Ep.782 - ช่วยชีวิต

2/6

Ep.782 - ช่วยชีวิต

ไป๋หลีเปิดช่องว่างมิติอีกครั้ง พาฉินเฟิงไปปรากฏตัวในสภาพแวดล้อมใหม่

จากนั้นเธอก็ไม่ต้องเปิดช่องว่างมิติอีกแล้ว ไป๋หลีคว้าฉินเฟิง ร่างของเธอวูบไหว เทเลพอร์ตอยู่หลายครั้ง ในที่สุดก็พบเป้าหมาย

ภาพเบื้องหน้า ราวกับทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยภาพลวงตา

เมืองฉงโหลวก็ยังคงอยู่ดังเดิม แต่ขณะเดียวกัน กลางเมืองกลับปรากฏต้นไม้ใหญ่ กำลังทุบทำลายตึกอย่างบ้าคลั่ง คราคร่ำไปด้วยสัตว์ร้ายจำนวนมาก

นอกเมือง ปรากฏหมอกสีเทาเป็นชั้นๆคอยโอบล้อม ยิ่งทำให้มันดูเหมือนภาพลวงตามากกว่าเดิม

ทว่า ณ ขณะนี้ นอกจากฉินเฟิงแล้ว ยังปรากฏคนอีกกลุ่มหนึ่งมาออรวมกันอยู่ข้างนอกมิติทับซ้อน

โดยเบื้องหน้าพวกเขา เป็นมิติทับซ้อนซึ่งภายในมีสัตว์ร้ายที่ครอบครองเขี้ยวและกรงเล็บอันแหลมคม นอนเฝ้าอาณาเขตของมันอยู่

แต่สัตว์ร้ายตัวนี้ไม่ได้แข็งแกร่งมากมายอะไร เป็นแค่ราชันย์เลเวล C เท่านั้น

“ทดลองส่งเหยื่อเข้าไป!” ผู้ใช้พลังคนหนึ่งกล่าวขึ้น

เมื่อได้ยินคำสั่ง คนอื่นๆก็ปล่อยหมูสัตว์ร้ายเลเวล D ที่มีขนาดตัวใหญ่โตกว่าหนึ่งเมตรทันที มันพุ่งเข้าไปในขอบหมอกสีเทา ตะบึงผ่านไป แต่สักพักหนึ่ง

“อู๊ดดด!!”

หมูสัตว์ร้ายส่งเสียงร้องน่าเวทนา เมื่อมันเข้าไปถึงด้านในของหมอก อันที่จริง สมควรอธิบายว่าชั้นหมอกนี้เป็นเหมือนกำแพงอุปสรรคจะเข้าใจง่ายกว่า อีกด้านหนึ่งของกำแพงหมอก ราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C ตื่นตัวทันที สายตาของมันจับต้องไปที่หมูสัตว์ร้าย ก่อนผุดลุกขึ้นด้วยความโกรธ

ราชันย์เลเวล C กระโจนเข้าไล่ล่ามันทันที หมูสัตว์ร้ายไม่ได้ครอบครองสติปัญญาอะไรมากมาย เมื่อถูกไล่ก็ตัดสินใจหันหลังวิ่งกลับมา เพียงแต่ว่า--

--หลังจากมันปะทะกับกำแพงหมอกอีกครั้ง หมูสัตว์ร้ายพลันหายวับไปทันที ราชันย์สัตว์ร้าย เลเวล C ที่ไล่ตามมา ก็หายไปด้วยเช่นกัน ราวกับว่าสัตว์ร้ายสองตัวนี้ ถูกส่งไปยังอีกจุดหนึ่ง

หลังจากนั้นไม่นาน ราชันย์เลเวล C เหมือนว่าสามารถสังหารเหยื่อของมันได้แล้ว หลังรับประทานอาหารอิ่มหนำ ก็วิ่งกลับมานอนหมอบในตำแหน่งเดิมอย่างสบายอารมณ์

ยังไงก็ตาม เหล่าผู้ใช้พลัง เมื่อเห็นว่าราชันย์เลเวล C ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง พวกเขากลับไม่ตกใจเลย คล้ายกับว่ารู้อยู่แล้วว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

ราชันย์เลเวล C กับพวกเขาไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกัน ดังนั้นมันไม่สามารถคุกคามพวกเขาได้ อย่างไรก็ตาม สีหน้าของทุกคนในเวลานี้ น่าเกลียดไม่ต่างกัน

“ดูนั่น! มันขยายขึ้นอีกแล้ว!”

“น่าจะกว้างขึ้นราวๆ 1 เมตร ”

“แต่เวลาเพิ่งผ่านไปแค่ 10 นาทีเท่านั้นเอง”

ฉินเฟิงตั้งใจฟังอยู่พักหนึ่ง ก็เข้าใจว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ที่แท้พวกเขาก็กำลังคำนวณเวลาที่ราชันย์สัตว์ร้ายหายตัวไปและกลับมา กับคอยวัดระยะของมิติทับซ้อน

และข้อมูลเรื่องที่ว่ามิติทับซ้อนกำลังขยายอาณาเขตอย่างต่อเนื่องถือเป็นข่าวร้ายที่สุดที่ได้ยินมา!

ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้

“มาแล้ว! เครื่องจักรมาถึงแล้ว!”

“เร็วเข้า รีบติดตั้งมันเลย!”

“แต่มันจะได้ผลหรือ? เพราะก่อนหน้านี้เมืองฉงโหลวก็มีอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันมิติทับซ้อนได้”

“หุบปากเถอะน่า อย่ายอมละทิ้งความหวังสิ!”

ทั้งกลุ่มโต้เถียงกัน ติดตั้งอุปกรณ์รักษาเสถียรภาพมิติอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่ว่า ผลลัพธ์คือไร้ประโยชน์อยู่ดี

ฉินเฟิงพอจะเดาได้อยู่แล้ว เพราะห้องทดลองของแซดเองก็น่าจะอยู่ใกล้ๆแถวนี้เหมือนกัน หากใช้อุปกรณ์ตรงหน้ากำจัดมิติทับซ้อนได้ ห้องทดลองของแซดที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้ากว่าปัจจุบันอย่างน้อยเป็น 10 ปี จะไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้อย่างไร?

ในตอนนั้นเอง จากระยะไกล ภายในมิติทับซ้อน มองไปยังประตูเมืองฉงโหลว จู่ๆก็พบคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งหนีออกมาอย่างกะทันหัน

กลุ่มที่กำลังหลบหนีล้วนติดตราผู้ใช้พลังบนอกเขา เกือบทั้งหมดอยู่ในเลเวล C แต่มีเลเวล B อยู่ในกลุ่มเช่นกัน เขากำลังถืออาวุธอยู่ในมือ ทว่านั่นไม่ใช่อาวุธปืน แต่เป็นมีดพร้าที่สามารถหาซื้อได้ในราคาไม่กี่สิบเหรียญจากร้านขายอุปกรณ์ระดับต่ำ

พวกเขารวมตัวกัน และหากมองดีๆจะสังเกตเห็นว่ามีคนท่าทางอ่อนแออยู่ตรงกลาง ไม่ต้องคาดเดาก็รู้ เกรงว่านั่นคงไม่พ้นเป็นผู้ใช้อบิลิตี้!

อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ผู้ใช้อบิลิตี้กลับกลายเป็นการดำรงอยู่ที่ไร้ประโยชน์ที่สุด!!

“ดูนั่น! ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นพวกทหารสักกองหนึ่งจากเมืองฉงโหลว!”

บางคนสามารถระบุสถานะของคนกลุ่มที่กำลังหลบหนีได้ทันที

ผู้นำของเมืองฉงโหลวคือเลเวล A แต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ให้ความสนใจใดๆเกี่ยวกับการบริหารเมืองฉงโหลว เนื่องจากเดิมทีเขามีกลุ่มองค์กรเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เพียงบังเอิญได้รับหน้าที่เป็นเจ้าเมืองก็เท่านั้น

เมื่อมีเจ้าเมืองเช่นนี้ คนอื่นๆที่ได้รับตำแหน่งระดับสูงในเมือง ก็เลยมีเลเวลสูงสุดอยู่แค่ B

ฉะนั้น กล่าวได้ว่าในผู้ใช้พลังกลุ่มนี้ คือหนึ่งในการดำรงอยู่ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแล้ว

พวกเขาจึงสามารถหลบหนีจากทุ่งสังหารในเมืองมาได้ โดยอาศัยพละกำลังของผู้ใช้วรยุทธโบราณที่ฝึกฝนเทคนิคคู่ขนาน แม้จำนวนพวกเขาเบื้องหน้าจะเป็นแค่เศษเสี้ยวแค่ 1/100 ของกองทัพ แต่ในปัจจุบัน ถือเป็นกำลังรบที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองแล้ว

คนกลุ่มนี้วิ่งหนีอย่างบ้าคลั่ง  เนื่องจากไม่มีพลังสมาธิและความสามารถในการรับรู้ พวกเขาเลยไม่สามารถรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ หลังจากวิ่งออกมา เห็นได้ชัดว่าอยู่ห่างจากกลุ่มของฉินเฟิงที่รออยู่ภายนอกเพียง 100 เมตร  แต่สายตาที่มองมาข้างหน้ากลับเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ฉินเฟิงไม่รู้ว่าในสายตาคนเหล่านี้กำลังเห็นทิวทัศน์เป็นแบบไหน ถึงได้แสดงหน้าตาและท่าทีเช่นนี้ออกมา

บางที ในสายตาพวกเขา อาจเห็นแค่ทิวทัศน์ของในมิติทับซ้อนเท่านั้นก็ได้

เมื่อถึงจุดนี้ ราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C ตัวเดิมก็เริ่มขยับอีกครั้ง

เหยื่อใหม่ของมัน ได้ปรากฏตัวแล้ว!

ผู้ใช้พลังที่อยู่ข้างฉินเฟิงในเวลานี้ เริ่มตื่นตระหนก

“เร็วเข้า เร็วๆๆ บ้าเอ๊ยทำไมมันถึงไม่ได้ผลนะ!”

“ช่วยคน! ต้องรีบช่วยพวกเขา!”

“แล้วจะให้ช่วยยังไง??”

คนเหล่านี้ไม่ต่างจากมดถูกต้มในหม้อเดือด ทั้งหมดร้อนรน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้

ในเวลานั้นเอง ฉินเฟิงเริ่มก้าวออกไป

คนอื่นๆเพิ่งสังเกตเห็นฉินเฟิง แต่เมื่อพบว่าฉินเฟิงก้าวต่อไปไม่มีท่าทีว่าจะหยุด สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป

“นั่นนายคิดจะทำอะไร? กลับมาเดี๋ยวนี้!”

“หยุดนะ จะเข้าไปไม่ได้ มันอันตราย!”

“ได้โปรดอย่าสร้างปัญหาอีกเลย แค่นี้ก็เกิดการสูญเสียมากพอแล้ว นายเข้าไปก็ไม่สามารถช่วยพวกเขาได้หรอก!”

ผู้ใช้พลังหลายคนที่อยู่ภายนอกพยายามโน้มน้าวเขา ขณะเดียวกันที่ภายใน ราชันย์สัตว์ร้ายได้กระโจนเข้าหากลุ่มผู้ใช้พลังแล้ว ผู้ใช้วรยุทธโบราณหลายคนไม่อาจสกัดมันได้ สัตว์ร้ายตะปบกรงเล็บอันแหลมคมของมันทันที หนึ่งในผู้ใช้พลังเลเวล B บนร่างของเขาเกิดแผลเหวอะ ลึกจนเห็นกระดูก

ผู้ใช้พลังเลเวล B คนนั้นดวงตาเบิกกว้าง บังเกิดความไม่ยินยอมอย่างถึงที่สุดในแววตาของเขา

เขาเป็นผู้ใช้พลังเลเวล B ขณะที่ราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C ก่อนหน้านี้เขาเคยสังหารพวกมันมานับไม่ถ้วน แม้ไม่ถึงหมื่น แต่ก็หลักหลายพัน ทว่าตอนนี้พวกมันกลับแข็งแกร่งกว่า!

หากตอนนี้เขาอยู่ภายนอก ราชันย์เลเวล C ไม่แม้จะสามารถสร้างรอยขีดข่วนให้แก่เขา และต่อให้ตนได้รับบาดเจ็บเช่นนี้ ก็ยังสามารถอาศัยพลังสมาธิอันแข็งแกร่งรักษาชีวิตเอาไว้ได้ มันจะช่วยรักษาฟื้นฟู ไม่ปล่อยให้เขาตาย

แต่ตอนนี้ ความสามารถที่ว่าได้หายไป พลังสมาธิไม่อาจปลดปล่อยออกมาได้ ตั้งแต่ร่างกายยันภูมิคุ้มกันคล้ายอ่อนแอลง สภาพเช่นนี้ ความเร็วในการฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บย่อมถดถอยลงอย่างไม่น่าเชื่อ

--เขากำลังจะตาย!

ผู้ใช้พลังเลเวล B ไม่เคยคาดฝันเลยว่าตนจะพบเจอกับเรื่องเช่นนี้

แต่ในตอนนั้นเอง ระหว่างเขาถูกโจมตีและปลิวขึ้นไปในอากาศ สายตาพลันสังเกตเห็นว่าในระยะที่ห่างออกไปราวๆ 100 เมตร ปรากฏร่างของมนุษย์ขึ้น

อีกฝ่ายกุมอาวุธไว้ในมือ มันลุกโชนไปด้วยเปลวไฟสีดำ แต่พอก้าวข้ามเข้ามาในมิตินี้ เพลิงทมิฬกลับมอดดับ กลับกลายเป็นมีดด้ามยาวที่ดูหนักมากๆ

อย่างไรก็ตาม คนๆนั้นยังคงพุ่งมาข้างหน้าโดยไม่คิดหันหลังกลับ

เขามิได้ใช้ออกด้วยพลังสมาธิ หรือกระบวนท่าวรยุทธใดๆ อาศัยสองเท้าวิ่งตรงเข้ามา ระยะทาง 100 เมตรสำหรับฉินเฟิง ใช้เวลาเพียง 2 วินาทีก็ถึงแล้ว!

มีดกษัตริย์ครามในมือเขา แม้มันจักสูญสิ้นเพลิงทมิฬ แต่ดูเหมือนว่า ด้วยคุณสมบัติที่หนักหมื่นชั่งและสั่นสะเทือนพันครั้ง--

--จะยังคงอยู่!