ตอนที่แล้วEp.733 - ไม่เกินสาม
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.735 - ปากที่สามารถกลืนโลกทั้งใบ

Ep.734 - ผู้มีพระคุณ


1/5

Ep.734 - ผู้มีพระคุณ

ซางฮันถึงกับพูดไม่ออก เพราะต่อให้คนที่ตายไปจะมาจากกองกำลังมืด กระนั้น ในหลายๆครั้งกองกำลังมืดก็มีส่วนช่วยต้านทานสัตว์ร้ายเช่นกัน และที่สำคัญที่สุดก็คือ ในพันธมิตรวู้ดแลนด์ เป็นฝ่ายองค์กรมืดชักใยอยู่เบื้องหลัง!

“งั้นก็ช่างมันเถอะ ในเมื่อเลเวล S ไม่คิดลงมือแล้ว ฉันก็ไม่อยากสืบความกับคุณอีก แต่ช่วงนี้ก็สงบเสงี่ยมหน่อยแล้วกัน และจากนี้ห้ามเข้าไปในพันธมิตรวู้ดแลนด์อีก!”

“อา แน่นอนผมจะไม่ไปอีกแล้ว เพราะที่นั่นไม่คุ้มค่าให้ผมลงมืออีกต่อไป” ฉินเฟิงตอบตกลง เพราะผู้ใช้พลังในวู้ดแลนด์ ใครที่เขาสามารถฆ่าได้ก็ฆ่าหมดแล้ว

ส่วนพวกกองกำลังมืดที่เหลืออยู่ ไม่ง่ายนักที่จะออกค้นหา ดังนั้นฉินเฟิงไม่คิดออกล่าอีก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเลเวล S คอยจับตามองเขา

ซางฮันพอได้ยินคำพูดของฉินเฟิง ก็จิกตาใส่เขาวูบหนึ่งและกล่าว “อะไร? พูดแบบนี้กำลังจะบอกว่าถ้ามันคุ้มค่า คุณก็คิดจะไปฆ่าคนอีกหรือ?”

ฉินเฟิงยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ใช้แทนคำตอบ แจ้งให้อีกฝ่ายทราบ ว่าหากยังเหลือคนอื่นที่คุ้มค่าอีก ฉินเฟิงก็พร้อมลงมือเสมอ

ในใจของซางฮันทำอะไรไม่ถูก ลูกน้องอย่างฉินเฟิงเป็นกำลังรบอย่างดีสำหรับเธอ แต่บางครั้ง กำลังรบที่ดีเกินไป ก็ทำให้คนอื่นปวดหัวได้เหมือนกัน

“ยังไงก็ตาม คุณควรหยุดซะ ฉันจะติดต่อหาพวกเขาเอง แล้วบอกว่าได้ทำการเรียกตัวคุณกลับมาแล้ว!”

ฉินเฟิงพยักหน้า กล่าวอย่างไม่ยี่หระ “ครั้งนี้พวกเขามีเลเวล B ตายไปเยอะมาก ทำให้กำลังพลไม่พอ อย่าลืมฉวยโอกาสนี้แย่งชิงทรัพยากรในแนวชายแดน อ้อจริงสิ จ่ายรางวัลให้ผมด้วย”

“ไม่จำเป็นต้องให้คุณเตือนหรอก!” แม้ก่อนหน้านี้เธอรู้สึกทำอะไรไม่ถูก แต่พอได้ยินคำเตือนฉินเฟิง ซางฮันก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้น

เอาจริงๆ หากไม่มีการร้องเรียนใดๆ ต้องขอบอกว่าผลงานของฉินเฟิงในครั้งนี้ยอดเยี่ยมมาก

หลังวางสายสื่อสาร ซางฮันก็จัดส่งคนเดินทางไปยังชายแดน เพื่อทำการช่วงชิงทรัพยากรทันที ฉินเฟิงในตอนนี้ ถึงค่อยมีเวลาเป็นของตัวเอง

ไป๋หลีออกไปสนทนากับคนอื่นๆข้างนอก ฉินเฟิงถอดอุปกรณ์สื่อสาร และนั่งสมาธิในห้องฝึกยุทธ

การต่อสู้ในค่ำคืนที่ผ่านมา ฉินเฟิงได้สังหารคนเป็นจำนวนมาก ช่วงเวลานี้ในตันเถียนของเขาเอ่อล้นไปด้วยกำลังภายใน

ในบรรดาเจ็ดเลเวล A มีหกคนเป็นผู้ใช้วรยุทธโบราณ เนื่องจากเขาต้องทุ่มสุดแรง เลยใช้งานกำลังภายในไปมากในช่วงแรก สุดท้ายเลยสามารถเก็บกำลังภายในได้จากแค่สามคนสุดท้ายเท่านั้น แต่อย่างน้อยมันก็มีมากถึง 15 มหาสมุทร เมื่อแปลงเป็นทะเลสาบ เทียบเท่ากับ 150 กำลังภายใน

แต่จากนั้น เขาได้สังหารเลเวล B ไปนับร้อยคน ในกลุ่มมีผู้ใช้วรยุทธอย่างน้อย 60 - 70 คน นอกจากนี้ในบรรดาเลเวล C กว่า 700 คน มีผู้ใช้วรยุทธถึงแปดในสิบส่วน

แม้กำลังภายในจากกลุ่มหลังที่ว่ามาจะดูดซับได้แค่คนละ 1 - 9 สระ แต่ภายใต้จำนวนมหาศาล ส่งผลให้กำลังภายในของฉินเฟิง เพิ่มพูนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อสิ้นสุดการล่า ฉินเฟิงจำไม่ได้แล้วว่าเขาฆ่าไปกี่คน แต่ปัจจุบัน ในร่างของฉินเฟิง มันประกอบไปด้วยทะเลสาบกำลังภายในกว่า 850 แห่ง

กำลังภายในเหล่านี้เต็มไปด้วยจุดบกพร่อง บ้างเข้ากันไม่ได้ดั่งน้ำกับไฟ บ้างกำลังปะทะกัน ในกรณีหลังอาจเกิดการระเบิดได้ทุกเมื่อ

กำลังภายในเหล่านี้ เป็นสาเหตุให้ฉินเฟิงลงมือสังหารต่อเนื่อง ในเวลานั้นเขาดูไม่ต่างจากผู้ร้าย ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ด้วยนิสัยของฉินเฟิง ไม่แน่ว่าเขาอาจปล่อยเลเวล C ที่เหลือไปก็ได้ แต่อีกฝ่ายดันมีมากถึง 700 - 800 คน ถือเป็นกำลังภายในมหาศาล สุดท้ายฉินเฟิงเลยตัดสินใจฆ่า

“สมแล้วที่ทักษะลับกลืนดารา ในชีวิตก่อนมันถูกขนานนามว่าเป็นวิชามาร!” ฉินเฟิงย้อนนึกไปถึงเรื่องนี้ แต่เขาไม่ได้เสียใจเลย

หากไม่ใช่เพราะทักษะลับกลืนดารา ในครั้งนี้ฉินเฟิงคงไม่สามารถรับมือกับผู้ใช้วรยุทธโบราณจำนวนมากได้ และจบชีวิตลงไปตั้งนานแล้วภายใต้สรรพวุธของผู้คนนับไม่ถ้วน!

“พลังพิเศษดูดกลืน!”

ฉินเฟิงปลดปล่อยอบิลิตี้ติดตัว เขมือบกำลังภายในอันแสนยุ่งเหยิงเหล่านี้

กำลังภายในถูกดูดซับไปอีกแห่งหนึ่งโดยปากใหญ่ที่มองไม่เห็น ตกลงใจกลางจักรวาลแห่งจิตสำนึก กลั่นกรองจนเหลือเพียงแก่นแท้ สิ่งโสมมทั้งหมดถูกขับออกไป

บางที อาจเป็นเพราะกำลังภายในในครั้งนี้มีข้อบกพร่องมากเกินไป ส่งผลให้เหนือหัวของฉินเฟิง บังเกิดชั้นหมอกสีเทาระเหยขึ้นด้านบน

จากนั้น กำลังภายในก็ได้รับการกลั่นกรองจนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ถูกส่งย้อนกลับเข้ามาในตันเถียนของฉินเฟิง

กำลังภายในสดใหม่ที่เป็นของฉินเฟิงเอง ค่อยๆเพิ่มพูนขึ้น

1 ทะเลสาบกำลังภายใน , 2 ทะเลสาบกำลังภายใน …

10 ทะเลสาบกำลังภายใน , 20 ทะเลสาบกำลังภายใน …

100 ทะเลสาบกำลังภายใน , 200 ทะเลสาบกำลังภายใน …

ภายใต้การสั่งสมอย่างบ้าคลั่ง กำลังภายในของฉินเฟิง เพิ่มพูนขึ้นถึง 300 ทะเลสาบ

ฉินเฟิงลืมตาของเขา

“ฟู่ว …”

ลมหายใจขุ่นมัวถูกขับออก ฉินเฟิงสำรวจตันเถียนของเขา

“ถ้าไม่ใช่เพราะตอนแรกเราเผาผลาญกำลังภายในเยอะเกินไป และสามารถสังหารคนพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย ฉันคงได้รับกำลังภายในมากกว่านี้ น่าเสียดายจริงๆ แต่รับมือกับเจ็ดเลเวล A ในคราวเดียว ยังถือว่าตึงมือเกินไป!”

“แล้วอีกอย่าง ดูเหมือนว่าการสังหารคนจะไม่ดีเท่าการสังหารสัตว์ร้าย หลังจากฉันฆ่าคนไปมากมาย และดูดซับพลังงานจากผู้ใช้วรยุทธโบราณกับผู้ใช้อบิลิตี้ที่ตายไป ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันไม่สามารถช่วยให้ฉันยกระดับขึ้นไป B3 ดูเหมือนว่าวิธีการนี้จะช่วยเพิ่มกำลังภายในให้ฉันได้เท่านั้น”

“แต่เอาจริงๆ แค่อาทิตย์เดียว กลับได้รับกำลังภายในเพิ่มขึ้นมาถึงสามเท่า นี่นับว่าดีมากแล้ว ฉันไม่คิดว่าจะได้มันถึงขนาดนี้ด้วยซ้ำ”

สามารถกล่าวได้ว่า กำลังภายในที่เพิ่มขึ้นมาถึงสามเท่า มันช่วยให้ฉินเฟิงมีความมั่นใจมากขึ้น และนึกออกแล้วว่าควรลงมือทำสิ่งใดต่อไป

ฉินเฟิงเดินออกจากห้องฝึกยุทธ พริบตานั้นจู่ๆเขาสัมผัสได้ถึงบรรยายผิดปกติในห้อง

ฉินเฟิงใช้วิชาตัวเบา วิ่งปราดขึ้นจากห้องใต้ดิน มาถึงห้องโถงของวิลล่า และได้พบกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ

ณ เวลานี้ ภายในห้องโถง ไป๋หลีกำลังนั่งเผชิญหน้ากับชายอีกคนหนึ่ง เห็นอยู่ชัดๆว่าชายคนนั้นกำลังนั่งบนโซฟาบ้านคนอื่น แต่กลับทำตัวตามสบายราวเป็นเจ้าของสถานที่ เอนกายพิงพนักเก้าอี้ จิบไวน์สบายอารมณ์

“จิ้งจอกน้อย ไปเอาไวน์มาเพิ่มให้ฉันอีก ไวน์ผลไม้ที่นี่รสชาติเยี่ยมจริงๆ”

ไป๋หลีหัวเราะเยาะ “คุณดื่มไวน์ของฉันไปแปดขวดแล้ว ทำไมถึงไม่เมาตายไปซักที?  ถ้าคุณตายฉันจะได้จับคุณกิน! แบบนั้นความแข็งแกร่งคงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดแน่นอน!”

“นี่คือทัศนคติของเธอเวลาปฏิบัติต่อผู้มีพระคุณหรือ? ฮี่ฮี่!”

“สำหรับคนแบบคุณไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตัวดี!”

“เฮ้อ! รู้งี้ฉันไม่ช่วยพวกเธอดีกว่า”

ฉินเฟิงเดินออกมา ระหว่างนี้บทสนทนาของทั้งสองสิ้นสุดลงเช่นกัน เขาและเธอหันมามองฉินเฟิง

สายตาของฉินเฟิงบนไปตกลงบนแขกผู้ไม่ได้รับเชิญ

แซดยังคงเหมือนเดิม ใบหน้าคมคาย ระลอกคลื่นในดวงตาลึกล้ำยากหยั่งถึง แม้มีท่าทีดูผ่อนคลายในเวลานี้ แต่จิตวิญญาณตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

แน่นอนว่าอีกฝ่ายกำลังผ่อนคลาย แต่บังเกิดประกายแสงที่ไม่อาจอธิบายในตาเขา

ร่างของฉินเฟิงแข็งทื่อทันใด เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาราวกับเป็นหนูทดลองของนักวิทยาศาสตร์ บอกตามตรงนี่เป็นรสชาติที่ไม่ค่อยถูกปากนัก

“จิ๊ส์ ถ้าฉันไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ฉันคงไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าในเวลาแค่ครึ่งปี นายจะเติบโตได้ถึงจุดนี้ ฉันเริ่มรู้สึกเสียใจแล้วสิที่ให้สัญญาสามปีไป”

ในเวลาครึ่งปี ฉินเฟิงเปลี่ยนจากเลเวล C4 ขึ้นเป็น B2 หากให้เวลากับฉินเฟิงอีกหน่อย เขาจะไม่ไปถึงเลเวล A เลยหรอ?

และด้วยศักยภาพในปัจจุบันของฉินเฟิง เกรงว่าหากขึ้นเป็นเลเวล A เขาคงสามารถต่อกรกับเลเวล S ได้

เมื่อถึงเวลานั้น แซดจะยังสามารถจัดการกับฉินเฟิงได้หรือ? เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้!

ฉินเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก้าวไปข้างหน้า นั่งลงข้างไป๋หลี โอบไหล่อีกฝ่ายแล้วตบมันเบาๆ ช่วยปลอบให้จิ้งจอกน้อยผ่อนคลายลง

ฉินเฟิงกล่าว “คุณมาที่นี่เพื่ออะไร?”

แซดเอ่ยอย่างเป็นธรรมชาติว่า “อะไรกัน? ในฐานะผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิต นายไม่รู้จักขอบคุณคนเลยหรอ?”

ฉินเฟิงยิ้มหยัน “องค์กรของคุณเกือบจะฆ่าฉัน ถ้าให้ตัดเรื่องนี้ออกไปก็น่าขอบคุณอยู่หรอก”

แม้นี่จะเป็นชีวิตใหม่แล้ว แต่ความเกลียดชังมิอาจเสื่อมคลาย

แซดไม่คิดตรวจสอบว่าคำพูดของฉินเฟิงจริงหรือเท็จ แต่เอ่ยปากว่า “ความเกลียดชังก็ในส่วนความเกลียดชัง บุญคุณก็ส่วนบุญคุณ เอาอย่างงี้เป็นไง นายต้องตอบแทนบุญคุณก่อน แล้วฉันจะยอมปล่อยให้นายแก้แค้นอีกที”

“หึ ถ้างั้นช่วยบอกความต้องการของคุณมาก่อน แต่อย่าลืมล่ะ ว่าฉันสามารถปฏิเสธมันได้เหมือนกัน!” ฉินเฟิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด