ตอนที่แล้วตอนที่ 139 หลอกเด็ก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 141 ถ้อยคำแถลง

ตอนที่ 140 ซ้อมจนกว่าจะยอมจำนน


ตอนที่ 140 ซ้อมจนกว่าจะยอมจำนน

ม้ายักษ์ร่างสูงใหญ่ทั้งตัวเป็นสีดำเหมือนท้องฟ้ายามราตรี กล้ามเนื้อของมันแข็งแกร่งเหมือนโลหะ ผิวหนังมันวาวดุดัน ลมหายใจส่งเสียงราวกับลมผ่านช่องเขา แววตาเต็มไปด้วยหยิ่งทะนง แต่ก็ให้ความรู้สึกอิสระ สง่างามด้วยเช่นกัน

มันยืนอยู่หลังลูกม้ามองไปที่เวสลี่ด้วยสายตาดุดัน เวสลี่รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวของมัน เพราะมันคือม้ายักษ์ระดับ 4 จ่าฝูงของฝูงม้านับพันนี้

ทุกคนระวังตัวกันอย่างเต็มที่ แต่ไนเรลกลับต่างออกไป จ่าฝูงม้ายักษ์ตัวนี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของไนเรลเลยแม้แต่น้อย ถ้ามันเป็นระดับ 5 ไนเรลคงจะกังวลขึ้นมาบ้างว่ามันอาจจะฆ่าเวสลี่ได้

แต่ด้วยระยะแค่นี้ไนเรลสามารถฆ่ามันโดยไม่ต้องขยับแม้แต่ก้าวเดียวยังได้เลย

ขณะที่เวสลี่กำลังยืนนิ่งด้วยความกดดันจ่าฝูงตัวนี้ก็ทำสิ่งที่ไม่น่าเชื่อมันก้มหน้ากินใบไม้คริสตัลอย่างรวดเร็วเหมือนกับว่ามันกลัวจะโดนเจ้าลูกม้าตัวเล็กแย่งกิน

แต่ไม่เพียงแค่หลังจากแย่งของได้แล้วมันกลับทำนิสัยเกเรหันไปข่มขู่ลูกม้าเหมือนจะพูดว่า ข้าแข่งกินแล้วจะทำไม หรือเจ้ากล้าไม่ให้ข้ากิน ม้าตัวเล็กมองมันด้วยความกลัว แต่เมื่อสังเกตดี ๆ จะเห็นความไม่ยินยอมอยู่ภายใน

หลังจากข่มขู่ม้าเด็กเสร็จมันก็รู้สึกว่าอยากกินใบไม้คริสตัลอีก เพราะเมื่อคู่ใบไม้คริสตัลมันน้อยเกินไปจนรสชาติที่มันสำผัสได้ถูกกลืนลงไปอย่างรวดเร็ว

ม้ายักษเข้ามาดมรอบ ๆ ตัวของเวสลี่และมองเธอด้วยสายตาดุดัน ด้วยความกลัวเวสลี่จึงหยบใบไม้คริสตัลที่มีอยู่ด้วยจำนวนน้อยนิดส่งให้กับมัน

ไนเรลมองดูม้ายักษ์จ่าฝูงและเขาก็คิดว่าคงต้องเปลี่ยนแผนซะแล้วจากตอนแรกที่ค่อย ๆ ดึงม้าออกมา ตอนนี้จับตัวจ่าฝูงเลยดีกว่า ขอแค่จ่าฝูงยอมจำนน ตัวอื่น ๆ ก็ล่ายแล้ว

ไนเรลก้าวออกมาจากที่ซ่อนอย่างเปิดเผย ม้ายักษ์จ่าฝูงเห็นดังนั้นก็แสดงท่าทีระวัง ส่วนตัวอื่น ๆ พากันถอยหลังด้วย

จ่าฝูงมองไปที่ไนเรลมันรู้สึกว่าไนเรลอันตราย แต่ก็ไม่ชัดเจนมากนัก นั้นทำให้มันสับสนและจากสับสนก็เปลี่ยนเป็นฮึดสู้ มันเป็นจ่าฝูงของม้านับพันจะปล่อยให้มีสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกับมันมาข่มขวัญมันได้อย่างไร

ม้ายักษ์จ่าฝูงแสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจไนเรล

“ถามมัน ถ้ายอมกลับไปกับพวกเราจะมีของใบไม้คริสตัลอร่อย ๆ แบบนั้นให้กินอีกมาก และยังมีอาหารอย่างอื่นอีกมากมันยอมกลับไปกับพวกเราไหม”

เวสลี่หันไปถามม้ายักษ์จ่าฝูงด้วยคำพูดของไนเรล แต่ทันทีที่ม้ายักษ์ได้ยินมันก็ตอบกลับมาทำเอาเวสลี่สีหน้าอึ้งไปในทันที

“มันพูดว่าอะไร” ไนเรลสังเกตุสีหน้าของเวสลี่ก็ถามออกไป

“เออ...คือมันเป็นสัตว์ระดับ 4 ไม่รู้ว่าความสามารถของฉันสามารถสื่อสารกับมันรู้เรื่องหรือเปล่า...มัน...”

“ไม่เป็นไรพูดมาเลย”

“มันบอก ไอ้งั่งนี่เป็นใครกัน แค่เอาของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ มาหลอกล่อมัน คิดว่ามันเป็นเด็กน้อยหรือไง แล้วก็มันบอกว่าให้กลับไปกินนมม้าตัวเมียซะ”

เวสลี่พูดออกมารวดเดียวทั้งยังใส่น้ำเสียงให้ข้อความดูมีอารมณ์มากขึ้น ม้าจ่าฝูงก็แสดงท่าทีตามคำพูดของเธอไปด้วยราวกับว่าเธอคอยพากเสียงให้มัน จากนั้นม้าจ่าฝูงมันก็สะบัดก้นหันหลังเดินกลับไปในฝูง

ว่ากันว่าสัตว์นั้นฉลาดโดยเฉพาะสัตว์ที่ฝึกได้ และแน่นอนว่าม้าก็ฉลาดมากเช่นกัน แต่ใครจะไปคิดว่ามันจะพูดแบบนี้กับไนเรล

ไนเรลได้ฟังดังนั้นก็อึ้งไปสักพัก แต่ก็รู้สึกเดือดและหมั่นไส้กับท่าทีเดินกลับไปในฝูงอย่างผู้ชนะของม้าจ่าฝูงที่ด่าเสร็จก็เดินหนีของมัน

“บอกมัน ให้โอกาสอีกครั้งถ้ามันไม่ยอมจะต้องเสียใจ” ไนเรลจ้องไปที่ม้ายักษ์ด้วยท่าทีดุดัน

จนม้าจ่าฝูงก็รู้สึกได้ถึงความหน้ากลัวของไนเรล แต่มันเป็นจ่าฝูงต้องรักษาหน้าตาเพราะตอนนี้มีม้านับพันมองท่าทีของมันอยู่

ม้าจ่าฝูงได้ฝังคำพูดจากเวสลี่ก็เชิดหน้ามองไนเรลด้วยสายตาที่อยู่เหนือกว่า แต่มันก็อยู่สูงกว่าไนเรลจริง ๆ เพราะมันสูงตั้ง 4 เมตร จากนั้นมันก็พูดออกมาในภาษาม้า

เวสลี่รีบแปลข้อความไปให้ไนเรลทันที “มันบอกว่า ทำไมมันต้องไปด้วย หรือเจ้าคือม้าตัวเมีย แต่ไม่น่าใช่ ข้าไม่นิยมขี่เพศเดียวกัน”

สิ้นเสียงของเวสลี่ทุกคนก็เงียบกันหมด ทุกคนได้ยินกันหมด เพราะเครื่องมือสื่อสารที่เธอเปิดอยู่

พวกเขาไม่คิดว่าม้ายักษ์จ่าฝูงจะปอกจัดเข้าใจเปรียบเทียบแบบนี้

แต่ก่อนที่ม้าจ่าฝูงจะได้ลอยหน้าลอยตาด้วยความหญิ่งทะนงอยู่นั้นอยู่ ๆ ร่างสูงใหญ่ของมันก็ล้มลง หัวของมันโดนเหยีบด้วยเท้าอยู่มันคือเท้าของไนเรล

“หึ ไอ้ม้าปากหมา กวนประสาทนักจะยอมไม่ยอม” ไนเรลรัวหมัดเข้าไปที่ตัวของมันไม่ยั้งเสียงดังปัก ๆ ด้วยเพราะเนื้อที่แน่นของมัน

ม้ายักษ์จ่าฝูงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แต่ปากของมันก็ยังด่าไนเรลไม่หยุด ส่วนม้าที่รวมฝูงกันอยู่เมื่อเห็นว่าจ่าฝูงของมันโดนซ้อมปางตายก็พากันตกใจวิ่งหนีไปหาที่ซ่อน แต่ถึงจะกลัวพวกมันก็ไม่ได้วิ่งไปไกล เพยีงแค่มองอยู่ห่าง ๆ อย่างกลัว ๆ

แต่มีม้าตัวหนึ่งที่รู่สึกสะใจมันคือม้าเด็กตัวนั้นที่โดนม้าจ่าฝูงแกล้งในตอนแรก

เหล่าผู้พิทักษ์สมาพันธ์นักล่าก็กระจายตัวกันออกเพื่อคุมฝูงม้า

“ถามมัน...มันยอมจำนนหรือยัง”

“มันบอก ไปตายซะไอ้ตัวผู้”

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็อัดมันอีกรอบ ปต่เพราะกลัวมันตายเขาจึงจับปากที่ใหญ่ของมันอ้าออกหยอดโลหิตแห่งชีวิตเข้าไปเล็กน้อย ม้าจ่าฝูงดูจะตกใจมากที่อยู่ ๆ ร่างกายของมันที่สะบักสะบอมก็ฟืนกลับมาแข็งแรง

มันไม่ได้โง่ ต้องเกี่ยวข้องกับของเหลวที่มันโดนจับกรอกเมื้อกี้อย่างแน่นอน แต่แล้วความรู้สึกที่โดนซ้อมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

ไนเรลเลือกจะต่อยไปตามข้อต่อเพื่อให้มันเจ็บปวดที่สุด เลือดซึมออกมาจากตัวของม้ายักษ์จ่าฝูงเล็กน้อยตามหมัดที่ไนเรลต่อยไป เขาแค่จะซ้อมให้มันยอมจำนนไม่ได้ฆ่ามัน ดังนั้นชายหนุ่มจึงออมแรงไว้เล็กน้อย

หลังจากผ่านไปสักพักม้ายักษ์ก็เหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง

“มันบอกว่ายอมแล้ว” เวสลี่รีบแปลคำพูดของม้ายักษ์ทันที

ม้ายักษ์มองด้วยสายตาที่หวั่นใจ มันไม่คิดว่ามนุษย์คนนี้จะหน้ากลัวขนาดนี้

ไนเรลหยุดมือลุกขึ้นจากตัวของม้าจ่าฝูง “ต้องให้ใช้กำลัง”

ยังไม่ทันสิ้นเสียงของไนเรลม้ายักษ์จ่าฝูงด้วยความที่มันเจ้าเลห์อยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าไนเรลประมาทหันหลังให้มัน ก็ลุกขึ้นวิ่งหนีด้วยความเร็วราวกับสายลม

พวกมันคือม้า ความเร็วคือพรสวรรค์ของเผ่าพันธุ์พวกมัน วิ่งวิ่งเร็วจนเกิดภาพติดตาเป็นเงาสีดำ

เวนดี้ที่คอยคุมเชิงอยู่ก็ถึงกับตะโกนออกมาว่า “มันหนีไปแล้ว”

ม้ายักษ์จ่าฝูงคิดในใจว่า ถึงมนุษย์คนนี้จะน่ากลัว แต่สมองมันมีปัญหาแน่นอน แค่บอกว่ายอมแพ้ก็ปล่อยมันอย่างง่ายดาย

มันหันกลับไปมองข้างหลัง แต่ก็ต้องตกใจ เพราะกลับเห็นแค่หญิงสาวที่มีใบไม้คริสตัลยืนอยู่คนเดียว แล้วไอ้คนที่ซ้อมมันไปอยู่ไหน

“หาฉันอยู่หรือไง”

ทันทีที่ได้ยินเสียงชายหนุ่มมันก็ตกใจจนแทบจะสะดุดล้ม เพราะเสียงที่ดังมามันมาจากหลังของมัน

ไนเรลรู้อยู่แล้วว่าม้าจ่าฝูงจะหนี ถึงมันจะดูหยิ่งทะนงปากสุนัขสักแค่ไหน แต่ก็ต้องไม่ลืมว่ามันฉลาดมาก ดังนั้นตอนมันหนีเขาจึงใช้ความสามารถ [จิตเคลื่อนย้าย A] มาโผล่อยู่บนหลังของมัน

ยังไม่ทันที่ม้ายักษ์จ่าฝูงจะได้หายตกใจ ไนเรลก็กระทืบไปที่หัวของมันจมดินอีกครั้ง และคนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างชัดเจนก็คือนิเรีย ผู้มีสายตาที่จับการเคลื่อนไหวได้ทั้งหมด

เธอเห็นแม้กระทั้งไนเรลหายตัวไปได้ยังไงด้วยซ้ำ แต่เพราะรู้ว่าพี่ชายของเธอจัดการได้จึงไม่ได้ลงมือยิ่งม้าจ่าฝูง เพราะยังต้องใช้มันอยู่

ทุกคนรีบวิ่งตามไปจุดที่ไนเรลกระทืบม้าจ่าฝูงอีกครั้ง

ในครั้งนี้ไนเรลลงมือแบบไม่ออมแรงเลยแม้ แต่น้อย พร้อมกับถ้อยคำที่ว่า “ถ้าไม่ยอม ก็ขอกินแกไม่ให้เหลือแม้แต่กระดูกเลย”

ไนเรลพูดจบก็อ้าปากจะกินมัน

ม้ายักษ์เห็นดังนั้นก็ถึงกับตาเหลือกลนลาน แม้ฟังภาษาของมนุษย์ไม่รู้เรื่อง แต่มันจะไม่รู้ได้ยังไงว่าตอนนี้มันกำลังจะโดนกินแล้ว ถ้ามันยังไม่ยอมมันรู้ว่ามนุษย์ที่มันเรียกว่าไอ้งั่งจะต้องเชือดกินจริง ๆ แน่ ไม่สิดูจากท่าทีแล้วมันคงโดนกินทั้งเป็นอย่างแน่นอน

ไม่ได้มันพึ่งจะเป็นจ่าฝูงผู้สูงส่งได้ไม่นานไม่ยอมตายอย่างแน่นอน เมื่อคิดได้ดังนั้นมันจึงยอมจำนนในทันที ส่งสายตาเว้าวอนขอร้องไปหาหญิงสาวที่คุยกับมันรู้เรื่องบอกให้ชายคนนี้หยุดกระทืบมันที มันยอมแล้วไม่งั้นมันคงตายแน่นอน

แต่ถึงเวสลี่จะบอกว่ามันยอมจำนนแล้ว แต่ไนเรลไม่ได้หยุดกลับกันเขากัดไปที่หลังของมันไปหนึ่งที แต่ยังไม่ทันที่จะได้ฉีกเนื้อมันออกมา ม้ายักษ์จ่าฝูงก็ถึงกับตกใจกลัวสลบไป

บางที่ก่อนสลบมันคงคิดว่าอย่างน้อยก็ขอตายโดยไม่รู้สึกตัวดีกว่า

ไนเรลคิดไม่ถึงว่าม้าจ่าฝูงจะเป็นลมไปเพราะความกลัวจริง ๆ เขาจึงลุกจากจากตัวมัน หันไปสั่งคนอื่น ๆ ให้ต้อนม้าตัวอื่น ๆ มารวมกันไว้ จากนั้นก็ให้คนกรอกโลหิตแห่งชีวิตรักษาบาดแผลให้ม้าจ่าฝูง เพื่อที่มันจะได้ฟื้นขึ้นมาโดยเร็วจะได้เดินทางกลับ

หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ที่ไนเรลคิดจะกินมัน ก็ได้กลายเป็นแผลฝั่งลึกในใจของม้าจ่าฝูงตัวนี้ เวลาเจอหน้าไนเรลทีไรมันจะต้องสั่นกลัวจนถึงนอนฝันร้ายไปหลายวัน แม้แต่ภายหลังมันจะได้เจ้านายที่ชอบใส่ผ้าปิดตามันก็ยังไม่กลัวเท่ากับไนเรล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด