ตอนที่แล้วตอนที่ 41 ไร้ประโยชน์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 43 เสียใจด้วย ข้าโกหก

ตอนที่ 42 เทนากะจิน


ตอนที่ 42 เทนากะจิน

อย่างรวดเร็วอิมพ์ก็พุ่งผ่านกลุ่มอสูรตรงหน้าเขาไปยังสถานที่ที่เขาจำได้ว่าเป็นร้านหนังืสอและโดยไม่ลังเล เขาก็พยายามพังประตูออกทันทีเมื่อไปถึง

แต่ช่างโชคร้ายสำหรับเขา… ประตูกลับไม่เป็นอะไรเลยแม้ว่าเขาจะพยายามดึงหรือออกแรงกระแทกเพียงใด  !

"หิหิ ... ~! ดูเด็กคนนั้นสิ ~!" เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งหัวเราะก็ดังขึ้นจากข้างหลังเขา "ทำไมถึงดูสกปรกจัง ~! เจ้านั่นต้องเป็นไพร่แน่เลย ไม่งั้นคงไม่เลือกสถานที่ที่มีชื่อเสียงจากร้านสวยๆระดับสูงเหล่านี้หรอก   ~?" เธอถามและเมื่ออิมพ์หันกลับไปเขาก็มองเห็นอสูรที่มีลักษระเหมือนกับมนุษย์เว้นแต่เพียงว่าเธอนั้นมีผิวสีแดง ตอนนี้เธอกำลังเอานิ้วของเธอแตะไปที่ริมฝรปากพร้อมกับแสดงออกราวกับว่าสงสารในขณะที่จ้องมายังอิมพ์

"โอววววววววววววววววว" ปีศาจหญิงชี้มาขณะที่มองไปยังชายรูปร่างไม่สมส่วน แขนของเขายาวจนแตะถึงพื้นและขาของเขาก็เหยียดตรง เขายืนอยู่ข้างๆเธอขณะที่พยักหน้า

"แน่นอน ... แต่สำหรับอสูรระดับไพร่แล้ว มันกลับมีอุปกรณ์สวย ๆ อย่างนั้นได้ยังไงกัน?" อสูรสามและยื่นมือยาวออกไปหาอิมพ์และพยายามจะคว้ากริชที่เขาถืออยู่ในมือ

แต่แน่นอนว่าอิมพ์ไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เขาคิดว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการทดลองอะไรบางอย่างเล็กๆน้อยๆ เขาดึงผ้ารอบๆมือออกจากฝ่ามือสักครู่จนเผยผิวหนังที่ถูกเผาไหม้ออกมา จากนั้นอสูรหนุ่มก็ยัดลูกกลมสีขาว-ทองทั้งสองลูกเข้าไปในชั้นผ้า เขาไม่สามารถสัมผัสพวกมันโดยตรงได้ตอนที่ใช้พวกมันดังนั้นเขาจึงต้องทำแบบนี้

“เจ้า ... อยากได้มันงั้นรึ?” อิมพ์ถามและค่อยๆยื่นกริชของเขาไปยังอสูรตัวผู้ซึ่งมันก็พยักหน้าทันที "โอ้แน่นอนสิ อืม...ข้าต้องให้เจ้าเท่าไหร่งั้นหรอ  ข้าให้เหรียญสองอันแก่เจ้าดีไหมหรือจะให้ข้าถ่มน้ำลายใส่หน้าเจ้าก็ได้หากต้องการ    " อสูรก็ถามกลับ

“เปิดประตูให้ข้าแล้วข้าจะให้กริชแก่เจ้า” ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้าของเขา อิมพ์นั้นแทบจะเก็บควาฒโกรธไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้วแต่เขาก็พยายามยื่นข้อเสนอให้กับอสูรตนนั้น อีกฝ่ายนั้นยังคงยิ้มออกมาอยู่ดังนั้นเขาจึงต้องทำตัวให้เหมาะสมบ้าง

โดยไม่ลังเลอสูรตัวผู้ก็ยิ้มอย่างสดใสและเดินเข้าไปใกล้ประตูไม่กี่ก้าวก่อนจะดันนิ้วยาวๆของมันเข้าไประหว่างรอยแตกบางส่วนบนประตูจากนั้นก็เปิดมันออกโดยดึงมันออกจากตรงกลาง

"เอาล่ะ ทีนี้เราก็มาทำตามที่ตกลงกันไว้ เอากริชมาให้ข้า  " ด้วยรอยยิ้มที่สดใสเหมือนเดิมบนใบหน้าของมัน อสูรตัวนั้นก็โน้มตัวไปข้างหน้าพยายามจะคว้ากริช ซึ่งอิมพ์เองก็ยิ้มขึ้นและพยักหน้าก่อนจะยื่นกริชออกไป แต่ก่อนที่อสูรจะจากไปอิมพ์ก็ยื่นมือไปข้างหน้า นี่เป็นการกระทำที่เขาเห็นสองสามครั้งในหลายวันที่ผ่านมา มันคือการจับมือกันระหว่างผู้ที่ทำข้อตกลงกันเสร็จแล้ว อิมพ์เองก็กำลังหวังว่าอสูรตนนี้จะรู้เรื่องนี้ด้วย

"โอ้แน่นอน ถ้าเจ้าเจอของอะไรดีๆอีกก็เอามาให้ข้าฟรีได้เลยนะ บอกข้าได้ตลอดเวลา" อสูรตอบกลับและยื่นมือยาวข้างหนึ่งไปยังอิมพ์ เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่อสูรตนนั้นทำตามที่คิดไว้ เมื่อมือของพวกเขาสัมผัสกันอิมพ์ก็ส่งมานาของเขาเข้าไปในหินเวทย์มนต์ขนาดเล็กบนฝ่ามือของเขาในขณะที่ใช้มืออีกข้างของเขาจับแขนของอสูรไว้แน่นที่สุดพยายามไม่ให้หลุดจากฝ่ามือ

แน่นอนว่าอสูรตนนั้นก็สังเกตเห็นสิ่งนี้ได้และมันก็ต้องการดึงแขนกลับไป แต่ก่อนที่มันจะได้ตอบสนองอิมพ์ก็ได้เปิดใช้งานการ์ดที่อยู่ในแขนเสื้อของเขา จากนั้นใบมีดเล็กๆที่เชื่อมต่อกับแหวนบนนิ้วด้วยเส้นด้ายก็ปรากฏขึ้น

และโดยไม่ลังเลอิมพ์ก็ใช้มีดแทงเข้าไปในแขนของอสูรผ่านฝ่ามือซึ่งมันทะลวงเข้าไปได้อย่างง่ายดายราวกับเนยที่ถูกผ่าโดยมีดร้อน

"เจ้าคิดจะทำอะไร" อสูรตนนั้นถามอย่างสับสน มันรู้สึกว่าแขนของมันเริ่มไหม้จากภายในและมันก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดมหาศาลอย่างที่มันไม่เคยรู้สึกมาก่อน

แน่นอนว่าอสูรตัวอื่นๆนั้นสังเกตมาที่พวกเขาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกมันส่วนใหญ่ก็ล้วนเดินผ่านไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้ายที่สุดพวกมันนั้นไม่อาจรู้ได้ว่าอิมพ์กำลังใช้พลังศักดิืสิทธิ์กับอสูรตนนี้อยู่

“ข้าเปลี่ยนใจแล้ว คืนกริชมาให้ข้า ” อิมพ์หนุ่มบอกกับอสูรที่เพิ่งคว้ากริชไปและส่ายหัวอย่างไม่แยแส

“มันเป็นของข้า! เอามานี่!” อสูรตนนั้นก็ร้องอุทานออกมาในขณะที่ยืนอยู่กับที่ราวกับถูกแช่แข็ง อิมพ์ไม่เข้าใจเล็กน้อย มันเป็นเหมือนกับตอนที่เจ้าแห่งความโกรธขยับตามเขามาไม่ได้ อาจเป็นไปได้ว่าพวกมันได้รับบาดเจ็บจากพลังศักดิ์สิทธิ์และก็ไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้

หรือว่าบางทีนี่อาจเป็นวิธีที่จะเอาชนะพวกมันได้?...

"มันคือกริชของข้า ถ้าเจ้าไม่คืนมาข้าจะฆ่าเจ้าซะ ข้าเพียงแค่อยากทดสอบอะไรเล็กน้อยเท่านั้น แต่หากเจ้ายังฝืนแย่งข้าอยู่หละก็ ข้าก็ไม่ลังเลที่จะจัดการเจ้าเช่นกัน  " อิมพ์อธิบายกับอสูรที่อยู่ตรงหน้าเขา ในขณะเดียวกันอสูรผู้หญิงที่อยู่กับอสูรชายก่อนหน้านี้ก็เร่มมีสีหน้าเบื่อหน่ายจนอยากจะจากไปแล้ว

"งั้นก็ฆ่าข้าเลยสิ! เจ้ารู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกไพร่ฆ่าพวกเราคนใดคนหนึ่ง ?" อสูรถามด้วยรอยยิ้มกว้างราวกับแน่ใจว่าอิมพ์จะไม่กล้าทำร้ายมัน แต่สุดท้ายอิมพ์ก็ทำเพียงถอนหายใจออกมาและดึงมือของเขาออกมา ทันทีใบมีดของ  'ดาบสามเล่ม' ก็ลากขึ้นไปตามแขนของมันในขณะอิมพ์ดึงมือกลับ

จากนั้นอิมพ์ก็ดึงกริชออกมาและวางมือลงบนหน้าอกของอสูรตนนั้น จกานั้นหินเวทย์มนตร์ก็สร้างความเสียหายให้กับมันอย่างรุนแรง

[ทักษะต้านทานพลังงานศักดิ์สิทธิ์ระดับเริ่มต้น เพิ่มระดับ!]

[ทักษะต้านทานพลังงานศักดิ์สิทธิ์ระดับเริ่มต้นถึงระดับ 100 แล้ว ดังนั้นจึงถูกเปลี่ยนเป็น ทักษะต้านทานพลังงานศักดิ์สิทธิ์ฝึกหัด]

จากนั้นความเจ็บปวดที่รุนแรงก็หายไป เช่นเดียวกันกับความเจ็บปวดตลอดเวลาที่ผิวหนังของเขาซึ่งได้รับจากการพันผ้า มันหายไปราวกับว่าไม่เคยทำให้เขาเจ็บมาก่อน

ดังนั้นอิมพ์จึงคิดว่าเขาควรจะทดสอบจุดอ่อนของอสูรให้มากขึ้นอีกหน่อย เขาคว้าหนึ่งในหินเวทย์มนต์จากใต้ผ้าออกมาก่อนจะค่อยๆกดมันลงผิวหนังแข็งอันเปลือยเปล่าของอสูรตนนั้นหลังจากฉีกเสื้อผ้าของมันออกด้วยใบมีดแล้ว

อย่างช้าๆ หินเวทย์มนต์ก็จมเข้าไปในเนื้อของอสูรจนเกิดเป็นฟองอากาศขึ้นรอบๆ ทันทีอิมพ์ก็มีความคิดอีกเล็กน้อย ครั้งก่อนนั้นเขาสามารถควบคุมเลือดของเขาไปทั่วร่างผ่านเส้นเลือดได้อย่างเป็นธรรมชาติ ดังนั้นจะเป็นยังไงหากเขาทำสิ่งที่คล้ายกันกับร่างของอสูรตนนั้นแต่เปลี่ยนไปใช้  'พลังงานศักดิ์สิทธิ์' แทน ? มันอาจจะให้ผลเหมือนมานาก็เป็นได้

ดังนั้นอิมพ์จึงพยายามดันลูกกลมสีขาวทองขนาดเล็กให้ลึกเข้าไปในหน้าอกของอสูรตนนั้นในขณะที่เขากำลังพยายามควบคุมมัน

"จะ- เจ้าจะทำอะไร .. ?" เขาถามอิมพ์ในขณะที่พยายามต่อต้านมากขึ้นและจากการดิ้นรนอย่างหนักแขนของมันก็เหมือนจะค่อยๆขยับได้อีกครั้ง

"อืม ... " อิมพ์ถามอย่างสับสน เขาอยากจะรู้ว่าวิธีนี้จะสามารถฆ่าลอร์ดได้หรือไม่  แต่ถ้าอสูรตัวนี้ยังทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ก็แสดงว่าไม่ได้ผล  โชคดีที่อิมพ์สามารถหลอกล่ออสูรตัวนี้ได้ เพราะดูยังไงอสูรตัวนนี้ก็แข็งแกร่งกว่าอิมพ์อย่างเห็นได้ชัด

อย่างไรก็ตามเมื่อเขาคิดอย่างนั้นหินเวทย์มนต์ก็เริ่มเคลื่อนตัวลึกเข้าไปอีกครั้งในขณะที่อสูรกลายเป็นคลุ้มคลั่งมากขึ้นและในที่สุดอิมพ์ก็สามารถส่งมันไปถึงสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นหัวใจของอสูรตนนี้ได้

เห็นได้ชัดว่าความเจ็บปวดของของอสูรตนที่ตนนั้นได้รับนั้นมีมากและแข็งแกร่งที่เคยมีมา ตอนนี้เองอิมพ์ก็ดึงนิ้วของเขาออกไปหลังจากเห็นอสูรตรงหน้าเขากระตุกและดิ้นไปรอบๆอย่างกระทันหัน แน่นอนว่านี้ดึงดูดความสนใจจากอสูรตัวอื่นๆเล็กน้อยเช่นกัน แต่ก็มักจะมีสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้นอยู่รอบๆอยู่แล้วดังนั้นพวกเขาก็เพียงหันมาสนใจชั่วครู่ก่อนจะหันไป

นี่เป็นสิ่งที่สมบูรณ์แบบสำหรับอิมพ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ที่เขามองเห็นการแจ้งเตือนปรากฏตรงหน้าซึ่งมันบอกเกี่ยวกับความเสียหายทั้งหมดที่เขาทำกับอสูรตนนี้

และก่อนที่อิมพ์จะรู้ตัวก็มีการแจ้งเตือนอีกอันปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา

[คุณสร้างความเสียหายร้ายแรงแก่ อสูรเทนากะจิน ]

อิมพ์พยักหน้าและมองไปยังอสูรตรงหน้าที่ทรุดตัวลงบนพื้น ตอนนี้เองทุกคนก็จ้องมาที่ศพของอสูรตนนี้ด้วยสีหน้ารังเกียจ

“นั่นคือหนึ่งในอสูรแห่งความตะกละที่เอาแต่ดื่มเหล้าทั้งวันไม่ใช่รึไง   ?” อสูรตนหนึ่งถามพลางจ้องมองไปที่เทนากะจินที่ตายไป คนอื่นๆเองก็พูดคล้ายๆกัน แต่อิมพ์ก็ตระหนักได้ว่าไม่มีใครสนใจจริงๆ พวกเขาแทบจะมองข้ามสิ่งที่เกิดขึ้นเกือบทั้งหมดด้วยซ้ำ

ดังนั้นโดยไม่ลังเลอิมพ์ก็ดันนิ้วของเขาเข้าไปในบาดแผลที่ร้อนระอุอย่างรวดเร็วและดึงหินเวมย์มนต์กลับมา เขาไม่ต้องการเสียมันไป อิมพ์รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นประสบกรณ์อันมีค่าของเขาในการฆ่าอสูร แม้ว่าจะมีบางอย่างทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยก็ตามซึ่งนั่นก็คือเขาไม่ได้เลเวลจากฆ่าอสูรตัวนี้เลย

แต่ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ไม่มีเวลาคิดเรื่องที่ไร้ประโยชน์แบบนั้น ที่เขามายุ่งเกี่ยวกับเทนากะจินก็เป็นเพราะเขาต้องการหาวิธีรับมือพวกลอร์ดเพื่อที่จะพาเด็กๆกลับมา แต่สุดท้ายเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะหาพวกเขาเจอได้ยังไง ดังนั้นสิ่งที่เขาจะทำได้ตอนนี้ก็คือมุ่งหน้าเข้าไปในร้านหนังสือซึ่งเขาสามารถเข้าไปได้ง่ายๆแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด