ตอนที่แล้วตอนที่ 2 ตอบโต้
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 4 วิญญาณเอกนิยม!

ตอนที่ 3 มอบยาพิษให้ข้า?


ตอนที่ 3 มอบยาพิษให้ข้า?

"นั่งลง"

ฟางเทียนจี้มองเซียวอี้พร้อมเผยรอยยิ้มขณะชี้ไปยังที่นั่ง

เซียวอี้นั่งลงอย่างสุภาพ

ฟางเทียนจี้เริ่มกล่าว "หลังจากถูกขังไปสิบวัน นิสัยของเจ้าเปลี่ยนไปไม่น้อย"

เซียวอี้แกล้งตอบราวกับเห็นด้วย "กล่าวตามตรง ถูกทรมานถึงสิบวัน ข้าคิดว่าเป็นใครก็ไม่เหมือนเดิม"

ฟางเทียนจี้พยักหน้า "ถูกต้อง แต่หากเจ้ายอมเชื่อฟังตั้งแต่แรก เจ้าก็ไม่ต้องทนทรมานถึงเพียงนี้ อีกทั้งตระกูฟางจะมอบลูกสาวให้เป็นเมียอย่างมีความสุข แทนที่จะปล่อยสมบัติของตระกูลเซียวไว้อย่างนั้น สู้เอามาแบ่งปันให้ลูกหลานของเจ้าไม่ดีกว่าหรือ?"

เซียวอี้แสยะยิ้มพร้อมยกขวดบนโต๊ะขึ้นซด

เขายกแขนขึ้นปาดเหล้าที่ปากก่อนจะกล่าว "จนถึงตอนนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องบอกอะไรอีก ข้าเป็นคนที่เหมือนกับตายมาแล้วครั้งหนึ่ง มันทำให้ข้าคิดอะไรได้หลายอย่างเมื่อผู้อาวุโสสามารถต่อชีวิตให้ข้า เช่นนั้นข้าก็จะบอกสถานที่ของสุสานบรรพชนให้"

ดวงตาฟางเทียนจี้เปิดกว้าง "ตกลง ตราบใดที่เจ้าพูดออกมา ตระกูลฟางก็เหมือนบ้านของเจ้า"

เซียวอี้รู้สึกเหยียดหยามในใจ ตระกูลที่มีขั้นพลังสูงสุดแค่เก้าระดับธรรมดานั้นคุ้มค่าพอจะเป็นบ้านให้เรางั้นหรือ?

ในทวีปปฐมวิญญาณนั้น ขั้นพลังจากต่ำสุดไปสูงสุดจะเป็น ขั้นปฐมพลัง ขั้นลึกซึ้ง ขั้นปฐพี และขั้นสวรรค์ ทุกขั้นนั้นจะมีอยู่เก้าระดับ

เหนือกว่าขั้นสวรรค์ยังมีขั้นพลังที่สูงกว่าอีก

ผู้ที่ต้องการบ่มเพาะพลังปราณนั้น อันดับแรกต้องทำการปลุกวิญญาณต้นกำเนิดก่อน

หากไม่มีการปลุกวิญญาณต้นกำเนิด เช่นนั้นก็จะไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะบ่มเพาะพลัง

รูปแบบของวิญญาณต้นกำเนิดนั้นมีมากมายหลายพันหลายหมื่นอย่าง มันสามารถกลายเป็นรูปแบบวิญญาณเดิมของมนุษย์ อย่างเช่นวิญญาณดั้งเดิมของฟางหลิงหยางคือ แมวเงาทมิฬ มันเป็นวิญญาณสัตว์ร้ายชนิดหนึ่ง

แมวเงาทมิฬนั้นไม่ได้เป็นปราณพลังที่แข็งแกร่ง แต่ความเร็วของมันนับว่าไม่เป็นรองใคร หากบ่มเพาะจนถึงขั้นสูงสุด มันจะสามารถบรรลุบางสิ่งบางอย่างได้

เซียวอี้ยังไม่ทราบว่าวิญญาณต้นกำเนิดของตนที่จะถูกปลุกนั้นเป็นอะไร แต่ความน่าจะเป็นมากที่สุดคงเป็นวิญญาณพยัคฆ์ เพราะวิญญาณต้นกำเนิดของตระกูลเซียวนั้นมักจะเป็นเช่นนี้

แต่มันก็หาได้จำเป็นไม่

การตื่นของวิญญาณต้นกำเนิดนั้นมีตัวแปรมากมายในการปลุก มรดกทางสายโลหิตนั้นก็แค่ส่วนหนึ่ง

เซียวอี้เองก็ไม่ได้รีบร้อนปลุกวิญญาณต้นกำเนิดนัก เพราะไม่ว่ายังไง ด้วยการที่มีลูกแก้วหมื่นพิษอยู่ด้วย มันย่อมทำให้เขาบ่มเพาะพลังได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว!

ดังนั้น ในช่วงเวลาที่กำลังอ่อนแอนี้ เขาต้องเอาตัวรอดให้ได้ก่อน

"พูดได้แล้ว" เมื่อเห็นเซียวอี้เงียบไป ฟางเทียนจี้จึงไม่อาจอดทนได้อีก

เซียวอี้ยิ้ม "ตำแหน่งของสุสานบรรพชนเซียวนั้น อยู่ในส่วนลึกสุดของขุนเขาพยัคฆ์หมอบ เหนือหลุมฝังศพ จะมีต้นมังกรที่มีเขาตั้งอยู่ หากท่านไปก็จะหามันได้เอง"

ฟางเทียนจี้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาพร้อมกล่าว "มันอยู่ในขุนเขาพยัคฆ์หมอบจริงสินะ ถึงแม้มันจะมีพวกสัตว์ต้นกำเนิดที่ทรงพลังอยู่มากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าไปไม่ได้ ส่วนปากทางเข้าสุสานอยู่ตรงไหน?"

เซียวอี้ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าว "ข้าจำได้เพียงเล็กน้อย ท่านแม่บอกว่า หากวันหนึ่งข้าพบกระดูกของท่านพ่อ ให้พากระดูกนั้นไปยังต้นไม้มังกรมีเขา และกรีดเลือดสามหยด จากนั้นกระดูกของท่านพ่อจะถูกส่งเข้าไปยังสุสานทันที ข้าคิดว่ามันคงเป็นวิธีเปิดสุสาน ‘หยดเลือดตระกูลเซียวบนแผ่นไม้มังกร’ แต่หากวิธีนี้ใช้ไม่ได้ เช่นนั้นข้าเองก็คงต้องทำได้แค่ขุดดินฝังกระดูก "

ฟางเทียนจี้ขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ เขาได้หัวเราะเยาะพร้อมกล่าว "เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รักษาสัญญาจึงได้แต่งเรื่องขึ้นมาใช่หรือไม่?"

เซียวอี้โค้งมุมปากเล็กน้อย "ข้าได้บอกตำแหน่งให้แล้ว เหตุใดข้าต้องแต่งเรื่องเพื่อรบกวนท่านอีก? สุสานอยู่ที่นั่น พวกท่านก็ไปขุดเอาได้เลย"

"ฮึ่ม" ใบหน้าฟางเทียนจี้เปลี่ยนเป็นมืดดำ "หากพวกเราทำการขุด เช่นนั้นก็เท่ากับตีระฆังบอกตระกูลอื่นหนะสิ เพียงไม่นาน พวกตระกูลอื่นจะต้องทราบเรื่องแน่นอน จากนั้นของในสุสานบรรพบุรุษเซียวต้องตกไปเป็นของพวกมัน! ไม่มีทาง! ตระกูลฟางของข้าจะต้องเป็นใหญ่ที่สุดในหกตระกูลใหญ่แห่งแดนใต้!"

อันที่จริง มีผู้คนมากมายที่โลภในสมบัติตระกูลเซียว แน่นอนว่าตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดหกตระกูลคงไม่นั่งดูดายหากทราบเรื่อง

ฟางเทียนจี้ยังคงมีแผนของตน

เขายังคิดจะใช้เซียวอี้ต่อ

มีเพียงความกลัวในใจของมันเท่านั้น ที่จะทำให้มันมีชีวิตอยู่ต่อไป

เซียวอี้ขยับคอเล็กน้อยก่อนจะยิ้ม "เมื่อผู้อาวุโสไม่อยากจะขุด เช่นนั้นก็ให้เวลาข้าสักหน่อย แก่นแท้โลหิตของวิญญาณต้นกำเนิดขั้นลึกซึ้งต้องเปิดได้แน่นอน ยิ่งกว่านั้น หากผู้อาวุโสมอบโอสถทิพย์ให้ข้า เช่นนั้นอาจจะใช้เวลาเพียงห้าปีในการบรรลุขั้นนั้น เมื่อถึงเวลาที่ข้าเปิดได้ เช่นนั้นท่านก็จะได้สมบัติทุกอย่างของตระกูลเซียว"

มุมปากฟางเทียนจี้บิดเบี้ยวขณะมองเซียวอี้อย่างเย็นเยือก เขาอยากจะเปิดกะโหลกเด็กหนุ่มคนนี้ เพื่อดูว่ากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่

เราควรจะขุดมันโดยตรง หรือรอให้เซียวอี้บรรลุวิญญาณต้นกำเนิดขั้นลึกซึ้ง?

ฟางเทียนจี้สูดหายใจลึก

เขาไม่มีทางเลือก

ถึงแม้อยากจะรีบบรรลุพลังมากเพียงใด แต่ท้ายที่สุดก็ต้องคำนึกถึงตระกูลก่อน

"สามปี ข้าจะให้เวลาเจ้าเพียงสามปีเท่านั้น! หลังจากสามปี หากยังไปไม่ถึงขั้นลึกซึ้ง เช่นนั้นข้าจะส่งตัวเจ้าไปยังตระกูลหลัว! เจ้าน่าจะทราบดีว่าตระกูลหลัวเป็นศัตรูกับพวกเรา! หากตกไปอยู่ในกำมือพวกมัน นั่นก็หมายถึงจุดจบของเจ้า! เวลานั้นถึงแม้จะไม่ได้สมบัติตระกูลเซียว ข้าก็สามารถใช้เจ้าเพื่อได้รับผลประโยชน์บางอย่างจากตระกูลหลัว!" ฟางเทียนจี้เอ่ยอย่างเย็นเยียบ

มุมปากเซียวยกขึ้นในทันใด "เพื่อที่จะไม่ให้ตกไปอยู่ในมือตระกูลหลัว ข้าน้อยก็จะทำให้ดีที่สุด"

"ฮึ่ม ช่วงนี้เจ้าดูแปลกประหลาดและข้าไม่อาจเชื่อใจเจ้าได้" ฟางเทียนจี้ยื่นฝ่ามือออกไป จากนั้นเม็ดยาสีดำได้ปรากฏขึ้น

"นี่คือยากพิษกร่อนหัวใจ รับมันไปซะ ทุก ๆ หกเดือน ข้าจะเอายาแก้พิษให้ หากคิดจะหนี เช่นนั้นพิษจะทำลายหัวใจของเจ้าจนตาย!"

เซียวอี้แสดงสีหน้าหวาดผวา แต่ในใจของเขากลับรู้สึกยินดี

เจ้าเฒ่านี้มอบยาพิษให้เรางั้นหรือ?

เขาแทบอยากจะขอบคุณฟางเทียนจี้ตรงนี้!

"ผู้อาวุโส ข้าซื่อสัตย์กับทุกสิ่ง แต่ท่านกลับคิดจะใช้วิธีน่ารังเกียจเช่นนี้อยู่หรือ? มันไม่ดูหมิ่นกันเกินไปหน่อยกระมั้ง!" เซียวอี้แสร้งไม่สบอารมณ์

ฟางเทียนจี้ยิ้มอย่างเย็นเยือก จากนั้นเขาสะบัดมือเล็กน้อยปล่อยลมปราณกระแทกหน้าอกเซียวอี้

ขณะที่เซียวอี้ลอยไปกลางอากาศ ปากของเขาเปิดกว้างพร้อมร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ทันใดนั้นเม็ดยากร่อนหัวใจได้ลอยเข้าปากเขาทันที

"เจ้าเฒ่าบัดซบ..." เซียวอี้ลุกขึ้นพร้อมใบหน้าเขียวซ้ำ

ฟางเทียนจี้ตะคอกขึ้นดัง "เจ้าได้หลิงหยานไปแล้ว และข้าจะไม่ทำอะไรมากไปกว่านี้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป เจ้าจะอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับนาง และเพลิดเพลินไปกับทรัพยากรของตระกูลฟาง !"

"ตอนนี้ข้าจะปลุกวิญญาณต้นกำเนิดให้เจ้า! และเริ่มเข้าสู่วิถีแห่งการบ่มเพาะพลังได้แล้ว!"

ขณะกล่าว ฟางเทียนจี้ค่อย ๆ เดินไปหาเซียวอี้

ตู้ม!

ทันใดนั้นร่างของฟางเทียนจี้เต็มไปด้วยรังสีพลังอันแข็งแกร่ง มันทำให้คลื่นพลังได้กระจากออกมา จากนั้นรูปเงาของแมวสีดำมีปีกได้ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเขา

แมวเงาทมิฬตัวนี้ยาวสองเมตร ร่างกายแข็งแกร่งทัดเทียมกับพยัคฆ์ ดวงตาสีฟ้าราวกับดวงดาราและเย็นเยือกดุจน้ำแข็ง

ดวงตาเซียวอี้ขยับเล็กน้อยก่อนจะกล่าวในใจ "วิญญาณต้นกำเนิดของตาเฒ่านี้คือแมวเงาวิหค ในรูปแบบของสัตว์ขั้นปฐม มันถือว่าเป็นสัตว์ระดับกลาง แต่ต้นกำเนิดวิญญาณตนนี้ช่างน่าเสียดาย คุณสมบัติพลังของมันตกต่ำลงอย่างมาก"

เวลานี้เซียวอี้รู้สึกสงสัยในใจ แล้ววิญญาณต้นกำเนิดของเราจะเป็นอะไรกัน?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด