศร้าโศก แก้มของนางอาบชุ่มไปด้วยน้ำตาขณะหันไปมองหงเตี่ย "หงเตี่ย เจ้าไปเรียกหมอหลิวมาอีกครั้ง"
ขณะที่หงเตี่ยกำลังจะไป เซียวอี้ได้เอ่ยขึ้น "หากหมอหลิวสามารถ หรือคิดจะรักษา เขาคงทำตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว มันไร้ประโยชน์ที่จะเรียกเขามาอีก"
ฟางหลิงหยานกัดฟันอย่างโกรธเกรี้ยว "แล้วจะให้นั่งข้านั่งดูท่านแม่ตายงั้นหรือ?"
เซียวอี้ยิ้มพร้อมกล่าว "แล้วข้าล่ะ?"
ฟางหลิงหยานกล่าวอย่างประหลาดใจ "เจ้า... เจ้าทราบวิธีรักษางั้นหรือ?"
เซียวอี้กล่าว "สุนัขฟางเฉินลั่วที่เพิ่งบาดเจ็บกลับไปเมื่อครู่ มันยังเหมือนข้าไม่รักษาเจ้าได้อีกหรือ?"
ฟางหลิงหยานครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะกล่าว "เซียวอี้ เช่นนั้นช่วยท่านแม่ของข้าด้วย"
"เจ้าควรเรียกข้าว่าอะไรนะ?" เซียวอี้ถามหยอกล้อ
ฟางหลิงหยานหน้าแดงขณะกล่าว "นี่มันใช่เวลาไหม? เจ้ายังจะมาเล่นเรื่องไร้สาระอีกหรือ!"
"หงเตี่ย รีบไปเรียกหมอหลิวเถอะ ข้าจะออกไปด้วย" เซียวอี้กลอกตาและทำท่าทีจะหันหลังเดินออกไป
หงเตี่ยและฟางหลิงหยานดูร้อนรนอย่างมาก
"คุณหนู มันสำคัญอย่างมากที่จะช่วยคุณหญิงตอนนี้!" หงเตี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเกลี้ยกล่อม
ฟางหลิงหยานกระทืบพื้นก่อนจะตะโกนให้เซียวอี้ที่หันหลังอยู่ "สามี ข้าขอร้องท่าน ได้โปรดช่วยท่านแม่ข้าด้วย!"
เซียวอี้เผยรอยยิ้มชั่วร้ายก่อนจะหันกลับมา "นับตั้งแต่นี้ไป เจ้าจะฟังคำของข้าใช่หรือไม่?"