Ep.746 - ชดใช้
4/5
Ep.746 - ชดใช้
กวนจินฮ่าวไม่เพียงถูกฉินเฟิงปัดกระเด็น แต่ยังได้ยินอีกฝ่ายเรียกชื่อของตัวเอง ก็อดแสดงสีหน้าตื่นตะลึงไม่ได้
เขาถอดฮู้ดคลุมหัว กวาดมองขึ้นๆลงๆคนทั้งสองที่อยู่เบื้องหน้า
ปัจจุบันเป้าหมายทั้งสองของเขาถอดหน้ากากจิ้งจอกออกแล้ว เผยให้เห็นถึงใบหน้าอย่างชัดเจน ปรากฏว่ายังเด็กมากจริงๆ
“นายรู้จักฉัน? แต่ฉันไม่น่าจะรู้จักนายถูกไหม? เพราะฉันไม่นิยมฆ่าคนรู้จัก!” มุมปากของกวนจินฮ่าวยกยิ้ม กล่าวล้อเล่น แต่ในดวงตาของเขาตื่นตัวตลอดเวลา มันไม่ยิ้มตามเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสายตาของกวนจินฮ่าวตกลงบนกริซในมือเขา ช่วงเวลานี้กริซยังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แม้จะไม่ได้รับความเสียหาย แต่มือที่กุมกริซ มันกำลังสั่นสะท้าน
นี่เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อนัก เพราะกวนจินฮ่าวเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A3 แต่กลับไม่สามารถมีชัยเหนือผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B2 ได้
ยิ่งไปกว่านั้น กวนจินฮ่าวถือเป็นมนุษย์ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์อันแข็งกล้าคนหนึ่ง ตัวเขาคือการดำรงอยู่ในระดับจักรพรรดิเช่นกัน
ฉินเฟิงเองก็อยู่ในระดับจักรพรรดิ อย่างไรก็ตาม กำลังภายในของเขาเหนือกว่าคนทั่วไปมาก ผู้ใช้วรยุทธน่ะต่อสู้กันด้วยกำลังภายใน และกำลังภายในของฉินเฟิงในปัจจุบัน มันน่าประหวั่นเป็นอย่างยิ่ง!
“คุณไม่รู้จักผม แต่ผมรู้จักคุณ!” ฉินเฟิงเองก็ยิ้ม ในรอยยิ้มของเขา แฝงไปด้วยความเปี่ยมสุข “มาได้เวลาพอดีเลย ผมมีเรื่องจะขอร้องคุณหน่อย”
“หืม? เรื่องอะไรล่ะ คงไม่ใช่ขอให้ฉันฆ่าคนหรอกนะ?”
“เปล่า แต่ผมกำลังตามหาคุณเพราะต้องการอะไรบางอย่างจากคุณ” ฉินเฟิงกล่าว
“อะไร?” อารมณ์ในดวงตาของกวนจินฮ่าวกลายเป็นหนักอึ้งทันที ก่อนเบนตกลงบนกริซในมือตน อีกฝ่ายใช่ต้องการกริซของตนหรือไม่?
เพราะเจ้าสิ่งนี้ถูกประมูลไปด้วยมูลค่ากว่า 130,000 เหรียญพลังงาน!
อย่างไรก็ตาม กวนจินฮ่าวบุกมาหาฉินเฟิงถึงที่ นั่นหมายความว่าเขารู้ว่าฉินเฟิงคือคนที่ซื้อแก่นสัตว์เทวะไป อีกฝ่ายมั่งคั่งถึงขนาดนี้ หากอยากได้กริซ ฉินเฟิงคงสู้ราคาตั้งแต่ในงานประมูลแล้ว จะมาตามหาตนตอนนี้อีกทำไม?
แต่ก็นั่นล่ะนะ ของฟรีใครบ้างไม่ชอบ แม้แต่กวนจินฮ่าวก็ไม่มีข้อยกเว้น
“อืม พอดีผมมีแผนที่จะซื้อทักษะหมื่นภูติของคุณ แต่ตอนนี้ผมไม่มีเงินเหลือเลย คุณมาได้ตรงเวลาพอดี คุณมาที่นี่เพื่อลอบสังหารผมใช่ไหม? ขอโทษนะตัวผมจะไม่มีวันใจอ่อนแก่ศัตรู ฉะนั้นผมจะขอรับมันเป็นค่าชดใช้!” ฉินเฟิงกล่าว
“ฟุฟฟฟ!” กวนจินฮ่าวอดหัวเราะไม่ได้ “น่าสนใจดี น่าสนใจจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เจอคนกล้าพูดแบบนี้ ต้องการทักษะของฉันเป็นค่าชดใช้? นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? เง็กเซียนหรือ? เป็นตัวตนทรงพลังที่สุดในหัวเซี่ย? พูดอะไรคนต้องฟังทุกคำรึไง ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
การแสดงออกบนใบหน้าของกวนจินฮ่าวเต็มไปด้วยความสนใจ ปากกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “ขนาดเลเวล S ฉันยังกล้าฆ่า แล้วแกเป็นใครกัน!!”
ฉินเฟิงพยักหน้า คำพูดของกวนจินฮ่าว เขาเชื่อ อีกฝ่ายสามารถลอบสังหารเลเวล S ได้จริงๆ
“งั้นมาดูกัน ว่าอีกเดี๋ยวคุณจะยังพูดแบบนี้อยู่ไหม!”
ฉินเฟิงกุมมีดกษัตริย์ครามในมือแน่นขึ้น ตามมาติดๆด้วยแรงกดดันอันทรงพลังจากร่างกาย
กำลังภายในปะทุโหม กลิ่นอายของมันทำให้ผู้คนยากจะหายใจ
สีหน้าของกวนจินฮ่าวแปรเปลี่ยนไป
‘เจ้าหมอนี่ ทำไมกำลังภายในของเขาถึงทรงพลังขนาดนี้? เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นเลเวล B2 แต่กลับให้ความรู้สึกเหนือยิ่งกว่ากลิ่นอายของเลเวล A ’
กวนจินฮ่าวอย่างไรก็คิดไม่ตก!
ยังไงก็ตาม สำหรับนักฆ่า เมื่อล้มเหลวในการลอบสังหาร สมควรหลีกลี้หนีหายไปพันลี้ กวนจินฮ่าวเป็นคนที่พร้อมรุก แต่ก็พร้อมถอยตลอดเวลาเช่นกัน
“ฮะฮ่าฮ่า ไอ้หนู แกแข็งแกร่งจริงๆ แต่ถ้าคิดจะฆ่าฉัน มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก แกที่รู้จักทักษะหมื่นภูติของฉันน่าจะเข้าใจดี ว่าถ้าฉันต้องการจะหนี ในโลกใบนี้ ก็ไม่มีใครสามารถหยุดฉันได้!”
ว่าจบ กวนจินฮ่าวก็เปิดใช้งานทักษะหมื่นภูติ หลบหนีทันที!
แต่ในจังหวะนั้นเอง อีกคนที่ยืนอยู่ข้างกายฉินเฟิง ได้ระเบิดพลังสมาธิอันทรงประสิทธิภาพออกมา กวนจินฮ่าวมิได้ให้ความสนใจกับไป๋หลี ว่าเวลานี้มุมปากของเธอยกสูงขึ้น
“งั้นหรอ?” ไป๋หลีกระพริบตาของเธอ หัวเราะคิกคักด้วยรอยยิ้มน่ารัก “งั้นในโลกใบนี้ ก็ไม่มีมนุษย์คนไหน สามารถหลบหนีจากมิติปิดล้อมของฉันได้เหมือนกัน!”
ช่วงเวลาเดียวกับที่เสียงนี้เปล่งออกมา ภายในห้องของฉินเฟิงกับไป๋หลี พลันสาดไปด้วยอักษรรูนสีเงิน วินาทีต่อมา รังสีแสงสีเงินขยายใหญ่ ก่อตัวขึ้นเป็นพื้นที่ปิดล้อม
เทคนิคมิติเอกเทศ!
ตลอดทั้งห้องมีพื้นที่เพียงแปดสิบตารางเมตร ขนาดเท่ากับห้องนอนกับห้องนั่งเล่นรวมกัน ภายใต้มิติปิดล้อมแห่งนี้ กวนจินฮ่าวแม้ต้องการหลบหนีขนาดไหนก็ไม่อาจทำได้
กวนจินฮ่าวตกตะลึง เขารีบพุ่งไปยังทิศทางที่เข้ามา ฟาดฝ่ามือโจมตีด้วยกำลังภายใน ทว่าสำหรับรูนมิติ อำนาจโจมตีเหล่านี้จะถูกส่งไปยังมิติอื่นทันที เว้นแต่ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถในการฉีกมิติ มิฉะนั้นเลิกฝันว่าจะหลบหนี
ในที่สุดสีหน้าของกวนจินฮ่าวก็เริ่มซีดขาว
แต่ในเวลานั้นเอง การโจมตีของฉินเฟิงก็ไล่ตามมาจากเบื้องหลัง
“กระบวนท่ามีดเปลวเพลิง!”
เดิมพื้นที่มิติก็ไม่กว้างมากอยู่แล้ว เมื่อฉินเฟิงใช้ออกด้วยมีดเปลวเพลิง อำนาจมันล้นไปทั้งพื้นที่มิติ เปลวไฟสีดำขนาดใหญ่พวยพุ่งออกมา เสมือนดั่งเปลวคลื่นที่ซัดสาด กวาดไปทั่วห้อง
“อ๊าาาา” ดวงตาของกวนจินฮ่าวเบิกกว้าง ทะยานร่างขึ้นอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวติดเพดาน!
เพดานห้องนี้สูงสุดเพียงสามเมตร ทว่าอำนาจของมีดเปลวเพลิง มันยืดยาวได้มากกว่าสามเมตร
กวนจินฮ่าวไม่มีทางเลือกอื่น ขบกรามปลดปล่อยโล่ปราณกำลังภายในออกมา
สำหรับนักฆ่า ท่ามกลางความเงียบ พวกเขาถือเป็นอันตรายร้ายแรงที่สุด นักฆ่าบางคนถึงขั้นเลือกกลบซ่อนลมหายใจของพวกเขาในระหว่างการลอบสังหาร ไม่มีการเปิดใช้งานโล่ปราณกำลังภายใน
นี่ถือเป็นความมั่นใจในตัวเอง ทั้งยังให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินบนขอบเหวระหว่างความเป็นความตาย
แต่ตอนนี้ กวนจินฮ่าวไม่มีหนทางอื่นนอกจากใช้มันออกมา
ฉินเฟิงวาดมือ รังสีใบมีดปะทุโหมเข้าด้วยกัน!
โล่ปราณกำลังภายในของกวนจินฮ่าว แหลกเป็นเสี่ยงทันที!
กำลังภายในของกวนจินฮ่าว ไหนเลยเทียบเปรียบกับฉินเฟิงได้
อาศัยประโยชน์จากช่วงเวลาหยุดชะงักนี้ กวนจินฮ่าวหลบหนีทันที
“ทักษะหมื่นภูติ!”
ร่างเงาผลุบออกมาจากในอากาศที่ว่างเปล่า ฉากนี้ราวกับว่ากวนจินฮ่าวจู่ๆก็แยกตัวเป็นหลายร้อยคน วิ่งซ้ายปาดขวา กระโดดขึ้นบน สไลด์ลงล่าง ตรงเข้าหาหมายสังหารฉินเฟิงจากทุกทิศทาง
วินาทีต่อมา บังเกิดเสียงแต๊งๆๆ นับไม่ถ้วน โล่ปราณกำลังภายในของฉินเฟิงสั่นสะเทือนไปมา สุดท้ายแหลกสลายทันที!
อย่างไรก็ตาม ในเสี้ยวพริบตานั้นเอง ฉินเฟิงเปิดโจมตีอีกครั้ง
“เทคนิคแมกมาชีพจรธรณี!”
ลาวานี้มิได้ถูกปลดออกมาใส่คนอื่น แต่มันถูกปล่อยเข้าหาตัวเขาเอง
เพียงลมหายใจเดียว พื้นที่รอบกายฉินเฟิงในรัศมีสองเมตร ท่วมทับไปด้วยเพลิงหนืด ทั้งตัวฉินเฟิงถูกล้อมรอบไปด้วยธารลาวา ทว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
กระนั้น สำหรับกวนจินฮ่าวที่กำลังโจมตี ผลกระทบจากมันค่อนข้างน่าหวาดกลัว
“ฆ่า!” กวนจินฮ่าวตะโกนดุร้าย อัดฉีดกำลังภายในลงกริซ แล้วแทงมันเข้าไปในลาวาหนืดโดยตรง
กำลังภายในแหวกลาวา ระเบิดมันกระเซ็น แต่ทะลวงไม่ถึงจุดที่สามารถทำร้ายฉินเฟิง
ในเวลานั้นเอง กวนจินฮ่าวเคลื่อนไหวอีกครั้ง เร่งเร้าทักษะหมื่นภูติ จนร่างเขากลายเป็นกระแสแสง พุ่งเข้าเสือกแทงไป๋หลี
“มิตินี้เป็นฝีมือแกสินะ จงตายให้ฉัน!”
ตราบใดที่ไป๋หลียังไม่ตาย มิติปิดล้อมย่อมไม่สลายไป นี่คือข้อสรุปที่ได้มาจากการไตร่ตรองอย่างดีของกวนจินฮ่าว
การลงมือของเขารวดเร็วเหมือนเดิม แต่น่าเสียดายที่อีกฝ่ายอยู่ในการรับรู้ของไป๋หลีตลอดเวลา
ไป๋หลีง้างมือ สะบัดแส้มิติออกไป
พรืบตานั้นเอง รอยแยกมิติขนาดเล็กจำนวนมาก กระจายออกไปปกคลุมรอบกายเธอ
และกวนจินฮ่าวพุ่งเข้ามาแล้ว ฉะนั้นไม่ทันหลบเลี่ยง
ฟัฟ ฟัฟ ฟัฟฟฟฟฟ
บนรอยแยกมิติหลายเส้น พลันอาบไปด้วยเลือด หยดย้อยเป็นสายลงกับพื้น
ร่างของกวนจินฮ่าว นิ่งค้างไปทันที
