ตอนที่แล้วEp.817 - สำรวจมิติต้องห้าม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.819 - ผลลัพธ์อันน่าทึ่ง

Ep.818 - ปลุกพลัง


2/4

Ep.818 - ปลุกพลัง

ฉินเฟิงเคยเห็นฉากประมาณนี้มาก่อนจากในหนังสือประวัติศาสตร์ มันคือภาพในยุคสมัยที่มนุษย์ยังไม่เป็นใหญ่

--นี่คือทุ่งล่าอันแสนโหดร้ายเหมือนในยุคดึกดำบรรพ์ มีห่วงโซ่อาหารเป็นของตัวเอง

ไร้ซึ่งอบิลิตี้ , ไร้ซึ่งวรยุทธโบราณ จำต้องครอบครองพละกำลังเท่านั้นจึงจะอยู่รอด!

“โลกใบนี้ อันที่จริงน่าจะเปี่ยมไปด้วยพลังงาน แต่ไม่รู้ทำไมพวกมันถึงถูกสะกดเอาไว้ แต่ที่แน่ๆในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ โลกนี้ไม่เป็นสองรองใคร!”

สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ ทั้งหมดสามารถระเบิดพลังงานอันน่าหวาดกลัวออกมาได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ เจ้าสิ่งมีชีวิตพวกนี้ หากมนุษย์กินเข้าไป จะได้รับการปลุกพลัง

แค่คิดก็น่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว!

วูซซ!

ฉินเฟิงกางปีกเครื่องร่อนบนหลังเขา กระโดดลงไป

ฉินเฟิงราวกับนกตัวใหญ่ โบยบินไปในอากาศ ด้วยวิธีนี้ทำให้สามารถมองเห็นตำแหน่งการไหลของน้ำตกได้อย่างชัดเจน

กระโจนลงมาตามน้ำตก ไม่นานก็ลงมาถึงในระยะ 400 เมตร ถึงจุดนี้บางส่วนน้ำเริ่มลงมาไม่ถึงแล้ว และไม่ไกลออกไป ปรากฏให้เห็นโพรงถ้ำแห่งหนึ่ง ผนังเป็นชั้นหินในแนวตั้ง สูงราวๆ 3 เมตร และมีเส้นผ่านศูนย์กลางนับ 10 เมตร แต่ลึกเข้าไปเป็นสีดำสนิท ยากนักที่จะมองเห็นข้างใน

กระนั้น ไม่รอให้ฉินเฟิงได้มีเวลาตรวจสอบ ยูนิคอร์นข้างล่างก็ตระหนักถึงการมาเยือนของเขา หัวของพวกมันแหงนมอง ล็อคสายตาลงบนร่างเขา

สัตว์ร้ายฝูงนี้ มีขนขาวราวหิมะ ทั้งยังเป็นสัตว์ประเภทกินพืช แม้ดูอ่อนโยน แต่ไม่ได้หมายความว่าการปรากฏตัวของฉินเฟิง จะไม่กระตุ้นความหวาดระแวงของพวกมัน

สิ่งแรกที่สัตว์ร้ายฝูงนี้คิด คือการขับไล่ฉินเฟิง ปฏิเสธไม่ให้เขาเข้าใกล้แหล่งน้ำ

ยูนิคอร์นหลายตัวเริ่มกระทืบเท้า ส่งเสียงร้องยาวๆ เป็นการเตือนและขู่ฉินเฟิง

เพียงแต่ว่า ภายใต้การข่มขู่นี้ ฉินเฟิงราวกับคนหูหนวกตาบอด ยังคงร่อนลงมาอีกฝั่งหนึ่งของบ่อน้ำเล็กๆ กระทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการยั่วยุกันชัดๆ

“ฮู่ว ฮู่ว …” ยูนิคอร์นหลายตัวส่งเสียงไม่พอใจ บางตัวเริ่มเคลื่อนไหว กระโดดไต่ก้อนหินอย่างรวดเร็ว มาหยุดยังเบื้องหน้าของฉินเฟิง

หัวของมันก้มต่ำลง เล็งเขาแหลม ดีดตัวไปข้างหน้า หากเขาแหลมนี้ทิ่มลงบนกายมนุษย์ มันจะต้องแทงทะลุอย่างแน่นอน

ฉินเฟิงหดเก็บปีกเครื่องร่อน โยกลำตัวช่วงเหนือเอวไปข้างหลัง หลบเลี่ยงการโจมตีของยูนิคอร์น ระหว่างนั้นกระชับมีดกษัตริย์ครามในมือ ตัดกวาดออกไป

ฟัฟฟฟ

คมมีดเฉือนลงบนต้นคอขาวๆของยูนิคอร์น ร่องรอยเลือดเป็นเส้นยาวปรากฏขึ้นทันที เลือดก็ค่อยๆผุดซึม จากนั้นหัวยูนิคอร์นตกลงกับพื้นเสียงดังตุ๊บ เลือดจำนวนมากทะลักออกมา ย้อมโขดหินเป็นสีแดง

กลิ่นเลือดจากสายพันธุ์เดียวกัน ทำให้ทั้งฝูงคลุ้มคลั่ง ยูนิคอร์นรอบๆ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ตรงเข้าหาฉินเฟิง

พวกมันตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าต้องสังหารศัตรู!

เปรี๊ยะ!

ยูนิคอร์นย่ำก้อนหินแตกเป็นเสี่ยงๆ คุณสามารถจินตนาการได้ว่าพละกำลังขาของมันแข็งแรงแค่ไหน มันยกสองขาหน้าขึ้นสูง เตรียมใช้กีบเท้ากระทืบฉินเฟิง

เพียงแต่ว่ามีดกษัตริย์ครามไวกว่า ตวัดผ่านสองขาศัตรูอย่างรวดเร็ว

ฟุฟฟฟ

สองกีบไม่ทันเข้าถึงตัวก็ร่วงลงกับพื้น ตามมาติดๆด้วยถูกสะบั้นศีรษะอีกครั้ง

ฉินเฟิงเริ่มขยับกายวูบไหว

เวลานี้เขาชินกับการต่อสู้โดยอาศัยเพียงความแข็งแกร่งทางกายภาพแล้ว! ด้วยร่างกายผู้ใช้วรยุทธโบราณในเลเวล B5 ผสานกับการฝึกฝนเทคนิคคู่ขนาน ส่งผลให้พละกำลังของเขาเทียบเคียงได้เลยกับระดับจักรพรรดิสัตว์ร้าย

หรือง่ายๆคือทรงพลังพอที่จะบดขยี้ทั้งฝูงยูนิคอร์น!

ใช้เวลาแค่เพียง 10 นาที ฝูงยูนิคอร์นที่เดิมมีอยู่กว่า 50 ตัว ก็ถูกฉินเฟิงสังหารสิ้น

แม้แต่ตัวที่เป็นระดับราชันย์ก็หนีไม่พ้น ก้อนหินถูกปกคลุมไปด้วยเลือด และสุดท้ายหลั่งรินไปรวมเข้ากับบ่อน้ำ ย้อมมันจนกลายเป็นสีโคลน

เชื่อได้เลยว่าหลังจากนี้ เกรงว่าบ่อน้ำแห่งนี้ จะไม่กลับมาใสสะอาดเหมือนเดิมอีกแล้ว!

ฉินเฟิงหันไปมองรอบๆ เลือกตรงกลับไปยังทิศทางถ้ำที่เขาเจอก่อนหน้านี้

ถ้ำแห่งนี้ไม่ใหญ่มากนัก มันสูงเพียง 3 เมตร สภาพรอบๆก็ดูไม่เป็นระเบียบ เหมือนว่าน่าจะก่อตัวขึ้นเองตามธรรมชาติ หน้ากว้างเพียง 10 เมตร แต่มีเนื้อที่ลึกเข้าไปถึง 50 เมตร และข้างในยังมีรูเล็กๆกว้างไม่ถึงครึ่งเมตร ตรงจุดนี้คาดว่าน่าจะเป็นตาน้ำจากใต้ดิน

ฉินเฟิงใช้มีดกษัตริย์ครามตัดหิน ปิดกั้นทางเข้าถ้ำ ตอนนี้เขาค้นพบสถานที่น่าพอใจในการตั้งฐานแล้ว!

เจ้าตัวเปิดกระเป๋าสะพาย หยิบหินสีเทาเงินออกมาสองสามก้อน

นี่คือศิลารูนมิติ

อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ที่นี่ ศิลารูนมิติไม่ตมีปฏิกิริยาใดๆเลย

ฉินเฟิงเลยต้องออกมาข้างนอกอีกครั้ง ลากศพราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล D แล้วกลับเข้าไปในถ้ำ

หยดเลือดของมันลงบนศิลารูนมิติ

ในโลกใบนี้ จริงๆแล้วยังมีพลังงานอยู่ เพียงแต่มันอยู่ในรูปแบบถูกดูดซับ วนเวียนอยู่ในร่างกายของสัตว์ร้ายก็เท่านั้นเอง หรือง่ายๆก็คือ เลือดและเนื้อของสัตว์ร้าย มันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังงาน!

หากฉากนี้เกิดขึ้นในมิติโลกมนุษย์ แล้วมีใครบางคนเข้ามาเห็น เกรงว่าคนเหล่านั้นคงคิดว่าฉินเฟิงกำลังทำพิธีชั่วร้ายอะไรบางอย่าง ใช้เลือดสังเวยบูชายัญ

ในตอนนั้นเอง ไป๋หลีที่อยู่ฝั่งโลกภายนอก และกำลังพักผ่อน ลืมตาโพลงขึ้นทันที

ทั้งร่างของไป๋หลีสาดประกายไปด้วยรังสีแสงสีเงิน วินาทีต่อมา เธอหายวับไปจากห้อง ปรากฏตัวขึ้นในชั้นใต้ดินของสถานชุมชนเฟิงหวง

ที่นี่มีคนคอยเฝ้ายาม เมื่อเห็นไป๋หลีปรากฏตัว ก็โค้งคำนับด้วยความคำรพทันที

“ท่านผู้ใหญ่ไป๋!”

“อืม ช่วยเรียกคนอื่นๆให้มารวมตัวกันที่ห้องโถงหมายเลข 0 ด้วย!”

“รับทราบ จะปฏิบัติทันที”

ถ่ายทอดคำสั่งเสร็จ ไป๋หลีไม่เสียเวลารอ เดินเข้าไปภายในห้องโถงหมายเลข 0 เป็นคนแรก สถานที่แห่งนี้ถูกปิดกั้นไว้อย่างสิ้นเชิง นับตั้งแต่ไป๋หลีจากไปเมื่อสามวันก่อน มันก็ไม่เคยถูกเปิดอีกเลย

ไป๋หลีเปิดประตู เห็นแค่เพียงภายในห้องโถงหมายเลข 0 ส่วนลึกด้านในสุด ติดตั้งไว้ด้วยก้อนหินที่กำลังส่องแสงระยิบระยับสีเทาเงิน

หินเหล่านี้ ถูกจัดเรียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า สูง 3 เมตร กว้าง 5 เมตร

เฉพาะในตำแหน่งตรงกลางเท่านั้น ที่ยังมีที่ว่างอยู่ ยังไม่มีการฝังศิลารูนมิติลงไป

ไป๋หลีเหยียดมือ ศิลารูนมิติปรากฏขึ้นทันใด จากนั้นก็ถ่ายเทพลังสมาธิ จัดการระบุพิกัดมิติ ก่อนกดศิลาฝังลงใจกลางประตูสี่เหลี่ยมผืนผ้า

วินาทีต่อมา ประตูมิติก็ถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว

บังเกิดแสงสีเงินด้านนอก ส่วนด้านในประตู สีดำสนิทเริ่มก่อตัวขึ้น

ช่องว่างมิติ --เสร็จสมบูรณ์แล้ว!

ขณะเดียวกัน ในเวลานี้ คนที่ไป๋หลีส่งคำสั่งให้มารวมพล บัดนี้ได้มาถึงแล้ว

หัวหน้าทีมของฝูงชน เป็นน้องชายของวังเฉิน ชื่อว่า วังเสี่ยว

“คุณนำพวกเขาเข้าไปในนั้น แล้วคงรู้นะว่าต้องทำอะไรต่อ”

ไป๋หลีวาดมือ ปล่อยเสาหินหลายต้นออกมา และเสาหินนี้ เหมือนกับเสาหินบนประตูมิติเบื้องหน้าทุกประการ แม้แต่ศิลารูนมิติก็ถูกฝังเอาไว้ และใจกลางของเสาหินด้านบน ได้ฝังศิลารูนมิติที่ใช้ระบุพิกัดมิติเอาไว้ หากมีใครใช้พลังสมาธิตรวจสอบดู จะพบว่าพิกัดนั้น คือตำแหน่งของห้องโถงหมายเลข 0

“รับทราบท่านผู้ใหญ่ไป๋”

วังเสี่ยวนำทีมทั้ง 100 คน ช่วยกันพยุงเสาหินเหล่านี้ แล้วเดินทางเข้าสู่ช่องว่างมิติ

ในช่วงสามวันที่ผ่านมา พวกเขาได้รับการฝึกอบรมเป็นอย่างดี เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้ทุกเมื่อ และการเดินทางในครั้งนี้มันก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะมีฉินเฟิงคอยรออยู่ข้างใน ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำ ก็แค่ฟังคำแนะนำของฉินเฟิง

ภายในมิติต้องห้าม ไม่นานฉินเฟิงก็เห็นคนนับร้อยเดินออกมาจากช่องว่างมิติ

“รายงานท่านประธาน ผู้สมัครเข้ารับการปลุกพลังทีมแรกได้มาถึงแล้ว!”

วังเสี่ยวตะโกนเสียงดัง

คนอื่นๆค่อยๆวางของลง จัดแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย

คนเหล่านี้ ทั้งหมดล้วนมีแววตามุ่งมั่น แม้พวกเขาไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นจากนี้ แต่ในสายตาของพวกเขา มันเปี่ยมไปด้วยความหวังอันแรงกล้า!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด