ตอนที่แล้วตอนที่ 27 นักบวชศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 29 ขับไล่อสูร

ตอนที่ 28 พวกเขาพังได้ไง ?


ตอนที่ 28 พวกเขาพังได้ไง ?

อย่างช้าๆด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา อาร์คก็ก้าวไปหาอิมพ์    "เห็นมั้ย เขาไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นซะหน่อย ที่เขาทำก็เพื่อปกป้องตัวเองแบบที่เราทำนั่นแหละ  " เด็กชายถามในขณะที่เขาค่อยๆหันไปหาเด็กคนอื่น ๆขณะที่ยืนอยู่ข้างอิมพ์ จากนั้นอิมพ์ก็รู้สึกถึงอากาศเย็นเล็กน้อยที่เข้ามาใกล้ลำคอของเขา   “ถึงแม้ข้าจะพูดแบบนั้นแต่ก็ข้าก็ไม่มั่นใจว่าจะทำแบบเดียวกับคุณอิมพ์หรือเปล่า โดยส่วนตัวแล้วข้าไม่รังเกียจที่คุณจะร่วมเดินทางไปกับเราหรอก คุณนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเราทุกคนในตอนนี้ดังนั้นคุณจึงสามารถปกป้องพวกเราได้ แต่พวกเรานั้นมีมากกว่าคุณ เพียงแค่เราสามคนก็อาจทำร้ายคุณได้แล้ว ดังนั้นจำไว้ว่าคุณเองก็ควรปล่อยวางซะบ้าง ” อาร์คพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับใช้กริชที่อิมพ์ทำหล่นไว้บนรถม้าตอนอุ้มเด็กขึ้นมาชี้มาที่อิมพ์

อย่างช้าๆดูเหมือนว่าอารค์กำลังดันใบมีดเข้ากับลำคอของอิมพ์ แม้ว่ามันจะสัมผัสเพียงเล็กน้อยแล้วก็ตาม แต่หากมันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมันก็สามารถตัดอิมพ์ได้ ดังนั้นอิมพ์จึงต้องการหาวิธีป้องกันตัวแล้วในตอนนี้ เขาต้องกำจัดมัน แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกว่าอยากฆ่าเด็กๆพวกนี้เลย แต่ถ้าพวกเขาขู่เขาแบบนี้ เขาก็ไม่มีทางเลือกใช่หรือไม่  ?

แต่ก่อนที่อิมพ์จะตัดสินใจจริงๆ อาร์คก็ดึงกริชออกจากคอของอิมพ์แล้วจับตรงใบมีดพร้อมกับยื่นตรงด้ามกลับไปให้อิมพ์

"ไม่ต้องกังวล ข้าไม่รู้ว่ามันใช้ยังไง" อาร์คพูดพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อยก่อนที่อิมพ์จะยังคงจ้องมองมาที่เขาและรีบดึงตะกร้าที่อยู่ข้างๆเขาเข้ามาใกล้ ๆ จากนั้นก็วางเด็กในอ้อมแขนลงกลับไปในตะกร้าจากนั้นก็ค่อยๆหยิบกริชกลับมาจากอาร์ค

"อิมพ์ไม่ฆ่าเด็ก เด็กไม่ฆ่าอิมพ์" อสูรตัวสีแดงพูดออกมาอย่างชัดเจนในขณะที่เขาหยิบกริชและวางลงในกระเป๋าใบเล็กซึ่งห้อยอยู่ข้างสะโพกของเขา จากนั้นอาร์คก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

"เอาล่ะ ข้าหวังว่าเจ้าจะเชื่อใจข้ามากพอและไม่มานั่งเอามีดแทงขาข้าข้างๆในขณะที่ข้ากำลังขับรถม้าอีกนะ" อาร์คบอกกับอิมพ์และเขาก็ยิ้มเล็กน้อยโดยแทบไม่มีความเกลียดชังใดๆอยู่ในนั้นเลย ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่อิมพ์คาดไม่ถึงจริงๆ"ถึงแม้สิ่งที่เจ้าทำจะไม่ทำให้ข้าเจ็บ แต่มันก็ทำให้พลังชีวิตของข้าหายไปเล็กน้อย ดังนั้นมันจะดีมากหากเจ้าหยุดทำแบบนั้น เจ้าคงไม่อยากให้ข้าหมดสติไปเพราะทำแบบนั้นหรอกใช่ไหม  " เด็กหนุ่มถามก่อนจะมุ่งหน้ากลับไปที่รถม้า แต่อิมพ์มีอย่างอื่นอีกที่เขายังอยากรู้

“ทำไมไม่เจ็บ?” เขาถามเด็กชายและเด็กชายก็หันกลับมามองอสูรที่อยู่ข้างหลังเขาอีกครั้ง  "โอ้ใช่แล้ว ถ้าตอนนี้เราต้องอยู่ด้วยกันไปสักพักข้าก็คิดว่าเราควรอธิบายเรื่องนี้และแนะนำตัวกับเจ้าอย่างเหมาะสม ข้าแน่ใจว่าทุกคนนั้นหิวแล้วงั้นเรามาคุยกันระหว่างทำอาหารดีไหม ?” อาร์คแนะนำและก้าวเข้าไปในรถม้าและเมื่อเป็นเช่นนั้นอิมพ์ก็พยักหน้าอย่างมีความสุข

ถ้าเป็นเรื่องอาหารเขานั้นเตรียมไว้มากเกินพอแล้ว เด็ก ๆ เหล่านี้ต้องหิวอย่างแน่นอนดังนั้นพวกอิมพ์ก็ต้องแบ่งอาหารให้เขาด้วยใช่หรือไม่? การอยากแบ่งปันไม่ใช่ความรู้สึกที่เขารู้สึกมานานแล้ว ครั้งแรกเขารู้สึกได้คือตอนที่เขาฆ่านกตัวเล็กที่อยู่บนกองไม้แล้วมอบให้เอวาลิน ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้กินเองก็เถอะ

ดังนั้นอิมพ์จึงรีบก้าวเข้าไปในรถม้าและคว้าถึงเนื้อที่ปรุงสุกแล้ววางลงต่อหน้าเด็กๆอย่างมีความสุข   "กิน!" เขาร้องอุทานและตอนนี้เองรูดี้ คลีเมนไทน์และแซมมี่เองก็ดูเหมือนจะหิวเป็นอย่างมากจนอยากจะคว้าเนื้อมากินสักชิ้น แต่อาร์คที่รู้ว่าเนื้อนั้นมาจากไหนเขาก็ห้ามไว้

“อา….ขอโทษนะคุณอิมพ์ เรากินอาหารนั้นไม่ได้ ” อาร์คอธิบาย แต่เด็กอีกสามคนมองเขาอย่างผิดหวัง "ห๊ะทำไมหละ มันคือเนื้อเลยนะ!" รูดี้อุทานอย่างหิวโหยพยายามยื่นมือไปหามัน แต่อาร์คหยุดพวกเขาไว้อย่างรวดเร็วซึ่งจับแขนของเด็กชายอีกคนแน่น

"ข้าบอกว่าเรากินอาหารนั้นไม่ได้ เพราะเนื้อนั้น   ... มันจะทำให้ถูกจ้องฆ่าหากเรากินมันเข้าไป พวกมันจะส่งกลิ่นออกมาจากตัวของเราและก็จะมีบางอย่างไล่ล่าเราไปทุกที่ สิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับคนเท่านั้นดังนั้นจึงมีแต่อสูรเท่าที่กินมันได้   ... ” อาร์คอธิบายและอิมพ์ก็มองเขาอย่างสับสนขณะที่หยิบชิ้นเนื้อมาหนึ่งชิ้นและเริ่มกินมัน ทำไมถึงกินไม่ได้? มันเป็นแค่เนื้อธรรมดา….  แล้วคลีเมนไทน์ก็จ้องไปที่อิมพ์ด้วยความอิจฉา

“หวา? ทำไมคุณอิมพ์ถึงกินมันได้ แต่เรากินไม่ได้กัน” คลีเมนไทน์ถามขณะกอดอก แต่อาร์คแค่วางมือของเขาไว้บนศีรษะของเธอแล้วลูบไปมา นี่ทำให้อิมพ์ชะงักไปชั่วขณะ แต่ไม่นานเขาก็กลับมากินต่อเหมือนปกติ จากนั้นเด็กๆก็เข้าไปในรถม้าและคว้าอาหารอย่างอื่นออกมากินซึ่งอิมพ์จำได้ว่ามันคือ ขนมปัง ที่เอวาลิน โทมัสและเจมส์กินอยู่เสมอ

แต่อิมพ์ไม่สนใจเพราะมันเป็นของเด็กพวกนั้น หลังจากนั้น ในขณะที่เขากำลังกินอาหารอยู่อิมพ์ก็พยายามหาสาเหตุว่าทำไมเขาถึงรู้สึกสงบกับเหล่าคนที่เขาอยากจะฆ่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนกัน   ? แต่ยังไม่ทันนึกออกอาร์คก็พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว

"เอาล่ะ เรามาเริ่มแนะนำตัวกันเถอะ รูดี้แนะนำก่อนเป็นคนแรกนะ เจ้าคงไม่รังเกียจใช่ไหม   ?" อาร์คถามในขณะที่เขาหันไปหาเด็กชายอีกคนทางขวาของเขาและเด็กคนนั้นก็ส่ายหัวช้าๆ "... ข้าไม่เป็นไร ... งั้น… ข้าชื่อรูดี้   ... เราต้องอธิบายทักษะของเราด้วยใช่ไหม? .. " รูดี้เกาแก้มขณะที่เขาหันกลับไปหาอาร์คซึ่งเขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่สงบ "เอาล่ะ ... ข้ามีทักษะเฉพาะที่เรียกว่า 'การป้องกันสมบูรณ์แบบ' อยู่ ซึ่งเป็นทักษะการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมีมา ... มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่การโจมตีทั่วๆไปจะทำร้ายข้าได้  ... ข้าไม่สามารถทำร้ายตัวเองได้เช่นกันเพราะไม่มีความเสียหายใดผ่านผิวหนังของข้าได้แล้วข้าก็ยังมีทักษะ 'การโจมตีที่เป็นไปไม่ได้ ' มันทำให้ข้าไม่สามารถโจมตีอะไรได้อย่างแท้จริง ข้าไม่สามารถทำร้ายได้แม้แต่แมลงด้วยซ้ำ  ... "

ทักษะแรกนั้นฟังดูมีประโยชน์ทีเดียวและอิมพ์ก็ต้องการที่จะเรียนรู้มัน แต่ทักษะที่สองนั้นไร้ประโยชน์จริงๆ มันทำให้รูดี้กลายเป็นอะไรไม่ได้เลยนอกจากโล่  อิมพ์ต้องการถามเกี่ยวกับวิธีการได้รับทักษะแรกมา แต่แล้วแซมมี่ก็พูดขึ้นต่อทันที

"ข้าชื่อซาแมนธา แต่ทุกคนเรียกฉันว่าแซมมี่ทักษะเฉพาะตัวของข้าคือ 'ความจริงของคนโกหก' ทุกคนที่ได้ยินข้าพูดพวกเขาจะเชื่อว่าคำพูดของข้านั้นเป็นเรื่องจริงอย่างสมบูรณ์ แต่ข้าไม่สามารถควบคุมมันได้  ... บางครั้งตัวข้าเองก็เชื่อคำพูดนั้นด้วยเช่นกัน   ... แต่ตอนนี้ทักษะถูกปิดผนึกอยู่ดังนั้นทุกอย่างจึงเรียบร้อยดี! " แซมมี่อุทานด้วยสีหน้าเรียบเฉย  มันฟังดูมีประโยชน์ไม่น้อยแม้ว่าจะค่อนข้างน่ารำคาญที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็ตาม แต่นั่นสามารถแก้ไขได้โดยการไม่พูด ดังนั้นอิมพ์จึงไม่สนปัญหาของมันและต้องการได้รับทักษะนี้ด้วย และจากนั้นเขาก็มองไปที่คลีเมนไทน์ซึ่งดูเหมือนต้องการพูดบางอย่าง

"ข้าชื่อคลีเมนไทน์ ... ทักษะเฉพาะของฉันคือ ... สะ.สถานะ ... อ๊ะใช่แล้ว มันคือ 'กลืนกินความเสียหาย' มันทำให้ข้าสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเจ้าบอกข้าได้หากเจ้า ' กำลังบาดเจ็บ! " เธออธิบายกับอิมพ์และทันทีที่เขาพยักหน้าอย่างตื่นเต้น นั่นจะเป็นประโยชน์กับเขาอย่างแน่นอน! ดีที่เขาไม่ฆ่าเธอ! แม้ว่าหลังจากนั้นเขาจะได้รู้ข้อมูลอย่างอื่นเกี่ยวกับทักษะนี้ก็ตาม

"จะบอกว่ามัน ‘ ไม่มีปัญหา’เลยก็ไม่ถูกต้องนัก โดยพื้นฐานแล้วเธอนั้นมักจะรู้สึกหิวตอนที่ได้รับบาดเจ็บและเมื่อใดก็ตามที่เธอไม่ได้กินอาหารเป็นเวลานาน เธอก็สามารถกลืนกินความเจ็บปวดเพื่อประทังความหิวได้ แต่หากเธอทำเช่นนั้น ร่างกายของเธอก็จะได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าเธอจะไม่ได้รับความเสียหายจากมันแต่เธอก็ยังรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกัน ดังนั้นอย่าได้ใช้งานเธอมากเกินไปดีกว่า " อาร์คกล่าวเสริม ดังนั้นอิมพ์จึงมองไปที่เด็กสาวอย่างประหลาดใจก่อนที่อาร์คจะพูดขึ้นอีกครั้งพร้อมกับถอนหายใจ "ส่วนเด็กคนนั้นน่าจะเป็นคนที่มีทักษะที่แปลกประหลาดและหักมุมที่สุดเท่าที่มีแล้ว ... " เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะชี้ไปที่เด็กเล็กที่แซมมี่กอดไว้ในอ้อมแขน

"และเจ้าตัวเล็กนั่นก็คือลีออน เขามีทักษะเฉพาะสองอย่างเหมือนกัน ข้าคิดว่าพวกมันคือ   'เป็นที่รักของอสูร' และ 'เป็นที่หวาดกลัวของอสูร' ทักษะแรกนั้นสามารถดึงดูดอสูรได้ ส่วนอันที่สองทำให้พวกมันหนีไปได้ แต่ถ้าทั้งสองทักษะถูกใช้ออกมาพร้อมกันอสูรก็จะกลายเป็นบ้าคลั่วและจบลงด้วยการอาละวาดและฆ่าทุกสิ่งที่พบเห็น ทว่าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าทักษะทั้งสองนั้นกำลังถูกปิดผนึกอยู่ในตอนนี้  " เด็กหนุ่มอธิบายพร้อมกับหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะกอดอกพร้อมกับยิ้มกว้าง

"และข้าก็คืออาร์คเป็นคนที่อายุมากที่สุดในกลุ่มนี้! ข้ามีทักษะเฉพาะสองอย่างเช่นกันหนึ่งคือ 'การต้านทานต่ออารมณ์เชิงลบ' และอีกทักษะหนึ่งคือ 'การทนทานต่อความเจ็บปวด'! ทักษะแรกนั้นทำให้ข้าไม่รู้สึกโกรธ เศร้า กลัวหรือมีความรู้สึกแย่ๆ ดังนั้นข้าจึงมีความสุขเกือบตลอดเวลา ! อืม...แต่มันก็ยกเว้นตอนที่ข้ารู้สึกหนักใจเหมือนก่อนหน้านี้หละนะ ฮิฮิ ... "อาร์คพูดยอมรับพร้อมกับยิ้มอย่างบิดเบี้ยวก่อนจะชี้ไปที่ขาของเขาที่เคยบาดเจ็บ" และเห็นได้ชัดว่า การทนทานความเจ็บปวดนั้น ทำให้ข้าสามารถทนต่อความเจ็บปวดได้เป็นอย่างมาก   ! แม้ว่าจะไม่ทั้งหมด แต่กับบาดแผลเล็กๆแบบนี้มันก็มีผลนั่นแหละ"และในขณะที่เด็กหนุ่มกำลังอธิบายสิ่งเหล่านี้ อิมพ์ก็รู้สึกชื่นนชมทักษะทั้งสองที่เขามีจริงๆ พวกมันจะต้องมีประโยชน์สำหรับอิมพ์อย่างแน่นอน! ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องเรียนรู้มันให้ได้  !

"ข้าจะมีได้ไง" อิมพ์ถามอย่างสงสัย แต่เด็กทั้งสี่ก็มองมาที่อิมพ์อย่างงง ๆ แซมมี่ก็เกาแก้มของเธอช้าๆ เธอยังคงดูค่อนข้างกลัวเหมือนเด็กคนอื่น ๆอยู่เมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งแตกต่างจากลีออนที่เป็นเด็กวัยหัดเดินกับอาร์คที่มีทักษะช่วยเหลือ แต่ด้วยความช่วยเหลือของเด็กชายที่โตที่สุดก็ดูเหมือนว่าพวกเขาจะสงบลงเล็กน้อย

"หมายถึงเจ้าจะมีทักษะเฉพาะได้ยังไงหน่ะหรอ ?" แซมมี่ถามเพื่อพยายามชี้แจงว่าอิมพ์หมายถึงอะไร จากนั้นอสูรก็พยักหน้าอย่างรวดเร็ว

จากนั้นรู้ดี้ก็ตอบ "เจ้าไม่สามารถเรียนรู้ทักษะเฉพาะได้  เจ้าเองก็น่าจะมีอยู่ไม่ใช่รึไง ? เราทุกคนล้วนแต่เกิดมาพร้อมกับทักษะเฉพาะทั้งนั้นแหละ  " เด็กอ้วนชี้ไปที่อิมพ์ แต่จากนั้นเขาก็ถามอย่างงุนงง   “อิมพ์ไม่มีทักษะเฉพาะงั้นหรอ?” เขาถามจากนั้นสักพักก็พยักหน้า "เอ่อ...ถ้าเป็นทักษะเฉพาะหละก็  คงไม่มีหรอกมั้ง" รูดี้พูดต่อพร้อมกับขมวดคิ้วและทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างไม่ลังเลโดยไม่กังวลเลยว่าจะเจ็บ แล้วรูดี้ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บบจริงๆเหมือนกับที่เขาพูด เขานั้นไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย

น่าเศร้าที่อิมพ์ไม่สามารถเรียนรู้ทักษะเหล่านี้ได้ แต่เขาก็ยังคงมองไปที่พวกเขาทั้งหมดและถามเกี่ยวกับสิ่งอื่นที่ได้ยินพวกเขาพูดก่อนหน้านี้ "ผนึกคืออะไร" อิมพ์ถามออกไป แล้วแซมมี่ก็เกาแก้มเล็กน้อยขณะที่ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ

"ผนึกก็คือ ... สิ่งที่ใช้เพื่อหยุดการทำงานของทักษะที่เจ้ามี ทักษะของข้ากับลีออนนั้นอันตรายเกินไปดังนั้นพวกมันจึงถูกผนึกไว้  " แซมมี่อธิบายอย่างเบาๆ  รูดี้เองก็ถอนหายใจพร้อมกับพยักหน้าขณะที่เขากินขนมปังไปเรื่อย ๆ "พวกเขาพยายามที่จะปิดผนึกทักษะ 'การโจมตีที่เป็นไปไม่ได้' ของข้าแล้วเช่นกัน แต่พวกเขาก็ไม่สามารถสลักอะไรผ่านเข้าไปในผิวหนังของข้าได้เลย   ... " เขาพูดอย่างรำคาญ จากนั้นอาร์คก็หัวเราะเบา ๆ เพื่อพยายามปรับบรรยากาศให้ดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็มองไปที่อิมพ์กับเด็กน้อยในตะกร้าข้างๆ

"ตอนนี้พวกเราก็แนะนำตัวเองกันหมดแล้ว แล้วคุณหละ คุณอิมพ์  ?"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด