ตอนที่แล้วตอนที่ 14 ไก่ฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16 ซาราก๊อน

ตอนที่ 15 ทำอาหาร


ตอนที่ 15 ทำอาหาร

หลังจากค้นหาไปสักพัก อิมพ์และเอวาลินก็เจอแม่น้ำสายเล็กๆสายหนึ่งที่มีน้ำใสเพียงพอจะทำความสะอาดเสื้อผ้า จากนั้นเอวาลินก็ดึงเสื้มคลุมออกจากร่างของอิมพ์อย่างรวดเร็ว

“ตอนนี้หวังว่าเราจะล้างมันออกได้ไม่ยากมากนะ   …” เอวาลินพึมพำเบา ๆ ขณะที่อิมพ์ยืนงงอยู่ตรงนั้น ทำไมเธอถึงพยายามเอาเลือดออกจากเสื้อคลุมกัน? มันหอมอร่อยมากเลยนะไม่มีใครได้กลิ่นนั้นบ้างเลยรึไง  ? จากนั้นอิมพ์ก็สังเกตเห็นว่าถ้าเขาไม่รู้อะไรบางอย่างเช่นสถานการณ์ในตอนนี้ เขาก็ควรถาม! และเขานั้นเป็นอิมพ์ที่ฉลาดหลักแหลม ดังนั้น …..

“ทำไมต้องทำความสะอาด” อิมพ์ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นและเอวาลินก็หันมาหาเขาอย่างประหลาดใจขณะที่เธอถูผ้าด้วยฝ่ามือของเธอ เธอเองก็กำลังสั่นอยู่เพราะน้ำที่ใช้ซักเสื้อคลุมนั้นค่อนข้างเย็น   “อืม…เจ้าก็ได้กลิ่นของมันใช่ไหม” เอวาลินถามดังนั้นอิมพ์จึงพยักหน้าทันทีโดยไม่ลังเล แต่สักครู๋เอวาลินก็ดูเหมือนจะประหลาดใจมากขึ้น "โอ้ เอิ่ม ... อสูรตัวอื่นก็คิดแบบนั้นเหมือนกันใช่ไหมละ?  ดังนั้นถ้าหากมีเลือดเปื้อนอยู่พวกอสูรก็อาจจะได้กลิ่นของเจ้าและมาตามล่าเพื่อกินเจ้าก็ได้ "

อิมพ์ขมวดคิ้วกอดอกต่อหน้าหนังสือและจับมันแน่น "ห้ามกินอิมพ์" เขาพูดด้วยความโกรธและเอวาลินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม "อืม นั่นคือเหตุผลที่เรามาทำแบบนี้กันไงหละ  " เธอบอก

ต่อมาอีกไม่นานอิมพ์ก็ยืนอยู่ที่นั่นดูเอวาลินขณะที่เธอกำลังล้างเลือดออกจากเสื้อคลุมของอิมพ์ก่อนที่จะเอามันไปวางบนแขนของเธอแล้วพาอิมพ์กลับไปหาโทมัสและเจมส์ซึ่งกำลังย่างร่างเล็กๆด้วยไฟ จากนั้นพวกเขาก็เดินไปที่ก้อนหินขนาดใหญ่สองสามก้อนข้างๆจากนั้นวางเสื้อคลุมไว้เพื่อให้แห้งผ่านกองไฟ

แต่อีกครั้งอิมพ์รู้สึกสับสนว่าทำไมเธอถึงทำเช่นนั้นและถามอีกครั้ง “ทำไมต้องแห้ง” เขาถามดังนั้น เอวาลินจึงเกาแก้มของเธอด้วยรอยยิ้มที่เบี้ยวและเริ่มอธิบายให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ "ถ้าเจ้าสวมเสื้อผ้าเปียกเจ้าอาจจะป่วยได้และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องดี เพราะมันจะทำให้เจ้าไอและรู้สึกเฉื่อยชาไปทั่วตัว เจ้าจะอ่อนแอลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับปกติ  "

พร้อมกับขมวดคิ้วอิมพ์ก็ส่ายหัวและจ้องไปที่เสื้อคลุมที่เปียกด้วยความโกรธ "อิมพ์ไม่ชอบอ่อนแอ"ขาพูดอย่างรำคาญ เอวาลินจึงค่อยๆวางมือของเธอไว้บนหัวของอิมพ์และเริ่มถูอีกครั้งแม้ว่าอิมพ์จะคิดว่าเป็นกากรระทำที่แปลกก็เหอะ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็แค่ปล่อยให้มันเป็นไปและยอมรับชะตากรรมนี้เพราะดูเหมือนว่ามันจะทำให้เอวาลินมีความสุข

“เอาล่ะ…เรารีบจัดการให้เสร็จกันเถอะ” โทมัสพูดแนะนำขณะมองไปที่ไก่ฟ้าตัวอ้วนที่อิมพ์ฆ่าซึ่งวางอยู่บนกองไฟ แต่อิมพ์ก็ยังสงสัยในการกระทำนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ต้องฆ่ามันเท่านั้นหรอกรึ   ?

“ทำไมต้องไฟ” อิมพ์ถามและชี้ไปที่นกอ้วนก่อนที่เอวาลินจะยิ้มให้กับอิมพ์ "อ่า …ดูเหมือนมันจะเป็นเรื่องแปลกของอสูรสินะ แต่คนอย่างพวกเรานั้นกินเนื้อดิบไม่ได้จริงๆไม่งั้นเราจะป่วยได้ ดังนั้นเราจึงต้องปรุงมันแบบนี้จนกว่ามันจะกลายเป็นสีที่ต่างออกไป  .” เมื่อเอวาลินอธิบายเสร็จ อิมพ์ก็ขมวดคิ้วพร้อมกับมองเข้าไปในกระเป๋าของเขาที่มีก้อนเนื้ออยู่ก่อนจะคว้ามันออกมาหนึ่งกำมือแล้วทิ้งลงบนกองไฟจนก้อนเนื้อเล็กๆกลิ้งไปทางเจมส์

"อ๊ะ! นี่เจ้าทำบ้าอะไรเนี่ย -" เจมส์ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ ๆ แต่อิมพ์กลับมองเขาพร้อมกับขมวดคิ้วและหันไปหาเอวาลิน"ไม่ถูกต้อง?" เขาถามดังนั้น  เอวาลินจึงรีบพยักหน้า "ใช่ มันผิดวิธี ... ลองทำแบบนี้ดู" เอวาลินแนะนำและคว้าแท่งไม้ที่ไม่สามารถใช้ในการจุดไฟได้ขึ้นมาก่อนจะคว้าเนื้อบางส่วนจากถึงของอิมพ์แล้วพันมันไว้รอบๆแท่งไม้ก่อนจะมอบให้อิมพ์

"ทีนี้ก็ลองดูและอย่าโยนลงไปเด็ดขาด แค่ถือมันไว้เหนือไฟแบบนี้ " เอวาลินพูดและอิมพ์ก็ขมวดคิ้วตอบ แต่เขาก็พยายามเอาแท่งเนื้อทำตามที่เธอแนะนำ

"ตอนนี้เจ้าก็ต้องรออีกหน่อย นี่น่าจะทำให้เขาได้รับทักษะในการทำอาหารใช่ไหม ?" เอวาลินถามขณะที่เธอหันไปหาอีกสองคน โทมัสจึงยักไหล่ "ข้าคิดว่าอาจจะใช่" เขาตอบและอิมพ์เพียงแค่มองไปที่เนื้อตรงปลายแท่งในขณะที่มันค่อยๆเปลี่ยนสีเป็นเข้มขึ้นกว่าเดิมมาก

และเมื่อมันเป็นสีน้ำตาลเข้มและค่อนข้างสวย เอวาลินก็ค่อยๆดึงมือของเขากลับมาพร้อมกับบอกเขา“เอาล่ะ นั่นน่าจะเพียงพอแล้ว แต่เจ้าควรรอให้มันเย็นลงสักหน่อยถึงค่อยกินนะ  -” หญิงสาวพยายามเพื่ออธิบาย แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบอิมพ์ก็ยัดเนื้อเข้าปากจนมีการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาทันทีแล้ว

[ทักษะการทำอาหารเริ่มต้น ถูกเรียนรู้]

[-9 พลังชีวิต]

"บ๊า?" อิมพ์อุทานพร้อมกับเอาเนื้อร้อนๆเข้าปาก แต่ยังคงเคี้ยวมันต่อไป คนอื่น ๆดูเหมือนจะกินแบบนี้ได้และอิมพ์ก็ไม่ทางให้คนอื่มมองเขาอ่อนแอกว่าเด็ดขาด! ดังนั้นแม้ว่าเนื้อจะแข็งกว่าเนื้อดิบมาก แต่เขาก็ต้องต่อสู้จนผ่านมันไปได้และในที่สุดเมื่อมันเย็นลงในปากของเขาเล็กน้อยเขาก็กลืนมันลงไปและอีกครั้งเขาก็เริ่มแสบคอเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้แย่เท่ากับลิ้นของเขาในตอนนี้ดังนั้นเขาจึงไม่มีอะไรต้องกังวล

"เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?" เอวาลินถาม เมื่ออิมพ์นั่งลงเล็กน้อยในที่สุดเขาก็พยักหน้าตอบรับ “ใช่…” เขาตอบกลับด้วยสภาพที่ลิ้นไร้ความรู้สึกใดๆ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเนื้ออีกชิ้นอยู่ที่ปลายไม้ อิมพ์ไม่ใช่คนขี้กังวลดังนั้นเขาจึงกินเนื้อต่อไปตราบเท่าที่คนเหล่านี้ยังทำอยู่

อย่างน้อยที่สุดนั่นคือสิ่งที่เขาคิดจะทำ แต่เมื่อเนื้อกลายเป็นสีน้ำตาลอีกครั้งและเขาต้องการยัดมันเข้าไปในปาก เอวาลินก็เอาเนื้อไปจากเขาและจับมันไว้เล็กน้อย "ยังกินไม่ได้นะ! รอจนกว่ามันจะเย็นลงสักหน่อยก่อนสิ!" เธออุทานออกมาในขณะที่โทมัสและเจมส์เริ่มตัดนกออกเป็นชิ้น ๆ  จากนั้นพวกมันและเอวาลินก็กินอย่างเพลิดเพลิน ส่วนอิมพ์ก็ทำได้เพียงกอดอกและแสดงสีหน้ามุ่ยเท่านั้น เอวาลินเห็นแบบนั้นจึงถอนหายใจและยื่นไม้อีกอันที่มีเนื้อพันอยู่รอบๆให้อิมพ์อีกครั้ง

“เจ้าก็ทำอันนี้ไปก่อน พอเสร็จแล้วค่อยกินอันก่อนหน้า เข้าใจไหม  ?” เอวาลินบอกเขาดังนั้นอิมพ์จึงค่อยๆพยักหน้าและเริ่มจับเนื้อสัตว์ไว้เหนือกองไฟอีกครั้ง

และไม่กี่นาทีต่อมาเมื่อมันเสร็จสิ้น ในที่สุดอิมพ์ก็มองไปที่เอวาลินอีกครั้ง “เอาล่ะ…ลองนี่” เธอแนะนำและเอาเนื้ออันเก่าให้กับเขาและอิมพ์ที่สับสนก็กัดลงไปที่เนื้อนั้นโดยคิดว่ายังไงมันก็ร้อนเหมือนเดิม

แต่เขาก็ต้องแปลกใจ…เพราะมันไม่ใช่แบบนั้น! มันเพียงแค่อุ่นเท่านั้นและไม่ร้อนพอจะทำร้ายเขาได้อีกต่อไป  ! และยิ่งไปกว่านั้นมีอย่างอื่นที่ทำให้อิมพ์ประหลาดใจ…เนื้อไหม้นี้รสชาติดีจริงๆ มันดีสุดๆไปเลย! ดีกว่าเนื้อดิบที่เขากินมาทั้งชีวิตซะอีก!

ทันใดนั้นอิมพ์ก็ยัดเนื้อไหม้เข้าไปในปากอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใส่เนื้อใหม่ลงบนแท่งไม้แล้วจับมันไว้บนกองไฟอีกครั้งและเมื่อทำเนื้อแท่งชุดใหม่เสร็จอิมพ์ก็หยิบเนื้อที่เย็นแล้วกิน เขาทำวนเวียนอยู่แบบนี้และก็ไม่ได้กินมันทั้งหมดในครั้งเดียว เขาเหลือเนื้อที่ปรุงสุกไว้บางส่วนและเก็บมันลงในกระเป๋าเผื่อไว้ในภายหลัง

“ฮ่าฮ่า… กระเป๋าใบนั้นยังใช้งานได้อยู่สินะ .. ?” เอวาลินพึมพำด้วยรอยยิ้มที่เบี้ยวในขณะที่อิมพ์มองมาที่เธอพร้อมกับเอียงศีรษะไปด้านข้าง

จากนั้นอิมพ์ เอวาลินและอีกสองคนก็ได้นั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลารวมหนึ่งชั่วโมงเพื่อกินอาหารอย่างช้าๆและฟื้นความแข็งแรงขึ้นเล็กน้อยและที่สำคัญที่สุดพวกเขาทำเช่นนี้เพื่อทำให้พวกเขาสงบลงหลังจากได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเมืองสุดท้ายที่พวกเขาผ่านมา

แน่นอนว่ายกเว้นอิมพ์ เขานั้นกำลังทำอาหารของเขาอย่างมีความสุขจนกระทั่งไม่เหลือเนื้อดิบอีกต่อไปจากนั้นก็เริ่มกินสิ่งที่เขาวางไว้ในกระเป๋าอย่างช้าๆพร้อมกับมองของที่มันวาวที่เขาคว้ามาจากกองไม้ก่อนหน้านี้

แต่เมื่อหมดชั่วโมงนั้น เอวาลินก็รีบคว้าเสื้อคลุมที่แห้งแล้ว จากนั้นก็สวมมันกลับไปที่อิมพ์ ถึงแม้ว่าเธอจะมองลงมาเพระาได้กลิ่นแปลกๆเล็กน้อย แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นไร

ดังนั้นหลังจากที่โทมัสและเจมส์ทำลายกองไฟอันสวยงามที่พวกเขาก่อไว้ก่อนหน้านี้เสร็จ ทั้งสี่คนก็เดินทางต่อและถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่รีบร้อนเหมือนก่อนหน้านี้  แต่พวกเขาก็ยังเดินเร็วกว่าปกติและที่สำคัญที่สุดคือพวกเขาพยายามอยู่ให้ไกลออกไปมากขึ้นเรื่อยๆและพวกเขาก็ค่อนข้างมีปฏิกิริยาก้าวร้าวขึ้นเมื่อได้ยินเสียงที่ไม่รู้ว่าดังมาจากไหน

และเมื่อพวกเขาได้มาเจออสูรสองสามตัว โทมัสก็ได้สะดุดล้มเป็นครั้งแรกและได้รับบาดเจ็บ! อสูรตัวหนึ่งสามารถกัดแขนของเขาได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงนัก ดังนั้นอิมพ์จึงต้องทนเห็นหน้าเจ้าคนน่ารำคาญนี้ต่อไป

แต่หลังจากที่โทมัสผู้อ่อนแอได้รับบาดเจ็บ กลุ่มก็ต้องหยุดพักเล็กน้อยในขณะที่เอวาลินมัดผ้าขาวบางรอบแขนของโทมัสเพื่อให้เลือดหยุดไหล หลังจากนั้นอย่างรวดเร็วพวกเขายังคงเดินต่อไปอีกครั้งจนกระทั่งจู่ๆท้องฟ้าก็สว่างขึ้น

แสงที่สว่างไสวเช่นนี้สร้างความรำคาญให้กับอิมพ์ แต่อย่างน้อยเสื้อคลุมของเขาก็ปิดกั้นมันไว้เล็กน้อยดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องกังวล

แต่สิ่งที่อิมพ์ต้องกังวลแทนคือความจริงที่ว่าจู่ๆก็มีผู้คนมากมายปรากฏขึ้นอีกทั้งยังมีกล่องไม้แบบเดียวกับที่อิมพ์เห็นอยู่ตรงหน้าและด้านบนของสะพานอยู่ด้วย แต่คราวนี้มีอย่างอื่นที่น่าสนใจกว่าอยู่ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ที่คนพวกนี้กำลังมุ่งหน้าไป

มันดูเหมือนก้อนหินขนาดยักษ์และทุกคนที่อิมพ์สามารถมองเห็นได้ก็กำลังเข้าไปในหลุมขนาดใหญ่ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของบล็อกหินนี้ ตอนแรกมันดูแปลกเล็กน้อย แต่จากปฏิกิริยาของเอวาลินแล้ว อิมพ์คิดว่ามันจะต้องเป็นสถานที่ที่ดีแน่ๆ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด