ตอนที่แล้วตอนที่ 124 ระเบิดลูกโปร่งสวรรค์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 126 สัตว์กลายพันธุ์โจมตี

ตอนที่ 125 พบหน้ากันอีกครั้ง


ตอนที่ 125 พบหน้ากันอีกครั้ง

เหนือพื้นดินที่เฉอะแฉะมีกลุ่มเมฆฝนที่ร่วงหล่นอย่างต่อเนื่องราวกับต้องการจะเปลี่ยนโลกเบื้องล่างด้วยหยาดน้ำฝนที่ตกลงมา ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยพละกำลังและเจตนาที่จะต่อสู้ แต่บัดนี้มันกลับแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธและโมโหเดือดดาล

เขาก็คือ “อารอน” ผู้ที่ถ้าดวลกับไนเรลที่เมืองแลกเปลี่ยนต่อหน้าผู้พันเจและมนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ เขายืนอยู่แบบนี้มาเจ็ดวันเจ็ดคืนด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นแล้ว แต่กลับไม่มีวี่แววของไนเรลเลยแม้แต่น้อย

ดูเหมือนเขาจะรู้แล้วว่าไนเรลไม่มาตามนัดไว้อย่างแน่นอนแล้ว

“ไนเรล นายคิดว่าจะหลบหน้าฉันพ้นอย่างนั้นหรือ” อารอนกัดฟันพูดพร้อมกับหันหลังเดินจากไปด้วยความโกรธ จากนั้นไม่นานทางที่อารอนจากไปก็มีเสียงของเขาที่เข้าต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 5 ด้วยความโหดร้ายดังออกมาเป็นระยะ

......

ไนเรลที่ ณ ขณะนี้ลืมเรื่องของอารอนไปเสียสนิทกำลังไล่ล่าสังหารสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 5 ขั้นต้นตัวหนึ่ง มันคือเสือโคร่งโลหะ

เหตุที่เขาเรียกมันเช่นนี้ก็เพราะว่า ขนและกระดูกของมันนั้นเป็นโลหะทั้งหมด แต่ถึงกระนั้นรูปร่างของมันกลับผอมมาก ไม่ใช่เพราะมันอดยากซูบผอมแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะมันกำลังจะเปลี่ยนโครงสร้างของตัวเองไปเป็นเหล็กทั้งหมด

ซึ่งถ้ามันทำสำเร็จมันจะเลือนเป็นระดับ 6 ที่น่ากลัวอย่างมาก แต่ตอนนี้เจ้าเสือโคร่งโลหะพึ่งจะเปลี่ยนร่างไปได้แค่ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

เสือโคร่งวิ่งด้วยความรวดเร็วเหมือนศรเหล็กที่พุ่งผ่านสิ่งกีดขวางส่งเสียงของโลหะเป็นบางครั้งผ่านหมู่ต้นไม้ใหญ่ในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาทีมันก็เดินทางได้หลายร้อยเมตรแล้ว

ด้านหลังของมันมีเงาที่เหมือนวิญญาณตามติดไปไม่ห่างสร้างความหวาดกลัวให้กับมันเป็นอย่างมาก

และร่างวิญญาณที่ว่านี้ก็คือไนเรลนั้นเอง มันสามารถทะลุสิ่งกรีดขวางไปได้อย่างง่ายดาย จึงทำให้มันตามเจ้าเสือโคร่งโลหะได้ทัน

แต่นี่ไม่ใช่ร่างหลักของไนเรล กลับกันกายเนื้อของเขานั้นอยู่ห่างออกไปหลายสิบกิโลเมตร แอบอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ และทันทีที่ร่างหลักของไนเรลืมตาขึ้นมา ก็เหมือนกับมีความสามารถบางอย่างดึงตัวของไนเรลเคลื่อนผ่านความว่างเปล่าไปเหมือนกับการวาบไม่มีผิด

ตัวของไนเรลซ้อนทับกับร่างวิญญาณมาโผล่อยู่หน้าด้านหลังของเสือโคร่งอย่างรวดเร็ว

เสื้อโครงที่เห็นดังนั้นก็ตกใจกลัว เพราะนี่คือครั้งที่ 5 แล้วที่เกิดเรื่องกับมันแบบนี้

ชายหนุ่มจ้องไปที่เสือโคร่งจากนั้นก็ขึ้นไปอยู่บนหลังของมันและหักคอฆ่าเจ้าเสื้อนี้ทิ้งไปทันที จากนั้นไนเรลก็ผ่าที่หัวของมันเผยให้เห็นแก่นพลังงานระดับ 5 อยู่ภายใน เขาหยิบออกมาและกลืนมันลงไปทันที

“18,000 หน่วย” ไนเรลมองไปที่เครื่องวัดพลังงานที่ข้อมือ จากนั้นเขาก็เก็บร่างของเสือโคร่งโลหะลงไป

“เท่านี้ก็รู้แล้วว่าความสามารถนี้ทำอะไรได้บ้าง มันจะเป็นอีกหนึ่งไพ่ตายของเรา” ไนเรลกำลังคิดถึงความสามารถที่เขาใช้ไปเมื่อสักครู่ นี่คือความสามารถใหม่ที่เขาพึ่งได้มาจากตอนที่วิ่งหนีตายเจ้าสิงโตปีกทองอีกครั้งหลังจากที่เจอกับมันเมื่อ 8 วันก่อน

ตอนนั้นเขาเข้าไปหลบสิงโตปีกทองนั้นในต้นไม้ใหญ่และบังเอิญไปเจอเข้ากับสัตว์แปลกที่เหมือนกับลิงเผือก มันยืนนิ่งเหมือนกับตายไปแล้ว จนกระทั่งเขาสังเกตเห็นว่ามีลิงที่รอยอยู่ห่างไปไกล พอสังเกตสักพักเขาก็ต้องตกใจมันคือตัวเดียวกันกับลิงเผือกไม่มีผิด และเมื่อเห็นความสามารถของมันก็คงไม่ต้องบอกว่าไนเรลอาศัยจังหวะนั้นจัดการมันลงกระเพาะไปจึงได้ความสามารถนี้มา

ความสามารถ [พลังจิตเคลื่อนย้าย A] เป็นความสามารถประเภทพลังจิตใจ อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ว่าวิญญาณของไนเรลที่เคลื่อนออกไป แต่เกิดจากไนเรลใช้ความสามารถนี้ล๊อคตำแหน่งไปที่เจ้าเสือโคร่งโลหะ

ต่อให้มันวิ่งหนีไปไกลแค่ไหน จิตที่เขาล๊อคไว้ก็จะอยู่ข้างหลังมันเสมอ และถ้าเขายังล๊อคมันไว้ทันทีที่ลืมตาตัวของเขาก็จะย้ายไปที่จุดที่ล๊อคไว้ทันทีทันใด

ไนเรลยิ้ม ๆ ออกมาจากนั้นก็เดินทางตัวด้วยความรวดเร็ว

หลายวันผ่านไปนั้นไนเรลเดินทางจากภูมิภาคใต้ไปที่ตะวันออก โดยเขาเลือกที่จะหลบเลี่ยงเมืองหลวงใหม่ที่ตั้งอยู่ทางภูมิภาคใต้ เพราะตอนนี้ไนเรลยังไม่ยากไปที่นั่นด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง

แต่ในระหว่างทางในภูมิภาคใต้ เขาเจอมนุษย์บ้างเป็นบ้างครั้ง ดูเหมือนพวกเขาจะอบยบกันไปที่เมืองหลวงหลัก ไนเรลยังเจอกับเมืองย่อยที่พังทลายไม่เหลือซากจากการที่โดนสัตว์กลายพันธุ์โจมตี

ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ โลกใบนี้ก็ไม่ใช่ของมนุษย์อีกแล้ว

นั้นทำให้เขารีบมุ่งหน้ากลับไปที่เมืองย่อย 101 เพราะอาจจะเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาได้ทุกเมื่อ แต่เมือเข้าสู่เขตสัญญาณเขาก็ติดต่อซีโล่และคนของสมาพันธุ์นักล่าได้อีกครั้งจึงรู้ว่ายังไม่เกิดเรื่องที่นั่น แต่ก็มีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นนั้นก็คือ พวกสัตว์กลายพันธุ์เริ่มบ้างคลั่งกันมากขึ้น

อีกทั้งซอมบี้ก็เริ่มปรากฏตัวมากขึ้นหลังจากหายไปนาน

5 วันหลังจากนั้นไนเรลก็มาถึงเมืองหนึ่ง แต่มันไม่ใช่เมืองย่อย 101 เพราะมันคือเมืองถัดไป แต่เมืองที่เขามาถึงนี้คือเมืองย่อยที่คุ้นเคยสำหรับไนเรลมาก

เมื่อก่อนมันถูกเรียกว่าค่ายของยักษ์ เป็นค่ายลี้ภัยที่ติดกับเมืองหลวงที่สุด ย้อนกลับไปตอนที่หนีออกมาชานเมืองเขาเจอกับประธานซา ซามูเอลราชายักษ์นั้นที่มาประจำอยู่ที่เมืองย่อยแห่งนี้

ไม่สิคงต้องเรียกว่า เมืองของยักษ์ถึงจะถูก ไนเรลลดระดับการบินลงไปที่เมืองของยักษ์ที่นี่มีปืนใหญ่เรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก อันที่จริงมันมากกว่าเมืองย่อย 101 ซะอีก เพราะดูเหมือนพวกเขาจะให้ที่นี่เป็นด้านหน้าป้องกันซอมบี้จากเมืองหลวงไปในตัว

ชายหนุ่มลดระดับลงมา แต่แล้วก็ ๆ ก็มีเสียงสัญญาเตือนและปืนใหญ่พลังงานก็เล็งมาที่เขา พร้อมกันั้นมันก็เหมือนจะยิงถล่มมาที่ไนเรลโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเลยแม้แต่น้อย

บูม! บูม! บูม!

พลังงานปืนใหญ่ที่ยิงมาระเบิดกลางอากาศอย่างต่อเนื่องแต่ไนเรลก็หลบมันได้อย่างรวดเร็วและถอยออกไปนอกเมืองทันที

เขาปาดเหงื่อที่หน้าผากและมองไปที่เมืองอย่างไม่พอใจเล็กน้อย แต่แล้วในจังหวะนั้นก็มีมนุษย์ชั้นสูงระดับ 4 กระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ล้อมไนเรลไว้ และหนึ่งในนั้นก็เป็นใบหน้าที่คุ้นเคยนั้นก็คือ ประธานซานั้นเอง

“ล้อมซอมบี้ปีกไว้อย่าให้มันหนีไปได้” ประธานซาสั่งมนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ

“เดี๋ยวก่อน พวกนายเข้าใจผิดแล้ว” ไนเรลเงยหน้าเพื่อให้พวกเขาเห็นคริสตัลวิวัฒนาการที่หน้าผากได้ชัดเจนขึ้น จะได้รู้ว่าเขานั้นไม่ใช่ซอมบี้ปีก แต่เป็นมนุษย์ชั้นสูงตั้งหาก

เมื่อมนุษย์ชั้นสูงที่ล้อมรอบไนเรลอยู่ก็เห็นหน้าตาของไนเรลชัดเจน พวกนั้นก็เข้าใจว่าไนเรลเป็นมนุษย์ แต่แล้วก็ทำให้มีสิ่งให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ระดับพลังของไนเรล

“สีน้ำเงิน” ประธานซาและมนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ ต่างก็พูดออกมาปละหันไปมองหน้ากันไปมา ประธานซามองใบหน้าของไนเรลพร้อมกับคิดว่าเคยเห็นชายหนุ่มที่ไหนมาก่อน

“สวัสดีประธานซา ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

“นายคือ?”

“ผมไนเรล อาโรเดีย ที่เคยเจอคุณที่บ้านพักชานเมืองเมื่อหลายเดือนก่อน” ไนเรลตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉยและสุภาพ แต่ไม่ถ่อมตนจนเกินไป เพราะในตอนนี้สถานะของเขานั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“คนตระกูลอาโรเดีย หืมไอ้หนูนั้นแกเองเหรอ” ประธานซาถามออกมาด้วยความเหลือเชื่อไม่คิดว่าไนเรลจะมาไกลถึงขนาดนี้ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่เดือน

หลังจากที่ประธษนซารู้ว่าเป็นไนเรลแล้ว พวกเขาก็พากันแยกย้ายกลับไป แต่ก่อนจะไปพวกเขาก็ขอโทษเขากลับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าส่วนหนึ่งนั้นก็เป็นความผิดของไนเรลด้วยเช่นกันที่บินทะเล่อทะล่าเข้าไปในเขตเมือง จนทำให้พวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นซอมบี้ปีก

และเพื่อเป็นการขอโทษไนเรลประธานซาจึงเชิญชวนไนเรลไปพักที่บ้านพักของตนเอง ซึ่งไนเรลก็ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นเจ้าบ้านของชายชรา

ในระหว่างทางที่เดินไปในเมืองผู้คนต่างมองไปที่ประธานซานด้วยสายตาเคารพ ชายหนุ่มที่เห็นดังนั้นก็เข้าใจ ที่ผ่านมาชายชราคงจะดูแลและปกป้องคนในเมืองนี้มาตลอดทำให้ได้ความเคารพมากขนาดนี้

......

ที่บ้านของประธานซาไนเรลนั่งลงที่โซฟา ขณะที่ยกเครื่องดื่มขึ้นมาดื่มด้วยความกระหาย

“ไม่ว่าสถานการณ์ไหน เครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นอยู่เสมอก็คือน้ำอัดลมสินะ” ไนเรลพูดจบก็จัดการยกกระดกไปอีกอึกใหญ่ ๆ

“ตอนนี้นายมีพลังเท่ากับพวกสัตว์กลายพันธุ์ระดับ 5 แล้วสินะ” ประธานซาที่นั่งอยู่อีกฝั่งโดยมีหลานสาวนั่งเล่นอยู่ด้านข้างถามขึ้นมา

“ก็คงอย่างนั้น คุณเองก็คงจะอีกไม่นานเช่นกัน เอาเป็นว่าเลิกพูดเรื่องระดับพลังดีกว่า ผมจะถามตรง ๆ เลยนะ” ไนเรลเงียบเสียงไปสักพัก วางแก้วที่ภายในเหลือแต่ก้อนน้ำแข็งลงจากนั้นก็มองไปที่ตาของประธานซาอย่างไม่เกรงกลัวแล้วกล่าวออกมา

“คุณต้องการอะไรกันแน่ คงไม่ใช่เพราะแค่เรื่องขอโทษจึงชวนผมมาพักที่นี่หรอกนะ”

“ยังคงเหมือนตอนนั้นเลยสินะ เอาจริงเรื่องที่คนของทางนี้ยิงปืนใหญ่ใส่นายฉันไม่สนมันเลยสักนิด ด้วยระดับนายโดนไปลูกสองลูกคงไม่ตายหรอกจริงไหม”

“นั้นก็ไม่แน่” ไนเรลพุดออกไปอย่างคลุมเครือ แต่ถ้าฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วนั้นดูมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก

ประธานซาได้ยินดังนั้นก็หรี่ตามองไนเรลและพูดต่อทันที “ฉันต้องการยืมพลังของนายช่วยต้านฝูงสัตว์กลายพันธุ์หน่อย”

“หืม หมายความว่ายังไง” ชายหนุ่มถามออกมาด้วยความสนใจ

หลังจากคำถามนั้นประธานซาก็บอกกับไนเรลเรื่องที่มีสัตว์กลายพันธุ์กลุ่มใหญ่ พวกมันรวมตัวกันและกำลังจะมุ่งหน้ามาทางเมืองแห่งนี้

อันที่จริงแล้วพวกเขาตรวจเจอกับพวกมันมาได้สัก 2 วันแล้ว แต่เวลาที่แน่นอนว่าฝูงนี้จะเข้าโจมตีคือเมื่อไหร่ แต่คงไม่เกิน 24 ชั่วโมงอย่างแน่นอน และนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งเมืองตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียด จนพวกเจ้าหน้าที่เปิดฉากยิงไนเรลก่อน

เพราะพวกเขากลัวว่าจะมีซอมบี้ลอบโจมตีในตอนที่รับมือกับฝูงสัตว์กลายพันธุ์

“ฝูงสัตว์กลายพันธุ์...เป็นไปได้อย่างไร ค่ายของยักษ์ไม่ควรจะมีฝูงสัตว์กลายพันธุ์โจมตีสิ” ไนเรลพูดออกมาด้วยความแปลกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“หมายความว่าอย่างไรที่ว่าไม่ควรมี...” ชายชราแปลกใจกับท่าทีของไนเรล

“เออ...ไม่มีอะไรผมก็แค่แปลกใจเท่านั้นว่าทำไมคุณถึงไม่แจ้งเรื่องนี้ให้ทางรัฐบาลกลางส่งคนในกองทัพมาเพิ่ม” ไนเรลเปลี่ยนเรื่องในทันที

“นั้นไม่ได้อยู่ในอำนาจฉัน อันที่จริงฉันควรจะเดินทางไปที่เมืองหลวงใหม่เพื่อจัดการกับกลุ่มบริษัท...ช่างเรื่องนั้นเถอะ ที่ขอให้นายช่วยในครั้งนี้คือคำขอส่วนตัว ถ้านายตกลงฉันจะยื่นเรื่องไปที่พวกนั้นเพื่อแจ้งกับรัฐมลตรีที่ดูแลที่นี่ว่านายจะเข้าร่วมสู้ในครั้งนี้ด้วย” ประธานซากล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย แต่แฝงไว้ด้วยความจริงจัง

“เรื่องช่วยก็ได้อยู่ แต่ผมมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง” ไนเรลเองก็เข้าสู่โหมดจริงจังแล้วเช่นเดียวกัน

......

ประธานซานั่งเงียบไปสักพักหลังจากที่ไนเรลแยกตัวออกไปแล้ว ชายชราได้แต่คิดหนักถึงคำขอของชายหนุ่ม

เพราะสิ่งที่ไนเรลขอนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงกระนั้นซามูเอลก็บอกว่าจะยื่นเรื่องไปให้

ซึ่งนั้นก็เป็นคำตอบที่ไนเรลพอใจมากแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด