ตอนที่แล้วบทที่ 28 การเข้าสอบ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 30 ดาบและร่างกาย

บทที่ 29 การเปลี่ยนแปลงในอาณาจักรไดคาเธน


ฉันถือดาบสั้นไว้เหนือเอวพร้อมที่จะโจมตีหรือป้องกัน ในไม่ช้าเสียงที่ดังก้องไปทั่วเวทีก็ถูกกลบไปในไม่ช้าขณะที่โฟกัสของฉันอยู่ที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันเท่านั้น

ชายคนที่ชื่อคาสเปี้ยนเป็นผู้รับผิดชอบกิลด์ฮอลล์ที่ใหญ่ที่สุดและกำลังถือดาบเรเปียร์ที่น่ากลัวด้วยมือขวา เขายืนตัวตรงและแกว่งเรเปียร์เป็นรูปแปดด้วยปลายมีดของเขาในขณะที่ส่งเสียงฮัมเพลงเล็กน้อย กระนั้นเขากลับไม่มีช่องว่าง แรงกดดันจากความกระหายเลือดของเขาถูกปล่อยออกมาอย่างโจ่งแจ้งในขณะที่เขากล้าที่จะยิ้มอย่างไร้เดียงสา

ความทรงจำเกี่ยวกับการต่อสู้ในสังเวียนของโลกก่อนหน้าของฉันฉายแววในใจเมื่ออากาศตึงเครียดระหว่างเรา โฟกัสของฉันคมชัดขึ้นจนถึงขีดจำกัด เสียงเดียวที่เข้ามาในหูของฉันคือเสียงของแคสเปี้ยน ใบมีดของเขาหวีดหวิวในอากาศเสียงของเสื้อผ้าบางๆ ของเขาและเสียงหายของเขา มันทำให้ร่างกายของฉันกรีดร้องว่าให้ระวังผู้ชายคนนี้ให้ดี

ฉันรู้สึกได้ว่ามือของฉันสั่นเล็กน้อยไม่ใช่จากความหวาดกลัว แต่มาจากความตื่นเต้น ฉันไม่คิดว่าจะเจอคู่ต่อสู้ที่มีความสามารถขนาดนี้ในตอนนี้ การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ถึงกับการเอาเป็นเอาตาย แต่ฉันรู้ว่ามันจะแตกต่างจากการสปาร์ของฉันกับคุณปู่วิริออนในเอเลนนัวร์

“ฉันรู้ตั้งแต่แวบแรกแล้วว่าคุณจะต้องได้รับการประเมินในลักษณะที่แตกต่างออกไป ฉันหวังว่าคุณจะไม่คิดว่าสิ่งนี้…การต้อนรับแบบพิเศษจนฝังใจนะ”

าสเปี้ยนแสดงความคิดเห็นขณะที่เขาลดกระบวนท่าลง

ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้นฉันวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทุกอย่างที่ฉันสามารถทำได้เกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ การเอื้อมของเขายาวกว่าของฉันประมาณหนึ่งฟุตในขณะที่กระบวนท่าของเขาบ่งบอกว่าเขาอาศัยการแทงมากกว่าการแกว่งดาบเป็นหลัก จากจำนวนมานาที่ฉันรู้สึกได้ว่ากำลังหมุนอยู่ใกล้ๆเขามันทำให้รู้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรผิดพลาดอย่างโง่ๆ

“ได้โปรดเตรียมตัวให้พร้อม ฉันไม่อยากให้คนที่คุณเฟลมส์เวิร์ธสนับสนุนเแพ้เร็วเกินไป”

เขาพุ่งไปข้างหน้าทิ้งร่องรอยฝุ่นไว้ข้างหลังขณะที่ปิดช่องว่างระหว่างเรา ในการเคลื่อนเพียงครั้งเดียวเขาพุ่งดาบของเขาเหมือนสปริงโดยใช้โมเมนตัมของก้าวแรกของเขา

ฉันบิดศีรษะเพื่อหลีกเลี่ยงการแทง แต่ผมของฉันถูกตัดออกไปแบบเฉลียดๆไม่กี่เส้น

“เป็นการหลบหลีกที่ยอดเยี่ยม”

เขารำพึงและดึงดาบกลับเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีครั้งต่อไป

ทันทีเข้าก็โจมตีด้วยการแทงแบบหักมุมฉันป้องกันด้วยฝักดาบ เสียงแหลมดังก้องไปทั่วเวทีจากการปะทะกันและฉันก็ถูกทำให้เสียการทรงตัว ดูเหมือนว่าฉันยังไม่สามารถใช้ความสามารถเดิมในการใช้ดาบกับร่างกายที่ไม่ได้รับการพัฒนานี้ได้อย่างเต็มที่

ฉันฟื้นตัวจากความปราชัยนี้โดยการหมุนตัวเองและใช้โมเมนตัมจากการโจมตีของเขาเพื่อหมุนร่างกายที่ขาดพลังของฉันเพื่อสร้างวงสวิงที่ทรงพลัง

คาสเปี้ยนเอนหลังเพียงครู่เดียวก่อนที่ดาบของฉันจะถึงหัวของเขา แต่มีเส้นสีแดงบางๆ ปรากฏขึ้นที่ปลายจมูกของเขา

ดวงตาที่บางของเขาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ แต่เขาก็ฟื้นตัวได้ทันที ฉันใช้ประโยชน์จากเสี้ยววินาทีนั้นฉันดึงดาบของฉันกลับมาเพื่อสร้างการโจมตีที่คมกว่าเก่าและปัดขึ้นไปที่ขาที่ไม่มีอะไรป้องกันของเขา

ใบมีดของฉันสะท้อนแสงไฟอารีน่าทำให้เกิดแสงสีเงินขณะที่มันพุ่งผ่านไปในอากาศ

อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของฉันสามารถเปลี่ยนตำแหน่งดาบของเขาเพื่อป้องกันวงสวิงของฉันได้ เสียงปะทะที่แหลมคมของโลหะทำให้ทั้งคาสเปี้ยนและฉันงอตัวกลับอย่างรวดเร็ว พวกเราทั้งคู่ดูเหมือนจะมีเจตนาเดียวกันในขณะที่เราทั้งคู่ใช้โอกาสนี้เพื่อเพิ่มระยะ

ผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีในระหว่างการแลกเชิงดาบที่ร้ายแรง แต่พวกเราแต่ละคนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ฉันเปลี่ยนมือจับดาบของฉันเพราะผลกระทบของการโจมตีครั้งสุดท้ายของเราทำให้เกิดการสั่นสะเทือนที่ทำให้มือขวาของฉันสั่น

การตระหนักว่าฉันยังไม่คุ้นเคยกับการต่อสู้ในร่างกายนี้ชัดเจนเกินไปเมื่อฉันเขย่ามือ

“ฉันต้องขอโทษที่ดูถูกคุณ ฉันจะเอาจริงกว่านี้หน่อย”

น้ำเสียงของคาสเปี้ยนสงบ แต่ใบหน้าของเขาแสดงความจริงจังในระดับหนึ่งซึ่งไม่เคยมีมาก่อน

ดวงตาอันเฉียบคมของเขาเปล่งประกายด้วยเจตนาฆ่าที่ทรงพลังซึ่งมีได้เฉพาะในคนที่มีประสบการณ์การต่อสู้มานานหลายปี ดาบของเขาเล็งมาที่ฉัน แต่เมื่อเขานำมันเข้ามาใกล้ดาบของเขาก็เริ่มเปล่งประกายด้วยสีเงิน

“ฮ่า!”

เขาปล่อยลมหายใจที่รุนแรงออกมาเขาแทงดาบออกมาและเจาะอากาศตรงหน้าเขา

ขนที่หลังคอของฉันลุกขึ้นขณะที่ร่างกายของฉันกรีดร้องให้ฉันวิ่งหนี ฉันหมุนตัวเองโดยสัญชาตญาณให้ห่างจากจุดที่ฝ่ายตรงข้ามจากเส้นทางการโจมตีของเขา ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงพุ่งออกมาจากไหล่ของฉันขณะที่เลือดร้อนซึมเข้าไปในแขนเสื้อของฉัน ...

“ดูเหมือนว่าคุณเฟลมส์เวิร์ธจะเลือกคนที่คู่ควร”

คาสเปี้ยนยอมรับ

เท่าที่ฉันกังวลนี่ไม่ใช่การประเมินอีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะคาดหวังให้ฉันหลบหรือไม่เขาก็ได้เล็งมาที่หัวใจของฉัน

ฉันจะสามารถเอาชนะเขาได้อย่างง่ายดายไหมด้วยร่างกายในอดีตของฉัน? ฉันไม่แน่ใจ มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คุณภาพของดาบของเราการใช้มานาในระยะไกลที่ไม่มีในโลกเก่าของฉัน ...

เขาใช้เวลาสักครู่ในการโจมตีครั้งต่อไปของเขาเขาปล่อยการแทงติดต่อกันอีกสองครั้ง แต่ฉันรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เขาสร้างกระสุนลมที่แหลมคมซึ่งเกือบที่จะมองไม่เห็น อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะหลบไม่ได้ เมื่อถึงจังหวะที่มันมาถึงแขนของฉันจากการโจมตีครั้งก่อนของเขาฉันก็สามารถวัดความเร็วที่คาถาจะเดินทางมาถึงตัวฉันได้

คาถาเดินทางในเส้นทางตรงตามทิศทางของการกระทุ้งของเขาดังนั้นในขณะที่ความเร็วของคาถานั้นน่ากลัว มันก็มีช่องโหว่ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้

ฉันมุดเข้าไปใต้กระสุนลมลูกแรกขณะที่มันแทบจะไม่โดนผมของฉันเลย ฉันปัดกระสุนนัดที่สองด้วยใบมีดทำให้คาถาของเขาเปลียนทิศทางไป ทันทีหลังจากนั้นฉันเสริมมานาไปที่ขาของฉันและพุ่งเข้าหาคาสเปี้ยน

ฉันต้องลดระยะห่างระหว่างเราให้สั้นลง ตอนนี้ฉันรู้ว่าคาถาระยะไกลของเขาถูกกำจัดไปแล้ว แต่ฉันก็รู้อีกว่าในการต่อสู้ระยะประชิดมันจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากเหมือนกัน

ฉันมีร่างกายที่เล็กกว่าร่างที่ฉันคุ้นเคยเมื่อต่อสู้ด้วยดาบมากและมีมานาที่เล็กกว่ามากเพื่อใช้ประโยชน์ ดังนั้นแม้ว่าการดูดกลืนมังกรของซิลเวียจะทำให้ร่างกายของฉันแข็งแกร่งขึ้น แต่ฉันก็ยังไม่ได้เปรียบเมือเทียบกับนักสู้รุ่นเก๋าที่มีร่างกายที่เสริมไปด้วยมานา

ข้อดีอย่างเดียวที่ฉันมีคือแคสเปี้ยนไม่รู้ว่าฉันกำลังซ่อนไม้เด็ดอะไรไว้

ฉันมุ่งเน้นมานาไปที่มือข้างที่ว่างอยู่ของฉัน ฉันใช้นิ้วมือจับลงไปที่ดาบของฉันและเสริมมันด้วยไฟ เมื่อเข้าไปหาเขาฉันเหวี่ยงตัวลงเพื่อปลดปล่อยวงสวิงของดาบที่มาพร้อมกับเพลิงสีแดง

ฉันสามารถเห็นคาสเปี้ยนกำลังทำมองดูสิ่งนี้อย่างมีสมาธิบนใบหน้าของเขาในขณะที่เขาใช้มานามากขึ้นเพื่อเสริมดาบของเขาจนกระทั่งมันเปล่งประกายเป็นสีขาวเงินอีกครั้ง เขาปัดเป่าเปลวไฟออกไปด้วยวงสวิงอันทรงพลังโดยทิ้งหน้าต่างบานเล็กๆที่เรียกว่าช่องว่าง ไว้ให้ฉันได้ใช้ประโยชน์

เมื่อรวบรวมมานาไว้ที่ฝ่าเท้าซ้ายของฉันฉันปั้นคาถาให้เป็นรูปแบบที่เหมาะสม

[พิสเทินแสตมป์] (แทงแบบลูกสูบ)

การระเบิดที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องปะทุขึ้นใต้เท้าของฉัน ขับเคลื่อนฉันไปข้างๆคาสเปี้ยน

“ทำได้อย่างไร...”

นั้นคือทั้งหมดที่เขาพูดได้ ปากของเขาอ้าปากค้างดาบของเขายังคงถูกตรึงไว้จากการป้องกันการโจมตีครั้งก่อนของฉันที่ฉันหลอกเขา

ตำแหน่งของฉันมันไม่เหมาะสมเท่าไหร่ ฉันได้ก้าวเข้าระยะมากไปหนึ่งก้าวจากที่ฉันต้องทำ แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

ไม่มีเวลามากพอที่จะสร้างคาถาที่เหมาะสมฉันเพียงแค่เสริมร่างกายของฉันด้วยมานาในขณะที่ฉันแทงดาบไปข้างหน้า

อย่างไรก็ตามแม้ว่าระยะห่างระหว่างใบมีดของฉันกับคาสเปี้ยนจะสั้นลง แต่ฉันก็สามารถได้ยินผู้จัดการกิลด์ฮอลล์พูดว่า

“รวบรวมและปลดปล่อย!”

[เกลวอร์เท็กซ์]

ฉันเกือบจะไม่สามารถถอนการโจมตีของฉันเพื่อกระโดดหลบไปได้ในขณะที่กระแสลมอันรุนแรงพุ่งออกมาจากคาสเปี้ยน และปกป้องตัวเขาในพายุหมุนเล็กๆ

ผู้จัดการกิลด์ฮอลล์ถูกซ่อนไว้ไม่ให้มองเห็นทำให้ฉันมีเวลาเตรียมตัวสำหรับการโจมตีครั้งต่อไปของเขา

คาถาถูกปล่อยออกมาเพื่อเผยให้เห็นคาสเปี้ยนที่กำลังเหงื่อออกและหอบดาบของเขาซุกอยู่ด้านข้างของเขาเหมือนงูกำลังจะฟาดฟัน แขนซ้ายของเขาเหยียดออก - ฝ่ามือเปิด - และเล็งตรงมาที่ฉัน

เห็นได้ชัดว่าเขากำลังร่ายมนต์ขณะที่ดาบของเขาเริ่มเปล่งประกายเป็นสีเงิน

“จงแทงไปคนที่ยืนหยัดต่อสู้กับฉัน!”

เขาคำรามในขณะที่ดาบของเขาหายไปในความพร่ามัวของการแทงนับครั้งไม่ถ้วน

[สกายฟอลทอเรน]

นี่คือการสอบใช่มั้ย? เขาพยายามจะฆ่าฉันจริงๆหรือ

“ช่างแมร่ง!”

ฉันพึมพำกับตัวเองในขณะที่ฉันจดจ่อมานาครั้งสุดท้ายที่เหลืออยู่ลึกเข้าไปในเซลล์ประสาทและของร่างกาย

[ธันเดอร์แคลปอิมพัลส์]

หนึ่งในเทคนิคไม่กี่อย่างที่ฉันสามารถพัฒนาได้โดยใช้ความรู้จากโลกก่อนในขณะที่ฝึกฝนกับคุณปู่วิริออน เทคนิคที่ใช้มานาความสัมพันธ์ของสายฟ้าเพื่อเรียกกระแสไฟฟ้าไปทั่วเส้นประสาทของฉันทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองของฉันเร็วขึ้นในระดับที่เหนือมนุษย์ มนุษย์โดยเฉลี่ยมีเวลาตอบสนองประมาณ 0.3 วินาที แต่มีนักสู้ที่ได้รับการฝึกฝนซึ่งสามารถลดความเร็วลงได้ถึง 0.2 หรือ 0.15 วินาที

การใช้ธันเดอร์แคลปอิมพัลส์จะทำให้เวลาในการตอบสนองของฉันสามารถลดลงเหลือประมาณ 0.05 ในช่วงเวลาสั้นๆ

รูม่านตาของฉันหดตัวขณะที่ขนบนผิวหนังของฉันลุกขึ้นยืนเนื่องจากกระแสไฟฟ้า

ฉันได้ยินเสียงกระซิบอันแหลมคมของกระสุนอากาศที่ยิงมาทางฉันในขณะที่ฉันเตรียมพร้อมที่จะหลบมัน

"ปลดปล่อย!"

คาสเปี้ยนร้องลั่น

ทันใดนั้นกระสุนลมทั้งหมดก็กระจายออกไปทำให้คาถาของเขากลายเป็นลมที่ไม่เป็นอันตราย

“ฉันอาจจะเพลินไปนิดหน่อยกับการทดสอบขีดจำกัดของคุณ”

เขาขอโทษพร้อมปลอกดาบ ผู้จัดการกิลด์ฮอลล์หันหน้าหนีทันทีและมุ่งหน้าไปยังทางออกขณะที่ฉันคลายมนต์สะกด

“จากข้อเท็จจริงที่ว่าคุณไม่ยอมใช้ความสามารถทั้งหมดของคุณอย่างยืนกรานจนถึงที่สุดฉันสันนิษฐานได้ว่าคุณต้องการที่จะถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าใช่มั้น?”

เขากล่าวพร้อมกับก้าวย่างต่อไปโดยไม่หันหลังให้

"โน็ต คราส B”

“ก่อนที่จะหายไปในทางเดินที่เขาจากมาคาสเปี้ยนหันหน้ามามองฉันด้วยเลนส์ข้างหนึ่งบนแว่นแตก”

ฉันแน่ใจว่าคุณไม่มีปัญหากับเรื่องนี้”

ฉันแค่พยักหน้าเห็นด้วยและดูเขาเดินออกไปจากทางเดินมืดๆ

“นั่นเป็นการทดสอบครั้งสุดท้ายของวันนี้! โปรดไปที่แผนกต้อนรับเพื่อรับบัตรนักผจญภัยของคุณ เอาละเลิกการทดสอบ!”

ผู้คุมสอบออกเมนเตอร์ตะโกนออกมาขณะที่เขาและผู้คุมสอบคนอื่นๆ ทั้งสองรีบตามเจ้านาย

มุมมองของคาสเปี้ยนเบลดฮาร์ท:

ฉันมาถึงโต๊ะทำงานและก่อนที่ฉันจะมีโอกาสได้นั่งผู้คุมสอบสองคนที่รับผิดชอบตำแหน่งในวันนี้ได้ระดมคำถามมากมายกับฉัน

“จอร์จ เอมิลี่ นั่งก่อนและอย่าพูดพร้อมกันสิ”

ฉันถอนหายใจจมลงไปบนเก้าอี้อย่างแรง

"ท่านครับ! การสอบของวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น?”

จอร์จตะโกนออกไปทันที

“นักผจญภัยระดับ B สามคนในหนึ่งวัน? สถานการณ์แบบนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่ต้องพูดถึงว่าสองคนนั้นเป็นเด็ก! ขั้นสีส้มอ่อนเมื่ออายุสิบเอ็ดปี…เคยมีอะไรเช่นนี้เกิดขึ้นท่ามกลางมนุษย์หรือ?”

เอมิลี่พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“พวกนายจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครึ่งปีที่แล้วที่ไซรัส?”

ฉันถาม

“ประมาณหกเดือนที่แล้วน่าจะเป็นช่วงเวลาที่การแข่งขันครั้งแรกระหว่างทั้งสามเผ่าใช่ไหมค่ะ?”

เอมิลี่ตอบ

"ใช่แล้ว เจ้าหน้าที่กิลด์นักผจญภัยทุกคนจะรู้ในไม่ช้าดังนั้นจึงไม่มีประเด็นที่จะซ่อนสิ่งนี้มากนัก ฉันเพิ่งได้รับแจ้งเรื่องนี้มาเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อนเช่นกัน การห้ามไม่ให้เอลฟ์และคนแคระเป็นนักผจญภัยได้ถูกยกเลิกตั้งแต่วันนี้ร่วมถึงผู้เข้าสอบด้วย”

ฉันดึงแฟ้มบางๆ ออกมาจากลิ้นชักโต๊ะทำงาน

“ท่านครับ ท่านหมายถึงบอกว่าทั้งสามคนนั้นเป็นคนแคระหรือเอลฟ์หรือ?”

ดวงตาของจอร์จเบิกกว้างจนน่ากลัวขณะที่เขาแสดงอาการตกใจ

“ลูคัสไวค์ส เป็นลูกครึ่งเอลฟ์ที่อาศัยอยู่ในอาณาจักรเซปิน ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดของเขาถูกบันทึกไว้แล้ว แต่ถ้าให้ฉันเดาเขาคงเป็นผลงานจากเอลฟ์ทาสของตระกูลไวค์สมีชื่อเสียงที่ไม่ดีมาโดยตลอดในเรื่องการขลุกอยู่กับวิธีที่ชั่วร้ายในการเพาะพันธุ์นักเวทย์ที่เก่งขึ้นสำหรับตระกูลของพวกเขา เขาเป็นเด็กที่ผิดปกติที่สามารถเชี่ยวชาญในเรื่องเปลวไฟได้แม้จะมีเชื้อสายเอลฟ์ก็ตาม เขาตื่นขึ้นเมื่ออายุแปดขวบซึ่งเร็วมากแม้จะอยู่ในมาตรฐานของเอลฟ์และถูกส่งมาที่นี่เพื่อทดลอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตระกูบไวค์สต้องใช้เงินจำนวนมากในการซื้อคอร์ของสัตว์มานาและทรัพยากรอื่นๆ เพื่อเร่งการเติบโตของเขา”

ฉันพลิกไปหน้าถัดไป

“อาไลจาห์ไนท์ เขาเป็นคนที่ลึกลับ ตามประวัติแล้วไม่ทราบที่มาของเขา อย่างไรก็ตามเขาเติบโตขึ้นท่ามกลางคนแคระตั้งแต่อายุยังน้อย เขาถูกส่งไปเป็นหนึ่งในตัวแทนกลุ่มแรกจากอาณาจักรดาร์ฟเพื่อที่จะผูกมิตรและหลอมรวมเข้ากับอาณาจักรของมนุษย์”

“ทำไมเขาถึงไม่ถูกทดสอบค่ะท่าน? เสมียนบอกฉันเพียงแค่ให้จัดเขาเข้าคลาส B”

เอมิลี่ถามเสียงของเธอสูงกว่าปกติจากความตื่นเต้น

“อาไลจาห์ตื่นขึ้นเมื่อไม่กี่เดือนก่อนดังนั้นตอนนี้เขาแทบจะไปไม่ถึงขั้นสีแดงเข้ม สำหรับเหตุผลที่เขาได้รับอนุญาตให้เป็นนักผจญภัยระดับ B มันอาจจะเกี่ยวข้องกับคนที่สนับสนุนเขาไว้ ฉันไม่สามารถทำอะไรได่ในกรณีของเขาดังนั้นเราจึงต้องปล่อยไปอย่างนั้น ฉันเองก็อยากรู้ว่าความสามารถของเขาคืออะไร”

ฉันส่ายหัววางแฟ้มของเขา

“สำหรับออกเมนเตอร์ที่สวมหน้ากากคนนั้นพูดตามตรงฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เขาไม่ได้รับการบันทึกว่าเป็นตัวแทนของคนใดในรายการ ฉันแค่อยากรู้ว่าคนที่คุณเฟลมส์เวิร์ธเต็มใสนับสนุนเป็นคนแบบไหน”

“เฟลมส์เวิร์ธ…หมายถึงตระกูลเฟลมส์เวิร์ธเหรอ? นั้นเป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงซึ่งเป็นที่รู้จักจากการให้กำเนิดนักเวทย์ไฟที่แข็งแกร่งที่สุด?”

ฉันเก็บแฟ้มและมองพวกเขาอย่างจริงจังและปรับแว่นตาของฉัน

“ฉันบอกพวกนายทั้งหมดนี้เพราะเดี๋ยวพวกนายก็จะรู้เรื่องนี้เองในไม่ช้า อย่างไรก็ตามฉันเชื่อว่าพวกนายจะไม่บอกคนอื่นจนกว่าจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ”

ด้วยการพยักหน้าอย่างแรงกล้าจากทั้งคู่ฉันจึงขอให้พนักงานทั้งสองคนออก

ฉันถูกปล่อยให้ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ในวันนี้

ออกเมนเตอร์ที่สวมหน้ากาก เทคนิคของเขาไม่ใช่ทักษะมาตรฐานที่นักเวทย์ธาตุไฟส่วนใหญ่ใช้ แม้กระทั่งลีลาดาบของเขา…มันเป็นสิ่งที่ทำให้ฉันหวั่นไหว

อย่างไรก็ตามไม่ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นอย่างไรฉันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกได้ว่าการเคลื่อนไหวของเขายังแปลกๆไป จากการเคลื่อนไหวที่อึดอัดในบางครั้งมันทำให้รู้สึกเหมือนว่าเขายังไม่ชินกับร่างกายของตัวเอง

ฉันยกเลิกความคิดที่ไม่จำเป็นและเริ่มอ่านเอกสารที่ยังไม่ได้อ่าน

ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้ตัวเอง ทวีปนี้กำลังเปลี่ยนแปลงไป นับจากนี้จะมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นอีกมาก

มุมมองของอาเธอร์เลีย์วิน:

พนักงานต้อนรับคนเดียวกับที่พาเราไปยังสถานที่สอบยื่นบัตรนักผจญภัยสีบรอนซ์ของฉันที่แผนกต้อนรับ

จาก คราส E ถึง คราส B การ์ดเป็นสีทองแดงในขณะที่ คราส A จะเปลี่ยนเป็นสีเงินจากนั้นเป็นสีทองสำหรับคลาส AA จากนั้นเป็นสีขาวสำหรับคลาส S

“จัสมิน คุณมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคาสเปี้ยนหรือ?”

ฉันถามหลังจากเก็บการ์ด ซิลวียังหลับอยู่บนหัวของฉัน

“เขาเป็นคนรู้จักพ่อของฉัน”

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ฉันไม่ได้หาคำตอบเพิ่มเติม เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีความรู้สึกเชิงบวกใดๆ กับผู้ชายคนนี้ เมื่อเปลี่ยนเรื่อง ฉันถามผู้ร่วมผจญภัยของฉันว่า

“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไปดี?”

เธอไตร่ตรองสักหน่อย

มีหลายตัวเลือก เราสามารถทำภารกิจที่อยู่ในหรือต่ำกว่าอันดับของเราได้ ภารกิจเหล่านี้รวมถึงภารกิจที่หลากหลายตั้งแต่การป้องกันไปจนถึงการรับไอเท็มเฉพาะ นอกจากนี้เรายังสามารถไปยังบีสเกลดเพื่อสำรวจหรือตามล่าสัตว์มานา หรือ…

“สำรวจดันเจี้ยนกันดีกว่า”

จัสมินตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ ที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด