ตอนที่แล้วตอนที่ 11 สมบัติประเมิณค่ามิได้ (อ่านฟรี)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13 นิกายดาบบิน (อ่านฟรี)

ตอนที่ 12 ร่างกายท้าสวรรค์ (อ่านฟรี)


ตอนที่ 12 ร่างกายท้าสวรรค์

<ผู้เล่นเพลิงโลหิต ผู้เล่นอสรพิษอสูร ผู้เล่นสุนัขคลั่ง ผู้เล่นเก็ทครีม เป็นผู้เล่นกลุ่มแรกที่เคลียร์แหลมแห่งการเผาไหม้ได้เป็นครั้งแรก!>

เสียงประกาศดังขึ้นและข้อความที่แสดงอยู่เหนือก้อนเมฆ ขณะหยวนกำลังร่ายรำเพลงดาบอย่างสง่างามพร้อมกับดาบเหล็กกล้าในมือฟาดฟันหมาป่าสีน้ำเงินรอบๆอย่างรวดเร็ว ซากศพของหมาป่าล่วงลงพื้น แต่นั่นไม่ได้ทำให้หยวนหยุดการโจมตีต่อเนื่องไม่เว้นแม้แต่หมาสองตัวที่พยายามวิ่งหนี

เสียวหัวคอยดูอยู่ห่างๆ ปรบมือเหมือนคนดูที่กำลังชมการแสดง “พี่หยวนพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว เหมือนกับฟองน้ำที่กำลังซับน้ำเข้าไปอย่างรวดเร็ดจากผู้อ่อนแอกลายเป็นนักดาบภายในไม่กี่ชั่วโมง ความสามารถในการควบคุมพลังฉีนั้นก็เติบโตเช่นกัน” ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเสียดายขึ้นมา “หากพี่หยวนเกิดและเติบฌตในสวรรค์ชั้นสูงสุดแทนที่จะเป็นสวรรค์ชั้นล่างนี่ เขาจะไปได้ไกลแค่ไหนกันนะ”

หลังสังหารหมาป่าเสร็จหยวนก็ดึงเอาแกนมอนสเตอร์ออกมาจากหมาป่าตัวสุดท้ายนี้

“มีเพียง 7 ในหลายสิบตัวเท่านั้นที่ดรอปแกนมอนสเตอร์” หยวนพูดขึ้นด้วยความเสียใจหลังความพยายามอย่างหนักเมื่อครุ่

“7 แกนก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก…” เสียวหัวพูดเมื่อเห็นเขากำลังผิดหวัง “ถ้าใช้มันตามวิธีปกติก็สามารถใช้เพิ่มค่าฝึกฝนได้เป็นเดือนแหน่ะ”

“แต่ในกรณีพี่หยวน…”

“นี่ไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ” จู่ๆหยวนก็โยนมันเข้าปากทำเอาเสียวหัวถึงกับสะดุ้งด้วยความสยองอีกครั้ง

<เปิดใช้งานกายกลั่นสวรรค์>

<ได้รับ 560,000ฉีจากการดูดซึมแกนมอนสเตอร์หมาป่าเขี้ยวเงิน>

<คุณดูดซับพลังฉีเพียงพอสำหรับการพัฒนา>

<คุณได้เลื่อนขั้นเป็นวิญญาณฝึกหัดขั้นที่ 9>

<สถานะทั้งหมด +500>

1,519,395/3,840,000

“พี่หยวน……พี่…” เสียงหัวมองหยวนเหมือนเขาเป็นผี สายตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ

“รสชาติเหมือนขนมเลย” หยวนเลียฝีปากแล้วพูดขึ้นว่า “แม้ว่ามันจะไม่ได้มีพลังฉีเท่าเจ้ากบหยกนั่น แต่ก็มีประโยชน์อย่างมากกับการฝึกฝนของเรา”

“มีอะไรหรือ” เขามองเธอด้วยสายตาไร้เดียงสาเหมือนเขาไม่รู้ว่าความสามารถของเขาน่าทึ่งแค่ไหน

“เมื่อผู้ฝึกฝนดูดซับพลังฉีเข้าไปนั้น มันมีปริมาณที่จำกัดอยู่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของแกนมอนสเตอร์ แกนมอนสเตอร์ระดับสูงนั้นจะถูกดูดซับได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ส่วนใหญ่ประมาณ 50% ของฉีทั้งหมด ส่วนที่เหลือจะสลายกลับสู่โลกเป็นกฏของสวรรค์และไม่มีผู้ใดสามารถท้าทายได้ แต่ร่างกายของพี่หยวนนั้นฉีกกฎ ไม่ต่างจากการท้าทายสวรรค์เลย”

“ท้าลิขิตสวรรค์ เหอะ……” หยวนนึกถึงเรื่องในชีวิตจริง “ถ้าเพียงแต่มีเรื่องแบบนี้ในชีวิตจริงก็คงจะดี” เขาคิดในใจพลางถอนหายใจ

ทันใดนั้นเสียวหัวก็เอียงศีรษะ “พี่หยวนมีคนอยู่แถวๆนี้”

“หืม คนงั้นหรอ? ผู้เล่นหรือ NPC หล่ะ” เขาสงสัย เนื่องจากเป็นการเผชิญหน้าครั้งแรกของเขากับคนอื่นๆหาเป็นผู้เล่น

“สามคน ผู้ฝึกฝนจิตวิญญาณฝึกหัดระดับ 7 สองคน ระดับ 8 หนึ่งคนพวกเขากำลังสู้กับกิ้งก่าเพลิงระดับสูงสุด”

“น่าสนใจ” หยวนกล่าว “ไปดูกันเถอะ”

“อื้อ”

เด็กวัยรุ่นสามคน ผู้ชายสอง ผูหญิงหนึ่ง ยืนห่างจาก กิ้งก่าเกล็ดสีแดงไม่กี่เมตรมีเส้นสีดำกระจายอยุ่ทั่วตัวคล้ายรอยไหม้จากฟ้าฝ่า จ้องกันอยู่อย่างไม่รดระ เสื้อผ้าเต็มไปด้วยเหงื่อชุ่ม พวกเขาต่อสู้กับกิ้งก่าเพลิงมาหลายนาทีแล้ว แต่ยังไม่มีใครโจมตีทะลุผิวหนังที่เปรียบเสมือนเกาะป้องกันของมันได้

“เวรเอ้ย! ไอ้เจ้านี่มันแข็งพอๆกับเหล็กเลยนะ ครับรุ่นพี่โม เลยนะ เราน่าจะต้องออกจากนี้ให้ได้ก่อนฉีจะหมด!”

“รุ่นน้องหวังพูดถูก! ตอนนี้เรายังไม่แข็งแกร่งพอจะเจอกับมัน ถอยก่อนดีกว่าเดี๋ยวจะสายเกินไป”

คนอาวุโสที่สุดในกลุ่มชื่อโมโจว กำลังกัดริมฝีปากขณะกำลังจ้องไปที่กิ้งก่าไฟตรงหน้าเขา เขาทุ่มเทคนิคและทักษะทั้งหมดที่มีไปแล้วแต่มันกลับ ไม่มีแม้รอยขีดข่วน “ขอปฏิเสธ!” ทันใดนั้นเขาก็ตะโกนขึ้นเสียงดัง

“รุ่นพี่โม!!” อีกสองคนเริ่มกังวลกับความดื้อรั้นของเขา

“พวกเจ้าสองคนไปได้ ข้ามีธุระกับเจ้านี่ ต้องเคลียร์กัน ไม่มันก็ข้าจะต้องตายกันไปข้างนึง ชีวิตของข้าขึ้นอยู่กับแกนของเจ้ามอนสเตอร์กิ้งก่าเพลิงนี่!”  เขากัดริมฝีปากจนเลือดไหล “ไม่ว่าจะตายที่นี่หรือกลับไปที่นิกายก็ตายอยู่ดีงั้นข้าขอสู้หลังชนฝาดีกว่า!”

“งั้นเชิญพี่ตามสบาย! ฉันจะไว้อาลัยให้พี่ก็แล้วกัน!” ชายคนหนึ่งกล่าวก่อนจะออกวิ่งเตลิด

“เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้นถ้าพี่ไม่ทำให้พี่เหรินขุ่นเคือง” หญิงสาวก็ละทิ้งการต่อสู้เช่นกัน พวกเขาเป็นเพื่อนกันมาหลายปีก็จริง แต่ก็ไม่ถึงขั้นเอาชีวิตมาเสี่ยงในที่แบบนี้

โมโจวถอนหายใจกับคำพูดของหญิงสาวรุ่นน้องของเขา “รุ่นน้องหลิงพูดถูก…แต่ฉันไม่สามารถเพิกเฉยต่อความรู้สึกของตัวเองได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น…ไม่รู้ด้วยซ้ำวิ่งสิ่งที่เลือกนั้นผิดหรือถูก” เขายกดาบขึ้นอีกครับ “เข้ามาเจ้าขยะ!”

“หืม? เสียวหัวบอกว่ามีสาม ทำไมมีแค่คนเดียวหล่ะ” หยวนชี้ไปที่โมโจว ที่กำลังต่อสู้กับกิ้งก่าเพลิงด้วยดวงตาที่ดุร้ายและเสื้อคลุมที่เปื้อนเลือด

“พวกเขาหนีไปก่อนเราจะมาถึง” เธอตอบ

“แล้วเขาหล่ะเขาคิดว่าจะชนะหรอ”

เสียวหัวส่ายหัว “ฐานการฝึกฝนของเขาเกือบจะหมดแล้วรอแค่เวลาเท่านั้นอีกไม่นานก็คงรู้ผล”

“เขาเป็นคนแรกที่ฉันพอที่นี่คงเสียดายแย่ถ้าปล่อยให้เขาตาย” จู่ๆหยวนก็ยกดาบขึ้น

“ดาบอาบโลหิต!!”

ดาบระดับวิญญาณเจาะผ่านผิวหนังซึ่งเป็นเกล็ดคล้ายเหล็กของกิ้งก่าเพลิงและแทงทะลุหัวใจของมันโดยฆ่ามันทันทีด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

“นายสบายดีไหม?” หยวนมองไปที่โมโจวขณะที่กำลังอ้าปากค้าง

…………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด