ตอนที่แล้วสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 36
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปสุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 38

สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ (SDFW)-ตอนที่ 37


ตอนที่ 37 ใครทำลายห้องนั่งเล่น? และโซฟาใหม่

ถ้าสมมุติว่าลุคต้องการที่จะเข้าทดสอบเพื่อบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ลุคต้องมีประสบการณ์ในการทำงานอย่างน้อย 2 ถึง 3 ปี, และต้องมีตำแหน่งหรือยศสูงกว่านี้ และที่สำคัญที่สุดคือลุคจำเป็นที่จะต้องมีใบปริญญาด้วย ลุคต้องมี 3 สิ่งข้างต้นนี้เท่านั้นเพื่อจะทำให้เขามีสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้าสมัครเป็น FBI

ไม่มีใครจะรู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาต่อไปจากนี้

แต่ทว่าการที่คริสได้ให้นามบัตรของเขาและรายละเอียดการติดต่อให้ไว้ลุค ก็พอจะแสดงในเห็นว่าคริสประเมิณลุคไว้สูงและให้ความสำคัญกับลุคพอสมควร

และด้วยนามบัตรใบนี้ลุคสามารถขอความช่วยเหลือจากคริสได้ทุกเมื่อที่จำเป็น

แต่ใครจะไปรู้ว่าคริสจะให้ความช่วยเหลือลุคได้มากน้อยแค่ไหนเพราะว่าคริสไม่ได้สัญญาอะไรเลย

แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ลุครังเกียจที่จะมีเส้นสายเพิ่มมากขึ้น ไม่แน่ในอนาคตลุคอาจจะได้มีโอกาสติดต่อกับคริสอีกเมื่อลุคมีปัญหา

อันที่จริงแล้วลุคไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคริสมีความคิดอยากจะรับลุคเข้าไปเป็น FBI มากๆ ถ้าหากว่าลุคพูดว่าเขาตกลงอยากที่จะเป็น FBI แน่นอนว่าคริสจะช่วยเหลือลุคอย่างเต็มที่

เพราะว่าลุคมีอายุเพียงแค่ 18 ปีแต่ได้สังหารอาชญากรที่ถือปืนอาก้าไปได้ถึงสิบสามคน และยิ่งไปกว่านั้นลุคเพิ่งจะเริ่มทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงแค่สองเดือนกว่าๆ เท่านั้นเอง

คนอย่างลุคหาทั้งประเทศอาจจะเจอได้เพียงไม่กี่คน

คริสวางแผนที่จะรับลุคเข้าทีมอย่างจริงจังถ้าเกิดว่าผ่านไปหลังจากนี้แล้วสองปี เพราะว่าสิ่งที่ทีมของคริสยังขาดอยู่ก็คือใครบางคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่เก่งกาจอย่างลุค

แต่ทว่าตอนนี้น่าเสียดายที่ลุคยังเด็กเกินไป และเยาวชนก็มีความหมายชัดเจนว่า ยังไม่สมบูรณ์และเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

แต่ทว่าถ้าคริสเชื่อมความสัมพันธ์กับลุคไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ มันจะง่ายกว่าสำหรับคริสที่จะสร้างความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับลุคในตอนที่ลุคยังไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร

อันที่จริงคนที่สามารถกำจัดอาชญากรจำนวนมากได้ในคืนเดียวก็ไม่ใช่ของหายากในประเทศเท่าไหร่ ยกตัวอย่างเช่นโรเบิร์ตเองก็มีความสามารถเช่นเดียวกัน

แต่โรเบิร์ตเป็นสุนัขจิ้งจอกเฒ่าที่ฉลาดเกินไปและนอกจากนั้นเขามีนิสัยของทหารมากมายที่ติดตัวมาจากการรับใช้รบมาหลายปี ดังนั้นมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ ที่จะควบคุมโรเบิร์ตให้เป็นลูกน้อง

ในทางกลับกันคริสรู้สึกว่าลุคเป็นคนที่พยายามที่จะไม่ไปรุกรานใครก่อน

ตลอดทั้งสัปดาห์การสังเกตของคริสคือลุคมีบุคลิกที่อ่อนโยนมีความสามารถในการเรียนรู้สูงกว่าคนปกตอทั่วไปและเต็มใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่น โดยพื้นฐานแล้วลุคเป็นตัวอย่างที่ดีของ ‘สุภาพบุรุษ’ ได้เลย

ชาวเมืองต่างพากันชื่นชมลุคและคริสก็ยังไม่พบคนที่พูดจาไม่ดีกับลุคเลย

และแน่นอนว่ามันค่อนข้างน่ากลัวและน่าตกใจที่สุภาพบุรุษคนนี้ได้สังหารอาชญากรไปถึงสิบสามคนในคืนเดียว แต่คริสก็ยังพอที่จะเข้าใจได้ว่าทำไมลุคถึงทำแบบนั้น

แม้แต่โรเบิร์ตที่ไม่ได้ฆ่าคนเลยแม้แต่คนเดียวหลังจากเป็นตำรวจมานานกว่าสิบปีก็ยังฆ่าอาชญากรไปมากกว่าสิบคนในคืนนั้น

ความโกรธเกรี้ยวของสุภาพบุรุษนั้นน่ากลัวอย่างแท้จริง

เนื่องจากลุคเป็นลูกบุญธรรมของโรเบิร์ตจึงพอจะเข้าใจได้ว่าทั้งสองคนคงมีบุคลิกคล้ายกัน

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เอฟบีไอมีข้อกำหนดในการรับสมัครสมาชิกเข้าทีมที่เข้มงวดเป็นอย่างมาก

ลุคเองเป็นตำรวจและ ลุคก็มีพ่อบุญธรรมเป็นตำรวจด้วยเช่นกัน ตลอดระยะเวลาในช่วงสองเดือนที่ลุคเป็นตำรวจก็ทำผลงานได้ดี ลุคสามารถเป็นตัวตนที่สมบูรณ์แบบของคนที่มีภูมิหลังที่ขาวสะอาดและยังเป็นคนที่ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบ การบังคับใช้กฎหมายอยู่แล้ว และคนแบบนี้ FBI จะให้ความสำคัญสูงสุดในระหว่างการรับสมัครสมาชิกใหม่

นอกจากนี้ลุคเองก็ไม่ได้โง่ แม้ว่าลุคจะยังไม่มีปริญญาและยังไม่ได้เรียนต่อในตอนนี้ แต่ผลการศึกษาในโรงเรียนมัธยมของลุคก็พอจะบอกได้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับลุคที่จะได้ใบปริญญาถ้าเขาได้เรียนต่อ

และที่สำคัญลุคเป็นนักสู้ที่ยอดเยี่ยมมากๆ

ชื่อของลุคอยู่ในรายชื่อผู้มีความสามารถของคริสไปเรียบร้อยแล้วแล้ว คริสจะให้ความสำคัญกับลุคนับจากนี้ไป

ถ้าคริสมีโอกาส คริสจะลากลุคมาร่วมทีมของเขาให้ได้อย่างแน่นอน

สองวันต่อมาแคทเธอรีนกลับมาพร้อมกับแคลร์และโจเซฟ

ทั้งคู่หันหน้าไปทำห้องนั่งเล่น จากนั้นเธอก็ตกตะลึงกับภาพที่เห็น“ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฉันฟังหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”

ลุคและโรเบิร์ตมองหน้ากัน พร้อมตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า“ลุคบอกได้/ โรเบิร์ตรู้”

ตามด้วย“ทำไมเป็นผม?”

ตามด้วย“แน่นอนต้องเป็นแกสิ?”

แคทเธอรีนพูดไม่ออกขณะเดียวกันเธอก็คิดกับตัวเองว่า “นี่พวกคุณกำลังเล่นอะไรกันอยู่เนี้ย?”

ในที่สุดโรเบิร์ตก็ยอมอธิบายเรื่องราวที่ได้เกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน

แต่โรเบิร์ตบอกเรื่องนี้ให้กับแคทเธอรีนคนเดียวเท่านั้น เพราะแคลร์และโจเซฟยังไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนี้

เมื่อฟังเรื่องต่างๆ จบอารมณ์และความรู้สึกของแคทเธอรีนไม่ดีเอามากๆ

แม้ว่าครอบครัวคาร์ลอสจะต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างหนักตอนนี้ แต่ฐานที่มั่นของพวกเขาอยู่ในเม็กซิโก

ตราบใดที่ไม่จัดการพวกมันไม่หมดสิ้นไป มันก็ไม่มีวันที่ไว้ชีวิตลุคและพวกเขาอย่างแน่นอน

แต่ทว่าอย่างน้อยก็ยังพอมีข่าวดีบ้าง เพราะ แก๊ง Limedog ล้มสลายไปเรียบร้อยแล้ว

สำหรับในอเมริกาแล้ว แก๊งติดอาวุธที่มีจำนวนคนมากกว่า 40 คนถือว่าเป็นแก๊งที่ค่อนข้างใหญ่และทรงอำนาจ แก๊ง Limedog มีมือปืนรวมๆ กันทั้งหมดประมาน 50 คน จากการสนับสนุนของพวกคาร์ลอสแฟมิลี่  ในตอนนี้หลังจากที่พวกเขามาบุกโจมตีในครั้งนี้พวกเขาสูญเสียคนไปมากกว่าครึ่ง นอกจากนี้พวกที่เหลือก็เป็นเพียงแค่กุ้ยข้างถนนซะส่วนใหญ่ที่รู้จักเพียงแค่การแกว่งปืนไปรอบๆ

ด้วยเหตุนี้คงต้องใช้เวลานานพอสมควรก่อนที่ครอบครัวของลุคจะถูกโจมตีอีกครั้ง

แม้ว่าลุคจะผลักโรเบิร์ตภาระเรื่องค่าใช้จ่ายจากการทำลายห้องนั่งเล่นของพวกเขาได้สำเร็จ แต่ลุคก็ยังเสนอที่จะช่วยเหลือค่าซ่อมแซมห้องนั่งเล่น

หลังจากทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เป็นเวลาสองเดือนลุคได้รับค่าจ้างประมาณ 6,000 ดอลลาร์

ลุคซึ่งเคยเป็นคนจีนในชาติก่อนจึงมองค่าของเงินต่างจากคนอเมริกันคนอื่น ๆ

ลุคไม่สูบบุหรี่ดื่มเหล้าหรือปาร์ตี้ ส่วนใหญ่ลุคจะเล่นเกมอยู่ที่บ้านและงานอดิเรกหลักๆ ที่สุดของลุคตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมคือการฝึก Brazilian jiu-jitsu และหลังจากที่ลุคเริ่มทำงานเขาก็มีงานอดิเรกใหม่เพิ่มเข้ามานั่นคือการฝึกยิงปืน

ลุคอาศัยอยู่กับครอบครัวและแม้ว่าโรเบิร์ตจะบอกให้ลุคจ่ายค่าอาหารเอง แต่ลุคก็ถูกปฏิเสธเมื่อเขาเสนอที่จะจ่ายเงินให้แคทเธอรีนสำหรับอาหารเช้าและเย็น

นับจากทำงานมาร่วมๆ สองเดือนจนถึงตอนนี้ลุคใช้เงินไปเพียง 600 ดอลลาร์จากเงินเดือนของเขา ซึ่งเป็นการซื้อชุดเครื่องสำอางให้กับแคทเธอรีนเป็นของขวัญ

ลุคไม่ได้ใช้จ่ายอะไรอย่างอื่นมากนัก ดังนั้นลุคจึงมีเงินออมประมาณ 5,000 ดอลลาร์ สำหรับชายหนุ่มที่เพิ่งจะเริ่มทำงานนี่ถือว่าเป็นเงินก้อนใหญ่

สำหรับคนปกติทั่วไปน่าจะใช้เงินก้อนนี้ซื้อรถใหม่หรืออะไรสักอย่าง แต่เนื่องจากลุคนั่งรถของเซลิน่าฟรีทุกๆ วันลุคจึงไม่จำเป็นต้องซื้อรถเลยหรือแม้แต่ค่าน้ำมันยังแทบไม่ต้องจ่าย

อันที่จริงแคทเธอรีนไม่ได้ต้องการให้ลุคจ่ายค่าซ่อมห้องนั่งเล่น แต่ลุคยืนยันว่าเขาต้องการโซฟาขนาดใหญ่และนุ่มสบาย และเนื่องจากนั่นเป็นความต้องการของเขาเอง ลุคจึงรับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วยตนเอง

ในที่สุดเขาใช้เงินประมาณ 2,000 ดอลลาร์เพื่อสั่งซื้อโซฟา และสั่งทำพิเศษตู้ข้างทีวีและโต๊ะเล็ก ๆ สองตัวกับลุงบิล

งานมูลค่า 2,000 ดอลลาร์สำหรับลุงบิลแล้วไม่ใช่โครงการขนาดเล็กๆ เลยแต่เนื่องจากที่บิลรู้จักและสนิทกับครอบครัวลุคเป็นอย่างดี ดังนั้นบิลจึงสัญญาที่จะทำทุกอย่างให้เสร็จภายในเวลาสามวัน

ในชีวิตก่อนหน้านี้ลุคมีชีวิตอยู่จนถึงปี 2018 แม้ว่าลุคจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องเฟอร์นิเจอร์ในสมัยนั้นเท่าไหร่ แต่ลุคก็ยังพอจะมีคแบบโซฟาคร่าวๆ ว่าเขาอยากได้ลักษณะไหน

โซฟาที่ดีควรจะกว้างขวางนั่งสบาย ดีไซน์เรียบง่ายแบบสไตล์มินิมอล

วันที่โซฟามาถึงโจเซฟกับแคลร์ใช้เวลาทั้งวันกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความตื่นเต้นและพูดไม่หยุด ว่าโซฟาตัวใหม่นี้ดีกว่าโซฟาตัวเก่าของพวกเขามากขนาดไหน

หลังจากที่ทานอาหารเย็นกันเรียบร้อยทั้งครอบครัวก็นอนพักผ่อนบนโซฟา บางคนดูทีวีบางคนอ่านหนังสือพิมพ์และบางคนก็เล่นโทรศัพท์มือถือ

ในขณะนั้นแคทเธอรีนถอนหายใจและพูดว่า “โซฟาตัวนี้ค่อนข้างดี”

ในอดีตโจเซฟและแคลร์มักจะนั่งอยู่กับพื้น โซฟาตัวก่อนหน้าไม่ใหญ่พอสำหรับทั้งครอบครัว

แต่ตอนนี้แคทเธอรีนและโรเบิร์ตสามารถนั่งอยู่ตรงกลางโซฟาได้ขณะที่โจเซฟกับแคลร์นั่งที่ด้านขวา และลุคเขานั่งอยู่ทางด้านซ้ายของโซฟาคนเดียว มันมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคน

โรเบิร์ตหยิบเบียร์หนึ่งกระป๋องขึ้นมาแล้วพูดว่า“อืมใช่มันสบายจริงๆ” ด้วยขนาดของโรเบิร์ต โรเบิร์ตไม่เคยสามารถนอนลงบนโซฟาตัวเก่าได้เลยซึ่งมันเล็กเกินไปสำหรับโรเบิร์ต โซฟาตัวใหม่นี่มันดีกว่าที่โรเบิร์ตคิดไว้มาก

B_R : ปุกาศ ปุกาศ  !!!!!!!!!

ช่วงนี้จะช้าหน่อยนะครับผู้อ่านทั้งหลาย

แต่จะพยายามเร่งให้ได้อ่านกันไวๆ นะครับ

.

.

เรามีเพจแล้วน้าเข้าไป Follow กดถูกใจ พูดคุย ติดตามข่าวสารกันได้น้า ….

https://www.facebook.com/สุดยอดนักสืบในโลกแห่งจินตนาการ-SDFW-105519611538127

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด