ตอนที่แล้วEp.814 - องค์ชายเซียว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.816 - ร่วมมือกับชูฟ่าน

Ep.815 - พบชูฟ่านอีกครั้ง


4/5

Ep.815 - พบชูฟ่านอีกครั้ง

“รับทราบ จะปฏิบัติทันที” วังเฉินไม่ได้ซักไซ้ ตอบรับคำสั่งของฉินเฟิงโดยตรง

ฉินเฟิงตระหนักดี ว่าวังเฉินได้กลายเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างแท้จริง และมีคุณสมบัติเหมาะสมแล้ว

เพราะอีกฝ่ายไม่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไม ขอเพียงเพื่อผลประโยชน์ของฉินเฟิง หากมีอะไรที่เขาสามารถทำได้ และไม่เกินเลยไปกว่าบรรทัดฐาน จะปฏิบัติตามทันที

บุคคลเช่นนี้ หากฉินเฟิงใช้งานอย่างเหมาะสม อีกฝ่ายจะกลายเป็นอาวุธทรงประสิทธิภาพ แต่หากใช้งานไม่เหมาะสม จะกลายเป็นคนที่ขัดขาเขาซะเอง

กระนั้น ฉินเฟิงก็ยังมั่นใจ ว่าลูกน้องทุกคนที่เลือกติดตาม ไม่มีใครอยู่เหนือการควบคุมของเขาไปได้ จะไม่มีใครกล้าขัดขาเขาอย่างแน่นอน

“อืม เรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองฉงโหลวครั้งนี้ มันประหลาดมาก แม้มิติต้องห้ามจะอันตราย แต่ไม่มีผลอะไรกับคนธรรมดา ตรงกันข้าม มันคือโอกาส!”

ฉินเฟิงอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ในมิติต้องห้าม ที่ทำแบบนี้ ส่วนใหญ่ก็เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานแก่วังเฉิน ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ ฉินเฟิงกำลังยืนยันให้อีกฝ่ายเข้าใจ ว่าเขาไม่ได้กำลังมองหาร่างมนุษย์ทดลอง

แต่กำลังมองหาคนที่สมัครใจ!

เขาไม่ต้องการให้ตัวเองกลายเป็นเหมือนแซดในอนาคต เพาะสร้างศัตรูนับไม่ถ้วน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองสร้างความขุ่นเคืองแก่คนเหล่านั้นด้วยเรื่องอะไร

มิฉะนั้น ฉินเฟิงอาจปรากฏศัตรูที่เหมือนกันชูฟ่านขึ้นในอนาคตก็เป็นได้!

“ท่านประธาน ฉันเข้าใจแล้ว”

วังเฉินได้ยินคำอธิบายของฉินเฟิง ความรู้สึกผิดก็ลดน้อยลง ตอนแรกนึกว่าต้องจับคนเข้าห้องทดลองเสียอีก เริ่มจัดแจงรายละเอียดต่างๆที่ต้องทำในใจอย่างรวดเร็ว

หลังจากฉินเฟิงวางสาย คนแรกที่วังเฉินโทรหา คือน้องชาย , พ่อแม่ และญาติของตัวเอง ที่ได้ย้ายตามฉินเฟิงมาตั้งแต่สถานชุมชนเฟิงหลีเมื่อนานมาแล้ว

น้องชายของวังเฉินยังวัยรุ่น ตอนนี้อายุ 17 ปี เอาจริงๆครอบครัวหนึ่งมีมือปืนคนเดียวก็พอเลี้ยงชีพได้แล้ว อย่างไรก็ตาม ความปรารถนาของน้องชายเขา คือการเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณตลอดมา อย่างในช่วงมัธยมต้น อีกฝ่ายถึงขั้นเคยได้อันดับหนึ่งในชั้นเรียนหลักสูตรผู้ใช้วรยุทธโบราณ

แต่น่าเสียดาย หลังได้รับการฉีดยาปลุกพลัง ความสามารถของน้องชายของวังเฉิน เป็นได้แค่มือปืนระดับล่างเท่านั้น ในขณะที่ช่วงสามปีที่ผ่านมา วังเฉินติดตามฉินเฟิง ได้รับทรัพยากรเป็นจำนวนมาก จนสามารถยกระดับสูงเลเวล E ได้ แต่แน่นอน ในบรรดาทรัพยากรทั้งหมด อาวุธปืนของกลุ่มเฟิงหลีมีผลที่สุด

“เฉิงน้อย นายเคยคิดบ้างไหมว่า ตัวเองจะได้กลายเป็นผู้ใช้พลังจริงๆ ตัวอย่างเช่น ได้กลายเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ!”

“พี่ชาย พี่ไปเจอสมบัติอะไรเข้างั้นหรอ?”

“ไม่ใช่สมบัติ มันคือสิ่งที่เรียกว่าโอกาส แต่โอกาสนี้อันตรายมาก นายจะต้องสู้และสังหารด้วยตัวเอง อาจเป็นพวกสัตว์ร้ายหรืออะไรทำนองนั้น”

“ทำแค่นั้นก็สามารถกลายเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณได้แล้วหรอ?”

“อืม มันคือโอกาสที่ท่านประธานมอบให้”

“พี่ชาย ผมจะไป ถ้าก่อนหน้านี้พี่ตอบว่าเป็นสมบัติที่บังเอิญเจอ ผมคงไม่ต้องการมัน เพราะตอนนี้ผมรู้สึกตัวแล้วว่าเบื้องหน้าคือกำแพงที่ตัวเองไม่สามารถทำลายได้ ผมไม่อยากให้พี่เสียเวลาหาอะไรมาให้อีก แต่ถ้ามันคือโอกาส ผมก็ยังคาดหวังที่จะสู้เพื่อมัน!”

“ยอดเยี่ยม พี่จะลงสมัครให้นายทันที”

วังเฉินวางสายสื่อสาร และเริ่มติดต่อหาคนอื่นๆทีละคน ทีละคนทันที

“นายน้อยหลี นี่คือโอกาสที่จะได้กลายเป็นผู้ใช้พลัง ผมสงสัยว่าคุณต้องการมันหรือเปล่า? เงินงั้นหรอ? ทางเราไม่ต้องการสิ่งนั้นหรอก แต่สิ่งที่ผมต้องการคือความมุ่งมั่นของคุณ พ่อของคุณมีทรัพสินย์มากมาย แต่คุณกลับไม่สามารถกลายเป็นผู้ใช้พลังได้ ไม่สามารถสืบทอดธุรกิจของครอบครัวในอนาคต และถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป คุณจะไม่สามารถเข้าร่วมกับกลุ่มเฟิงหลีได้เช่นกัน ขอให้ลองคิดทบทวนคำเชิญนี้ดูให้ดี”

“หานน้อย นายยังอยากแก้แค้นรึเปล่า?”

“ท่านประธานมอบโอกาสดีๆให้สำหรับทุกคน ลองคิดทบทวนดูให้ดี สามารถแนะนำคนอื่นๆให้มาเข้าร่วมด้วยก็ได้ แต่อย่ามากไปกว่าหนึ่งคน!”

ผลงานของวังเฉินไม่เพียงยอดเยี่ยม แต่ยังรวดเร็วมาก

ในความคิดของฉินเฟิง การเข้าสู่มิติต้องห้ามยังคงอันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนธรรมดา พวกเขาอาจถึงขั้นตกตาย

ดังนั้นฉินเฟิงเลยขอให้ทุกคนที่อยากเข้าร่วม มาด้วยความสมัครใจ ในขณะที่วังเฉินเลือกใช้น้ำเสียงและกลยุทธ์หว่านล้อม พลิกกระดานเรื่องนี้ โน้มน้าวออกไปว่านี่อาจเป็นโอกาสครั้งใหญ่

สิ่งที่ดีเช่นนี้ แม่ผู้คนยังคงหวาดกลัว แต่พวกเขาหวาดกลัวการต้องเป็นคนธรรมดาไปตลอดชีวิตมากกว่า!

ยังไม่พอ ข่าวสารจากวังเฉิน แม้กระจายไปในพื้นที่เล็กๆ แต่กลับสามารถสร้างแรงสั่นสะเทือนได้อย่างกะทันหัน!

จำนวนผู้สมัคร พุ่งสูงเป็น 1,000 คนในพริบตา

หากข่าวนี้กระจายสู่สาธารณะ ไม่ต้องกล่าวถึง 1,000 คน เกรงว่าล้านคนก็ยังเป็นไปได้

เพราะอย่างไรเสีย สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ น่าทึ่งชนิดท้าทายเจตจำนงสวรรค์ มันสามารถเปลี่ยนคนธรรมดากลายเป็นผู้ใช้พลังได้!

แต่สุดท้าย วังเฉินก็ยังเลือกคนที่ซื่อสัตย์และเชื่อถือได้มากที่สุดเข้าร่วมภารกิจนี้อยู่ดี นอกจากนี้ยังคัดเลือกผู้ใช้พลังอีกกลุ่มหนึ่ง

ระหว่างวังเฉินกำลังคัดกรอง ฉินเฟิงใช้เวลากว่าสามชั่วโมง จัดการกับปัญหายุ่งยาก เขาขอให้ไป๋หลีเปิดช่องว่างมิติอีกครั้ง

ช่วงเวลานี้ ดวงตะวันลาลับ ท้องฟ้าถูกย้อมเป็นสีดำสนิท ต่อให้ช่องว่างมิติปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ก็ไม่มีใครสังเกตุเห็น นอกจากนี้หลังจากฉินเฟิงเข้ามา มันก็ทำการปิดลงอย่างรวดเร็ว พวกสัตว์ร้ายไม่มีเวลาทันได้ตรวจจับกลิ่นอาย

กรุบ กรุบ กรุบ

เสียงกลืนและเคี้ยวดังมาจากใต้เท้า ได้ยินเสียงนี้ ทำให้ฉินเฟิงรู้สึกตกใจเล็กน้อย

ในขณะที่หากเป็นคนอื่นได้ยิน พวกเขาคงรู้สึกขนลุกซู่

นั่นเพราะเสียงนี้ดังเกินไป ให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ยักษ์กำลังสวาปาม

ฉินเฟิงกลั้นหายใจ ป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็นถึงการมาเยือนของเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ซ่อนตัวอย่างสมบูรณ์ แต่ตอนนี้ทุกคนไม่มีพลังสมาธิและพลังการรับรู้ ดังนั้นย่อมไม่สามารถสังเกตเห็นเขาได้ง่ายๆ

ฉินเฟิงค่อยๆลดระดับลงไปอย่างเงียบๆ

แต่ในตอนนั้นเอง ไม่รู้ว่าแสงจากอะไรสะท้อนเข้ามา ทำให้ฉินเฟิงสามารถเห็นสิ่งมีชีวิตเจ้าของเสียงสวาปามบนพื้นดิน

ปรากฏว่าเป็นสัตว์ร้ายที่มีขนาดสูงกว่า 5 เมตร อ้วนท้วนหนึบหนับไปทั้งตัว ขนยาวมาก หูกลมโต รูปร่างหน้าตาคล้ายหมีเชื่องๆ สัตว์ร้ายตัวนี้กำลังหมอบอยู่ คอยลามเลียเลือดบนพื้น

โดยบนหลังของหมีตัวใหญ่ มีมนุษย์นั่งอยู่อย่างกะทันหัน

“กรรร!” หมีใหญ่ชะงักงัน ด้วยสัญชาตญาณสัตว์ร้าย ฉินเฟิงถูกมันค้นพบตัวแล้ว

ฉินเฟิงเพิ่งร่อนลงมาอยู่ในตำแหน่งสูงกว่าพื้นดิน 5 - 6 เมตรในเวลานี้ พอหมีใหญ่เหลียวมองฉินเฟิง มนุษย์ที่อยู่บนหลังของมันก็มองตาม

“นั่นใคร!”

น้ำเสียงที่ฟังก็รู้ว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่แฝงความดุร้ายดังออกมา

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงสามารถระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้แล้ว

“ชูฟ่าน นี่ฉันเอง” ฉินเฟิงเอ่ยปากของเขา ไม่คิดปกปิดตัวตนใดๆ ปลดเครื่องร่อนกระโดดลงมา

“ที่แท้ก็เป็นคุณ” ชูฟ่านไม่นึกเลยว่าฉินเฟิงจะปรากฏตัวขึ้นที่นี่ “ไม่ใช่ว่าออกไปแล้วหรอ? ทำไมยังกลับมาอีก”

ปรากฏร่องรอยความสงสัยในแววตาของชูฟ่าน แต่ยามมองมายังฉินเฟิง ไม่มีความเป็นปรปักษ์เหมือนเมื่อก่อน

ชูฟ่านแน่นอนว่าเกลียดแซด และต้องการทำทุกวิถึทางเพื่อทำลายแซด แต่ไม่ได้หมายความว่า ชูฟ่านจะตามืดบอดเพราะความเกลียดชัง

หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน สิ่งที่ฉินเฟิงทำ กับสิ่งที่ชูฟ่านเคยตั้งแง่กับฉินเฟิง มันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้ยังสามารถระบุสถานะของฉินเฟิงได้แล้ว--

--ว่ามาจากกลุ่มเฟิงหลี นั่นไม่ใช่กลุ่มที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของแซด

“ฉันกลับมาเพราะมีเรื่องต้องจัดการที่นี่ ในเมื่อนายเคยมีส่วนร่วมในการทดลอง งั้นก็น่าจะรู้ใช่ไหมว่าซากศพของสัตว์ร้ายพวกนี้สามารถทำอะไรได้บ้าง หากปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ ต่อไปทั้งเมืองคงกลายเป็นรังแมลง!”

ดวงตาของชูฟ่านกระพริบไหวอีกครั้ง ก่อนกล่าวว่า “คุณกับแซดไม่เหมือนกันเลย!”

“ฉันไม่ได้ลงเรือลำเดียวกับเขา” ฉินเฟิงประชดประชันเล็กน้อย “แต่ถ้าเป็นนาย .. ฉันอาจสนใจลงเรือลำเดียวกันก็ได้!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด