ตอนที่แล้วบทที่ 45 อเดเลีย (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 47 อัครสาวก (2)

บทที่ 46 อัครสาวก (1)


พ่อมดระดับ 7 ดาว

ความหมายของคำๆนั้นมันไม่ง่ายอย่างที่คิด

ในความเป็นจริงมันคือก้าวแรกในอาณาจักรของการเป็นอาร์ชเมจและพวกเขาจะได้รับการรับรองอย่างน้อยในตำแหน่งเอิร์ลในประเทศใดๆก็ตามในทวีป

จักรวรรดิคัสต์เคาซึ่งเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าจักรวรรดิเวทมนตร์ได้แสดงรายชื่อของพ่อมดระดับ 7 ดาวทุกคนบนแผ่นหินในพระราชวัง การกระทำดั่งกล่าวถือเกียรติยศสูงสุดของเหล่าพ่อมด

เฟรย์เดินเข้าไปในห้องของเขา

จากนั้นเขาก็กระจัดกระจายผลึกเยือกแข็งที่เขาสร้างขึ้นในเวลาว่างรอบๆห้อง

สิ่งเหล่านี้สร้างขึ้นโดยคำแนะนำของอเดเลียและความสามารถของมันก็ยอดเยี่ยม

อากาศเย็นกระจายไปทั่วห้องทันทีราวกับว่าเป็นฤดูหนาว

เฟรย์รอสักพักแล้วก็นั่งลงจนเย็นพอที่จะมองเห็นลมหายใจของตัวเองได้

จากนั้นเขาก็หยิบยาอายุวัฒนะที่ทำจากหัวใจของทอร์กุนทาและดื่มมันในอึกเดียว

ใบหน้าของเฟรย์เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

“…”

เขารู้สึกราวกับว่าเขากลืนลูกบอลเพลิงเข้าไป

ความรู้สึกของมันที่ลงไปในลำคอของเขานั้นราวกับว่าเขาถือมันไว้ในมือ

สิ่งแรกที่มีปฏิกิริยาคือโฟรเซินริฟเวอะที่ถูกเก็บไว้ในห้องมานาของเขา

ซ่า...อาห์

ไฟและน้ำแข็ง

เช่นเดียวกับตอนที่เขาอยู่บนภูเขาเดรก พลังทั้งสองเริ่มปะทะกันครั้งแล้วครั้งเล่า

อย่างไรก็ตามครั้งนี้โฟรเซินริฟเวอะได้โอบล้อมพลังของทอร์กุนทาไว้อย่างอ่อนโยน

“…”

เฟรย์อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กๆ มันแตกต่างจากครั้งที่แล้ว

ในเวลานั้นเขาไม่สามารถควบคุมพลังของโฟรเซินริฟเวอะได้และเขาต้องใช้พลังโดยตรงจากหัวใจของทอร์กุนทาเท่านั้น

อย่างไรก็ตามตอนนี้พลังงานเย็นคงที่และหัวใจของทอร์กุนทาก็ได้รับการปรับเปลียนเพื่อให้ย่อยง่ายขึ้น

ดังที่อเดเลียเคยเตือนเขาการปรับแต่งนี้จะช่วยกระตุ้นและเพิ่มพลังงานมานาอย่างมาก แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหามากนัก

เขาค่อนข้างพอใจ

ครู่...

เฟรย์จมลงในสมาธิและเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

และเมื่อถึงเวลาที่มิเคลมาเยี่ยมเขา เขาก็ได้ทำให้พลังงานของหัวใจของทอร์กุนทามาเป็นของเขาแล้ว

กล่าวอีกนัยหนึ่งตอนนี้เฟรย์เป็นพ่อมดระดับ 7 ดาวอย่างสมบูรณ์แบบ

* * *

โฮลบริดจ์

นี่คือชื่อของหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากอูเทียโน่

มิเคลดูเหมือนจะคิดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่อัครสาวกจะอยู่ที่นั่น และในขณะที่เฟรย์เข้ามาในหมู่บ้านเขาก็มั่นใจว่าข้อสันนิษฐานของมิเคลนั้นถูกต้อง

‘พลังศักดิ์สิทธิ์ แค่รู้สึกถึงมันก็ทำให้ฉันคลื่นไส้ '

เขารู้สึกสะอิดสะเอียนจนขนลุก

ที่สำคัญหมู่บ้านเงียบเกินไป แม้ว่าจะยังเป็นเวลากลางวันแต่หมู่บ้านก็ให้ความรู้สึกที่มืดมน

“มันเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่นี่มีผู้อยู่อาศัยน้อยกว่า 500 คนและเนื่องจากโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาอยู่แบบพอเพียงจึงไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับหมู่บ้านอื่นๆ”

“เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบมากที่มีไว้สำหรับอัครสาวกให้ใช้งาน”

“ถูกต้อง”

ตามคำพูดของเลียมสันมิเคลพยักหน้า

จากนั้นหูของคามิลล์ก็เสียดกัน

ชายหนุ่มและวัยกลางคนหลายคนกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา

ชายวัยกลางคนที่ด้านหน้ามองไปที่เสื้อคลุมของมิเคลก่อนจะก้มหน้า

“พวกคุณเป็นพ่อมดจากหอคอยเวทมนตร์หรือเปล่า?”

"ถูกตัอง แล้วคุณล่ะ?”

“ผมเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองโฮลบริดจ์ อัลลาร์ด”

อัลลาร์ดตอบเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัว

“…ผมขอถามได้ไหมว่าทำไมท่านพ่อมดถึงมาที่หมู่บ้านของเรา?”

“เมื่อเร็วๆ นี้มีคนแปลกหน้ามาที่หมู่บ้านนี้หรือเปล่า?”

“คนแปลกหน้าที่คุณพูด…อืม...?”

อัลลาร์ดเอียงศีรษะไปข้างหนึ่งและดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามระลึกถึงอย่างสุดความสามารถ

ไม่นานเขาก็ส่ายหัว

“อย่างน้อยเท่าที่รู้ก็ไม่มี”

“…”

“มีอาชญากรหรือคนที่ดูอันตรายซ่อนตัวอยู่ที่นี่มั้ย?”

"อืม...มันก็มีความเป็นไปได้”

อัลลาร์ดดูเหมือนว่าเขาต้องการทำให้ดูมั่นใจ แต่มันก็ยังไม่ปลอดภัยที่จะสรุปว่ามันจะไม่เกิดขึ้น

อัลลาร์ดเริ่มดูหวาดกลัวมากขึ้น

จากนั้นเฟรย์ก็ก้าวไปข้างหน้า

“ฉันอยากจะถามคุณแค่เรื่องเดียว”

“ดะ..ได้โปรดถาม”

“ชาวบ้านทั้งหมดอยู่ที่ไหน?”

"อะไรนะ?"

อัลลาร์ดมีสีหน้างงงวย

เฟรย์เพียงแค่หันไปมองหมู่บ้านอย่างไม่แยแส

“ฉันไม่รู้สึกว่าจะมีชาวบ้านอยู่เลยราวกับว่ามันเป็นหมู่บ้านร้างที่ไม่มีคนอยู่และดูเหมือนว่าจะไม่มีคนอื่นๆนอกจากพวกคุณห้าคน”

“อา…วันนี้…พวกเขามีงานต้องทำ อยู่ในป่าใกล้ๆ …”

“ชาวบ้านทุกคนเลยเหรอ?”

อัลลาร์ดเหงื่อแตก

"ไม่ใช่ทั้งหมด บางคน…"

“เลียมสันช่วยตรวจลองดูหน่อย”

“เข้าใจแล้ว”

ร่างของเลียมสันหายไป

มิเคลดูฉากนี้ด้วยความประหลาดใจ

นี่เป็นเพราะดาร์กเอลฟ์ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นเผ่าพันธุ์ที่ชอบทำสงครามและมีความภาคภูมิใจแต่เขากลับรีบปฏิบัติตามคำสั่งของเฟรย์ราวกับว่าเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์

หลังจากนั้นไม่นานเลียมสันก็กลับมา

“ในหมู่บ้านไม่มีใคร แล้วก็…”

เขามองไปที่อัลลาร์ดโดยไม่มีการแสดงออกใดๆบนใบหน้าของเขา

“มีแอ่งเลือดขนาดใหญ่”

“… อ๊าก!”

การแสดงออกของอัลลาร์ดเปลี่ยนไปทันที

จากนั้นการเค้าเริ่มแปลงร่าง

หลังของเขาเริ่มค่อม เล็บบนนิ้วที่โค้งงอของเขาเริ่มยาวและปากของเขาก็ฉีกไปจนถึงหูของเขา

เขากลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ดูเหมือนหมาป่า

ไม่ใช่แค่อัลลาร์ดแต่ยังรวมถึงผู้ชายที่อยู่ข้างๆเขาด้วยที่เริ่มแปลงร่าง

“สัตว์ประหลาดของเดมิก็อด!”

มิเคลตะโกนและใช้คาถา

“กำแพงเปลวไฟ!”

กำแพงไฟลุกขึ้นต่อหน้าเขา

“ฟู่ๆ!”

แต่มอนสเตอร์ก็ทะลุกำแพงออกไปอย่างง่ายดายและพุ่งเข้าใส่มิเคล

"โอ้พระเจ้า!"

เขาไม่ได้คาดคิดว่าพวกมันจะผ่านทะลวงคาถาระดับ 4 ดาวได้อย่างง่ายดาย

ร่างกายของมิเคลแข็งทื่อ

เฟรย์ดูออกว่าเขาเป็นพ่อมดที่ไม่มีประสบการณ์ในสถานการณ์จริงมากนัก

แต่เฟรย์ได้ร่ายเวทเสร็จแล้ว

“วินคัดเตอร์”

ควิ้ง

ใบมีดที่ทำจากลมที่มองไม่เห็นได้ฉีกร่างของสัตว์ประหลาดออกเป็นชิ้นๆในพริบตา

กำแพงเปลวไฟที่ทะลวงได้อย่างง่ายดายดูเป็นเวทย์ที่ด่อยกว่าไปทันที

เลือดและส่วนต่างๆของร่างกายของสัตว์ประหลาดส่วนใหญ่กลายเป็นแอ่งทันที เหลือเพียงแต่อัลลาร์ด

เขาจ้องมองเฟรย์ด้วยสีหน้าไม่เชื่อ

“ฉัน - เป็นไปไม่ได้ สิ่งมีชีวิตที่ได้รับพลังของนายท่านโดยตรง… ตะ- ตายจากวินคัดเตอร์ธรรมดา ๆ …”

แบม

ตุบ!

"อ๊าก…"

เลียมสันกดตัวอัลลาร์ดและเฟรย์เดินมาหาเขาก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“บอกทุกอย่างที่แกรู้”

“ฉันฉันไม่รู้อะไรเลย”

“…”

แน่นอนว่าเฟรย์ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเปิดปากได้ง่ายขนาดนี้เพราะเขาเป็นพวกคลั่งเดมิก็อด

ดังนั้นเฟรย์จึงตัดสินใจใช้วิธีทรมานแทนเพราะมันเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

ไฟ

“เอ่อเอ่อ…นายกำลังทำอะไร?”

เสียงแตก

เมื่อเปลวไฟขนาดเล็กปรากฏขึ้นในมือของเฟรย์อัลลาร์ดก็เริ่มส่ายหัวพร้อมกับการแสดงออกว่ากำลังกลัวบนใบหน้าของเขา

“หยุด - หยุดนะ!”

“เลียมสันเปิดตาข้างซ้ายของเขาเอาไว้”

เลียมสันทำตามที่เฟรย์พูดและบังคับให้ตาซ้ายของอัลลาร์ดเปิดขึ้นและในขณะที่เขาทำเช่นนั้นเปลวไฟของเฟรย์ก็เริ่มหดตัวลงจนมีขนาดที่สามารถเข้าไปในตาได้

ใบหน้าซีดเซียวของอัลลาร์ดซีดยิ่งขึ้นไปอีก

“พ่อมดจากจักรวรรดิทำอะไรแบบนี้ได้หรือ?!”

“ไม่มีกฎหมายใดที่บอกว่าฉันทำไม่ได้ ในสายตาของฉัแกกลายเป็นปศุสัตว์ไปแล้ว อย่าคาดหวังว่าจะได้รับการปฏิบัติเหมือนมนุษย์”

เช่นเดียวกับที่เปลวไฟของเฟรย์กำลังโดนตาของอัลลาร์ด

"หยุดก่อน!"

นั้นคือเสียงของคามิลล์

เฟรย์เพียงแค่เหลือบมองเธอ

แต่เลียมสันกลับโกรธ

“อาจารย์คงจะไม่พล่ามถึงคุณธรรมและจริยธรรมตอนนี่ใช่ไหม?”

“ไม่แน่นอน แต่มันมีวิธีที่ง่ายและสะดวกกว่านี้”

หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็เริ่มพึมพำด้วยเสียงต่ำ

เฟรย์จำภาษาได้แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจคำพูดของเธอ

‘มันคือภาษาเอลฟ์โบราณหรือ?’

ชิอิค -

จากนั้นมีบางสิ่งที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้นจากเงาของคามิลล์

มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลำตัวกลมและมีตาดวงเดียว

หลังจากนั้นเลียมสันก็รู้ว่าเธอกำลังหมายถึงอะไร

"อา…! เข้าใจแล้ว อาจารย์กำลังคิดที่จะขโมยข้อมูลโดยใช้วิญญาณแห่งความมืด”

“นั่นคือวิญญาณแห่งความมืดหรือ?”

"ถูกตัองมันคือดาร์กโกรันวิญญาณชั้นสูง”

ดาร์กโกรันกลอกตาไปรอบ ๆ

จากนั้นคามิลล์ก็พูดด้วยน้ำเสียงสงบ

“ควบคุมจิตใจของผู้ชายคนนั้น”

“…”

ดาร์กโกรันพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆก่อนที่จะกลายร่างเป็นไอน้ำและดูดเข้าไปในหัวของอัลลาร์ด

“ห๊ะ - อ๊าก!”

อัลลาร์ดตัวสั่น ตาของเขาปิดลงและน้ำลายเริ่มไหลออกมาจากปากของเขา

เขาเหมือนคนที่สมองถูกทำลาย

มิเคลอดไม่ได้ที่จะถามอย่างกังวล

“ถ้าเขาตายล่ะ?”

“ฉันควบคุมเขาได้หมดหากทำครบเงือกไข มันอาจดูเหมือนว่าฉันทำพลาดแต่มันจะไม่เป็นไร”

“…”

เมื่อเขาเห็นสิ่งนี้มิเคลก็รู้สึกได้ว่าแม้ว่าเขาจะต้องตายเขาก็ไม่ควรถูกดาร์กเอลฟ์จับตัวไป

หลังจากนั้นไม่นานอัลลาร์ดซึ่งดูยุ่งเหยิงอย่างสมบูรณ์ก็พูดอย่างเงียบๆ

“ถาม…เขาได้.....”

คามิลล์เหลือบมองและเฟรย์บอกใบ้ให้เขาถามคำถาม

“ชาวบ้านทั้งหมดอยู่ที่ไหน?”

“ทั้งหมดตะะ...ตายแล้ว”

มิเคลตัวสั่น

ในทางกลับกันคามิลล์กับเลียมสันไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมา

“ทำไมแกถึงฆ่าพวกเขา?”

“เครืองสังเวย…ที่เราต้องการ”

“สังเวยไปเพื่ออะไร?”

“…สร้างสิ่งมีชีวิต…เพื่อปลดปล่อยพลังของอัครสาวก…”

"ปลดปล่อย? แกกำลังปลดปล่อยอะไร?”

“เอ่อเอ่อ…”

อัลลาร์ดเริ่มสั่นและคามิลล์ร้องอย่างเร่งรีบ

"ถอยออกมา!"

ในขณะนั้นร่างกายของอัลลาร์ดพองตัว

ลูกตาของเขาโผล่ออกมาเหมือนกำลังจะหลุดออกจากหัวและได้ยินเสียงแปลกๆจากข้างในร่างกายของเขา

ตูม!

ร่างกายของอัลลาร์ดระเบิด เนื้อกระดูกและเลือดกระจายไปทุกหนทุกแห่ง

เฟรย์ไม่ได้รับความเสียหายใดๆนั่นก็เพราะเขาเปิดใช้งานคาถาป้องกันด้วยต่างหูไต้ฝุ่นของเขา

คามิลล์เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้านิ่ง

“จิตใจของเขาถูกควบคุมไปแล้ว เขาน่าจะระเบิดก่อนที่จะเปิดเผยข้อมูลสำคัญๆ”

“นั่นมันโหดร้าย เขาปฏิบัติต่อสาวกของตัวเองเป็นผักปลา”

“สถานการณ์ไม่ค่อยจะดีนัก”

มิเคลเดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าแข็งทือ

เขาชี้ไปที่สัตว์ประหลาดบนพื้นและพูดต่อ

“อัครสาวกเองก็มีการแบ่งชั้นระดับของพลัง คนที่อ่อนแอจะไม่สามารถสร้างสิ่งมีชีวิตได้และพวกเขาก็ไม่ยากเกินไปที่จะรับมือ หากเขาสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตในระดับนี้พลังของอัครสาวกคนนี้ก็ไม่น่าจะอยู่ในระดับธรรมดาๆ นี่…ปัญหานี้เกินกำลังของเรา”

"ดังนั้น? คุณตั้งใจที่จะถอนภารกิจหรือ?”

“ในตอนแรกนี่เป็นเพียงการลาดตระเวนเท่านั้น ก่อนอื่นพวกเราต้องกลับไปที่หอคอยและรอให้ออเนอลุคส์กลับมา”

“เราต้องดำเนินต่อไป”

ครู่หนึ่งการจ้องมองของมิเคลและเฟรย์ก็ปะทะกันกลางอากาศ ทั้งคู่ดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร

ในที่สุดมิเคลก็เปิดปากของเขา

"ทำไม?"

“ตอนนี้อัครสาวกก็คงตระหนักได้ว่าพวกเรามาถึงแล้ว เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ออเนอลุคส์จะกลับมาและไม่มีการรับประกันว่าอัครสาวกจะยังอยู่ที่นี่เมื่อเขากลับมา ซึ่งหมายความว่าคุณอาจไม่มีวันตามตัวอัครสาวกได้อีกแล้ว”

“มีเหตุผลอื่นอีกไหม?”

“เขาคงไม่มีเวลาคิดแผนฉุกเฉินเพื่อจัดการกับเราในตอนนี้ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอและหมู่บ้านว่างเปล่าเหล่านี้เป็นข้อพิสูจน์ เมื่อเรากลับอีกครั้งก็มั่นใจได้เลยว่าเขาจะเตรียมมาตรการรับมือที่มีประสิทธิภาพต้อนรับพวกเราอย่างแน่นอน”

“…คุณไม่รู้อะไรเลย?”

มิเคลส่ายหัว

“ฉันเข้าใจเหตุผลของนายแล้ว พูดได้ว่านายไม่ได้คิดผิดและมันมีประโยชน์มากที่จะดำเนินการต่อในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามข้อเสียของการไม่มีออเนอลุคส์ยังคงสำคัญกว่า”

“คุณหมายถึงอะไร?”

“เขาเป็นพ่อมดระดับ 7 ดาว เราต้องมีอย่างน้อยอาร์ชเมจหนึ่งคนเพื่อต่อกรกับอัครสาวก มันไม่ใช่คำแนะนำแต่เป็นข้อกำหนดเช่นเดียวกับที่อัศวินใช้ดาบและพ่อมดใช้ไม้เท้า”

“ผมขอทำหน้าที่นั่นแทนออเนอลุคส์เอง”

“ฮ่า!”

สีหน้าของมิเคลฉายแววเย็นชา

“ฉันยอมรับว่านายมีพรสวรรค์ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ความหยิ่งยโสจะนำพานายไปสู่หลุมฝังศพให้เร็วขึ้นเท่านั้น”

“ผมไม่ได้หยิ่ง”

“นายอยากจะทำให้ฉันโกรธจริงๆเหรอ?”

“…”

เฟรย์เพียงจ้องไปที่มิเคลและในขณะนั้นมิเคลก็รู้สึกตัวสั่นด้วยเหตุผลบางอย่าง

‘อะไร - นั่นคืออะไร?’

เขามีความรู้สึกที่ไม่อาจพรรณนาได้

จากนั้นเฟรย์ก็ยื่นฝ่ามือหนึ่งออก

ขณะที่มิเคลมองดูด้วยความสับสนเปลวไฟก็ปรากฏขึ้นที่มือของเขา

เสียงแตก

"นายกำลังทำอะไร?"

เฟรย์ไม่ตอบ

แต่เขากลับยื่นฝ่ามืออีกข้างออกและอากาศเย็นๆเริ่มก่อตัวขึ้น

แตก

เมื่อการสีหน้าของมิเคลเริ่มสับสน เฟรย์ก็ค่อยๆรวมเปลวไฟและอากาศเย็นเข้าด้วยกัน

"อะไร!?"

มิเคลสะดุ้ง

การหลอมรวมของสององค์ประกอบที่เป็นปฏิปักษ์กัน!

นั่นมันบ้ามาก

มันเป็นการฆ่าตัวตายและคงไม่แปลกหากจะทำให้เกิดการระเบิด

ตอนนั้นมิเคลพยายามหยุดเขา

“นายกำลังทำอะไรอยู่!? …หือ?”

ทั้งสององค์ประกอบผสานเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น

พายุเพลิงและน้ำแข็งขนาดเล็กได้ถูกสร้างขึ้นเหนือฝ่ามือของเฟรย์

มิเคลตัวแข็งกระด้างเหมือนหิน

“การผสมผสานองค์ประกอบของฝ่ายตรงข้ามที่สมบูรณ์แบบ…ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อได้ต่อเมือพ่อมดคนนั่นอยู่ในระดับ 7 ดาว…”

จุ๊ก

"…ผม"

พายุหายไปจากมือของเฟรย์และเขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยตามปกติ

“ผมจะขอทำหน้าที่แทนออเนอลุคส์เอง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด