ตอนที่แล้วอัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ ตอนที่ 23 เริ่มต้นการประมูล [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปอัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ ตอนที่ 25 สิ้นสุดการประมูล [อ่านฟรี]

อัจฉริยะข้ามยุทธภพออนไลน์ ตอนที่ 24 สมบัติระดับสวรรค์ [อ่านฟรี]


“6,000 เหรียญทอง!”

ซวนหวู่ฮั่นเสนอราคายาเสริมพลังวิญญาณทันทีเมื่อการประมูลเริ่มขึ้น

“6,100 เหรียญทอง!”

“6,200 เหรียญทอง!”

ไม่กี่นาทีต่อมาซวนหวู่ฮั่นสามารถได้ยาเสริมพลังวิญญาณในราคา 7,500 เหรียญทอง

“ในที่สุดตอนนี้ข้าก็สามารถก้าวไปสู่ระดับสามของระดับนักรบวิญญาณได้แล้ว”

ซวนหวู่ฮั่นทำกำปั้นแห่งชัยชนะออกมา

แต่ยังไงก็ตามซวนหวู่ฮั่นไม่พอใจแค่ขวดเดียว ดังนั้นเธอจึงเสนอราคาอีกสองขวดต่อไป

หลังจากนั้นไม่กี่นาทียาเสริมพลังวิญญาณอีกสองขวดก็เป็นของซวนหวู่ฮั่น และเธอก็จ่าย 25,000 เหรียญทองสำหรับทั้งสามขวด

“นี่หยวน”

ทันใดนั้นซวนหวู่ฮั่นก็เรียกเขา

“อะไรหรอ?”

หยวนหันไปมองเธอ

ซวนหวู่ฮั่นยิ้ม และเปิดขวดยาเสริมพลังวิญญาณหนึ่งขวด

“เอาไปสิ มันไม่ได้มากอะไร แต่ข้าหวังว่าเราจะได้เป็นเพื่อนกันในอีกหลายปีข้างหน้า!”

เธอพูดขณะยื่นให้เขา

หยวนยอมรัยยาด้วยดางตาที่เบิกกว้างเล็กน้อย

“ขอบคุณ!”

เขากล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

เมื่อหยวนถือยาเสริมพลังวิญญาณไว้ในมือ ระบบก็วิเคราะห์ให้เขาโดยอัตโนมัติ

[ยาเสริมพลังวิญญาณ][ระดับ3][ความบริสุทธิ์ 82%]

[ผล: เพิ่มความแข็งแกร่งของวิญญาณอย่างถาวร 1,000 หน่วย]

[รายละเอียด: ยาจิตวิญญาณปรุงโดยไป๋หมิง]

[จำกัด: 3]

“มันเพิ่มพลังวิญญาณของข้าอย่างถาวร! และเพิ่มขึ้น 1,000 หน่วย!”

หยวนอุทาน

เสี่ยวฮัวจึงพูดขึ้น

“ยาส่วนใหญ่มีข้อจำกัด ว่าสามารถกินได้กี่เม็ดก่อนที่มันจะส่งผลไม่ดีต่อร่างกาย ยาเสริมพลังวิญญาณเหล่านี้สามารถกินได้เพียง 3 ครั้ง ก่อนที่มันจะหยุดการให้ประโยชน์แก่ร่างกาย ตามที่เจ้าภาพพูดไว้แม้มันจะไม่ทำให้ร่างกายดีขึ้น แต่ก็ยังมีประโยชน์อื่นๆ เช่น การทำให้จิตใจสงบลงระหว่างการฝึกฝน ด้วยเหตุนี้เธอจึงซื้อมันมามากมาย”

“งั้นหรอ”

หยวนพยักหน้า

“นี่ ทำไมเจ้าไม่ให้ยานั้นกับพวกเราด้วยละท่านหญิงซวน เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่หรอ?”

พี่น้องดู๋ถามเธอหลังจากที่เห็นเธอให้ยาเม็ดกับหยวน

“ถ้าอยากได้ทำไมไม่ลองซื้อดูล่ะ”

ซวนหวู่ฮั่นถามพวกเขา

“นั่นเพราะเจ้ากระตือรือร้นที่จะได้มันมาก เราจึงไม่ได้สู้ราคากับเจ้า”

ดู๋ไฮ่ กล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างทะเล้น

“เจ้าบอกว่าข้าชนะเพราะพวกเจ้ายอมให้ข้างั้นหรอ?”

ซวนหวู่ฮั่นหรี่ตามองเขาที่กำลังยิ้มอย่างทะเล้น นั่นทำให้ดู๋ไฮ่รีบขอโทษอย่างรวดเร็ว และพูดว่า

“นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของข้า...”

“งั้นก็ลืมมันซะ!”

“…”

หลังจากที่ซวนหวู่ฮั่นละสายตาจากเขา ดู๋ไฮ่ก็มองไปที่หยวนด้วยดวงตาที่ราวกับว่าตำหนิหยวน

ในเวลาต่อมาหลังจากที่มีการประมูลอีก 10 ชิ้น แกนมอนสเตอร์ของหยวนก็ปรากฏในที่สุด

“อืม...สำหรับรายการต่อไป เรามีแกนมอนสเตอร์สองสามแกน...”

ชิงชิงฟังดูไม่ค่อยมั่นใจ และค่อนข้างอายกับคำพูดของเธอเอง

“แกนมอนสเตอร์ของสัตว์อสูรที่อยู่ในระดับปรมาจารย์วิญญาณงั้นหรือ?”

ผู้คนต่างประหลาดใจเล็กน้อยกับการปรากฏตัวของแกนมอนสเตอร์ เนื่องจากไม่ค่อยมีขายในโรงประมูล

“พวกมันคือแกนมอนสเตอร์ระดับวิญญาณฝึกหัด”

ชิงชิงพูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆ

“แกนมอนสเตอร์ระดับวิญญาณฝึกหัดงั้นหรอ โรงประมูลเกิดความผิดพลาดอะไรแน่ๆ เขาจะเอาขยะมาขายที่นี่ได้อย่างไรกัน?”

“ต้องมีความผิดพลาดแน่ๆ ข้านึกไม่ถึงว่าโรงประมูลฟีนิกส์เพลิงฟ้าจะขายขยะแบบนี้”

“โรงประมูลฟีนิกส์เพลิงฟ้าไม่ได้ทำผิดอะไร แต่แกนมอนสเตอร์พวกนี้ได้รับอนุมัติจากผู้อาวุโสชาง”

ชิงชิงกล่าว และกล่าวต่อว่า

“ราคาเริ่มต้นสำหรับแกนมอนสเตอร์ทั้งสี่เหล่านี้ จะเป็น 500 เหรียญทอง”

อย่างไรก็ตามไม่มีใครเสนอราคาหลังจากผ่านไปหลายนาที เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนในโรงประมูลของฟินิกส์เพลิงช้า

“เอาขยะเหล่านั้นออกไปจากสถานที่นี้! เจ้าล้อเลียนพวกเรางั้นหรือ ไม่มีใครต้องการมันทั้งนั้น!”

ดู๋ไบ๋ตะโกนเสียงดัง

“ถูกต้องนี่เป็นเรื่องตลกแบบไหนกันนะ แม้ว่าจะเป็นโรงประมูลฟินิกส์เพลิงฟ้าก็ควรมีขีดจำกัดหน่อยนะ”

หลังจากดู๋ไบ๋ และแขกอื่นๆ เริ่มบ่น การขายของที่มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยในโรงประมูลระดับสูงที่มีสมบัติมูลค่าหลายหมื่นเหรียญทองนั้นคล้ายกับการขายเนื้อข้างถนนในร้านอาหารสุดหรู แขกผู้เข้ามารู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังโดนล้อเลียนอยู่

“ข้าจะทำอย่างไร? ผู้อาวุโสชางบอกให้ข้าขาย แม้ว่าพวกข้าจะต้องเสียหน้าก็ตาม” ชิงชิงร้องไห้อยู่ในใจ

ในขณะเดียวกันในห้อง VIP หยวนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แม้ว่าจะมีการโวยวายในโรงประมูลและยังร่วมไปถึงชิงชิงที่กำลังโดนต่อว่าอยู่นั้น แต่เขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาทั้งหมดกำลังพุ่งเป้าไปที่เขาซึ่งต้องการขายแกนมอนสเตอร์เหล่านี้

ซวนหวู่ฮั่นสังเกตเห็นสีหน้าหงุดหงิดบนใบหน้าของหยวน และสงสัยว่าแกนมอนสเตอร์เป็นของเขาหรือไม่

“มันเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเหรียญทอง หากแกนมอนสเตอร์เหล่านี้เป็นของเขาจริงๆ จะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของเราอย่างแน่นอน และเขาอาจจะเป็นหนี้ข้าด้วยซ้ำ นี่อาจจะเป็นการทดสอบหนึ่งของเขาก็ได้”

ดังนั้น ซวนหวู่ฮั่นจึงพูดต่อไปว่า

“ข้าเสนอราคา 600 เหรียญทองสำหรับแกนมอนสเตอร์เหล่านนี้”

“ท่านหญิงซวน! ทำไมท่านถึงเสนอราคาให้กับแกนมอนสเตอร์ มันก็แค่ขยะ อย่าเสียเงินไปกับมันเลย ถ้าเจ้าต้องการข้าสามารถหาให้เจ้าในระดับปรมาจารย์วิญญาณฟรีๆ เป็นของขวัญก็ได้!”

ดู๋ไฮ่กล่าวกับเธอ

“หุบปาก! ข้าต้องขออนุญาตจากเจ้าหรอ ถ้าข้าจะซื้อบางอย่าง ข้าต้องการแกนมอนสเตอร์เหล่านี้ ดังนั้นข้าจะซื้อมัน!”

เธอตะคอกอย่างเย็นชา

“…”

หยวนมองเธอด้วยความตกใจ

‘ไม่เพียงแต่เธอให้ยาเสริมพลังวิญญาณมูลค่าหลายร้อยเหรียญทอง แต่เธอยังซื้อแกนมอนสเตอร์ของข้าด้วย ข้าจะขอบคุณเธอในอนาคตย่างแน่นอน’

หยวนคิดกับตัวเอง พร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้าของเขา

“เจ้าต้องการที่จะจ่ายค่าแกนมอนสเตอร์ตอนนี้หรือไม่”

ผู้ช่วยจากโรงประมูลถามซวนหวู่ฮั่น หลังจากเธอชนะการประมูลอย่างง่ายดาย เนื่องจากไม่มีคู่แข่ง

ซวนหวู่ฮั่นให้ 600 เหรียญทอง และบอกผู้ช่วยว่า

“ข้าต้องการตอนนี้”

เธอกล่าว

“เข้าใจแล้ว”

ผู้ช่วยรับเงิน และส่งแกนมอนสเตอร์ให้ในไม่กี่นาทีต่อมา

ในขณะเดียวกันบนเวทีมีการประมูลรายการใหม่

“สำหรับรายการต่อไป เรามีชิ้นส่วนอัญมณีที่ไม่ทราบแหล่งกำเนิด แม้ว่าเราจะไม่สามารถบอกถึงจุดประสงค์ของการดำรงอยู่ของมันได้ แต่ก็มีฉีจำนวนมากไหลอยู่ภายในเช่นเดียวกับแกนมอนสเตอร์ อันที่จริงถ้าเป็นแกนมอนสเตอร์มันเทียบได้กับระดับปรมาจารย์วิญญาณ” ชิงชิงแสดงคริสตัลขนาดเท่าก้อนกรวดให้แขกรับเชิญ

“เปรียบได้กับแกนมอนสเตอร์ระดับปรมาจารย์วิญญาณ!”

ผู้คนต่างตกตะลึงเนื่องจากแกนมอนสเตอร์ระดับปรมาจารย์นั้นหายาก และน่ากลัว พวกมันมีพลังที่จะกวาดล้างเมืองใหญ่อย่างเมืองแห่งวิญญาณนี้ได้อย่างง่ายดาย ในความเป็นจริงครั้งสุดท้ายที่มอนสเตอร์ปรมาจารย์วิญญาณปรากฏตัวในโลกนี้คือเมื่อ 1,000 ปีก่อน ฆ่าผู้คนไปนับล้าน และเกือบทำลายโลกไปแล้ว หากไม่ได้ปรมาจารย์วิญญาณที่สละชีวิตตัวเองเพื่อฆ่ามัน

เมื่อเสี่ยวฮัวเห็นคริสตัลขนาดเท่าก้อนกรวด ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย

“พี่หยวนนั่นคืออัญมณีวิญญาณ”

ทันใดนั้นเสียงของเสี่ยวฮัวก็ดังก้องในหัวของเขา

“อัญมณีวิญญาณ? เหมือนกับหยกวิญญาณโบราณที่ข้ามีใช่ไหม?”

หยวนถาม

“มันไม่ใช่หยกวิญญาณ ที่จริงหยกวิญญาณแม้จะมีคุณภาพต่ำสุด แต่ก็มีฉีมากกว่า และถึงแม้มันจะเทียบไม่ได้กับหยกวิญญาณ แต่ก็ช่วยเพิ่มพลังให้กับการฝึกฝนของพี่ได้มากเช่นกัน”

‘ฉันสงสัยว่า ว่าฉันจะได้รับพลังฉีเท่าไรจากการกินมัน’

หยวนครุ่นคิด

“พี่หยวน พี่ควรประมูลมันนะ”

จู่ๆเสี่ยวฮัวก็พูดขึ้น

“อะไรนะ แต่ข้าไม่มีเงิน”

“ตอนนี้เราอาจจะไม่มีเงิน แต่เราจะมีเงินมากมายเมื่อเราขาย กริชน้ำค้างแข็งแห่งสวรรค์ได้ มันมากเกินพอที่จะซื้อของอย่างอัญมณีวิญญาณได้ และคนที่นี่เหมือนจะไม่รู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงของมัน”

หยวนครุ่นคิดครู่หนึ่ง และถามว่า

“เจ้าแน่ใจนะ ว่าเราจะมีเงินพอ”

แม้เสี่ยวฮัวจะอนุญาตให้เขาใช้เงินจากการขายกริชน้ำค้างแข็งแห่งสวรรค์ แต่หยวนก็ละอายใจที่จะยอมรับมัน ในความเป็นจริง ถ้าเขายอมรับทุกอย่างที่เธอมอบให้ มันจะทำให้เขารู้สึกผิด

“ซื้อเถอะค่ะพี่หยวน”

เสี่ยวฮัวพยักหน้าด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว

“ได้ ถ้าเจ้าว่าอย่างนั้นละก็”

“ข้าจะต้องได้อัญมณีวิญญาณที่เต็มไปด้วยพลังฉี! ถ้าข้าสามารถฝึกฝนพลังฉีได้มากกว่านี้ ข้าอาจจะก้าวหน้า และกลายเป็น ปรมาจารย์วิญญาณได้ในเวลาไม่นาน!”

ดวงตาของซวนหวู่ฮั่นเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น

“ไม่มีทางที่สิ่งที่มีพลังฉีจำนวนมากจะไม่ใช่สมบัติ!  มันเป็นสมบัติที่มีความสามารถที่ทรงพลัง!”

ไม่ใช่แค่ซวนหวู่ฮั่น แต่พี่น้องดู๋ และคนอื่นๆ ในห้อง VIP ก็สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น

“เนื่องจากเราไม่ทราบมูลค่าที่แท้จริงของมัน เราจะปล่อยให้แขกเป็นผู้ตัดสินใจ การประมูลเริ่มต้นขึ้นแล้ว!”

ชิงชิงประกาศเสียงดัง

“10,000 เหรียญทอง!”

“30,000 เหรียญทอง!”

“100,000 เหรียญทอง!”

ผู้คนเริ่มประมูลทันที และราคาของอัญมณีก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ภายในไม่กี่นาทีราคาของอัญมณีวิญญาณก็สูงถึงครึ่งล้านเหรียญทอง

“เสี่ยวฮัว...มันอยู่ที่ 500,000 เหรียญทอง พวกเราจะซื้อมันไหม?”

หยวนถามเธอ เสี่ยวฮัวไม่ลังเลแม่แต่วินาทีเดียว และพยักหน้า

“500,100 เหรียญทอง”

หยวนทำการประมูลเป็นครั้งแรกในการประมูลครั้งนี้ และในชีวิตของเขา

“ไอ้เจ้าคนนี้ เขาไม่ใช่คนง่ายๆ อย่างที่คิดจริงๆด้วย”

คนในห้อง VIP เหลือบมองหยวนด้วยหางตา

‘เจ้าต้องการจะซื้ออะไร เมื่อข้าอยู่ที่นี้งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะต้องขออนุญาตจากข้าก่อน’

ดู๋ไฮ่เย้ยหยันในใจ และยกมือขึ้น

“510,000 เหรียญทอง!”

“510,100 เหรียญทอง!”

หยวนตอบอย่างใจเย็น

ดู๋ไฮ่กัดฟัน และพูดเสียงดัง

“เจ้าจงใจจะยั่วโมโหข้าด้วยการประมูลทีละน้อยๆ ทุกครั้งหรือเปล่า!”

หยวนเลิกคิ้วกับคำพูดของดู๋ไฮ่ ในขณะที่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมดู๋ไฮ่ไม่พอใจกับเรื่องนี้

“มีอะไรงั้นหรอ?”

“…”

ดู๋ไฮ่ตัวสั่นด้วยความโกรธเมื่อหยวนตอบโดยคิดว่าเขากำลังถูกล้อเลียน

“520,000 เหรียญทอง! นี่คือวิธีการประมูลของเจ้างั้นหรอ! ทำไมเจ้าถึงต้องเพิ่มเงินทีละน้อยมากด้วยๆ!”

“520,100 เหรียญทอง! ถ้าข้าประมูลมากเกินไป มันจะสิ้นเปลืองเงินข้า ข้าควรประมูลอย่างปลอดภัยสิ”

หยวนส่ายหัวอย่างไร้เดียงสา

ท้ายที่สุดมันไม่ใช่เงินของเขาที่ใช้ในการประมูล

ซวนหวู่ฮั่นหัวเราะเบาๆ หลังจากได้ยินคำพูดของหยวนที่ดูเหมือนจะทำให้ความโกรธของดู๋ไฮ่มีมากขึ้นไปอีก

“ดี! ถ้าหากเจ้าต้องการเล่นเกมกับข้า งั้นข้าก็จะเล่นด้วย”

“520,200 เหรียญทอง!”

“520,300 เหรียญทอง!”

“520,400 เหรียญทอง!”

“520,500 เหรียญทอง!”

หลังจากเสนอราคาไปมาไม่กี่นาที ในที่สุดดู๋ไฮ่ก็ทนไม่ไหว และระเบิดความโกรธออกมา

“ไอเด็กบ้านี่! เจ้ากล้าเล่นกับข้าแบบนี้ได้ยังไงกัน!”

เมื่อเห็นดู๋ไฮ่เสียการควบคุมอารมณ์ และเตรียมที่จะโจมตีหยวน นาหยิงซึ่งยืนอยู่ด้านหลังด้วยความเงียบ ก็มายืนด้านหน้า และพูดว่า

“แขกผู้มีเกียรติ โปรดประพฤติตัวให้เหมาะสมด้วย หากท่านยังไม่หยุด ท่านจะต้องออกไปจากที่นี่”

“ดู๋ไฮ่นั่งลง!”

ดู๋ไบ๋คว้าเสื้อของดู๋ไฮ่ด้วยการขมวดคิ้ว

“เชอะ!”

ดู๋ไฮ่ตอบอย่างเย็นชา และกลับไปที่นั่งของเขา อย่างไรก็ตามการจ้องมองยังคงอยู่ที่หยวน แม้ว่าจะผ่านไปหลายอึดใจแล้วก็ตาม

“เราไม่สามารถที่จะทำอะไรไม่ดีที่โรงประมูลฟินิกส์เพลิงฟ้าได้ เจ้ายอมแพ้กับสมบัติชิ้นนี้เถอะ เงินเราจะหมดก่อน ถ้ายังใช้จ่ายไปมากๆในคราวเดียว หากเจ้าต้องการจัดการกับเขา สามารถจัดการได้หลังการประมูลจบลง”

ดู๋ไบ๋กระซิบที่หูของดู๋ไฮ่

“หยวน พี่น้องดู๋เป็นคนไม่ให้อภัยอะไรง่ายๆ พวกเขาจะพยายามสร้างความเดือดร้อนให้เจ้าในภายหลังแน่นอน ข้าจะพูดกับเขาให้ในภายหลัง”

ซวนหวู่ฮั่นกระซิบข้างหูของหยวน เมื่อเธอสังเกตเห็นสายตาที่น่าสงสัยของพวกเขา

“ขอบคุณสำหรับคำเตือน”

หยวนพยักหน้า

แม้ว่าเขาจะไม่กลัว แต่เขาก็ไม่ต้องการที่จะมีเรื่องกับพวกเขา

ไม่กี่นาทีต่อมา หยวนชนะการประมูลด้วย 550,000 เหรียญทอง

“แขกผู้มีเกียรติ ท่านต้องการชำระเงินตอนนี้ หรือชำระในภายหลัง”

นาหยิงถามเขาด้วยน้ำเสียงสุภาพ และท่าทางที่เคารพ

“เจ้าสามารถหักลบกับมูลค่าของชิ้นนั้นในภายหลังได้”

เสี่ยวฮัวตอบเธอ

“ข้าเข้าใจแล้ว”

นาหยิงพยักหน้าแล้วเดินจากไป

ซวนหวู่ฮั่นเลิกคิ้วกับคำพูดของเสี่ยวฮัว และเธอก็ครุ่นคิด

‘ของชิ้นนั้นหรอ? พวกเขานำอย่างอื่นนอกจากแกนมอนสเตอร์มาประมูลงั้นหรอ?’

หลังจากขายอัญมณีวิญญาณแล้ว ก็มีการขายสินค้าอีกสองสามรายการ

“ก่อนที่เราจะเริ่มการประมูลของชิ้นสุดท้ายที่เรามีในวันนี้ ขออนุญาตแนะนำเจ้าของโรงประมูลฟีนิกส์เพลิงฟ้าของพวกเรา ผู้อาวุโสชาง!”

ทันใดนั้นชิงชิงก็พูดขึ้น ทำให้ผู้คนที่นั่นตกตะลึง

“ผู้อาวุโสชาง จะมาปรากฏตัวในวันนี้งั้นหรอ หาดูได้ยากมากเลยนะเนี่ย”

ผู้คนคิด

เพียงไม่กี่อึดใจหญิงชราก็ปรากฎตัวขึ้นบนเวทีพร้อมกล่องไม้ในมือ

“ขอบคุณทุกคนที่มาประมูลในโรงประมูลของข้า ในวันนี้เนื่องจากรายการอย่างสุดท้ายที่เรามีนั้น มีความพิเศษเล็กน้อย ข้าจะทำการประมูลครั้งสุดท้ายด้วยตัวเอง”

ผู้อาวุโสชางพูดด้วยเสียงต่ำ แต่เสียงของเธอก็ดังก้องไปทั่วทุกมุมห้อง

หลังจากพูดแล้ว ผู้อาวุโสชางก็เปิดกล่องไม้ และเผยให้เห็นกริชที่สวยงามวางอยู่ข้างใน

“หืมม ออร่านั่น! มันคือของระดับสวรรค์!”

โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้อาวุโสชางพูดแนะนำกริชน้ำค้างแข็งแห่งสวรรค์  ผู้คนที่นั่นสามารถบอกได้เลยว่ามันเป็นสมบัติประเภทใด เพราะมันมีพลังงานอันลึกซึ้งที่ปกคลุมกริชสีน้ำเงินนั้นอยู่

“มันเป็นสมบัติระดับสวรรค์จริงๆ ฮ่าๆๆ ข้าโชคดีที่มาที่นี่ในวันนี้!”

“แม้ว่าข้าจะไม่สามารถจ่ายได้ แต่ก็พอใจแล้วที่ได้เห็นสิ่งนี้ด้วยตาของข้าเอง!”

ผู้คนเกิดความโกลาหลหลังจากการปรากฎตัวของกริชน้ำค้างแข็งแห่งสวรรค์ เนื่องจากครั้งสุดท้ายที่สิ่งล้ำค่านี้ปรากฎต่อหน้าสาธารณชน คือเมื่อ 100 ปีก่อน!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด