ตอนที่แล้วบทที่ 39 หอคอยเวทมนตร์(1)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 41 หอคอยเวทมนตร์(3)

บทที่ 40 หอคอยเวทมนตร์(2)


นิกหนึ่งในพนักงานต้อนรับของเหล่าพ่อมดแห่งหอคอยเวทมนตร์ที่ 3 ยืนอยู่ที่แผนกต้อนรับด้วยสีหน้าประหม่า

เขาไม่สามารถระงับความวิตกกังวลได้และขยับเท้ากับไอสองสามครั้งโดยไม่มีเหตุผล

เขาประหม่าอย่างช่วยไม่ได้เพราะจะมีแขกกลุ่มหนึ่งมาเยี่ยมที่หอคอยในวันนี้

ป่าใหญ่เรย์นอลส์!

แขกที่มาจากดินแดนแห่งเอลฟ์ ผู้ที่มาจากป่าใหญ่เป็นเอลฟ์แน่นอนอยู่แล้ว

และดาร์กเอลฟ์เป็นที่รู้กันว่ามีจำนวนประชากรน้อยที่สุด

เมื่อนานมาแล้วเอลฟ์และอาณาจักรคัสต์เคาได้ลงนามในข้อตกลงว่าจะไม่รุกรานซึ่งกันและกันซึ่งต่อมาได้กลายมาเป็นพันธมิตรกัน

แน่นอนว่ามีบางคนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำสัญญาพันธมิตรนี้ ที่จริงแล้วการทำลายกำแพงทางเชื้อชาตินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านไปแบบอคติเหล่านี้เริ่มจางหายไป

อย่างน้อยมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรก็ไม่ถือว่าเอลฟ์เป็นตัวประหลาดหรือเป็นศัตรูอีกต่อไป แต่ก็ยังคงมีความรู้สึกหวาดกลัว

ชีวิตที่ยาวนานของพวกเขา ความสามารถทางกายภาพ ความงามอันน่าทึ่งและความสามารถตามธรรมชาติและพลังติดต่อวิญญาณนั่นเหนือกว่ามนุษย์มาก

และเมื่อไม่นานมานี้พวกเอลฟ์เริ่มสนใจในเวทมนตร์ของมนุษย์ นั่นคือสาเหตุที่บางครั้งพวกเขาส่งคนของพวกเขาไปยังประเทศของมนุษย์เช่นนี้

กลุ่มเอลฟ์จะพักอยู่ที่หอคอยเวทมนตร์ที่ 3

ตามคำสั่งของราชวงศ์พวกเขาต้องแน่ใจว่าเอลฟ์ไม่ได้ขาดตกพกพร่องอะไรเลยในระหว่างที่พวกเขาอยู่ที่นี่เพื่อเรียนรู้เวทมนตร์

"อา!"

ในเวลานั้นเขาได้เห็นกลุ่มคนที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลแดงอยู่ไกลๆ

นิกสามารถรู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็นเอลฟ์

ประการแรกความสูงเฉลี่ยของพวกเขาสูงกว่ามนุษย์มาก

เอลฟ์ชายคนแรกน่าจะสูงประมาน 2 เมตรได้อย่างสบายๆ และผู้หญิงก็แค่เตี้ยกว่าพวกเขาแค่เพียงหนึ่งหัวเท่านั่น

“พวกคุณเป็นกลุ่มที่มาจากป่าใหญ่เรย์นอลส์หรือเปล่า?”

“…”

ดาร์กเอลฟ์ที่อยู่ด้านหน้าจ้องไปที่นิกด้วยสายตาเย็นชาทำให้เขาเหงื่อออกเล็กน้อย

ดวงตาของเขาดุร้าย เสื้อคลุมของเขาที่ซ่อนอยู่คือกล้ามเนื้อที่มีสองสว่างและมั่นคง

ดูเหมือนเขาไม่เหมือนเผ่าพันธุ์ผู้รักป่าที่อ่อนโยนเลย แต่ดูเหมือนจะเป็นนักรบที่ได้เห็นสนามรบที่นองเลือดมามากมาย

‘จะ- จริงไหมที่ดาร์กเอลฟ์เป็นเผ่าพันธุ์ที่หยิ่งและก้าวร้าว?”

การจ้องมองดูเหมือนจะทำให้สมองของเขาตอบสนองแบบเดียวกับที่เขาจะได้รับเมื่อเจอกับสัตว์ประหลาด

ในเวลานั้นเอลฟ์ชายซึ่งเตี้ยกว่าคนอื่นๆ ก้าวไปข้างหน้า

"ถูกตัอง"

น้ำเสียงของเขาดูอึดอัดและหยาบกร้านเล็กน้อยซึ่งพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่คุ้นเคยกับการใช้ภาษาของมนุษย์

“ยะ - ยินดีต้อนรับสู่หอคอยเวทย์มนต์ที่ 3 ผมขอดูบัตรประจำตัวของพวกคุณได้ไหมครับ?”

ชายคนนั้นหยิบทับทิมออกมาจากกระเป๋าเสื้อ หลังจากที่เขาได้รับทับทิมแล้วนิกก็หยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้วย

มันเกือบจะเป็นทับทิมที่เหมือนกันกับที่เขาได้รับจากเอลฟ์

เมื่ออัญมณีทั้งสองเผชิญหน้ากันเกิดเสียงสะท้อนเล็กๆ

อูววว

นิกสังเกตแสงไฟที่มาจากอัญมณีครู่หนึ่งก่อนจะส่งคืนให้กับเอลฟ์

“ได้รับการยืนยันแล้ว กลุ่มของพวกคุณมีทั้งหมดกี่คนครับ?”

“11 คน”

นิกนับเอลฟ์ทีละคนก่อนจะพยักหน้า

“ได้รับการยืนยันแล้ว ตอนนี้ผมจะพาพวกคุณไปที่ห้องพักในหอคอย”

จากนั้นเอลฟ์ตัวเล็กที่อยู่ด้านหน้าก็พูดอีกครั้ง

“ฉันได้ยินมาว่าคุณต้องทำการทดสอบบางอย่างก่อนจึงจะสามารถเข้าสู่หอคอยเวทย์มนต์ได้”

เขาไม่รู้ว่าเคยได้ยินมาจากที่ไหน แต่นิกยังคงพยักหน้าเพราะมันคือเรื่องจริง

“โดยหลักการแล้วใช่ แต่แขกอย่างดาร์กเอลฟ์ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น”

“ฉันอยากจะลอง”

"ลอง?"

“ฉันบอกว่าฉันอยากจะลอง ฉันขอทำมันได้ไหม?”

“เอ่อ…”

นิกกลอกตาของเขาไม่รู้ว่าเขาควรทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้

ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยกับเอลฟ์ตัวเตี้ยคนนั้น

ทำไมเขาถึงอยู่นิ่งๆไม่ได้นะ?

แน่นอนว่าดวงตาที่ดุร้ายและออร่ารอบๆดาร์คเอลฟ์ทำให้เขาไม่กล้าพูดคำเหล่านี้ออกมาดังๆ

"ตกลง ถ้างั้นผมจะขอทำการทดสอบที่เรียบง่ายและรัดกุม”

“เลียมสันทำไมนายถึงสร้างแต่ปัญหาตลอดเลย”

หญิงสาวเอลฟ์หน้าเย็นมองเขาอย่างรวดเร็วขณะที่เธอถาม

เลียมสันเอลฟ์ตัวเตี้ยตอบกลับด้วยรอยยิ้มเท่านั้น

“คุณไม่สงสัยเหรอ? การทดสอบในมนุษย์จะแม่นยำเพียงใดและระดับปัจจุบันของเราเป็นอย่างไร?”

“สถานะของเราอยู่ที่ประมาณ 5 ดาว นั่นคือสิ่งที่พ่อมดจากอาณาจักรบอกเราในครั้งสุดท้าย”

“…!”

นิกรู้สึกประหลาดใจกับการสนทนาระหว่างเอลฟ์

เอลฟ์เหล่านี้อยู่ระดับ 5 ดาวทั้งหมดเลยหรือไม่?

แม้แต่ในหอคอยเองก็มีพ่อมดระดับ 5 ดาวอยู่ไม่มากนัก

‘ถ้าอย่างนั้นก็มีเพียงการทดสอบเดียวเท่านั้น’

เขาคิดว่าจะทำอะไรง่ายๆเพราะพวกเขาต้องการ แต่ตอนนี้เขารู้ว่าแล้วไม่มีอะไรเหลือให้เขาเลือกมากนักที่เขาจะใช้ทดสอบได้

ด้วยความคิดที่ซ่อนอยู่ ในที่สุดนิกจึงนำทางพวกเอลฟ์ไปที่สนามฝึกที่ชั้นหนึ่ง

มันเป็นห้องที่อึดอัดและกว้างที่สุดในหอคอย

“การทดสอบนั้นง่ายมาก สร้างลูกบอลพลังงาน”

“…ลูกบอลพลังงานระดับ 1 ดาว? นั่นคือการทดสอบหรือ? มันง่อยเกินไปมั้ง”

เลียมสันดูผิดหวังแต่นิกก็ส่ายหัวช้าๆ

“ถ้าคุณทำลูกบอลพลังงานเท่านั้นละก็ใช่ แต่การทดสอบนี้ไม่ใช่แค่การร่ายเวทย์… ผมจะยกตัวอย่างของลูกบอลพลังงาน”

อูววว

ลูกบอลพลังงานปรากฏขึ้นที่มือขวาของนิกมันมีขนาดประมาณศีรษะของมนุษย์ซึ่งเป็นขนาดที่ปกติ

นิกหรี่ตาลง

สึสึ

ลูกบอลพลังงานเริ่มมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ

เหงื่อหยดลงใบหน้าของนิก

จากนั้นลูกบอลพลังงานก็ถูกบีบอัดให้มีขนาดเท่ากับกำปั้นของผู้ใหญ่

“…ว้าว! คุณต้องบีบอัดลูกบอลพลังงานให้ได้ขนาดนี้เป็นอย่างน้อยก่อนที่คุณจะได้รับการยอมรับให้เข้าสู่หอคอย”

นิกยกคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจแต่เลียมสันก็หัวเราะออกมา

“มันเป็นการบีบอัดลูกบอลพลังงานให้ลดขนาดลง แต่มันจะมีพลังเพิ่มขึ้น นั้นไม่ใช่เรื่องยาก”

“นี่คือการทดสอบของหอคอยเวทมนตร์มาตลอดเพราะไม่เพียงแต่ทดสอบความเข้าใจของมานาของคนๆหนึ่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการกระจายและความสามารถในการปรับเปลี่ยนมานาด้วย”

เลียมสันไม่สนใจคำพูดของนิกและเริ่มร่ายลูกบอลพลังงานแทน

ปากของเขาไม่ขยับแม้แต่น้อยซึ่งทำให้นิกประหลาดใจกับการไม่ต้องพูดซึ่งเขาทำได้อย่างง่ายดาย

สึสึ

และเขาประหลาดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกบอลพลังงาน

“ฮึก…!”

ลูกบอลพลังงานที่เลียมสันสร้างขึ้นมานั้นถูกบีบอัดลงไปขนาดเท่าลูกตาของมนุษย์!

นิกรู้ดีว่าอาจมีคนไม่ถึง10 คนในชั้นนี้ที่สามารถบีบอัดลูกบอลพลังงานได้มากขนาดนี้

‘มะ - มีข่าวลือว่าพวกเอลฟ์นั้นเข้าใจเกี่ยวกับมานาอย่างน่าตกใจและดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริง…’

เอลฟ์คนอื่นๆ ก็ลองทดสอบเช่นกัน

ความรู้สึกว่างเปล่าดูเหมือนจะแวบขึ้นภายในหัวของนิกเมื่อเขาเห็นสิ่งนี้

ไม่ใช่แค่เลียมสัน แต่เป็นเอลฟ์ทุกคนสามารถทำสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นบททดสอบที่ท้าทายได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“การทดสอบของมนุษย์ดูเหมือนจะไม่มีอะไรมากนัก”

เอลฟ์ตัวสูงพูดอย่างไม่แยแสแต่ก็ไม่ได้มีการเยาะเย้ยหรือการดูถูกในน้ำเสียงของเขา

น้ำเสียงของเขาสงบราวกับว่าเขากำลังพูดความจริงง่ายๆแค่นั้น

ถึงกระนั้นการจ้องมองของเขาก็ยังคงอยู่ที่นิก

นิกกัดริมฝีปากล่าง แต่ก็พูดอะไรไม่ออก

‘ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกเขาจะมาในวันที่ฉันอยู่เวร”

เขาบอกได้เพียงแค่มองตาคู่นั้น ตอนนี้พวกเอลฟ์กำลังดูถูกเขา ไม่สิ

พวกเขากำลังดูถูกมนุษย์ทุกคน

เขาอยากจะบอกว่าไม่ เขาคนเดียวที่ด้อยกว่าและพวกเขาก็ไม่ควรดูถูกมนุษย์

อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถเปิดปากของเขาได้เลย

นิกไม่เคยเสียใจและทำอะไรไม่ถูกเพราะความขี้อายของเขา

ตอนนั้นเอง

“นั่นคือการทดสอบใช่ไหม?”

การออกเสียงนั้นลื่นไหลนิกจึงรู้ว่าคนที่พูดไม่ใช่เอลฟ์

นิกเงยหน้าขึ้นและในเวลาเดียวกันพวกเอลฟ์ก็หันมาดูว่าใครกำลังพูด

ยืนอยู่ตรงนั้นเป็นผู้ชายผมขาว

"คุณคือ?"

เฟรย์พูดอย่างใจเย็น

“ฉันอยากจะเข้าหอคอยนะ”

* * *

“ป - โปรดรอสักครู่ หลังจากที่ฉันแนะนำเรื่องต่างๆให้พวกเขาเสร็จแล้ว…”

"ไม่เป็นไร พวกเราจะรอ "

"เดี่ยวก่อนนะ..."

“คุณไม่เข้าใจเหรอ? เราจะรออยู่ที่นี่ จนกว่าผู้ชายคนนั้นจะได้รับการทดสอบ”

เลียมสันพูดอีกครั้งช้าๆและระมัดระวังราวกับว่าเขาคิดว่าคำพูดของเขานั้นยังไม่ชัดเจนพอ

แน่นอนว่าไม่ใช่ว่านิกไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด มันเป็นคำพูดที่ไม่คาดคิดว่าเขาจึงถามเพื่อความชัวร์

“งะ- งั้นก็”

พวกเขาบอกว่าจะรอและไม่มีอะไรที่เขาจะพูดได้อีก

นิกหันไปมองชายผมขาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างระมัดระวังมากขึ้น

‘เขาดูเด็กมาก’

อย่างมากที่สุดเขาก็น่าจะอายุร่าวๆ 20 ปี

รูปร่างหน้าตาของเขาค่อนข้างแปลกสำหรับอายุของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันก็ดูเหมาะกับเขาดี

“ถ้าคุณลดลูกบอลพลังงานลงให้เหลือขนาดเท่ากำปั้นของฉัน คุณก็จะสอบผ่าน”

เฟรย์รู้ดีว่าการทดสอบคืออะไรเพราะเขาได้ตามพวกเอลฟ์มาตั้งแต่ต้น

"เป็นการทดสอบที่ง่ายและมีประสิทธิภาพ"

หากผู้คุมสอบคนไหนมีสายเฉียบคมพอในการทำหน้าทีคัดกรอง พวกเขาจะสามารถทราบคร่าวๆเกี่ยวกับความสามารถของผู้เข้าสอบได้ในทันที

เฟรย์มองไปที่เอลฟ์ด้วยสายตาที่สนใจ

เอลฟ์เรียนรู้เวทมนตร์นั่นเป็นเรื่องที่ผิดปกติ

อย่างน้อย 4,000 ปีที่ผ่านมานั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะจินตนาการได้เลย

เวทมนตร์เป็นเอกสิทธิ์สำหรับมนุษย์และพวกเอลฟ์โบราณที่ภาคภูมิใจและมีเกียรติกลับมีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ทักษะของมนุษย์

และตอนนี้แม้แต่ดาร์กเอลฟ์ที่ชอบต่อสู้ด้วยกำลังของพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะเรียนรู้เวทมนตร์

เฟรย์ส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพึมพำ

“ลูกบอลพลังงาน”

อูววว

ลูกบอลพลังงานปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา

เฟรย์อัดมันลงไปขนาดเท่ากับกำปั้นในทันที

“เสถียรมาก คุณสอบผ่านแล้ว”

เฟรย์ลบลูกบอลพลังงานให้หายไปเร็วกว่าตอนที่มันปรากฏ

นิกรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

นี่เป็นเพราะเขาหวังไว้ในใจว่าเฟรย์จะต้องเป็นพ่อมดที่ยอดเยี่ยมแน่ๆ

‘หากมันเป็นเช่นนั้น มันก็จะช่วยลดอีโก้ของพวกเอลฟ์เหล่านั้นได้อย่างแน่นอน’

มันเป็นเพียงความหลงผิดของเขา

เขาจำได้จากบทสนทนาก่อนหน้านี้ เอลฟ์ทั้งหมดอยู่ในระดับ 5 ดาว

ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา

ถ้าหากเขามีความสามารถมากจริงๆเขาคงจะไปที่หอคอยเวทมนตร์ที่ 1 หรือ 2 แทนที่จะมาที่นี่

“คุณจะต้องกรอกเอกสาร กรุณารอที่แผนกต้อนรับ ผมต้องการพาพวกแขกเอลฟ์เหล่านี้ไป…”

“เฮ้”

เป็นเสียงของเลียมสัน

นิกตัวสั่นโดยไม่รู้ตัวเพราะเสียงนั้นคมมาก

“ครับ..”

“ไม่ใช่นายแต่เป็นนายต่างหาก”

เขาชี้ไปที่เฟรย์

จากนั้นเฟรย์ก็หันไปมองเลียมสัน

“นายมีความสามารถในการบีบอัดได้มากกว่านี้ใช่ไหม?”

เฟรย์เลิกคิ้ว

“ทำไมนายถึงคิดอย่างนั้น?”

"สัญชาตญาณนะ"

คำตอบงี่เง่าทำให้เขายิ้มได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับดาร์กเอลฟ์

4,000 ปีก่อนคนที่เขาต่อสู้มักจะเป็นไฮเอลฟ์ พวกนี้เป็นเหมือนนักรบมากกว่าคนป่า

“การบีบอัดลูกบอลพลังงานให้มีขนาดเท่ากำปั้นคือเงื่อนไขที่จะสอบผ่าน”

“แสดงให้เห็นได้ไหม ฉันอยากเห็นว่านายจะสามารถบีบอัดลูกบอลพลังงานได้ไกลแค่ไหน?”

“อย่ารบกวนฉันเลย ฉันยังมีเอกสารที่ต้องกรอกดังนั้น...”

เฟรย์ขมวดคิ้วขณะที่เขามองไปที่เลียมสันอย่างรวดเร็ว

เลียมสันสังเกตเขาอยู่สักครู่ก่อนจะเดินออกไป

นิกได้แต่มองการสนทนาของพวกเขาโดยไม่สามารถทำอะไรกับมันได้เลย

คำพูดของเฟรย์ดูเหมือนจะปลุกประสาทของเขา ดูเหมือนว่านิกจะไม่ได้ตระหนักแต่ขนทั้งหมดของเขาก็ลุกขึ้นสู้

“ผม - ผมจะพาพวกเขาไปที่ห้องของพวกเขาก่อน กรุณารอที่แผนกต้อนรับนะครับ”

เฟรย์พยักหน้าและนิกก็เริ่มเดินนำดาร์กเอลฟ์ขึ้นบันได

“เฮ้เจ้ามนุษย์”

เลียมสันเรียกอีกครั้ง

เฟรย์ตอบโดยไม่หันศีรษะ

“ฉันชื่อเฟรย์”

“เฟรย์...นายอยู่หอคอยนี้ด้วยเหรอ?”

"ถูกตัอง"

“…”

เลียมสันเหลือบมองเขาอีกครั้งก่อนจะเดินขึ้นไปชั้นบนและทิ้งเฟรย์ไว้คนเดียวในสนามฝึกซ้อม

จากนั้นเขาก็ทำลูกบอลพลังงานอีกลูก

“…เล็กลงไปอีก”

จุ๊ก!!

ขนาดของลูกบอลพลังงานค่อยๆลดลง ขนาดเท่าหัวขนาดเท่ากำปั้นขนาดเท่าตา

ลูกบอลพลังงานยังคงหดตัวจนแทบจะมองไม่เห็นด้วยสายตาของมนุษย์

“อืมก็พอได้..”

เสียงของเฟรย์ดังขึ้นในห้องโถงที่เงียบสงบ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด