ตอนที่แล้วตอนที่ 3 การเปลี่ยนแปลงของโชคชะตา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 ความก้าวหน้าด้านการบ่มเพาะพลัง

ตอนที่ 4 ถ้ำกำจัดโอสถ


หลังจากผ่านไปครึ่งเดือนการปิดตายของนิกายก็ค่อย ๆ ถูกยกออก การไล่ล่าหาฆาตกรที่ดุเดือดก็ค่อย ๆ สงบลงเช่นเดียวกัน

ร่างที่หายไปของ ฮานตง และ เวยเว่ย ถูกระเบิดทำลาทิ้ง ท้ายที่สุด พวกเขาก็เชื่อว่านี่เป็นฝีมือของนิกายปีศาจ ท้ายที่สุดแล้ว นิกายปีศาจก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของนิกายผู้บ่มเพาะพลังทุกคน หลายปีที่ผ่านมาไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะโจมตีอย่างไร ? อย่างไรก็ตามขอแค่ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อพวกเขาก็พอ

ฉินหยู สูดลมหายใจเข้าลึก ด้วยความผ่อนคลาย แต่ในใจของเขากลับรู้สึกหดหู่อย่างมาก ในโลกนี้ สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดก็คือการมีสมบัติที่ล้ำค่าแต่กลับไม่สามารถใช้มันได้ ในครึ่งเดือนมานี้ เขาได้ใช้ตะเกียงไฟสีน้ำเงินปรับปรุงโอสถทั้งหมดของเขา ถ้าเขากินมันไปเรื่อย ๆ เขาสามารถทะลวงขั้นพลังได้อย่างง่ายดาย

แต่เขาไม่กล้า!

เกี่ยวกับเหตุการณ์ 27 วันของ เวยเว่ย ที่สามารถ พัฒนาจากระดับกลั่นปราณขั้นที่ 7 เป็นระดับรวมปราณ ได้รับความสนใจมากเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเขาเผชิญหน้ากับภัยพิบัติเช่นนี้มาแล้ว ฉินหยู ก็คงจะเลือกเดินตามรอยเท้าของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน

เขาไม่มีทางเลือกนอกจากปล่อยให้โอสถเหล่านั้นนอนเกาะฝุ่น ฉินหยู รู้สึกปวดหัวอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องที่จะทำให้คนอื่น ๆ ไม่สนใจเขา หากเขาใช้มันได้อย่างไร

ในเวลาเดียวกัน หลางตู่ ได้ถือไก่ฟ้าตัวอ้วนขนสีสันสดใสเดินเข้ามา นี่คือราชาไก่ฟ้า มันเป็นไก่ที่มียีนต์โดดเด่นที่สุดในเผ่าพันธุ์ไก่ทั้งหมด ตอนนี้ มันกำลังน้ำตาคลอและก้มหน้ายอมรับชะตากรรมของมัน

"ไอ้ไก่บ้านี่! เจ้าเล่นร้องไห้แบบนี้ คิดว่าข้าจะรู้สึกสงสารหรืออย่างไร?"มือของ หลางตู่ สั่นเล็กน้อย"ไม่ต้องเสียใจไป ข้าได้แอบเฝ้ามองเจ้ามาเป็นเวลานานแล้ว ตอนแรก ข้าก็คิดว่าจะให้เจ้ากำเนิดลูกหลานให้มีไก่อ้วนได้กินอย่างไม่รู้จบรู้สิ้นก็ไม่เลว แต่ร่างกายของพี่ชายข้า ไม่ค่อยสู้ดีนัก ข้าจะนำเจ้าไปตุ๋นเป็นยารักษาให้กับเขา เพื่อที่เขาจะได้ฟื้นตัวได้ในเร็ววัน"

"ผ่อนคลายเถอะ หลังจากชำแหละเจ้าแล้วข้าจะช่วยฝังขนสวย ๆ ของเจ้า ให้เจ้าได้พักผ่อนอย่างสงบ เจ้าควรจะขอบคุณข้าถึงจะถูก!"

ราชาไก่ฟ้า กลอกตาแข็ง มันไม่รู้ว่าควรจะขยับหรือจะแกล้งหมดสติดี

ปังปัง

หลางตู่ ได้ตะโกนในลำคำ"เปิดประตูเร็ว ๆ บอสหยู ข้าเอาอะไรอร่อย ๆ มาให้!"

ฉินหยู ได้เปิดประตูและมองไปที่ไก่ฟ้าในมือของอีกฝ่ายอย่างเกียจคร้าน จากนั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปในห้อง

หลางตู่ได้พึมพัมอย่างไม่พอใจ"หึ่ม! ข้าเอาไก่อ้วนตัวนี้มาให้ท่านอย่างน้อยท่านก็ควรจะรู้สึกดีใจหน่อยสิ แต่ดูอาการของท่านสิน่าเบื่อชะมัด!"หลังจากพูดจบเขาก็กล่าวถามอย่างประหม่า"หัวหน้าหยู หรือว่าอาการป่วยของท่านปะทุขึ้นอีกแล้ว ? อย่าทำให้ข้าตกใจสิ!"

ฉินหยู ได้ตบหน้าผากของตัวเอง 'สหายคนนี้ของเขาสมองมีแต่กล้ามจริง ๆ' "อย่าได้ตะโกนโหวกเหวกโวยวายเช่นนั้น! ตอนนี้ข้าสบายดี!" จากนั้น เขาก็พูดต่อ" ถู๋โต้ว เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไรดี...

ฉินหยู รู้สึกสั่นศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ หากเขาไม่พูดอะไรสักอย่างมันก็คงจะยากที่จะหยุดความกระตือรือร้นของ หลางตู่ได้

หลางตู่ ได้เกาศีรษะด้วยท่าทางงุนงง"ท่านต้องการจะพูดอะไรกันแน่? หรือว่าท่านมีปัญหาอะไร ข้าสามารถช่วยท่านได้นะ!"

สหายคนนี้ ค่อนข้างซื่อตรงจริง ๆ

ฉินหยู รู้สึกรำคาญและตอบกลับ"อย่าเพิ่งถามเลย! เร็วเข้าไปทำอาหารให้ข้ากินตอนนี้ข้าหิวมาก!"

หลางตู่ ได้พยักหน้าและเดินจากไป

ทันใดนั้นเอง ประตูของลานก็ถูกเปิดออกและมีชายหนุ่มร่างกำยำเดินเข้าไปข้างใน

สีหน้าของ หลางตู่ ได้เปลี่ยนไปและคำรามออกมา"ซูเจี้ยน ไอ้บ้านี่ เจ้าอยากจะโดนดีใช่มั้ย หากเจ้ายังกล้าที่จะมารังแกบอสหยูอีกวันนี้ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!"

ซูเจี้ยน ไม่ได้สนใจเขาได้ทำหน้าอย่างเฉยเมย"หลางตู่ หนี้แค้นของเรา ไว้ค่อยเคลียกันวันหลัง วันนี้ ข้าไม่ได้มาเพื่อทะเลาะกับเจ้า แต่มาเพราะเรื่องงาน"

สายตาของเขา จับจ้องมองไปที่ ฉินหยู และ พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย"ศิษย์พี่หวาง ผู้ดูแลถ้ำกำจัดโอสถได้เสียชีวิตอย่างกระทันหัน ผู้จัดการฝ่ายกิจการ ได้มาพูดคุยเรื่องนี้กับข้าและขอให้ข้าช่วยหาคนที่จะไปทำงานแทน ดังนั้น ข้าจึงแนะนำศิษย์น้องฉินไป เจ้าได้รับงานง่าย ๆ เช่นนี้ เจ้าควรจะรู้สึกขอบคุณข้าสิถึงจะถูกว่างั้นมั้ย?"

หลางตู่ รู้สึกโกรธจัด"ข้าจะฆ่าเจ้าไอ้บัดซบนี่!" ก่อนที่เขาจะขยับ ฉินหยู ก็ได้หยุดเขาไว้เพราะกลัวว่า หลางตู่ จะทำอะไรผลีผลาม แต่ หลางตู่ ก็ยังคงดิ้นรนและพูดขึ้น"ปล่อยข้า วันนี้ข้าจะต้องทุบตีไอ้บัดซบนี้ให้ได้ ไอ้เวรนี่มันต้องการส่งท่านไปตาย!"

ด้วยเส้นเลือดที่ปูดโปนบนใบหน้า หลางตู่ ตอนนี้ ราวกับสัตว์ร้าย ซูเจี้ยน ได้ก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เขาต้องการจะตอบโต้ แต่ก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะเผชิญหน้า

"นี่คือคำสั่งของผู้จัดการฝ่ายกิจการ ฉินหยู ไปรายงานตัวนนี้! และ หลางตู่ ทางทีที่ดีเจ้าอย่าออกไปอาละวาดจะดีกว่า ไปกันเถอะ!"

ซูเจี้ยน และ คนของเขาได้จากไปอย่างรวดเร็ว

หลางตู่ ได้ตะโกนออกมา"ทำไมท่านถึงห้ามข้า?ท่านก็รู้ว่าถ้ำกำจัดโอสถคืออะไร ซูเจี้ยน ต้องการจะฆ่าท่าน!"

ฉินหยู ได้ใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อหยุด หลางตู่ แม้ว่าอีกฝ่าย จะไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนรุนแรงแต่ก็ยังทำให้แขนของเขารู้สึกชา'สหายคนนี้ช่างเป็นสัตว์ร้ายในคราบมนุษย์จริง ๆ !'

"อย่าได้ตะโกนไป! ข้ารู้ แต่ ซูเจี้ยนคิดผิดแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้!"

หลางตู่ รู้สึกโกรธอย่างมาก"ท่านมันบ้า! ถ้ำกำจัดโอสถ นั่นคือ ถ้ำกำจัดโอสถ นะ! สถานที่แห่งนั้นคือสถานที่ที่รวบรวมโอสถที่ล้มเหลวมันมีกระทั่งสารพิษทุกชนิด มันจะเจ้าโจมตีร่างกายของท่าน ด้วยสภาพของท่านในตอนนี้ เกรงว่าจะไม่มีชีวิตรอดอยู่ได้นานถึงสามเดือน!"

เขากัดฟันแน่นและตอบกลับ"ข้าจะไปพูดขอร้องกับผู้จัดการฝ่ายกิจการแทนท่าน"เมื่อเห็นท่าทีที่โกรธจัด ฉินหยู ก็พบว่ามันดูตลกอย่างมากเขาได้ตอบกลับทันที"หลางตู่ เจ้าคิดว่าข้ากับเจ้าใครฉลาดกว่ากัน?"

หลางตู่ ได้ยืดคอของเขาตรง"แน่นอนว่าเป็น...ท่าน"

ฉินหยู เลิกคิ้วและตอบกลับ"เช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้ากำลังมองหาความตายหรือไม่?"เขาตอบกลับด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย"ถู๋โต้ว น้องชายที่แสนดีของข้า ข้าจะไม่โกหกเจ้า ถ้ำกำจัดโอสถอาจจะเป็นสถานที่ประหารชีวิตสำหรับคนอื่น ๆ แต่มันไม่ใช่สำหรับข้า"

ฉินหยู ได้ลดศีรษะลงและมองไปที่นิ้วชี้มือขวาของเขาที่มีแสงเปล่งออกมา

'ซูเจี้ยน คราวนี้ข้าต้องขอบคุณเจ้า'

เขารู้ว่าแสงสีเขียวที่นิ้วชี้ขวาของเขาคืออะไร เมื่อสองวันก่อน ขณะที่เขากำลังถอนวัชพืชในบริเวณใกล้เคียงสวนสมุนไพรเขาได้เห็นบางสิ่งที่น่ากลัว และ เผลอไปสัมผัสมัน พืชที่มีรากและยากที่จะดึงออกมานั้นได้แห้งตายและกลายเป็นสีเขียวโดยสมบูรณ์

ดวงตาของ ฉินหยู เบิกกว้างทันที เขานึกถึงโครงกระดูกของ เวยเว่ย หลังจากทดลองหลายครั้ง เขาก็พบว่านิ้วของเขามีพิษกัดกร่อนที่น่ากลัว! เมื่อมันเข้าสู่ร่างกายของเขา มันได้หลบหนีอย่างหวุดหวิดจากพลังของตะเกียงไฟสีเงิน

เพราะคืนนั้นมันเป็นตัวแปรเดียว

หลังจากทดลองบางอย่าง ความคิดของ ฉินหยู ก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าถูกต้อง ในบริเวณใกล้เคียงกับสวนสมุนไพร เขาได้ค้นหาพืชบางชนิดที่มีพิษเพียงเล็กน้อย ในเวลากลางคืน เขาได้นำมาสกัดและเทลงบนตะเกียง

ส่งผลให้เกิดก๊าชพิษสีดำภายใต้การจับจ้องของเขา พิษที่มีผลพอที่จะฆ่าหมีได้กลับไม่มีอันตรายสำหรับเขา

ตอนนี้ เขาได้ค้นพบความสามารถที่สองของ ตะเกียงไฟสีเงิน นั่นคือ การกำจัดพิษ

บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันพิษให้มากขึ้น!

ด้วยเหตุผลนี้ แม้เขาจะเผชิญหน้ากับแผนการของ ซูเจี้ยน เขาก็ยังคงสงบอยู่ในใจ

สำหรับผู้บ่มเพาะพลัง โอสถเม็ด นั้น มีประโยชน์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่ในขณะที่ล้มเหลวในการปรุงนอกจากคุณสมบัติทางยาแล้วมันยังมีพิษอีกด้วย พิษนี้จะปรากฏขึ้นในกระบวนการนี้และมันจะกลายเป็นโอสถที่ต้องถูกกำจัด

เฉพาะผู้ที่มีรากฐานที่ดีเท่านั้นที่สามารถยับยั้งมันได้ แต่ถึงอย่างไรมันก็ทำให้ก้าวหน้าได้ยากและความเร็วในการบ่มเพาะพลังก็จะช้าลงราวกับเต่าคลาน มีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการทรมานที่ร้ายแรงเช่นนี้

ไม่ใช่ว่าโอสถที่สูญเปล่าทั้งหมดจะมีพิษ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะไม่ละเลย ทุกนิกายจึงได้จัดตั้งสถานที่กำจัดโอสถขึ้นมาเพื่อหาทางทำลายโอสถที่สูญเปล่า

ฉินหยู พร้อมกับตะเกียงไฟสีฟ้า หาได้สนใจพิษพวกนี้ไม่ กลับกันเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องดี

คนอื่น ๆ รู้จักถ้ำกำจัดโอสถดี และ ไม่ค่อยมีใครจะก้าวขาเข้าไปข้างในตลอดทั้งปี มันนับเป็นสถานที่ปิดผนึกสำหรับ ฉินหยู โดย แท้จริง โดยที่เขาไม่ต้องกังวลว่าจะถูกคนอื่นค้นพบและสามารถบ่มเพาะพลังด้วยโอสถเม็ดโดยไม่สนใจคนอื่นได้

ประการที่สอง ในแต่ละปีที่ถ้ำโอสถมีโอสถจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถูกโยนทิ้งไป เขาสามารถใช้ตะเกียงไฟสีน้ำเงินในการปรับแต่งพวกมันได้ บางที มันอาจจะใช้ได้กับโอสถที่เสียไปเหล่านี้ เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก

นอกจากนี้ ภายในถ้ำกำจัดโอสถ ยังมี ทักษะปรุงยาอยู่ แม้จะมีไม่กี่เล่ม แต่มันก็เพียงพอ ที่จะให้ผู้คนเข้าไปศึกษา ว่ากันว่า หลังจากที่พวกเขาเข้าไปศึกษา คนที่ออกมากลับได้รับความรู้ที่ลึกซึ้งอย่างมาก ฉินหยูรู้สึกสนใจ

มันเป็นเรื่องยากสำหรับ ฉินหยู ที่จะได้รับทักษะที่สมบูรณ์มาจากนิกายภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จะมีสถานที่ใดเหมาะกับเขาไปมากกว่านี้หรือไม่?

นี่คือเหตุผลที่ว่าทำไม ฉินหยู หลังจากเห็น ซูเจี้ยน จากไป เขาจึงรู้สึกดีใจ และ ไม่ต้องการให้ หลางตู่ ออกไปจัดการอีกฝ่าย เพราะจากนี้ไปเขาจะเริ่มเดินบนเส้นทางชีวิตใหม่ของเขา

หลางตู่ กำลังจะจากไป

แน่นอนว่าเขามองไปที่ราชาไก่ฟ้า

"บอสหยู ร่างกายของท่านไม่ค่อยสู้ดี เอา ราชาไก่ฟ้านี่ไป วันนี้ ท่านไม่สามารถกินมันได้อยู่แล้ว ดังนั้นท่านควรนำมันติดตัวไปด้วย อย่างน้อย ถ้าวันใดวันหนึ่งท่านทนไม่ไหวก็ยังมีอาหารที่ดีรองรับอีกมื้อ"

หลางตู่ ได้ถอนหายใจออกมากับความคิดของ ฉินหยู แน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจ และ เลือกที่จะยอมแพ้ต่อความตั้งใจของอีกฝ่าย 'วันนี้ เขาจะยอมยกราชาไก่ฟ้าให้กับ ฉินหยู โดยที่เขาจะไม่แตะต้องมัน'

ถ้ำกำจัดโอสถอยู่ค่อนข้างไกล ฉินหยู ได้ถอนหายใจออกมา

ระหว่างทางที่เขากำลังเดินทางไปยังถ้ำกำจัดโอสถ ก็มีเหล่าศิษย์คนอื่น ๆ พึมพัมเป็นรายทาง"ชายผู้นี้กำลังแสวงหาความตายหรือไม่ ? หรือว่าเขายอมแพ้กับตัวเองแล้ว?"

ที่ด้านหน้าถ้ำโอสถสถานที่แห่งนี้ค่อนข้างแผ่กลิ่นอายของลางร้ายออกมาจนทำให้เหล่าศิษย์จำนวนมากต่างหวาดกลัว

ฉินหยู รู้สึกตกใจเล็กน้อย ในไม่ช้าก็ไม่มีใครมารบกวนเขา เขาได้พึมพัมกับราชาไก่ฟ้า"สหายตัวน้อย จากนี้ไปเจ้ากับข้าเราจะพึ่งพากันและกันได้เท่านั้น"

ถ้ำกำจัดโอสถ ค่อนข้างสำคัญมาก ดังนั้น นิกายภูเขาศักดิ์สิทธิ์ จึงตั้งอาคมป้องกันไม่ให้พิษรั่วไหลออกมาซึ่งทำให้ฉินหยูพอใจมาก

อีกนัยนึงอาคมป้องกันนี้นอกจากจะป้องกันพิษไม่ให้รั่วไหลออกมาแล้วยังป้องกันไม่ให้คนนอกรู้เห็นอีกด้วย

ดังนั้น ผู้คนภายนอกจึงไม่ค่อยรับรู้ถึงสถานการณ์ภายในของถ้ำกำจัดโอสถมากนัก

สถานที่แห่งนี้เป็นถ้ำทรงกลมที่ขุดในภูเขาและมีสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยหมอกจาง ๆ นับเป็นพื้นที่สำหรับกำจัดของเสียอย่างแท้จริง

ฉินหยู สูดลมหายใจเข้าลึก และ เดินเข้าไป การมองเห็นของเขาค่อย ๆ มืดลงจนเกือบจะทำให้ เขาเป็นลม เสื้อผ้าของเขาเริ่มเปียกชุ่ม

อาคมป้องกันนี้ทำให้เกิดหมอกจาง ๆ ยากที่จะมองเห็น แต่ก็พอแยกแยะอุโมงค์ที่ใช้ผ่านทางได้

ฉินหยู ได้หอบหายใจอย่างหนักและรับรู้ถึงแรงกดดันผ่านหน้าอกของเขา ด้วยพลังของอาคมที่แข็งแกร่ง ลำพังระดับกลั่นปราณขั้นที่ 2 ของเขา แทบจะทนไม่ได้ด้วยซ้ำ

ไม่รู้ว่านานแค่ไหน ฉินหยู ได้ก้าวไปข้างหน้า และ ผลักประตูเข้าไป จากนั้นหมอกที่อยู่ข้างหลังของเขาก็กลับมาเป็นปกติ

เขาเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำอย่างระวัง สิ่งอำนวยความสะดวกของถ้ำกำจัดโอสถไม่ได้อยู่ในภูเขา อุโมงค์แห่งนี้กำลังเชื่อมลงไปสู่ชั้นใต้ดิน!

ทางเดินค่อนข้างมืดมนแม้จะมีแสงสว่างเล็กน้อย แต่ก็แทบจะมองไม่เห็นสิ่งรอบข้าง แต่สำหรับ ฉินหยู แล้ว เขารู้สึกเหมือนกับกลางวัน

เขามองไปรอบ ๆ และ พบบันไดหิน ที่มีร่องรอยของผู้คนจำนวนมาก สิ่งที่น่าประหลาดใจก็คือ กำแพงหินด้านข้างเต็มไปด้วยคราบเลือดแม้กระทั่งร่องรอยการขุด

ในความมืดคราบเลือดเหล่านั้นดูธรรมดา แต่หากมองดูดี ๆ มันกลับฝังลึกซึมเข้าไปด้านในของหิน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด