ตอนที่แล้วEp.809 - ผู้มาเยือนที่คาดไม่ถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.811 - หรือคุณอยากสู้กับผม?

Ep.810 - จะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว


4/4

Ep.810 - จะแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว

จะเลือกเมืองเฟิงหลี , ไปเมืองอื่น หรือเข้าร่วมเมืองฉงโหลวแห่งใหม่

สามทางเลือก ข้อความนี้แจ้งเตือนแก่ทุกคน ไม่เว้นเจ้าเมืองรุ่ยฉง ทั้งหมดล้วนได้รับสามารถกดตัวเลือกที่ตนต้องการผ่านอุปกรณ์สื่อสาร

ไม่เพียงแค่นั้น แม้แต่ลูกน้อยผู้ใช้พลังของรุ่ยฉงเอง ก็มีสิทธิ์เลือกเช่นกัน

“ขอให้พวกคุณเลือกกันอีกครั้ง!”

เสียงของไป๋หลี กังวาลไปทุกสารทิศ

ไป๋หลีไม่ได้ใช้พลังในการยั่วยวนก็จริง ทว่าตั้งแต่เกิดมา รูปลักษณ์ของเธอกลับชวนให้ผู้คนโหยหา

อาศัยแค่ความงามของไป๋หลี พบเจอเพียงครั้ง ประทับใจไม่รู้ลืม เฉพาะในปัจจุบัน แค่หน้าตาของไป๋หลีเพียงอย่างเดียว เกรงว่าจะได้รับการกล่าวขวัญ มีชื่อเสียงมากกว่าฉินเฟิงซะอีก

สิ้นเสียงของไป๋หลี ทุกคนถึงค่อยรู้สึกตัว ว่าที่ประหลีประกาศคือเรื่องอะไร

เวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นชาวเมืองธรรมดา หรือผู้ใช้พลัง ต้องเผชิญกับทางเลือกอีกครั้ง

แม้เจ้าเมืองฉงโหลวอยู่ตรงหน้าพวกเขา แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ พวกเขาต่างไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนธรรมดา ลามไปถึงผู้ใช้พลังเลเวล D ที่กล่าวมานี้ไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะได้พบกับเลเวล A เช่นกัน

“สร้างเมืองฉงโหลวขึ้นมาใหม่ … หรือไปพักอาศัยฟรีในเมืองเฟิงหลี ถ้าพิจารณาจากคำว่าสร้างใหม่ อาจหมายความว่าสถานที่ทำงานในเมืองจะยังมีน้อยอยู่ใช่ไหม? งั้นฉันไม่ไปดีกว่า!”

“ฉันต้องทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ถึงยังไม่รู้ว่ามีสวัสดิการอะไรบ้าง แต่ได้ยินว่ากลุ่มเฟิงหลีมีชื่อเสียงมาก ตอนนี้กำลังไปได้สวย ฉะนั้นฉันขอเลือกเมืองเฟิงหลี !”

“จะยังไงก็ช่าง ฉันจะไปเฟิงหลี!”

“ฉันไม่กลัวหรอกว่าจะทำให้ท่านเจ้าเมืองขุ่นเคือง เพราะเขาไม่เคยสนใจฉัน ฉะนั้นไม่มีทางจำฉันได้แน่นอน”

คนพวกนี้คือกลุ่มเดิมที่เคยเลือกเมืองเฟิงหลีตั้งแต่แรก หลังรุ่ยฉงปรากฏตัว เสียงที่ตะโกนออกมาของเขาอบอวลไปด้วยกำลังภายใน กระจายเข้ารูหูของทุกคน น้ำเสียงแสดงออกถึงความหยิ่งผยองและคุกคาม ทำให้หลายคนรู้สึกอึดอัดใจ ทว่าแม้ไม่ชอบแต่ยังไม่มีใครกล้าพูดออกไป

ในขณะที่ฉินเฟิงเอ่ยว่าภารกิจช่วยเหลือนี้เขาเลือกกระทำเป็นการส่วนตัว เอาจริงๆถ้าเขาเลือกไม่ทำก็ไม่มีใครว่า ดังนั้นทุกคนรู้สึกซาบซึ้งใจนัก

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ทำให้หลายคนตระหนักได้ ว่ารุ่ยฉงมาที่นี่เพื่อฉกฉวยปลาจากแหของผู้อื่น!

หรือจะบอกว่าฉินเฟิงช่วยชีวิตผู้คน ส่วนรุ่ยฉงปรากฏตัวเพื่อบรรเทาความเสียหายจากสงคราม --จะมีเรื่องดีๆแบบนั้นในโลกใบนี้ไปได้อย่างไร!?

ต่อให้ยอมถอยมาสักหมื่นก้าว มองยังไงวันนี้ฉินเฟิงก็เป็นผู้ช่วยชีวิตพวกเขา เป็นกลุ่มเฟิงหลีที่ช่วยชีวิตเอาไว้ ขนาดเวลานี้ ผู้ช่วยชีวิตยังยืนอยู่บนบันไดสวรรค์ด้วยร่างโชกเลือดอยู่เลย ถึงขั้นนี้จะไม่ให้พวกเขารู้สึกขอบคุณได้ยังไง?

ด้วยเหตุนี้ ผู้คนที่เลือกเมืองเฟิงหลี เลยยิ่งมั่นใจ สักพักหนึ่ง เปอร์เซ็นต์ของตัวเลือกแรก ก็เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกินกว่า 80%

เมื่อถึงจุดนี้ ชาวเมืองหลายคนก็เริ่มหวั่นไหว และทยอยกันเลือกเมืองเฟิงหลี กระทั่งบางคนที่คิดเดินทางไปเมืองอื่นในตอนแรก หลังลองพิจารณาดูเล็กน้อย ก็ตัดสินใจว่าเลือกเฟิงหลีดีกว่า

เดิมการกระทำกับคำพูดของรุ่ยฉงสมควรได้ผล แต่นั่นมันในกรณีเจ้านายสั่งลูกน้อง เขาคงยังไม่รู้ตัวกระมัง ว่าหลังจากตนยอมละทิ้งเมืองฉงโหลว เมื่อชาวเมืองออกจากฉงโหลวและมิติทับซ้อนมาได้แล้ว คนเหล่านี้ก็ไม่ถือว่าเป็นผู้อาศัยในเมืองของเขาอีกต่อไป แต่เป็นกลุ่มอิสระแทน

ชาวเมืองตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เปอร์เซ็นต์ยังคงขยับต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่เกิดความคิดขึ้นมาว่าหากคนส่วนใหญ่จากไป แล้วท่านเจ้าเมืองสามารถบูรณะเมืองฉงโหลวให้กลับมารุ่งเรืองได้จริงๆ บางทีพวกเขาอาจได้ขึ้นเป็นสมาชิกระดับสูง

ด้วยความคิดเช่นนี้ ทำให้บางคนลังเลอยู่นาน สุดท้ายตัดสินใจเลือกข้อสาม!

กระนั้น สัดส่วนผลคะแนนก็ยังเอนเอียงไปยังข้อหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด

ไปเมืองเฟิงหลี : 74%

ไปเมืองอื่นๆ: 4%

สร้างเมืองฉงโหลวใหม่ : 22%

ผลลัพธ์นี้ ทำให้สีหน้าของรุ่ยฉงมืดมน นี่ไม่ต่างจากการตบหน้าเขา

ปัจจุบันต่อให้มั่นอกมั่นใจแค่ไหน แต่เขารู้สึกอับอายจริงๆ

คาดไม่ถึงเลย ว่าพวกชาวเมือง จะเลือกแบบนี้จริงๆ แต่รุ่ยฉงคงไม่ทราบ ว่าเหตุการณ์ช่วงสามวันที่ผ่านมา มันมีอิทธิพลต่อพวกเขามากขนาดไหน!

“ดี ดีมาก ดีจริงๆ อยากไปก็ไปเถิด แค่ฝูงมดจ้อยร่อย ทำไมฉันต้องใส่ใจด้วย!” รุ่ยฉงกล่าวเสียงเย็นชา

ขณะเดียวกัน บนรถบัญชาการ ผู้ใช้พลังหลายคนก้าวออกมา

รุ่ยฉงร่อนลงจากฟ้า เมื่อเห็นพวกเลเวล B สีหน้าของเขาก็ดีขึ้นหลายส่วน

“โชคดีจริงๆที่พวกนายไม่เป็นอะไร หนิงซิน รีบไปจัดระเบียบคนที่เหลือ พวกเราจะสร้างเมืองฉงโหลวขึ้นใหม่!” รุ่ยฉงสั่ง

ใบหน้าของหนิงซินแปรเปลี่ยนเล็กน้อย เขาแหงนมองไปยังทิศทางของฉินเฟิง

ฉินเฟิงเห็นสีหน้าของหนิงซิน ก็ทราบได้ว่าอีกฝ่ายมีบางอย่างจะพูดกับเขา เดินลงจากบันได

ฉินเฟิงไม่คิดชะล้างคราบเลือดตามร่างกายตน ในความเป็นจริงแล้ว ชุดรบของเขาอยู่ในสภาพรุ่งริ่ง หากล้างเลือดบนร่างกายให้สะอาด เกรงว่าคงต้องเสียเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าในสภาพที่ไม่ต่างจากขอทานของเขา อีกอย่างตอนนี้ เขาคร้านจะเปลี่ยนมัน

หลังจากเดินลงมาถึงพื้นดิน ฝูงชนทั้งหมดแยกเป็นสองฝั่ง เปิดทางให้เขา นี่ถือเป็นการให้เกียรติแบบหนึ่ง ขณะเดียวกันยังแสดงออกถึงความยำเกรง!

ร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดของฉินเฟิง ทำให้ผู้คนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันน่าหวาดกลัว

ฉินเฟิงเดินไปทีละก้าว ถ่ายเทกำลังภายในเข้ามาในหูเขา แน่นอนว่าเจ้าตัวได้ยินคำพูดของหนิงซิน

หนิงซินเห็นฉินเฟิงเข้ามาใกล้แล้ว ในที่สุดจึงค่อยเฉลยความคิดในใจ เอ่ยปากว่า “ท่านผู้ใหญ่รุ่ย เมืองฉงโหลวถูกทำลายลงแล้ว ผมเองก็อยู่ที่นี่มาตั้งหลายปี ต่อสู้เพื่อเมืองๆนี้มานาน แต่ปัจจุบัน ผมอยากขอออกไปตามเส้นทางของตัวเอง”

ช่วงอดีตที่ผ่านมา เขาอยู่อย่างสงบมาโดยตลอด ส่วนใหญ่เพราะเมืองๆนี้มีรุ่ยฉงปกครอง ดังนั้นทุกอย่างสะดวกสบาย แต่ในใจเขากลับไม่ต้องการมัน และบังเกิดความคิดขึ้นมาว่า หากเขาออกไปสู้ มานะบากบั่น แม้มีโอกาสตาย แต่บางที … บางทีตอนนี้เขาอาจสามารถไปถึงเลเวล A แล้วก็ได้!

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เมื่อมีตัวเลือกดีๆ เขาเลยตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะเดินทางไปเมืองเฟิงหลี

นี่คือความจริงที่ไม่อาจโต้แย้ง

และในบรรดาคนอื่นๆ เจียงเฮ่าหลินก็ตัดสินใจจากไปเช่นกัน

ถึงจุดนี้ ใบหน้าของรุ่ยฉง ได้แปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!

“นี่พวกแกกำลังพูดเรื่องบ้าอะไร?” รุ่ยฉงถลึงมองด้วยคู่ดวงตาดั่งวัวคลั่ง ระเบิดแรงกดดันมหาศาลออกมา กดทับลงบนหนิงซิน

หนิงซินส่งเสียงร้องออกมาทันที ชักฝีเท้าถอยไปหลายก้าว

แต่ในตอนนั้นเอง ฉินเฟิงก็ก้าวเข้ามาขวางไว้

“ท่านผู้ใหญ่รุ่ย มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจา คนธรรมดาอยู่ที่นี่ หากแรงกดดันของคุณระเบิดออกมา มีโอกาสทำร้ายโดนผู้บริสุทธิ์” ฉินเฟิงปลดปล่อยกำลังภายใน สลายแรงกดดันของรุ่ยฉงในทันที

แม้เป็นเพียงน้ำเสียงเรียบง่ายแผ่วเบา แต่กลับทำให้รุ่ยฉงรู้สึกโกรธอย่างเห็นได้ชัด

เจ้าตัวตวาดลั่น “มิน่าเล่าถึงกล้าเปิดตัวเลือกให้ทุกคน ที่แท้แกก็ไม่ได้ต้องการแค่คนธรรมดา แม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของฉัน ในช่วงสามวันมานี้ ก็ยังดึงตัวพวกเขาไป!”

เสียงที่สงบและมั่นคงของฉินเฟิงดังขึ้น ไร้ซึ่งร่องรอยของความภาคภูมิใจหรือกระตือรือร้นที่จะเคลียร์ข้อครหา “นี่เป็นทางเลือกของพวกเขาเอง ผมไม่ได้ก้าวก่ายอะไร แต่ผมเชื่อสุดใจ ว่าพวกเขาไม่ได้เลือกเดินทางผิด!”

แม้ประโยคแรกของฉินเฟิงจะเหมือนจะสื่อกลายๆว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อย่างน้อยประโยคหลังก็สื่อว่าไม่มีความคิดจะละทิ้งหนิงซิน!

อย่างไรก็ตาม ประโยคสุดท้าย ต่อหน้ารุ่ยฉงแล้ว มันคือการยั่วยุอย่างชัดเจน

ฉินเฟิงพยายามจะดึงตัวลูกน้องของเขาไป!

รุ่ยฉงหัวเราะด้วยความโกรธ “พวกเขาไม่เลือกเดินทางผิด? เหอ เหอ อาศัยแค่เลเวล B ที่สามารถเข้ามิติทับซ้อน พึ่งพาเทคนิคคู่ขนานเนี่ยนะ? แกคิดว่าตัวเองมีดีอะไรกัน ถึงกล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน!”

รุ่ยฉงว่าจบ สายตาก็เหลือบไปมองหนิงซิน แสดงออกถึงท่าทีคุกคาม

“ฉันจะแสดงให้แกได้เห็นเอง ว่าคนที่แกเลือกติดตาม มันอ่อนแอขนาดไหน!”

*วันนี้ 4 ตอนก่อนนะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด