ตอนที่แล้วบทที่ 182 ความเร็ว..ข้าคือความเร็ว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 184 การก้าวข้ามขีดจำกัดของการขับรถที่แท้จริง

บทที่ 183 ความเร็วในตำนาน! (ตอนฟรี)


บทที่ 183 ความเร็วในตำนาน! (ตอนฟรี)

บนเนินเขาในเวลานี้คนที่กำลังมองไปที่หน้าจอต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง

“โอ้พระเจ้า! นี่มันอะไรกัน!” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นเมื่อมองเห็นจุดของรถจี้เฟิงเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว “เด็กคนนั้นขับรถเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?”

“อะไรนะ?” คนอีกกลุ่มหนึ่งเมื่อได้ยินก็รีบหันไปมองหน้าจอ หลังจากนั้นดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง “เห้ย! เขาเพิ่งออกตัวไปเองไม่ใช่เหรอ?”

ตอนนี้ที่หน้าจอของแล็ปท็อปนอกจากจุดสีแดงและสีน้ำเงินแล้ว ยังมีจุดสีม่วงเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งจุด บนแผนที่ที่แสดงบนหน้าจอจุดสีม่วงยังคงอยู่ห่างจากจุดสีแดงและจุดสีน้ำเงินที่อยู่ด้านหน้ามากพอสมควร อย่างไรก็ตามความเร็วในการเคลื่อนที่ของจุดสี่ม่วงนั้นเร็วอย่างเหลือเชื่อซึ่งจากการคำนวณด้วยสายตาคร่าวๆแล้วเร็วกว่าการเคลื่อนไหวของทั้งสองจุดที่อยู่ข้างหน้า!

“นี่มันคือการทำความเร็วของรถให้เกินขีดจำกัด!” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น

“ใช่ใช่!”

ทุกคนในตอนนี้ต่างตื่นตาตื่นใจ ความเร็วของจุดสีม่วงมันน่าเหลือเชื่อมากจริงๆ ซึ่งทันทีที่ข้อมูลที่เป็นตัวเลขถูกเปิดเผยขึ้นบนหน้าจอมันยิ่งทำให้ทุกคนตกตะลึง ตอนนี้ความเร็วของจุดสีม่วงอยู่ที่ 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!

“เฮือก~!” ทุกคนต่างอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความเร็ว 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้นเหลือเชื่อมาก!

ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับรถสปอร์ตที่มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมที่จะทำความเร็วได้ถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตราบใดที่มีสนามแข่งที่ดีและมีคนขับที่ยอดเยี่ยม มันไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนักที่จะไปถึงความเร็วนี้

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจคือสภาพของถนนในปัจจุบันซึ่งเต็มไปด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยวและทางโค้งหักศอก!

และยิ่งไปกว่านั้นเด็กหนุ่มคนนั้นเพิ่งจะเคยขับรถสปอร์ตสีน้ำเงินคันนี้เป็นครั้งแรก!

ไม่ว่าผู้ขับขี่จะมีเทคนิคการขับรถขั้นเทพขนาดไหน สภาพแวดล้อมภายนอก สมรรถนะของรถ ความพร้อมของคนขับขี่และความคุ้นเคยกับรถต่างเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ แต่เด็กหนุ่มคนนั้นไม่เพียงแต่เคยลองขับรถสปอร์ตสีน้ำเงินเป็นครั้งแรก แต่ถนนเส้นนี้เรียกได้ว่าเป็นถนนปราบเซียน ด้วยปัจจัยสำคัญทั้งสองอย่างนี้ต่างส่งผลกระทบอย่างมากในกรณีนี้

แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้เด็กคนนั้นกลับทำความเร็วได้ถึง 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง! มันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วต่อหน้าทุกคน แล้วจะไม่ให้พวกเขาตกใจได้อย่างไร?

“สองร้อยสามสิบ...?” เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผากของทุกคน มีคนหนึ่งถามเพื่อนข้างๆว่า “ที่ถนนสายนี้สถิติความเร็วสูงสุดของพี่ซุนอยู่ที่เท่าไหร่?”

“สะ สองร้อยยี่สิบ!” คนข้างๆตอบอย่างตะกุกตะกัก

“อย่ามาล้อเล่น! มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เด็กคนนั้นจะทำความเร็วได้มากกว่าความเร็วสูงสุดของพี่ซุน?”

“ใครจะมาล้อเล่นตอนนี้!”

“เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใครกันแน่?!” ผู้ชายคนหนึ่งถามขึ้น

ทุกคนต่างพากันส่ายหัว และมีคนหนึ่งพูดว่า “ดูเหมือนว่า... เด็กหนุ่มคนนั้นจะมาหาหวู่หลิงเอ๋อ แต่ฉันก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะกลายมาเป็นนักแข่งรถมืออาชีพไปได้!”

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและกัน พวกเขาต่างมีคำพูดอยู่ในใจเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย “พี่ซุนซวยแล้ว!”

“ตื้ด—!”

จู่ๆเสียงของวิทยุสื่อสารก็ดังขึ้นภายในรถของซุนจื่อซวง เมื่อได้ยินซุนจื่อซวงก็ขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ เขากดเชื่อมต่อและพูดขึ้น “มีอะไร? ไม่รู้หรือไงว่าฉันไม่ชอบให้ใครรบกวนตอนกำลังแข่ง!”

บนเนินเขา ชายผมสีเหลืองพูดอย่างตะกุกตะกัก “พี่ซุน สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่!”

“นายหมายความว่าไง?” ซุนจื่อซวงเริ่มหงุดหงิด “หวงกังเหรอ? นายพูดติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่? มีอะไรก็รีบๆพูดมา อย่ามัวลีลา!”

หวงกังรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องและอดไม่ได้ที่จะเอามือลูบท้องของเขา เขาคือคนที่ถูกจี้เฟิงถีบไปก่อนหน้านี้ จนถึงตอนนี้จุดที่โดนถีบยังคงบาดเจ็บสาหัสอยู่

หลังจากที่เขาเห็นการขับรถอย่างรวดเร็วของจี้เฟิง เขาก็ต้องการแจ้งให้ซุนจื่อซวงลูกพี่ของเขาทราบโดยเร็วที่สุด แต่เขาไม่คิดว่าจะต้องมาถูกดุ

“พี่ซุน เด็กผู้ชายที่มาหาหวู่หลิงเอ๋อ เขา เขา...” หวงกังยังคงพูดตะกุกตะกัก ทันทีที่เขาเห็นความเร็วในการเคลื่อนที่ของจุดสีม่วงบนหน้าจอด้วยความเร็วขนาดนั้น เขาไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องเหลือเชื่อให้ดูไม่เป็นเรื่องเพ้อเจ้อได้อย่างไร

“เขาทำไม? มันเป็นอะไร ถ้านายยังไม่พูดให้รู้เรื่อง แข่งเสร็จเมื่อไหร่นายโดนดีแน่!” ซุนจื่อซวงพูดด้วยความหงุดหงิด

หวงกังตัวสั่นและรีบพูดขึ้นว่า “พี่ซุน เด็กคนนั้นกำลังขับรถไล่ตามหลังพี่ซุนอยู่ แต่เขาขับเร็วมาก! มีความเป็นไปได้ที่จะแซงพี่ซุน..”

“เร็วมาก? แซง?” ซุนจื่อซวงชะงักไปเล็กน้อยจากนั้นก็หัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า~ หวงกังสมองนายกลายเป็นขี้เลื่อยไปแล้วเหรอ ทำไมถึงพูดเรื่องตลกออกมาในเวลานี้ ไอ้เด็กคนนั้นมันจะมาขับเร็วกว่าฉันได้ยังไง รีบไสหัวออกไปจากที่นี่ก่อนฉันจะแข่งเสร็จแล้วบอกคนอื่นด้วยว่าอย่ามารบกวนฉันแข่งรถอีก!”

หวงกังยังคงพยายามที่จะบอกซุนจื่อซวงในสิ่งที่เขาเห็น แต่พบว่าวิทยุสื่อสารถูกเปลี่ยนช่องและไม่สามารถเชื่อมต่อได้อีกต่อไป

เขาวางเครื่องรับส่งวิทยุลงทันทีด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวบนใบหน้าของเขาและพูดกับเพื่อนที่อยู่ข้างๆเขา “พี่ซุนไม่เชื่อว่าเด็กคนนั้นจะเร็วกว่าเขาได้”

เพื่อนของเขาก็ได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นเช่นกัน “ฉันก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่ ถ้าไม่เห็นกับตา ฉันเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีใครเร็วกว่าพี่ซุน แล้วพี่ซุนก็คงจะอารมณ์ไม่ดีแน่นอนถ้าได้ยินแบบนั้น”

ในขณะเดียวกันคนที่อยู่ในกลุ่มของหวู่หลิงเอ๋อแอบหัวเราะอยู่ในใจ ในความคิดของพวกเขา ตั้งแต่ที่จี้เฟิงมาตามหาหวู่หลิงเอ๋อนั่นก็หมายความว่าจี้เฟิงยอมตกลงมาเป็นพวกของพวกเขา

“นายจำรถ Audiที่เราเห็นที่ถนนปันซานสองสามวันก่อนได้มั้ย?” จู่ๆมีคนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้และถามขึ้น

“จำได้ ตอนนั้นเห็นเจ้หลิงพูดอยู่ว่าจะตามหาคนคนนี้มาช่วยพวกเราแข่งกับซุนจื่อซวง แต่หลังจากนั้นฉันก็ไม่เห็นข่าวคราวอะไรอีกเลย”

“ใช่ ความเร็วของรถAudiคันนั้นน่ากลัวจริงๆ ขนาดตอนนี้พอมานึกๆดู ฉันยังเผลอคิดไปเลยว่าเรื่องวันนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นจริง!” คนในกลุ่มคนหนึ่งพูดเสริมขึ้นด้วยใบหน้าที่เหลือเชื่อ “แล้ววันนี้เจ้หลิงมาบอกว่าอาจจะมีคนมาหาเธอ...”

“นายหมายถึง คนที่ขับรถ Audiวันนั้นใช่คนเดียวกันกับเด็กที่มาวันนี้หรือเปล่า?!” ชายคนหนึ่งถามขึ้นด้วยความประหลาดใจและแสดงสีหน้าดีใจทันที  “ถ้าเป็นอย่างนั้นความเร็วที่น่ากลัวของจุดสีม่วงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแล้วล่ะ ฉันคิดว่าคงมีแต่เขาเท่านั้นที่จะทำความเร็วระดับปีศาจแบบนี้ได้!”

“ใช่ คราวนี้ล่ะ ซุนจื่อซวงเจอปัญหาใหญ่แน่!” ชายคนหนึ่งพูดด้วยใบหน้าฮึกเหิม “แล้วอีกอย่างซุนจื่อซวงลงเดิมพันก้อนใหญ่ไว้ เขาบอกว่าถ้าเขาแพ้เขาจะยอมทิ้งเขตแดนทั้งหมดที่เป็นของเขาให้พวกเรา แล้วเขตแดนของซุนจื่อซวงก็ไม่ใช่น้อยๆ มันเป็นถนนเลียบชายฝั่งทางตะวันออกของเจียงโจวทั้งหมด แล้วถ้ามันตกเป็นของเรารวมกับถนนปันซาน เราก็จะสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมกับคนที่ต้องการจะมาแข่งรถได้เป็นจำนวนมาก!”

ในขณะที่ทุกคนต่างก็ดีใจ ในเวลานี้ซุนจื่อซวงกำลังจ้องไปที่กระจกมองหลังด้วยความตกใจ ความไม่อยากจะเชื่อฉายชัดอยู่ในดวงตาของเขา!

“เห้ย! มันเป็นไปได้ยังไง!” ซุนจื่อซวงบ่นกับตัวเองด้วยความตกใจและเหงื่อเย็นๆก็ผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเขา “ใครมันจะทำความเร็วได้ขนาดนั้น?!”

ไม่ใช่ซุนจื่อซวงเท่านั้นที่ตกตะลึงกับความไวจากรถด้านหลังที่ไล่ตามพวกเขามาติดๆ ใบหน้าที่สวยงามของหวู่หลิงเอ๋อก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงเล่นกัน “ความเร็วนี้มัน... มันเร็วกว่าวันนั้นอีก!”

ในกระจกมองหลังของทั้งซุนจื่อซวงและหวู่หลิงเอ๋อ ต่างเห็นรถสปอร์ตสีน้ำเงินกำลังขับไล่บี้พวกเขามาอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้ไม่ว่าจะซุนจื่อซวงหรือหวู่หลิงเอ๋อก็รู้ได้ทันทีว่าใครอยู่ในรถสปอร์ตสีน้ำเงินคันนั้น

มันช่างเป็นความเร็วที่น่ากลัว คนที่ทำแบบนี้ได้ก็คงจะมีแต่ปีศาจเท่านั้น

ไม่น่าแปลกใจที่ทั้งสองคนนั้นจะตกใจมากขนาดนั้น นับเวลาตั้งแต่ที่พวกเขาออกตัว ก็เป็นเวลากว่า 20 นาทีแล้ว และด้วยความเร็วของพวกเขาที่วิ่งมาตลอด 20 นาทีนั้นก็ไม่น้อยระยะทางมากกว่าหลายสิบกิโลเมตรและไม่ได้แวะหยุดพักเลย แต่อย่างไรก็ตามจี้เฟิงที่กำลังขับรถสปอร์ตสีน้ำเงินสามารถไล่ตามพวกเขาได้ทันในเวลาอันสั้น นี่มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ!

จากเส้นทางบนถนนสายนี้ พวกเขาแน่ใจว่าไม่มีทางแยกหรือทางลัดอื่นๆอย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่าจี้เฟิงไม่ได้มาจากทางลัดใดๆได้ ดังนั้นจึงเหลือเพียงวิธีเดียวคือการขับตามพวกเขามาด้วยเส้นทางเดียวกัน และสิ่งที่ยากมากกว่านั้นคือถนนสายนี้เป็นถนนที่เต็มไปด้วยเส้นทางที่คดเคี้ยวมากมาย

ในเวลาเพียงสิบนาทีจี้เฟิงก็สามารถขับไล่ตามพวกเขาได้ทัน ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ อย่างไรก็ตามหลักฐานได้อยู่ในสายตาพวกเขาอย่างชัดเจนแล้วในเวลานี้ พวกเขาจึงไม่สามารถคิดเป็นอื่นไปได้อีก

ดวงตาที่กลมโตสวยงามของเซียวหยูซวนก็เบิกกว้างขึ้นเธอหันไปมองจี้เฟิงและพูดขึ้นว่า “เจ้าตัวเล็กนายไล่ตามพวกเขาทันจริงๆด้วย!”

จี้เฟิงยิ้ม “เล็กๆ?”

“ใช่! เจ้าตัวเล็ก คิกคิก~” เซียวหยูซวนมองจี้เฟิงที่ทำหน้าเซ็งๆและหัวเราะเบาๆ

…จบบทที่ 183~❤️

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด