ตอนที่แล้วตอนที่ 89 - การรวมตัวของอัจฉริยะที่โดดเด่นตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 91 - เขาคือฮวง!

ตอนที่ 90 - การรวมตัวกันของผู้แข็งแกร่ง


ตอนที่ 90 - การรวมตัวกันของผู้แข็งแกร่ง

“ที่นี่สวยงามจริงๆ!”

จากระยะไกลมีหญิงสาวสองสามคนก้าวขึ้นไปบนใบบัวขนาดใหญ่ในลำธารสีเขียวเข้ม ชายเสื้อของพวกนางทั้งหมดแตะผิวน้ำ พวกนางเป็นหญิงงามยิ่งกว่าเทพธิดาที่ลงมาจากสวรรค์  แม้ไม่ต้องบอกก็ทราบได้ว่าต้องมาจากตระกูลอมตะแห่งใดแห่งหนึ่ง

ต้นไม้หยกเติบโตที่นี่หลายต้นพวกมันหยั่งรากในภูเขาจิตวิญญาณที่อยู่รอบๆทะเลสาบปล่อยแสงที่บริสุทธิ์และสูงส่งออกมาไม่ขาดสาย ต้นไม้เหล่านี้มีความพิเศษอย่างมากโดยพวกมันมีลักษณะกึ่งโปร่งแสงสามารถมองเห็นลวดลายภายในของต้นไม้ได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นสีของต้นไม้ยังแบ่งออกเป็นหลายประเภทตั้งแต่สีม่วงที่ดูเหมือนทำมาจากทองคำม่วงไปจนถึงสีแดงที่สดใสเหมือนกับโมรา

“มันสวยงามมากจริงๆ!”สือฮ่าวหยุดเดินและจ้องไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้

“คนคนนี้อ้วนมาก  ฮิฮิ!” เมื่อเด็กสาวสองสามคนเดินผ่านไปพวกนางก็ปิดปากหัวเราะคิกคัก และชี้ไปที่เฉาอวี่เซิ่งให้สหายของนางดู

“นี่เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีต่างหาก” เจ้าอ้วนเฉาโต้แย้ง

หลังจากนั้นไม่นานหญิงสาวกลุ่มนี้ก็เดินจากไปด้วยการเคลื่อนไหวอันงดงาม พวกนางเข้าสู่ทะเลสาบหยกเหยียบพื้นผิวทะเลสาบที่สงบนิ่งจากนั้นบินไปยังภูเขาจิตวิญญาณขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า มีศาลาอยู่ที่นั่นน้ำตกสีเงินและธารน้ำไหลหมอกสีขาวหมุนวน เป็นทัศนียภาพที่เต็มไปด้วยความรู้สึกทางศิลปะ

“นั่นคือนางฟ้าทั้งสี่ของตระกูลเว่ย!”

“ตำนานแห่งตระกูลเว่ยหงส์เพลิงทั้ง 4!”

มีผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ไม่น้อยที่ยืนมุงดูอยู่รอบๆทะเลสาบหยก ทุกคนล้วนแต่เป็นคนหนุ่มที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี จึงเป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตื่นเต้นเมื่อพบกับเทพธิดาถึง 4 คนพร้อมกัน

หลายคนไม่มีคุณสมบัติในการเข้าสู่ทะเลสาบหยก แต่พวกเขาต้องการเห็นบุคคลในตำนานเหล่านั้นจริงๆ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงมาถึงพื้นที่รอบนอกของสถานที่จัดงาน

นางฟ้าทั้งสี่ของตระกูลเว่ยมีชื่อเสียงมาก เมื่อมีคนเปิดเผยตัวตนของพวกนางออกมาก็เกิดความวุ่นวายขึ้นทันที

ไม่ใช่เพียงเพราะว่าพวกนางมีความงดงามอันน่าอัศจรรย์ แต่พรสวรรค์ของพวกนางยังพิเศษยิ่งกว่า ทำให้ชายหนุ่มหลายๆคนรู้สึกชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง

ตระกูลเว่ยไม่ใช่เผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เป็นหนึ่งในสามตระกูลที่ยิ่งใหญ่ของ เมืองจักรพรรดิ์แห่งนี้พวกเขาเป็นตระกูลที่ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับโลกภายนอก ทำให้สิ่งมีชีวิตจากเก้าสวรรค์ไม่รู้จักพวกเขาเลย

ตระกูลนี้มีสตรีศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเรียกว่าหงส์เพลิงทั้ง 4ในเป็นหนึ่งในอัจฉริยะสูงสุดแห่งยุค ว่ากันว่าเมื่อทั้งสี่ร่วมมือกันพวกนางสามารถกวาดล้างผู้คนจากรุ่นเดียวกันทั้งหมดได้!

ทันใดนั้นภายใต้เสียงกึกก้องที่อึกทึกรถศึกสีเงินก็มาถึง ความเร็วของมันรวดเร็วปานสายฟ้า รถม้าพุ่งขึ้นด้วยคลื่นแสงสีเงินที่แผดเผาราวกับเปลวไฟเซียนอันน่ากลัวกระเพื่อมอยู่ในความมืด

“รถศึกห้าวิญญาณ!” ใครบางคนร้องออกมาด้วยความประหลาดใจ

รถศึกคันนี้มีความพิเศษอย่างยิ่งทั้งตัวของมันส่องแสงเจิดจ้า ทั้งคันทำด้วยโลหะสีเงินขาว แม้ว่ามันจะส่องแสงแต่ก็ยังมีร่องรอยโบราณที่เป็นจุดด่างดำเครื่องหมายที่หลงเหลือจากการต่อสู้ในอดีต

ที่น่าสนใจที่สุดก็คือสิ่งที่ใช้ลากรถศึกคันนี้ พวกมันดูคล้ายกับนกนางแอ่นสีเงินที่เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ไม่ว่าจะมองอย่างไรพวกมันก็ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอย่างแน่นอน

นี่คือสิ่งประดิษฐ์ล้ำค่าในตำนาน รถศึกห้าวิญญาณที่มีชื่อเสียงโด่งดังตั้งแต่อดีต

“เขาคือ ฉีหง รถมาคันนี้ได้ตกทอดมาสู่เขาแล้ว!”

ว่ากันว่าเขาได้รับการชี้แนะเป็นการส่วนตัวจากเหล่าผู้อาวุโสที่ปกป้องแท่นบูชาบรรพบุรุษ!

“ผู้สูงสุดของเมืองจักรพรรดิ์ได้มอบรถม้าคันนี้ให้เขา เขาได้รับความสำคัญมากถึงขนาดนี้เลยเหรอ!”

สองสามคนถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ เป็นเพราะชื่อเสียงของ รถศึกห้าวิญญาณนั้นยิ่งใหญ่มากเกินไป!

นกสีเงินทั้งห้าตัวดูเหมือนนกนางแอ่น แต่จริงๆแล้วพวกมันเป็นนกไฟทายาทของหงส์เพลิงที่แท้จริง แน่นอนว่ามีบางคนที่มองว่าพวกมันเป็นหงส์เพลิงที่แท้จริง เพียงแต่ขั้นพลังยังไปไม่ถึงระดับผู้อมตะเท่านั้น

ทุกคนรู้ดีว่ารถศึกห้าวิญญาณนั้นน่ากลัวเพียงใด ก่อนหน้านี้มันพุ่งเข้าใส่ศัตรูจากต่างมิติอย่างไม่หยุดยั้ง ตัดผ่านกองทัพใหญ่เข่นฆ่าพวกเขาจนศพกองพะเนินเหมือนภูเขาลุกใหญ่เลือดไหลนองเหมือนแม่น้ำ ศัตรูจะหวาดกลัวทันทีเมื่อเอ่ยถึงรถศึกคันนี้!

เป็นเพราะมีข่าวลือว่าศัตรูทั้งหมดสามารถถูกบดขยี้ได้เพียงแค่อาศัยรถศึกคันนี้เพียงอย่างเดียว โดยที่เจ้าของไม่ต้องทำอะไรด้วยตัวเองวิญญาณนกไฟทั้ง 5 สามารถพุ่งออกไปสังหารศัตรูโดยไม่ต้องควบคุม!

นี่เป็นอาวุธสังหารที่ยิ่งใหญ่ของเมืองจักรพรรดิแห่งนี้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน!

ฉีหงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ศิษย์ที่แท้จริงของปรมาจารย์ผู้เป็นเจ้าของรถศึกห้าวิญญาณแต่เขาก็ยังคงได้รับการชี้แนะจากผู้อาวุโสท่านนั้น ตั้งแต่ถือกำเนิดขึ้นมาเขายังไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับคนรุ่นเดียวกันมาก่อน

“ฉีหงผู้นี้จะผงาดขึ้นมาอย่างแน่นอนไม่มีใครหยุดความก้าวหน้าของเขาได้”

เมื่อการมาถึงของรถศึกห้าวิญญาณทะเลสาบหยกเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงแสงสีเขียวพุ่งเข้าสู่ท้องฟ้าทำให้เกิดฉากที่ไม่ปกติอย่างน่าอัศจรรย์

ผู้คนบนภูเขาแห่งจิตวิญญาณโดยรอบและบนเรือล้ำค่าในทะเลสาบหยก ตื่นตระหนกอย่างมาก ทุกคนต่างรีบออกมาต้อนรับปรมาจารย์น้อยแห่งรถศึกห้าวิญญาณคนใหม่

แสงสีเงินกระจายออกมาพร้อมกับเสียง

ซัว!

วิญญาณดั้งเดิมของคนที่มีขั้นพลังไม่สูงมากพอถึงกับสั่นสะเทือนอย่างหวาดกลัว

“รถศึกคันนี้น่ากลัวเกินไป!” ใครบางคนกล่าวอย่างเงียบ ๆ

เส้นทางอันยิ่งใหญ่ของแสงสีเงินแผ่ออกมาบนพื้นดิน สิ่งมีชีวิตสองตัวเดินออกมาจากรถศึก หนึ่งในนั้นมีแสงศักดิ์สิทธิ์และเปลวไฟสีเงินล้อมรอบตัว

เขามีลักษณะพิเศษโดดเด่นอย่างมาก ศีรษะที่มีผมยาวสีทองกระจัดกระจายดวงตาของเขาสดใสเหมือนดวงอาทิตย์สองดวง ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกหวาดกลัวจับใจ!

ร่างกายของเขาแข็งแกร่งมากเป็นสีทองอ่อนราวกับถูกสร้างมาจากทองคำเซียนที่ไม่สามารถถูกทำลายได้!

ร่างกายเป็นสีทอง แต่มันปลดปล่อยแสงสีเงินออกมาฉากนี้น่าอัศจรรย์แค่ไหน? มีข่าวลือว่าตั้งแต่สมัยโบราณมีเพียงบุคคลที่โดดเด่นที่สุดบางคนที่มีสายเลือดเซียนอยู่ในกายเท่านั้นจึงจะมีลักษณะนี้ได้

นี่คือ ฉีหง เขาน่ากลัวยิ่งกว่าตำนานเสียอีก!

มีใครบางคนอยู่ข้างๆเขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังแห่งความโกลาหลมีเพียงโครงร่างที่พร่ามัวเท่านั้นที่มองเห็นได้ ดวงตาคู่หนึ่งส่องแสงสุกสกาวเหมือนดวงอาทิตย์บนสวรรค์

“จินซาน!” มีคนจำเขาได้

เขาเป็นผู้รับมรดกของจินไท่จุนเป็นผู้ที่ได้รับความคาดหวังมากที่สุดของผู้คนจากตระกูลจิน ไม่มีใครคาดคิดว่าจินซานจะเดินออกจากรถศึกห้าวิญญาณใครๆก็สามารถเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับฉีหงนั้นแน่นแฟ้นแค่ไหน!

"เชิญก่อน!" เจ้าของรถศึกฉีหงกล่าว

“พี่ฉีเชิญก่อน!” จินซานกล่าว

พวกเขาเข้าไปในทะเลสาบหยก จากนั้นก็ก้าวขึ้นไปบนภูเขาแห่งจิตวิญญาณผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์หลายคนออกมาต้อนรับ พวกเขารู้สึกชื่นชม ฉีหงอย่างไม่น่าเชื่อมีคนจำนวนไม่น้อยในเมืองจักรพรรดิ์ที่เคยได้ยินชื่อคนคนนี้

ในเวลาเดียวกันจินซานก็ไม่สามารถดูถูกได้เช่นกัน เขามาจากเก้าสวรรค์ซึ่งมีข่าวลือว่ากำลังเดินอยู่แถวหน้าสุดของผู้ฝึกฝนวิชาการบ่มเพาะโลกปัจจุบัน อาจทำลายตำนานทุกประเภทได้ในอนาคตสร้างเส้นทางการบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น

“พี่ฉีเจ้ามาแล้ว เมื่อเห็นร่างสีทองเปล่งประกายสีเงินของเจ้า ข้าก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น สมควรแล้วที่เป็นทายาทสืบทอดตำแหน่งสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครเทียบได้ ในอนาคตเจ้าจะไปถึงจุดสูงสุดของการต่อสู้ เป็นผู้ครอบครองเต๋าที่ไม่มีใครเทียบได้ในโลกนี้!” มีคนพูดออกมา

ฉีหงสงบนิ่งมากไม่เปิดเผยความหยิ่งผยองใดๆ เขาตอบกลับอย่างสุภาพนอบน้อมยิ่งไปกว่านั้นยังแนะนำจินซานที่อยู่เคียงข้างเขากับคนรอบข้าง

“ความภาคภูมิใจแห่งสวรรค์ของคนรุ่นหลังจินซานชื่อเสียงของพี่ท่านเปรียบเสมือนเสียงอัสนีบาตกรอกเข้าหูของพวกข้าทุกวัน สมกับเป็นมังกรในหมู่มนุษย์จริงๆ!” มีคนยกย่อง

“ยอดเยี่ยมถึงขนาดนั้นเลยเหรอ”เฉาอวี่เซิ่งแดกดัน

พวกเขาไม่ได้ก้าวเข้าไปในทะเลสาบหยกทันที แต่รอชมว่าจะมีผู้ใดเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

มดตัวน้อยเม้มริมฝีปาก มันไม่พอใจอย่างมากเพราะจินซานถูกกำหนดให้เป็นเขยของตระกูลหวังบุคคลผู้นี้ยืนหยัดต่อสู้สือฮ่าวต้องการที่จะออกหน้าแทนตระกูลหวังให้ได้

“รักษาความสงบของเจ้า ถ้าเขาไม่ยั่วยุเราก็ขอให้มาอย่างสงบและจากไปอย่างสงบก็แล้วกัน”สือฮ่าวกล่าว เขาไม่เต็มใจที่จะสร้างความวุ่นวายที่นี่

ด้วยแรงกดดันของกองทัพต่างมิติและอันตรายครั้งใหญ่ทำให้เขาไม่มีความคิดที่จะแข่งขันใดๆกับคนพวกนี้

“แล้วหญิงสาวของตระกูลหวังคนนั้นเล่า? ทำไมนางไม่อยู่ด้วยกันกับ จินซาน?” เจ้าอ้วนเฉามองไปรอบๆมองหาไข่มุกอันดับ 1 แห่งตระกูลหวัง หวังซี

“เลิกมองเถอะนางมาถึงแล้ว” สือฮ่าวกล่าว

มีรถศึกสองคันที่มาจากระยะไกล สัตว์ร้ายป่าเถื่อนที่น่ากลัวหลายตัวถูกใช้ลากรถศึก ก้าวของพวกมันทำให้สวรรค์และปฐพีสั่นสะเทือนเสียงดังกึกก้อง

“รถศึกสายฟ้าของตระกูลตู๋กู!” ใครบางคนกล่าวด้วยความตกใจ

นั่นคือรถศึกสีม่วง - ทองสองคัน พวกมันมาถึงพร้อมกันทั้งคู่อาบสายฟ้าสีเงินแลบแปลบปราบ ริ้วพลังจากกระแสไฟฟ้าพุ่งออกมาด้านนอกน่ากลัวสุดขีด

“ตู๋กูอู่หลงมังกรที่แท้จริงของตระกูลตู๋กู!” ใครบางคนพูดเบาๆ จ้องมองไปที่ชายในรถม้าคันแรกรู้สึกหวาดกลัวมากไม่กล้าที่จะยั่วยุคน ๆ นี้

ตระกูลตู๋กูเป็นหนึ่งในสามตระกูลอมตะที่ยิ่งใหญ่ของเมืองจักรพรรดิ์ พวกเขาซึ่งเป็นลูกหลานของผู้อมตะที่แท้จริงมีโลหิตเซียนไหลเวียนอยู่ในร่างกาย  ถึงจะมีสมาชิกในตระกูลไม่มากนักแต่พลังอำนาจกับไม่น้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของตู๋กูอู่หลงซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นมังกรที่แท้จริงมีความแข็งแกร่งท้าทายสวรรค์ เขาอายุเพียงยี่สิบต้นๆ แต่ขั้นบ่มเพราะของเขาอยู่ในระดับลึกซึ้งไม่ธรรมดา

ตู๋กูอู่หลงยืนอยู่บนรถศึกสายฟ้าคันแรกเพียงลำพัง เส้นผมของเขาปลิวไสวไปกับสายลม

ว่ากันว่านี่คือผู้เชี่ยวชาญรุ่นเยาว์ที่มีความแข็งแกร่งมากที่สุดในเมืองจักรพรรดิแห่งนี้

ตระกูลเว่ยมีหงส์เพลิงสี่ตัวในขณะที่ตระกูลตู๋กูมีมังกรที่แท้จริง สร้างสมดุลอย่างแปลกประหลาดระหว่างพวกเขา

ด้านหลังรถศึกสายฟ้านี้เป็นรถม้าของจักรพรรดินีอีกสองคนหนึ่งในนั้นสวมเสื้อคลุมสีแดงสดราวกับดอกกุหลาบสีแดงที่งดงามอย่างยิ่ง นี่คือน้องสาวของตู๋กูอู่หลงชื่อตู๋กูลั่วเอี๋ยนเป็นหนึ่งในหญิงงามที่น่าประทับใจที่สุดในค่ำคืนนี้ ด้านข้างของนางคือหวังซีในชุดสีขาวราวกับหิมะ นางยืนอยู่บนรถศึกสายฟ้า ราวกลับจักรพรรดินีเซียนจากยุคโบราณกลับมาเยือนโลกปัจจุบันอีกครั้ง

“ไม่น่าแปลกใจที่นางไม่ได้ยืนร่วมกับจินซานนี่เป็นการโจมตีพร้อมกันสองทาง!” เฉาอวี่เซิ่งพูดกับตัวเอง

จินซ่านมากับฉีหงบนรถศึกห้าวิญญาณในขณะที่หวังซีเดินไปกับตระกูลตู๋กูพวกเขาแยกทางกันพยายามผูกสัมพันธ์กับผู้สืบทอดที่ยิ่งใหญ่สองคน การมาถึงในวันนี้ก็เพื่อผูกสัมพันธ์กับเหล่าอัจฉริยะที่มารวมตัวกัน?

“คนเหล่านี้ต้องการจัดตั้งพันธมิตร เราต้องระวังตัว!” มดเขาสวรรค์กล่าว

“มันไม่สำคัญ หากผู้ใดบรรลุความเป็นอมตะมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้โลกใบนี้สยบอยู่แทบเท้า หากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นในอนาคตสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งส่วนบุคคล ไม่ว่าจะมีแกะกี่ตัวก็ยังไม่เพียงพอที่จะเผชิญหน้ากับราชสีห์” สือฮ่าวกล่าว

จากนั้นพวกเขาก็เห็นราชันย์สวรรค์น้อยนั่งอยู่บนสัตว์ร้ายโบราณเข้าสู่ทะเลสาบหยกและได้รับคำทักทายจากผู้คนมากมาย

จากนั้นก็ผู้คนมากมายก็มาถึง พวกเขาล้วนแต่เป็นอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของยุคนี้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด