ตอนที่แล้วบทที่ 34 เพื่อน (3)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 36 เพื่อน (5)

บทที่ 35 เพื่อน(4)


'มันคืออะไรกัน?'

เชพเพิร์ดยังคงไม่มั่นคง

เขารู้สึกว่าตัวเองเข้าใจผิดหลังจากได้ยินคำพูดของเฟรย์

อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ทำให้ความสงสัยของเขาหมดไปและเขายังคงรู้สึกเหมือนว่าเขาควบคุมกระแสของการสนทนาได้อยู่

ข้อเท็จจริงนั้นสำคัญมาก แต่ทันใดนั้นกระแสก็เปลี่ยนไป

เมื่อเขาพูดถึงเดมิก็อดความระมัดระวังบนใบหน้าของเฟรย์ก็หายไปราวกับว่ามันถูกชะล้างออกไป

แม้กระทั่งรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขา

แน่นอนว่ารอยยิ้มนั้นหายไปอย่างรวดเร็วทันที่ที่มันปรากฏ

"ได้โปรดพูดต่อไปเถอะครับ"

“…นายรู้จักเดมิก็อดไหม?”

หากเขาไม่รู้ปฏิกิริยาของเขาคงจะไม่สามารถอธิบายได้

เฟรย์พยักหน้า

"เล็กน้อย"

“รู้ได้ยังไง?”

“เมื่อฉันได้ต่างหูคู่นี้ มันมีข้อความของชไวเซอร์อยู่ใกล้ๆ พวกมัน”

เชพเพิร์ดตกใจ

“บะะ...บันทึกของชไวเซอร์? นายยังมีอยู่ไหม?”

"ก็นะแต่ก่อนอื่นผมอยากฟังเรื่องราวของคุณก่อน”

“…”

เชพเพิร์ดถูกบังคับให้ยอมรับว่าเขาแพ้ในการต่อรองนี้ ตอนนี้เขาทำได้เพียงกลืนคำถามของเขาและดำเนินเรื่องของเขาต่อไป

"…ได้ เดมิก็อดเป็ณสิ่งมีชีวิตครึ่งเทพที่อยู่เหนือมนุษย์ ไม่มีทางที่เราจะรู้ได้ว่ามีอยู่กี่คนหรือมีพลังอำนาจมากแค่ไหน อย่างไรก็ตามพวกเขาได้เปิดเผยพลังเพียงเล็กน้อยของพวกเขาแค่เพียงพอในการครองทวีปเท่านั้น”

แน่นอนว่าพวกเขามีจำนวนไม่มากนัก

เฟรย์รู้ดีว่าตัวเลขของพวกเขานั้นไม่น่าจะเกินหนึ่งร้อยคน

อย่างไรก็ตามทุกคนมีพลังมากจนเรียกได้ว่าเป็นหายนะและไม่ใช่เรื่องเกินจริง

“เราไม่รู้ว่ามีอยู่กี่คนจุดประสงค์ก็คืออะไรหรือทำไมพวกเขาถึงเลือกที่จะซ่อนไว้ แต่มีบางสิ่งที่เรามั่นใจได้”

เชพเพิร์ดมองจมลงไป

“มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะกวาดล้างทุกเผ่าพันธุ์นอกเหนือจากตัวเอง…และมันก็เคยทำมาแล้วหลายครั้ง”

พวกเขารู้ถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดก็เพียงพอแล้ว

“4,000 ปีก่อนมีวีรบุรุษห้าคนที่ต่อสู้กับพวกเขาอย่างกล้าหาญ”

เชพเพิร์ดได้บอกรายละเอียดของแต่ละคน

มหาจอมเวทย์ มหานักปราชญ์ ราชานักรบเวทมนตร์ ราชาดาบ และแม่มดดำ

“แต่หลังจากที่ลูคัสหายตัวไปความสัมพันธ์ระหว่างคนอื่นๆ ก็ร้าวฉาน มีการต่อสู้ระหว่างราชานักรบเวทมนตร์และราชาดาบ แม่มดดำหายตัวไปและมหานักปราชญ์ก็พยายามดิ้นรนด้วยตัวเอง แต่แค่นั้นมันยังไม่เพียงพอ นั่นคือช่วงเวลาที่กลุ่มกบฏที่มีอำนาจมากที่สุดกับเดมิก็อดได้หายไปจากประวัติศาสตร์”

เชพเพิร์ดพูดแบบนี้และชี้ไปที่รอยสักของเขาและรอยสักเวทมนตร์ก็ส่องแสงเล็กน้อยราวกับเป็นการตอบสนอง

“เซอร์เคิลของเราเป็นองค์กรที่สืบทอดเจตจำนงของพวกเขา”

เฟรย์ไม่ได้คาดคิดว่าเชพเพิร์ดจะอ้างตัวเองว่าเป็นผู้สืบทอด

เขารู้สึกแปลกๆ

“เซอร์เคิลเป็นชื่อขององค์กรหรือ?”

“นั่นเป็นวิธีที่เรามักเรียกกัน แต่จริงๆแล้วมันซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อย เมื่อหลายปีผ่านไปเจตจำนงของเซอร์เคิลนั้นไม่สามารถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้”

“…มีหลากหลายเซอร์เคิลเหรอ?”

"ในทางหนึง โดยพื้นฐานแล้วพวกเขา ... คอยตรวจสอบซึ่งกันและกัน”

เฟรย์ไม่รู้จะพูดอะไร เขาพูดไม่ออก

พวกเขากำลังทำอะไรในเวลานี้? โอกาสในการชนะนั้นต่ำมากแม้ว่าพวกเขาจะรวมตัวกันก็ตาม

เชพเพิร์ดถอนหายใจราวกับว่าเขาสังเกตเห็นความคิดของเฟรย์

“มีเซอร์เคิลใหญ่และเล็กมากมาย แต่เซอร์เคิลที่ใหญ่ที่สุดในปัจจุบันคือสโตรว์เน็คลิซ ไพลส์ฟาวเดอร์อาร์เมลท์ และลูซิดซอร์ด”

“…”

เป็นชื่อที่คุ้นเคย

พวกเขาเป็นเหมือนสโมสรในสถาบันเวสต์โร้ด

นอกเหนือจากนั้นยังคงมีคำถาม

ทำไมไม่มีอีกสองชื่อที่เหลือ

“…ฉันไม่รู้เกี่ยวกับเซอร์เคิลอื่นๆ มากนักแต่ฉันได้ยินมาว่าสถานการณ์ปัจจุบันของโทร์วแมนริงส์นั้นไม่ค่อยจะดีนัก มีข่าวลือว่าพวกเขากำลังจะยุบ ไม่นานมานี้เซอร์เคิลมาสเตอร์ได้เสียชีวิตและครึ่งหนึ่งของผู้บริหารก็ย้ายไปอยู่กับเซอร์เคิลอื่น”

“แล้วราชานักรบเวทมนตร์คาซาจินล่ะ?”

“วรยุทธของกษัตริย์คาซาจินกล่าวกันว่าถูกส่งต่อไปทีละคน แต่ไม่มีผู้สืบทอดปรากฏตัวออกมานานแล้ว เรากำลังมองหาเบาะแส แต่จนถึงขณะนี้เรายังไม่พบอะไรเลย”

“ความสัมพันธ์นี้เกี่ยวอะไรกับสโมสรต่างๆในสถาบันการศึกษา?”

เชพเพิร์ดหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า

“สมาชิกชมรมส่วนใหญ่ไม่รู้ถึงการมีอยู่ของเรา แต่เรารู้ว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นใคร เซอร์เคิลต้องการคนเก่งอยู่เสมอ หากใครโดดเด่นในสโมสรเราก็จะเข้าไปหาพวกเขาก่อน”

“มันจำเป็นต้องเลือกชื่อเดียวกันด้วยหรือ?”

“มันดูเรียบง่ายในตอนแรก แต่มันก็ใช้ได้ผลจริงๆ ในความเป็นจริงมีหลายกลุ่มที่มีชื่อคล้ายๆกันทั่วทวีปและมีประโยชน์มากๆ ท้ายที่สุดมันช่วยให้หลบสายตาและหูของเดมิก็อดที่อาจจะอยู่ที่ไหนก็ได้”

เขาพูดอย่างใจเย็น แต่ความจริงแล้วในใจของเขากระสับกระส่ายเล็กน้อย

หากพวกเดมิก็อดเกิดรู้ความจริงชีวิตของพวกเขาก็จะจบลงอย่างง่ายดายเหมือนแมลง

ในขณะที่รับรู้ข้อเท็จจริงนั้นการแสดงออกของเชพเพิร์ดก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

“อย่างที่ฉันบอกไปว่าเซอร์เคิลต่างๆจะคอยตรวจสอบกันและกัน ทศวรรษที่ผ่านไม่ได้มีแต่กลุ่มใหญ่เพียงสามกลุ่มแต่มีถึงสี่กลุ่มมันรวมถึงโทร์วแมนริงส์ด้วย”

หลังจากพูดแบบนั้นเขาก็มองเฟรย์ด้วยสายตาที่ซับซ้อน

“นั่นคือเหตุผลที่ฉันสับสน นายมีต่างหูไต้ฝุ่นดังนั้นฉันจึงคิดว่านายเป็นสมาชิกของโทร์วแมนริงส์”

จากสิ่งที่เขาได้ยินเฟรย์ก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจผิดได้โดยธรรมชาติ

อย่างไรก็ตามเฟรย์คลิกลิ้นของเขา

เป็นข่าวดีอย่างแน่นอนว่ามีกลุ่มที่เรียกตัวเองว่าเซอร์เคิลที่กำลังต่อต้านเหล่าเดมิก็อด แต่ข่าวร้ายก็คือพวกเขาไม่ได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว

เดมิก็อดไม่สามารถจัดการได้ด้วยการกระจายอำนาจ

“ฉันบอกนายทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ถึงตานายแล้ว นายได้ต่างหูที่เทือกเขาอิสปาเนียใช่หรือไม่?”

"ใช่"

“หืม…”

เชพเพิร์ดจมอยู่ในความคิดและเฟรย์ก็เดาได้จากการดูท่าทีของเขา

“นายรู้เรื่องนี้มาก่อนใช่ไหม?”

“ผมได้ยินข่าวลือว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะมีสิ่งประดิษฐ์ของเหล่าฮีโร่อยู่ที่นั่น แต่ในบรรดาผู้ที่ไปที่นั่นมีเพียงไม่กี่คนที่มีชีวิตรอดกลับมาและไม่มีหลักฐานที่จะแสดงให้เห็นได้”

นี่เป็นเรื่องธรรมชาติ

เฟรย์รู้ว่ามีดันเจี้ยนใต้ดินอยู่ใต้ทะเลสาบของภูเขาไฟบนภูเขาเดรกแต่คนอื่นๆ ไม่รู้เช่นนั้น

แม้แต่ภูเขาธรรมดาก็ยังค้นหาเป็นเวลานานทั้งๆที่มีคนมากกว่าร้อยคนก็ตาม แต่เทือกเขาอิสปาเนียที่ถูกเรียกว่าสวรรค์สำหรับสัตว์ประหลาดนั้นจะยากกว่ามากแค่ไหน

และแม้ว่าพวกเขาจะโชคดีพอที่จะพบดันเจี้ยนใต้ดิน แต่ก็ยังมีทอร์กุนทารอพวกเขาอยู่เมื่อพวกเขาออกไป

เฟรย์พูดหลังจากนั้น

“ต่างหูไต้ฝุ่นเป็นมรดกของลูคัส ถ้าผมมีสิ่งเหล่านี้นั่นหมายความว่าผมเป็นสมาชิกของโทร์วแมนริงส์เลยหรือเปล่า?”

"มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก"

“แล้วทำไมคุณถึงคิดผิดว่าผมเป็นพวกเดียวกับคุณ”

“ก็นายสวมมันด้วยความภาคภูมิใจ พวกเราส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของเซอร์เคิลของพวกเรา”

เฟรย์มองไปที่รอยสักของเชพเพิร์ด ซึ่งทำให้ชายคนนั้นหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ

“ฉันชื่นชมชไวเซอร์มากกว่าคนอื่นๆ ในโลกนี้”

'ยินดีด้วยนะชไวเซอร์'

เฟรย์จมอยู่ในความคิดชั่วขณะและแสดงความยินดีกับเพื่อนที่ตายไปนานแล้ว

'เซอร์เคิลหรือ? หึฉันไม่จำเป็นต้องกลับไปที่สถาบันแล้วเพราะฉันพบพวกเขาแล้ว'

ในตอนแรกเหตุผลที่เขาเลือกที่จะเรียนต่อที่สถาบันคือเขาต้องการได้รับความเข้าใจเกี่ยวกับโลกปัจจุบันและเขาตั้งใจที่จะค้นหาตัวตนที่แท้จริงของคณบดีไซริสทรีซไนน์ของสถาบัน

ตอนนี้เขาคิดออกได้บางส่วนแล้วเพราะเชพเพิร์ดแอบให้คำตอบเขาโดยไม่รู้ตัว

“ไซริสทรีซไนน์ คณบดีของสถาบันเวสต์โร้ด ความสามารถของเธอนั้นสูงกว่าที่เธอเปิดเผยต่อสาธารณชนมาก เธอเองก็อยู่ในเซอร์เคิลด้วยหรือ?”

“ฉันเชื่อว่าเธอเป็นหนึ่งในผู้บริหารของไพลส์ฟาวเดอร์อาร์เมลท์ ฉันเองก็ไม่รู้อะไรมากไปกว่านั้น”

เขาได้เรียนรู้แม้กระทั่งตัวตนของคณบดี เหตุผลเดียวที่แท้จริงของเขาในการกลับไปที่สถาบันได้หายไป

เฟรย์พยายามจัดระเบียบความคิดของเขา

เขารู้สึกได้ว่าเชพเพิร์ดยังคงมองเขาด้วยสายตาสงสัย

“มีอะไรอยากถามอีกไหม?”

“…ฉันต้องบอกว่าฉันอยากรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาของคุณ ฉันจะบอกคุณล่วงหน้าฉันยังไม่เชื่อใจคุณเต็มที่”

มันค่อนข้างกะทันหัน

เฟรย์มองด้วยความอยากรู้อยากเห็นขณะที่เชพพาร์ดค่อยๆเปิดปาก

“ก่อนอื่นฉันอยากให้คุณแสดงสิ่งหนึ่งให้ฉันเห็นลองใช้ต่างหูไต้ฝุ่นให้ดูหน่อย”

เขาขอให้เฟรย์ใช้เวทมนตร์ป้องกันหรือ?

เฟรย์อยากรู้เกี่ยวกับความตั้งใจของเชพเพิร์ดแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเขาจึงเล่นไปตามน้ำ

อูววว

เขาเปิดใช้งานคาถาป้องกัน

จากนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความสงสัยที่จางหายไปจากดวงตาของเชพเพิร์ด

“ฮู อย่างน้อยก็ไม่ใช่กรณีที่เลวร้ายที่สุด”

“คุณกำลังพูดถึงอะไร?”

“ไม่ใช่เพราะฉันเข้าใจผิดว่าคุณเป็นสมาชิกโทร์วแมนริงส์เท่านั้น ที่ฉันระวังคุณมันมีเหตุผลที่ใหญ่กว่านั้น”

เฟรย์ไม่ได้เร่งเขาแต่มองไปที่เขาแทน

เชพเพิร์ดเปิดปากของเขาช้าๆและพูด

“อิซากะเบลค”

นี่คือชื่อพ่อของเฟรย์ แต่ทำไมตอนนี้ถึงพึ่งเอ่ยขึ้นตอนนี้?

หลังจากตรวจสอบปฏิกิริยาของเฟรย์ที่เอียงศีรษะอย่างระมัดระวัง เชพเพิร์ดก็พูดต่อ

“หลังจากการประชุมหอคอยเมื่อเดือนก่อนฉันได้รับรายงานมาว่าเขาติดต่อกับพวกเดมิก็อด”

* * *

เย็นวันนั้นมีการจัดงานเลี้ยง

สมาชิกของครอบครัวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองหลวงต้องมาร่วมงานอย่างแน่นอนและการเพิ่มเครื่องดื่มและอาหารที่ดีที่สุดทำให้บรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงนั้นอบอุ่นมาก

เฟรย์มองไปรอบๆ คนที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้ามีสไตล์ แต่สายตาของเขากลับถูกดึงดูดไปที่อย่างอื่น

มีผู้คนมากมายที่นั่น แต่ในที่สุดเขาก็พบสิ่งที่เขากำลังมองหา

ผู้ที่มาจากองค์กรเซอร์เคิลคือคนที่เขากำลังมองหา

แต่สถานการณ์ยังไม่ดีนัก

นอกจากนั้นเขายังมีปัญหาเล็กๆน้อยๆ

การสร้างอนาสตาเซีย

การดูดกลืนโฟรเซินริฟเวอะได้อย่างเต็มที่

เซอร์เคิลนั้นเป็นสถานที่แบบไหนและเขาจะเชื่อใจเชพเพิร์ดได้แค่ไหน

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับอิซากะเบลด

“…”

เชพเพิร์ดยังไม่เชื่อใจเขาอย่างเต็มที่

ไม่...เขายังค่อนข้างสงสัยในตัวของเฟรย์

สาเหตุหนึ่งคือพฤติกรรมที่น่าสงสัยของอิซากะเบลด

ในเวลาเดียวกันเขาได้รับข้อมูลสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง

ข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ให้ข้อมูลของเดมิก็อดไม่สามารถใช้มรดกของวีรบุรุษได้

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่เขาใช้ต่างหูไต้ฝุ่นความสงสัยของเชพเพิร์ดก็ลดลงเล็กน้อย

‘เป็นการดีที่สุดที่จะไม่เปิดเผยไม้เท้าแห่งมหานักปราชญ์ถ้าหากเป็นไปได้’

มันเป็นสัญลักษณ์ของชไวเซอร์โดยตรง

ปฏิกิริยาของมันจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับต่างหูไต้ฝุ่น

เขาไม่จำเป็นต้องเปิดเผยเรื่องนี้และทำให้เรื่องมันซับซ้อนมากขึ้น

เฟรย์ส่ายหัว

ปัญหาทั้งหมดของเขาค่อนข้างยุ่งยากและเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแก้ปัญหาทั้งหมดในคราวเดียว

เขาจะทำทีละขั้นตอนราวกับว่าแกะด้ายที่ผูกปมออก

เฟรย์รู้สึกว่าสิ่งที่เร่งด่วนที่สุดคือการทำให้พลังของโฟรเซินริฟเวอะกลายมาเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ ในขณะเดียวกันก็จะฟื้นฟูร่างกายที่ยังไม่สมดุลในปัจจุบันของเขา

เขาเห็นใครบางคนเดินเข้ามาหาเขาขณะที่เขาพยายามคิดวิธีแก้ปัญหาของเขา

หลังจากเหลือบมองเขาก็รู้ว่าเธอคือโซเนีย

เธอสวมชุดสีขาวซึ่งดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับผมสีฟ้าของเธอ

“เฟรย์คุณมาถึงแล้วหรอ?”

บางทีเธออาจจะเดินไปรอบๆ งานเลี้ยงเพื่อมองหาเฟรย์

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้เขาก็ตระหนักได้ว่าในฐานะชาวต่างเมืองโซเนียอาจไม่มีคนรู้จักในงานเลี้ยงนี้

และตัวละครหลักของงานเลี้ยงเพเรียนจะปรากฏขึ้นเมื่อบรรยากาศในงานเลี้ยงถึงจุดสูงสุด

“คุณก็เข้าร่วมด้วยหรือ?”

"ใช่"

"ฉันเข้าใจละ"

เฟรย์พยายามคิดต่อไปแต่โซเนียก็ไม่จากไปและดูเหมือนว่าเธอยังต้องการอะไรบางอย่างจากเขา

“โซเนีย”

“ฮ - ฮะ?”

เมื่อเธอได้ยินชื่อของเธอและเธอก็มองเข้าไปในดวงตาของเขา

เฟรย์ถามคำถามหลังจากเห็นท่าทีของเธอ

“คุณมีอะไรจะบอกฉันใช่ไหม?”

“…”

“…?”

"…ไม่มีอะไร"

จากนั้นเธอก็ส่ายหัวพร้อมกับถอนหายใจ

เฟรย์ยื่นแก้วไวน์ให้เธอโดยคิดว่าเธอคงกระหายน้ำ

‘คิดดูอีกทีแล้วงานหมั้นของเธอล่ะ?’

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ความจริงมันง่ายมากที่จะถามแต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้สนใจมันขนาดนั้น

ทันทีที่เขากำลังจะคิดอีกครั้งเฟรย์ก็เห็นว่าชายร่างอ้วนกำลังมองมาที่เขา

เสื้อผ้าของเขาดูเหมือนกำลังจะปริออกและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยไขมัน

ทันทีที่สบตากันชายคนนั้นก็เดินเข้ามาหาเขา

“นั้นเฟรย์ใช่ไหม?”

"นายคือ?"

“ฮ่าฮ่า! อะไรกัน นายพยายามจะทำตัวให้ดูเท่หรือ? ฮะ?”

เฟรย์พยายามเขย่าความทรงจำของเขา

ทัศนคติของเขาบ่งบอกว่าเขาเป็นคนรู้จักของ ‘เฟรย์’ …

‘ฉันคิดว่าฉันเคยเจอเขาที่สถาบันการศึกษา’

เช่นเดียวกับที่เขาพยายามขุดลึกลงไปในความทรงจำของเขา

ปากของคนที่เดินมาหาเขาบิดเบี้ยวอย่างเยาะเย้ย

“ไอ้ขี้แพ้เฟรย์ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

เฟรย์หยุดความพยายามที่จะเขย่าความทรงจำของเขา

เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ได้เข้ามาหาเขาด้วยเจตนาที่ดี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด