ตอนที่ 134 ฝูงสัตว์น้ำกลายพันธุ์ 2
ตอนที่ 134 ฝูงสัตว์น้ำกลายพันธุ์ 2
ไนเรลที่พึ่งจะหันหลังเดินออกมาไม่ไกลจากลานกว้างติดแม่น้ำก็ต้องแหงนหน้ามองท้องฟ้า เพราะตอนนี้มีพลุสัญญาณขอความช่วยเหลือสีแดงถูกยิงขึ้นมาในทิศทางของเขตอุตสาหกรรม
“ทางนั้นมัน...”
ไม่ต้องรอให้ไนเรลพูดจบ ซีโร่ก็แจ้งไนเรลว่าทางด้านกองกำลังพยัคฆ์ขอความช่วยเหลือมาด้วย มีสัตว์กลายพันธุ์จำนวนมหาศาลขึ้นมาจากน้ำกำลังโจมตีเขตอุตสาหกรรมอยู่
“บอกพวกเขาถอยออกมาโดยด่วน ถ้าออกมาไม่ได้ให้หาที่สูง ๆ รับมือป้องกันไว้ แจ้งไปยังกองกำลังผู้พิทักษ์สมาพันธ์ให้ไปช่วยพวกมัน ส่วนกองกำลังหมาป่าถอยออกมากลับมารวมที่เขตย่านการค้า ป้องกันตามแนวสะพานไว้” ไนเรลสั่งออกมาไปอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้
ตอนนี้ถ้าไปช่วยกองกำลังพยัคฆ์ช้าไปเกรงว่ามนุษย์ชั้นสูงกว่า 500 คนในกองกำลังคงกลายเป็นอาหารปลาแน่นอน
ส่วนที่เขาไม่สั่งให้กองกำลังหมาป่าไปที่นั่นเพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร กองกำลังพยัคฆ์กับหมาป่าในตอนนี้ก็มีระดับเท่ากันดังนั้นต่อให้ส่งไปก็คงไปช่วยอะไรไม่ได้มาก
สู้ให้พวกมันมาคอยรับมือกับทางด้านเขตย่านการค้าที่มีกำแพงและรั้วรอบขอบชิดสามารถใช้ประโยชน์ต้านรับฝูงสัตว์กลายพันธุ์ได้ยังดีเสียกว่า
และที่ไนเรลคิดแบบนี้ก็เพราะว่าในเมื่อสัตว์กลายพันธุ์ขึ้นมาจากแม่น้ำทางด้านเขตอุตสาหกรรม แล้วทำไมพวกมันจะไม่ขึ้นมาทางด้านเขตย่านการค้า
อันที่จริงแล้วจากประสบการณ์ของไนเรลเขาก็พอจะรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้มีโอกาสเกิดขึ้น ได้ดังนั้นจังได้ปลูกต้นกาบหอยแครงปีศาจไว้ที่เขตย่านการค้าและสะพานที่เชื่อมสองฝั่งแม่น้ำ
แต่ก็ไม่ได้คิดว่าพวกฝูงสัตว์กลายพันธุ์จะไปโจมตีทางนั้น และจะเกิดขึ้นเร็วแบบนี้
“แจ้งไปให้คนงานทั้งหมดหยุดงานที่ทำแล้วกลับมารวมกันที่เขตย่านการค้า”
หลังจากที่สิ้นเสียงไนเรลไม่ทันจะเกินสองวินาที ด้านหลังของชายหนุ่มที่ล้านกว้าง ซึ่งมีต้นกาบหอยแครงปีศาจ ซากซอมบี้และคนงานที่ยกศพลงจากรถบรรทุกก็เกิดมีสัตว์กลายพันธุ์คานขึ้นจากน้ำจำนวนมาก
คนงานที่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่เห็นดังนั้นก็ขาสั่นหวาดกลัว พวกมันไม่กลัวจะยก จับ หรือขนศพซอมบี้ เข้าไปในแนวหลังเก็บซากศพแต่นั่นเพราะศพซอมบี้พวกนี้มันคือซากศพจริง ๆ
แต่ ณ ขณะนี้ด้านหน้าของพวกมันกลับมีสัตว์กลายพันธุ์ที่ไม่ได้ต่างจากสัตว์ประหลาดในสายตาของพวกมันเลยแม้ แต่น้ำกำลังคานขึ้นมาจากแม่น้ำที่เชี่ยวกรากท่ามกลางฝน
ภาพตรงหน้าเป็นเหมือนกับเงาความตายกำลังเดินเข้ามาหาพวกมันเรื่อย ๆ ไม่รอช้าเสียงแจ้งเตือนจากซีโร่ตามอุปกรณ์ข้อมือของพวกมันก็ดังขึ้น พร้อมกันนั้นรถบรรทุกมีอยู่หลายคันก็พากันสตาร์ทเครื่องเตรียมขับหนีเข้าไปในเขตย่านการค้าที่ซึ่งปลอดภัยเต็มที่
คนงานที่เห็นดังนั้นก็พากันกระโดดขึ้นไปบนรถหมอบอยู่กับซากศพที่ยังขนลงไม่หมด โดยไม่มีท่าทีรังเกียจเลยแม้แต่น้อย
ไนเรลเองก็ไม่รอช้าวิ่งตรงเข้าไปที่ริมฝั่งแม่น้ำ เพื่อจะให้คนงานและรถบรรทุกถอยกลับมาได้
เท้าที่ก้าวแต่ละก้าวทิ้งระยะห่างกันหลายเมตร เคลื่อนที่รวดเร็วเข้าหาสัตว์น้ำกลายพันธุ์ แผ่นหลังของชายหนุ่มกลางปีกออกมาอย่างเต็มที่ช่วยให้โผบินปะทะกับสัตว์กลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้ที่สุด
รูปร่างของสัตว์กลายพันธุ์ฝูงที่อยู้ข้างหน้าไนเรลมันเหมือนกับปูยักษ์ขนาดใหญ่กว่า 5 เมตร มีกระดองที่เป็นเกราะหุ้มสีดำทมิฬน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
แต่ที่ดูน่ากลัวไปกว่านั้นคือกล้ามทั้งสองข้างที่ข้างหนึ่งมีพละกำลังมาหาศาล อีกข้างก็เหมือนกรรไรที่คมกริบ
ดวงตาที่โผล่พ้นขึ้นมาสองแสงสีแดงไม่ต่างจากพลุสัญญาณที่เขาพึ่งเห็น
แต่ถึงรูปร่างของพวกมันจะดูน่าเกรงขามหวาดหวั่นสักเท่าใด แต่ด้วยระดับพลังของมันแค่ระดับ 2 ก็ไม่สามารถเป็นคู่มือไนเรลได้แม้แต่น้อย
และยิ่งคิดว่ามันจะอาศัยจำนวนเข้าสู้ก็ยากเพราะไนเรลมีต้นกาบหอยแครงปีศาจอยู่ถึง 400 ต้น เขาไม่ต้องควบคุมทุกต้นเพียงปล่อยให้พวกกาบหอยแครงปีศาจโจมตีด้วยตนเองซึ่งลดภาระพลังงานของเขาไปจำนวนมาก
ไนเรลหยิบดาบออกมา ซึ่งเป็นดาบที่ได้มาจากเมสันเป็นดาบระดับ 4 ที่ทำมาจากหางของจิ้งจกหางหอก มันเหมาะที่จะใช้เป็นดาบชั่วคราวจนกว่าเมสันจะหลอมดาบของเขาจากกางเขนมนุษย์ใหม่
ไนเรลผ่าพวกมันขาดเป็นสองทอนจากนั้นก็ผ่าตัวต่อไปและต่อไปไล่ตามแนวแม่น้ำ ถึงจะบอกว่าเป็นแค่ระดับ 2 แต่กระดองปูของพวกมันแข็งและทนกว่าหนังสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 3 บางชนิดเสียอีก
ต้นกาบหอยแครงปีศาจที่ไนเรลลงทุนลงแรงปลูกไว้ก็ไม่เสียเปล่า เริ่มแสดงความสามารถออกให้เห็นอย่างชัดเจน
หนวดที่ยาวนับไม่ถ้วนตามต้นของมันจับไปที่ตัวของปูยักษ์ระดับต่ำจนขยับตัวไม่ได้ ถึงปูที่โดนจับจะสามารถใช้กล้ามตัดหนวดที่พันอยู่รอบ ๆ ขาดออกจากัน แต่ก็จะมีหนวดเส้นอื่นเข้ามาจับพวกมันแทน
จึงทำให้พวกปูที่โดนจับตอบโต้ได้ยากและโดนปิดฉากด้วยการฉีกร่างตายทั้งเป็น
ต้นกาบหอยแครงปีศาจเมื่อฆ่าปูพวกนี้แล้วก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งให้เสียของจัดการกลืนกินไปทั้งกระดองเพิ่มพลังให้กับตัวเองได้
ไนเรลที่มองดูภาพตรงหน้าก็รู้ว่าตอนนี้ทางนี้คงยังสามารถรับมือไปได้สักพัก เพราะเขายังไม่เห็นพวกระดับสูงออกมา จึงคิดว่าควรที่จะไปช่วยทางด้านของคูเปอร์ก่อน
แต่แน่นอนว่าไนเรลไม่ได้ไปตัวเปล่า เพราะเขาเข้าไปเอาปืนเรียวกันทั้ง 10 กระบอกและกระสุนที่เกือบ 5,000 นัดไปด้วยและรีบบินออกไปทันที
ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลและความเร็วของไนเรล ไม่นานเขาก็มาถึงจุดที่คูเปอร์ขอความช่วยเหลือ ทันทีที่เห็นภาพตรงหน้าทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
ปูยักษ์กลายพันธุ์ที่เดินขึ้นมาจากน้ำอย่างต่อเนื่องพวกมันคือสายพันธุ์เดียวกับที่ไนเรลฆ่าเมื่อสักครู่ แต่จำนวนของมันมากกว่า ถ้านับจากสายตาคงมีไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นตัวและยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ในฝูงของปูยักษ์กลายพันธุ์ไม่ได้มีแค่พวกระดับ 2 เท่านั้น แต่ยังมีระดับ 3 และ 4 อีกด้วย
เป้าหมายของพวกมันได้เจาะจงมาที่กลุ่มของคูเปอร์เท่านั้น แต่เลือกที่จะจับกินทุกอย่าง แม้แต่พวกเดียวกันเองที่อ่อนแอก็โดนรุมกินอย่างโหดร้าย ปูยักษ์ยังคงกระจายตัวและขึ้นฝั่งท่ามกลางสายฝนอย่างต่อเนื่อง
แต่มีจุดหนึ่งที่พวกมันไปรวมตัวกันนั้นก็คือ บริเวณโรงงานเครื่องจักรแห่งหนึ่ง เป็นตึงสูงสามชั้นด้านบนจะเห็นสัญญาณพลุไฟสีแดงยิ่งออกมาเป็นระยะ เพื่อเป็นการบอกตำแหน่งและทำให้มองเห็นบริเวณรอบ
ด้านล่างและตามตัวอาคารมีปูยักษ์กลายพันธุ์จำนวนไม่ต่ำกว่าพันกำลังปีนไต่ไปตามกำแพงถึงขึ้นไปหากองกำลังพยัคฆ์ ขณะที่คนด้านบนก็ทำทุกวิถีทางในการฆ่าหรือไม่ก็ผลักมันตกลงมา
ถ้าเกิดยังคงโดนโจมตีแบบนี้ต่อไป ไม่ต้องรอให้พวกเขาตายหมดอาคารก็คงจะโดนปูที่ปีนไต่ยึดเกาะจนพังถล่มลงมาก่อนอย่างแน่นอน
ไนเรลบินลงจากท้องฟ้าไปหาคูเปอร์ที่พึ่งจะฆ่าปูกลายพันธุ์ระดับ 3 ตัวหนึ่ง รอบด้านมีเอมเบอร์และทหารในกองกำลังพยัคฆ์ที่ยังรอดอยู่กว่า 500 นาย สภาพของพวกเขาดูอนาจพอสมควร
เพราะความเหนื่อยล้าจากที่สะสมฆ่าซอมบี้มาทั้งวัน อีกทั้งต้องมาสู้กับสัตว์น้ำกลายพันธุ์อย่างปูกลายพันธุ์ไม่หยุดพัก
“ไนเรล”
“ท่านไนเรล”
“ท่านประธาน”
ทุกคนที่เห็นไนเรลมาถึงก็พากันดีใจ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นว่าไนเรลมาก็หมายความว่าพวกมันรอดแล้ว
ไนเรลไม่พูดมากนำปืนเรียวกันทั้ง 10 กระบอกและกระสุนออกมาส่งมันให้กับคูเปอร์และเอมเบอร์ “หาคน 10 คนรั้งท้ายไว้ไว้ ฉันจะเปิดทางให้คนที่เหลือรีบตามออกมา ห่างจากที่นี่ไปไม่ไกลมีกองกำลังผู้พิทักษ์รอรับอยู่”
ทุกคนพยักหน้าในตอนนั้นเองกลุ่มของกองกำลังเวหาที่นำโดยอลิสซ่าก็บินลงมาสมทบช่วยเช่นกัน อลิสซ่าเห็นไนเรลก็รีบเข้ามาทักทาย โดยมีไนเรลพยักหน้ารับและบอกให้พวกเธอคอยช่วยดูสถานการณ์ด้านบนให้กับคูเปอร์
หลังจากเตรียมพร้อมกันอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่นาที โดยคูเปอร์อาสาจะรั้งท้าย พร้อมกับคนอีก 4 คนที่ถือปืนเรียวกันด้วยความตื่นเต้น เนื่องจากว่าอลิสซ่ามาดังนั้นไนเรลจึงแบ่งปืนเรียวกันให้พวกเธอใช้โจมตีจากด้านบนอีก 5 กระบอก ซึ่งมันน่าจะมีประสิทธิภาพกว่าการที่จะให้ปืนอยู่ด้านล่างอย่างเดียว
ไนเรลหันไปมองทุกคนอีกครั้ง คูเปอร์ก็พยักหน้าให้เป็นการบอกว่าพร้อมแล้ว ทางด้านของอลิสซ่าและคนในกองกังเวหาอีกพร้อมด้วยปืนก็บินขึ้นท้องฟ้าเหนือปูกลายพันธุ์ เปิดฉากยิงใส่เน้นไปที่สังหารอย่างไม่หยุดพัก
ไนเรลเองก็ลงมือฆ่าพวกมันด้วยเปลวไฟ เปิดเส้นทางยาวตรงไปหลายเมตรโดยเหลือทั้งไว้พียงซากปูยักษ์ที่โดนเผาส่งกลิ่นหอมออกมา
ถึงกลิ่นจะหอมและคนส่วนใหญ่จะกลืนน้ำลาย แต่ก็ไม่มีใครโง่พอที่จะแตกแถวออกไปกินปูพวกนั้น เพราะไม่แน่ว่าพวกมันอาจจะโดนกินซะเอง เนื่องจากทันทีที่ปูยักษ์โดนไนเรลสังหารเปิดทางคนในกองกำลังทั้ง 500 ก็วิ่งกระโดดลงจากชั้นสามตรงออกไปอย่างสุดชีวิต
หลายคนที่ไม่ได้มีความสามารถพอในการกระโดดจากที่สูงขนาดนั้นก็มีคนในกองกำลังเข้าช่วย โดยเฉพาะพวกคนบาดเจ็บจะอยู่ตรงกลางส่วนคนที่ยังสู้ไหวจะอยู่ขนาบสองข้าง
ด้านหลังคูเปอร์และอลิสซ่ากับคนอีกกลุ่มที่มีปืนต่างพากันยิงใส่ปูยักษ์ที่ตรงเข้าหาพวกเขาอย่างบ้าคลั่ง ไม่รู้เพราะพวกมันคิดว่าเนื้อซอมี้ไม่อร่อย หรือเพราะเนื้อของพวกเขามันสดใหม่กันแน่ ปูยักษ์พวกนี้ถึงจ้องจะกินพวกเขาถึงขนาดนี้
“ตายไปซะ”
“ทั้งชีวิตฉันกินแต่ปู แต่ไม่เคยโดนปูกินและวันนี้ก็เช่นกัน”
“เอานี่ไปกิน”
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนเรียวกันที่ยิงออกไปคล้ายดั่งเหล็กที่ดีดตัวยิงเข้าใส่กระดองปูยักษ์อย่างต่อเนื่อง สังหารปูระดับ 3 เพียงไม่กี่นัดก็ฆ่ามันตาย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงปูระดับ 2 เลยที่โดนยิ่งทะลุตายอย่างต่อเนื่อง
แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้รั้งรอยิงไปก็ถอยไปตามกองกำลังทั้ง 500 ไปเช่นกัน
ถึงแม้ว่าด้านหน้าจะมีไนเรลเปิดทางอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังมีปูยักษ์กลายพันธุ์โจมตีจากด้านข้างกองกลำลังที่เคลื่อนตัวอยู่ จึงทำให้มนุษย์ชั้นสูงในกองกำลังพยัคฆ์ต้องดูแลตัวเองเช่นกัน
เพราะไม่เช่นนั้นจะโดนฆ่าตายแบบมนุษย์ชั้นสูงคนเมื่อสักครู่ที่โดนกล้ามปูจับงับร่างขาดครึ่งโดนกินตกตายไปทันที แต่ถึงจะเห็นว่าคนในกองกำลังจะตายไป แต่ถึงอย่างไรกว่าพวกเขาจะอยู่ในกองกำลังพยัคฆ์ก็ต้องเจอกับความตายมานับไม่ถ้วน
เมื่อเห็นว่ามีปูยักษ์ระดับ 3 เข้ามาก็พากันกระโจนใส่เข้าสังหารมันอย่างเลือดเย็นไม่ต่างจากที่มันสังหารพวกเขาเช่นกัน
ในขณะที่ฝูงปูยักษ์กำลังไล่ตามกองกำลังพยัคฆ์ ทางด้านแม่น้ำก็มีสัตว์กลายพันธุ์อีกหนึ่งชนิดขึ้นมาร่วมวงสังหารในครั้งนี้ด้วย คือฝูงปลาตะเพียนกลายพันธุ์ ถึงพวกมันจะไม่สามารถขึ้นมาบนบกเหมือนปูยักษ์พวกนี้ แต่มันก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นมา เพราะพวกมันเลือกจะโจมตีพวกปูยักษ์ที่อยู่ตามริมฝั่งและในน้ำ
พวกมันมีฟันแหลมคน แม้แต่กระดองปูสีทมิฬของพวกมันก็ยังต้องแหลก พวกปูยักษ์ที่โดนโจมตีเองก็ไม่คิดจะโดนกินมันจึงกัดกันฝูงปลาเช่นกัน
นั้นยิ่งทำให้เลือดหลั่งไหลไปตามแม่น้ำมากขึ้น ดึงดูดสัตว์น้ำที่กระหายเลือดมาร่วมวงอีกจำนวนมากจนไม่รู้ว่ามีสัตว์กลายพันธุ์อยู่กี่ชนิดกันแน่
แต่ที่แน่ ๆ คือตอนนี้มันกลายเป็นการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดไปแล้ว เพราะถ้าไม่กินก็จะถูกกิน นั้นทำให้ทางด้านของไนเรลและกองกำลังพยัคฆ์ถอยออกมาจากกลางดงสังหารได้ง่ายขึ้น
