ตอนที่แล้วบทที่ 201 ราชินีเอลฟ์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 203 ทวีปตะวันตก

บทที่ 202 รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่


ผู้เล่นแสดงท่าทางแปลก ๆ เมื่อได้ยินสิ่งที่ราชินีเอลฟ์พูด

แม้ว่าตอนแรกเอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ จะไม่รู้ว่าอายุขัยของพวกเขาเปลี่ยนไปหรือไม่หลังจากที่กลายเป็นผู้เล่น แต่ผู้เล่นที่รอบคอบบางคนก็ได้สำรวจความสามารถของระบบ หลังจากที่พวกเขากลายเป็นผู้เล่น และได้รู้ว่าเมื่อผู้ศรัทธากลายเป็นผู้เล่น ร่างกายของพวกเขาจะยังคงเติบโตและถูกจำกัดด้วยอายุขัยเช่นเดิม แต่เนื่องจากพวกเขาส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยไข้เจ็บ หากไม่มีสถานการณ์พิเศษใด ๆ เกิดขึ้น ผู้เล่นส่วนใหญ่จะมีชีวิตเกิน 50 ปีตามอายุขัยเฉลี่ยของผู้คนบนโลกใบนี้ และในกรณีที่ดูแลตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม พวกเขาก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ถึง 200 ปี!

ยิ่งไปกว่านั้นซีเว่ยยังได้สร้างชุดเควส ‘ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่’ หากพวกเขาสามารถบรรลุเควสเหล่านั้นได้ พวกเขาก็จะมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 100 ปีได้ง่าย ๆ

กลับกันแม้ว่าพวกเอลฟ์จะมีอายุยืนยาว และว่ากันว่าเอลฟ์มีอายุขัยมาก 3,000 ปี แต่ปัจจุบันในเผ่าก็มีเอลฟ์โบราณเพียงไม่กี่ตน และเอลฟ์ที่อายุมากที่สุดก็มีอายุเพียงพันกว่าปีเท่านั้น พวกเขาคือเอลฟ์ที่รอดชีวิตมาจากสงครามเทพปีศาจเมื่อพันปีก่อน ส่วนเอลฟ์ที่เหลือเป็นเพียงคนหนุ่มสาวที่เพิ่งเกิดมาในยุคสมัยปัจจุบัน

ดังนั้นตราบใดที่เจสสิก้ามีอายุยืนถึง 200 ปี (ที่ไม่ได้สั้นเลยสำหรับเอลฟ์) ซึ่งต่างจากสิ่งที่เอลฟ์ป่าคาดเดาว่าเธอจะมีอายุประมาณ 50 ปี เซฟาริมก็จะยังคงอยู่ในความครอบครองของเธอ

“อะแฮ่ม เมื่อฝ่าบาทกล่าวเช่นนั้น เราก็ต้องเห็นด้วยเป็นธรรมดา” เอ็ดเวิร์ดตอบราชินีเอลฟ์อย่างเคร่งขรึม ขณะใบ้ให้เพื่อน ๆ อย่าทำตัวมีพิรุธให้พวกเอลฟ์รู้

แม้ว่าบรอมที่อยู่ข้าง ๆ พวกเขาจะรู้สึกตะหงิดใจที่มนุษย์เหล่านี้ทำตัวแปลก ๆ แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากและยังคงดูถูกมนุษย์ แถมเขายังเริ่มไม่พอใจคนพวกนี้มากขึ้นเรื่อย ๆ

“เมื่อเรื่องนี้ได้ข้อยุติแล้ว เรามาคุยเรื่องต่อไปกันเถอะ” ราชินีเอลฟ์ละสายตาออกจากเซฟาริมและเจสสิก้า ก่อนจะมองไปที่เอ็ดเวิร์ดที่เป็นผู้นำกลุ่ม “ข้าเพิ่งได้รับวิวรณ์จากเทพธิดาจันทร์สีเงิน…ดูเหมือนเลดี้ลูน่าได้ตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับเทพเจ้าของเจ้าแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป เอลฟ์ป่าผู้ศรัทธาในเทพธิดาจันทร์สีเงินจะเป็นพันธมิตรของเจ้า”

“เอ๊ะ? โอ้…” เอ็ดเวิร์ดผงะสองครั้งซ้อนก่อนจะพยักหน้าอย่างงุนงง

เรื่องพันธมิตรนี่เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมาก

ก่อนหน้านี้ระบบได้ระบุว่าวิหารแห่งความยุติธรรมเป็นพันธมิตรของพวกเขา

ตอนนั้นผู้เล่นหลายคนรู้สึกตื่นเต้นมาก พวกเขาต้องการค้นหาพันธมิตร เพื่อทำงานร่วมกันและบังคับใช้ความยุติธรรมในนามของสวรรค์

ผลก็คือ จนถึงตอนนี้ผู้เล่นได้โค่นยักษ์แห้งแล้ง สังหารเดรคหนองน้ำ ในขณะที่เจสสิก้าเองระเบิดเดรคดินด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปกติแล้วสัตว์ประหลาดเหล่านี้เป็นสัตว์ประหลาดทรงพลังที่มนุษย์ธรรมดาไม่เคยพานเลยตลอดชีวิต แต่พวกมันกลับถูกผู้เล่นพบเจอและทุบตายทีละตัว ถึงอย่างนั้นแล้วพวกเขาก็ยังไม่พบวิหารแห่งความยุติธรรม!

'ความยุติธรรมของโลกนี้ถูกซ่อนไว้ลึกมาก!'

“แม้ว่ามันอาจจะสายไปหน่อยที่ข้าจะพูดเช่นนี้ แต่ข้ารู้สึกขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของพวกเจ้ามาก ที่ได้ช่วยการสังหารเดรคดินซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ต่อความปลอดภัยของทริเนียมาช้านาน” จากนั้นราชินีเอลฟ์ก็กล่าวเสริมว่า “ตามที่คาดไว้สำหรับผู้ที่เทพเจ้าแห่งเกมส่งมาสานสัมพันธไมตรีกับเรา”

เอ็ดเวิร์ดส่งยิ้มแห้ง ๆ แต่สุภาพออกไป

‘ไม่ เรามาที่นี่เพื่อเก็บสมุนไพรป่ากลับไปส่งเควส...’

“ในฐานะพันธมิตร ให้ข้าได้ตอบแทนเจ้าเถอะ…บอกมาสิว่าเจ้าต้องการอะไร”

ราชินีเอลฟ์ยิ้ม “แม้ว่าข้าจะไม่สามารถจ่ายสิ่งที่เกินอำนาจของข้าได้ แต่ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถตอบสนองความปรารถนาส่วนใหญ่ของเจ้าได้”

เอ็ดเวิร์ดกำลังใช้ความคิด แต่ขณะนั้นโจก็พูดออกมาว่า “เราควรรับรางวัลเควสก่อนดีไหม”

คนอื่น ๆ คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดี พวกเขาแต่ละคนจึงเปิดระบบของตนต่อหน้าราชินีเอลฟ์ พวกเขากดรับรางวัลเควสและดูก่อนว่าระบบมอบเควสต่อเนื่องอะไรให้กับพวกเขา จากนั้นก็ค่อยตัดสินใจว่าจะขออะไรจากราชินีเอลฟ์

แต่จากมุมมองของราชินีเอลฟ์ มันเหมือนกับว่ากลุ่มของเอ็ดเวิร์ดกำลังเหม่อมองออกไปยังอากาศบาง ๆ ด้วยสีหน้าว่างเปล่า และสายตาของพวกเขาก็ไม่จดจ่อกับสิ่งใด

'ปฏิกิริยานั่นมันอะไร? ข้าเข้าใจหากเจ้าจะรวมหัวกันเพื่อปรึกษา…แต่เจ้ากำลังพยายามทำอะไรโดยไม่พูดอะไรกันเลยสักคำ และทำราวกับว่าวิญญาณได้หลุดออกจากร่างไปซะอย่างนั้น?'

ถ้าจะให้อธิบายสถานการณ์ตอนนี้ มันก็เหมือนกับที่นายจ้างถามพนักงานว่าต้องการโบนัสเท่าไหร่ และพนักงานทุกคนก็ก้มหัวลงเล่นโทรศัพท์พร้อมกันหลังจากบ่นพึมพำอะไรบางอย่างที่ไม่อาจเข้าใจได้…

น่าฉงนแค่ไหน

ดังนั้นความประทับใจแรกที่ราชินีเอลฟ์มีต่อผู้เล่นจาก 'กล้าหาญ จริงใจ และมีความสามารถ' จึงเปลี่ยนไปเล็กน้อย

หลังจากนั้นไม่นาน เอ็ดเวิร์ดก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดอย่างขึงขังว่า “รางวัลไม่สำคัญสำหรับเราหรอกขอรับ ข้าแค่อยากสร้างบางสิ่งเพื่อเป็นที่ระลึกต่อมิตรภาพของพวกเราทั้งสองฝ่าย!”

ผู้เล่นคนอื่น ๆ ทั้งหมดก็พยักหน้าเห็นด้วย

เหตุผลนั้นง่ายมาก หลังจากรับรางวัลเควสล้ว พวกเขาได้รับเควสต่อเนื่องเควสสุดท้าย

มันเป็นงานง่าย ๆ อย่างการโน้มน้าวราชินีเอลฟ์และวางไลฟ์สโตนในทริเนีย

ราชินีเอลฟ์พยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ในวิวรร์ของ ‘ลูน่า’ เทพธิดาจันทร์สีเงินได้กล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน เธออนุญาตให้ผู้ศรัทธาในเทพเจ้าแห่งเกมสร้างสิ่งที่เรียกว่า ‘หินวิเศษ’ ในทริเนียได้

“นั่นไม่ใช่ปัญหา ข้ายอมรับคำขอของเจ้าในนามของเลดี้ลูน่า อย่างไรก็ตามมีเพียงหนึ่งในสามของประชากรของทริเนียเท่านั้นที่ศรัทธาในเทพธิดาจันทร์สีเงิน อีกหนึ่งในสามเป็นผู้ศรัทธาของเทพธิดาแห่งธรรมชาติ ในขณะที่เอลฟ์ที่เหลือเป็นผู้ศรัทธาของเทพธิดาทั้ง 2 องค์หรือเทพเจ้าอื่น ๆ ดังนั้นเจ้าสามารถสร้างได้ในพื้นที่ของผู้ศรัทธาเลดี้ลูน่าท่านั้น”

"เรื่องนั้นไม่มีปัญหาขอรับ" เอ็ดเวิร์ดเห็นด้วยราวกับว่าเขากำลังกล่าวคำสาบาน

"ดีมาก แล้วเจ้าจะสร้างเสร็จเมื่อใดรึ" ราชินีเอลฟ์ถาม

“ก็ วันนี้” เอ็ดเวิร์ดตอบอย่างไม่ลังเล

“…วันนี้?”

"ขอรับ"

แค่มีพิมพ์เขียวตราซีเว่ย ผู้เล่นจะสร้างอาคารที่ไหนเมื่อไหรก็ได้ และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกในการก่อสร้างอีกต่อไป!

ดังนั้นเอ็ดเวิร์ดและคนอื่น ๆ จึงวางไอเทมเควสไว้ในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในอาณาเขตของผู้ศรัทธาเทพธิดาจันทร์สีเงิน

จากนั้นเหล่าเอลฟ์ก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจที่เห็นไลฟ์สโตนเริ่มก่อตัวขึ้นมาเอง

ต้องบกว่าไลฟ์สโตนคือสิ่งก่อสร้างที่สวยงามที่สุดในพิมพ์เขียวของซีเว่ย ที่แม้แต่เอลฟ์ก็ยังพอใจกับการมีหินผลึกกึ่งโปร่งใสที่ลอยอยู่ในอากาศก้อนนี้อยู่ในพื้นที่ของตน

“ที่นี่…” เมื่อราชินีเอลฟ์มาถึงจัตุรัส เธอก็พูด 2-3 ประโยคเพื่อกระตุ้นให้เอลฟ์ทำงานร่วมกับพันธมิตรใหม่ เนื่องจากเอลฟ์ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถยอมรับมนุษย์ได้ แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น ไลฟ์สโตนก็ได้พ่นผู้เล่นออกมาจำนวนมากเหมือนมีอาการท้องร่วง

นั่นเพราะโกวต้านได้อัพเดทการเดินทางท่องเที่ยวเมืองหลวงของเอลฟ์ลงในฟอรัม และผู้เล่นหลายคนก็แทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้มาเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้

เมื่อไลฟ์สโตนถูกสร้างขึ้น พวกเขาก็จัดกลุ่มมามาเยี่ยมชมทันที

“นี่คือเมืองหลวงของเอลฟ์รึ มันดูยิ่งใหหญ่มาก!”

“ทำไมอาคารที่นี่ถึงเป็นสีขาวทั้งหมด? ตาของพวกเขาจะไม่พร่ามัวหรือ?”

“คนเหล่านี้ต้องเป็นเอลฟ์ป่าแน่…พวกเขาสวยจริง ๆ”

“โอ้ลุงมาร์นี่ ลุงก็มาเหรอ ลุงเอา AWM ของข้ามาด้วยรึเปล่า”

"ข้าเอามา เงินมาของไป”

“เอามาก่อน หรือลุงกลัวข้าจะไม่จ่าย!?”

“คนสุดท้ายที่พูดแบบนั้นกับข้า หลอกเอาเงินข้าไปนับหมื่นริออนและวิ่งหนีไปพร้อมกับภรรยา”

“…”

“จัตุรัสแห่งนี้ใหญ่มาก ข้าตั้งแผงขายของที่นี่ได้ไหม? ขายเกราะกระดูกไอเทมสีน้ำเงิน 50 เหรียญเกม รับประกันคุณภาพ หากไม่พอใจเรายินดีคืนเงิน”

"ไอ้ขี้โกง! เอาเงินของข้าคืนมา!”

เมื่อมองไปยังจัตุรัสอันสงบสุขที่จู่ ๆ ก็พลันยุ่งเหยิงขึ้นมา ราชินีเอลฟ์ก็รู้สึกราวกับว่าความดันโลหิตของเธอพุ่งสูงทะลุปรอท ถ้าเธอไม่ได้รับการฝึกฝนความอดทนด้านจิตใจมาอย่างดีเป็นระยะเวลายาวนาน เธออาจจะเป่าคนเหล่านี้ให้หายจากทริเนียแล้ว

'วีรบุรุษผู้กล้ารึ?! คนเหล่านี้จากศาสนจักรแห่งเกมล้วนแต่เป็นคนบ้า!'

แม้ว่าราชินีเอลฟ์จะล่วงรู้ท่าแท้ของผู้เล่นเข้าโดยบังเอิญ แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าตัวเธอเองได้แหวกม่านให้เหล่าผู้เล่นก้าวเข้าสู่ยุคใหม่อย่างช้า ๆ

------------------------------------------------

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด