ตอนที่แล้วEp.732 - บทลงโทษของเลเวล S
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.734 - ผู้มีพระคุณ

Ep.733 - ไม่เกินสาม


5/5

Ep.733 - ไม่เกินสาม

เสาแสงถูกยิงลงมา และฉินเฟิงไม่สามารถทานรับมันได้อีกต่อไป!

เขาได้ปลดปล่อยพลังสมาธิทั้งหมดออกไปแล้ว อักษรรูนมืดเองก็สลายไปอย่างสมบูรณ์ ภายใต้การโจมตีเมื่อครู่ จริงอยู่ที่กล่าวมา ไม่ได้หมายความว่าฉินเฟิงจะสูญเสียอักษรรูนเหล่านั้นไป แต่เขาจะไม่สามารถเรียกมันออกมาใช้งานได้ชั่วคราว

ในกรณีนี้ เท่ากับว่าเขาหมดหนทางที่จะต้านทานอีกต่อไป!

ทางฝั่งไป๋หลี ใบหน้าซีดเผือดลงเช่นกัน เธอไม่คาดคิดเลย ว่ายังมีการโจมตีอีกระลอก อำนาจของมันทรงพลังมาก ทำให้เธอนึกถึงใครบางคน --เจ้าคนประหลาดแซด!

นี่คือการโจมตีของตัวตนทรงอำนาจเลเวล S

รังสีแสงที่สามตกลงมา ฉินเฟิงตระหนักดี ว่าตนมิอาจหลุดพ้นจากอีกฝ่าย ทั้งยังไม่อาจหลบเลี่ยงการโจมตีนี้

“ไม่แน่ใจว่ากำลังภายในของฉัน จะสามารถต้านทานการโจมตีของเลเวล S ได้รึเปล่า … แต่ไม่มีทางเลือก คงต้องลองดู!”

มีดกษัตริย์ครามในมือเขาถูกกุมแน่น เตรียมพร้อมระเบิดกำลังภายในทั้งหมดที่มี เข้าต่อต้านรังสีแสงที่สาม

แต่เขาก็พอจะรู้ ว่าต่อให้รับมันได้ แต่เกรงว่าวิลล่าที่ไม่ต่างจากปราสาทหลังนี้ ปราสาทที่ไป๋หลีชื่นชอบ คงมิแคล้วพังทลายไม่เหลือซาก!

แต่ในจังหวะนั้นเอง ปรากฏเส้นแสงสีดำ ถูกยิงออกมาจากระยะไกลออกไป พร้อมด้วยเสียงคำรามของมังกร!

หากได้ลองเพ่งมองดีๆ คุณจะพบว่ามันเป็นมังกรดำขนาดยักษ์!

สีหน้าของฉินเฟิงเปลี่ยนไปทันที

มังกรดำตัวนี้ ฉินเฟิงย่อมเคยเห็นมันมาก่อน นี่คือจิตวิญญาณนักรบของแซด!

แต่ประเด็นก็คือ ดูเหมือนว่ามังกรดำตัวนี้ จะพุ่งตรงมาจากเมืองลาวาเดือดอย่างไม่คาดฝัน

นี่อาจบอกได้ว่า ตั้งแต่พบกันครั้งก่อน แซดยังไม่ได้จากไปอย่างนั้นหรือ?

นี่ไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายเดินเล่นอยู่บนสนามหญ้าหน้าบ้านเขาอยู่ตลอดเวลา แล้วกำลังทำการทดลองอยู่ใช่ไหม?

แต่ฉินเฟิงไม่มีเวลาสนใจเรื่องนั้นอีกต่อไป เพราะช่วงเวลานี้ มังกรดำกลืนกินรังสีแสงสีขาวในลมหายใจเดียว จากนั้นพุ่งทะยานสู่ฟากฟ้า หายวับไปในพริบตาเดียว

แต่พลังสมาธิของฉินเฟิงสามารถรับรู้ได้อย่างเลือนราง ว่าจิตวิญญาณนักรบของแซดเขมือบอะไรบางอย่างลงไป ต่อมาคล้ายแว่วเสียงบางอย่างที่แตกเป็นเสี่ยงๆจากฟากฟ้า หลังจากนั้นฉินเฟิงก็ไม่อาจสัมผัสอะไรได้อีกเลย

ขณะเดียวกัน ในเวลานั้น ความรู้สึกว่ากำลังถูกจับจ้อง ก็หายไปเช่นกัน

ฉินเฟิงผ่อนคลายลง แต่เมื่อร่างกายไม่ตื่นตัว ความรู้สึกเจ็บแปล่บคล้ายถูกแผดเผาไปทั่วร่างก็ประทังเข้ามา

“ตาปีศาจช่างทรงพลังจริงๆ!”

เกรงว่าอาการเจ็บปวดนี้อาจเกิดจากการรีดเร้นพลังเกินขีดจำกัด เข้ายับยั้งพลังอำนาจมหาศาลในคราวเดียวของฉินเฟิง แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่น่าตกใจอะไร เพราะเรื่องน่าตกใจก็คือ ฉินเฟิงไม่คิดว่าแซดจะสามารถสกัดการโจมตีนั้นไว้ได้อย่างง่ายดาย

ความแข็งแกร่งของแซด ยังทรงพลังเหมือนเคย!

“หรือไม่อาจเป็นเพราะตาปีศาจแค่ปล่อยน้ำจิ้มลงมา ไม่ได้เอาจริงอะไร!” ฉินเฟิงกล่าวประชดประชัน

แต่ไม่นาน เขาก็ต้องส่ายหัว “ถ้าฉันยังมีศิลานรกกับศิลาศักดิ์สิทธิ์แห่งเปลวเพลิงอยู่ล่ะก็ เรื่องคงไม่เป็นแบบนี้”

ในการต่อสู้ครั้งก่อนกับแซด ฉินเฟิงได้สูญเสียวัตถุระดับเทวะทั้งสองชิ้นนี้ไป!

ฉะนั้นฉินเฟิงจึงได้ข้อสรุปของเหตุการณ์ในครั้งนี้ ว่าไม่ใช่เพราะแซดแข็งแกร่งเกินไป แต่เป็นเพราะฉินเฟิงไม่มีไพ่ตายในมือมากพอต่างหาก!

เมื่อคิดได้แบบนี้ ฉินเฟิงก็ลอบตัดสินใจ ว่าหลังจบเรื่อง เขาจะต้องออกไปค้นหาวัตถุระดับเทวะที่เหมือนกับศิลาศักดิ์สิทธิ์มาในครอบครองอีกครั้งให้จงได้

“อันตรายได้ถูกกำจัดออกไปแล้ว วางใจได้” ไป๋หลีกล่าว พลางมองไปที่ฉินเฟิง “ว่าแต่ใครเป็นคนโจมตีคุณ? เมื่อกี้ฉันเห็นลูกตายักษ์บนท้องฟ้าด้วย!”

“เป็นตาปีศาจ เขาคือหนึ่งในเลเวล S จากวู้ดแลนด์!” ฉินเฟิงเฉลย “แต่ฉันนึกไม่ถึงว่าเขาจะยอมกลับมาจากมิติอื่น ยังไม่พอ ถึงขั้นลงมือโจมตีฉันด้วยตัวเอง สงสัยฉันจะทำให้พวกเขาโกรธจริงๆ”

ฉินเฟิงยิ้มเยาะให้กับตัวเอง แต่หลังจากสังหารผู้คนเป็นจำนวนมาก ปล้นทรัพยากรมหาศาล บางทีไม่ว่าจะคนดีหรือเลวในพันธมิตรวู้ดแลนด์ คงเกลียดฉินเฟิงเข้ากระดูกดำ!

และการโจมตีในครั้งนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงเจตนาของตาปีศาจ

“นับว่าโชคยังดีที่มีแซด … !”

แต่เมื่อกล่าวถึงจุดนี้ คิ้วของฉินเฟิงเริ่มขมวดมุ่น เขาไม่อยากติดหนี้คนเลวอย่างแซดเลย!

แต่เมื่อนึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่แซดวนเวียนอยู่ในเมืองลาวาเดือด หน้าผากก็ยับย่นยิ่งกว่าเดิม

ลูกตายักษ์ที่ลอยสูงขึ้นไปในอากาศกว่าหมื่นเมตร ถูกกัดโดยมังกรดำ คู่ดวงตาของตาปีศาจในพันธมิตรวู้ดแลนด์มืดมนลงยิ่งกว่าเดิม

แม้ดูเหมือนไม่เป็นอะไร แต่ตอนนี้ตาปีศาจได้รับบาดเจ็บจริงๆ

กระทั่งท่าทีการแสดงออกของเขา ยังเผยให้เห็นถึงร่องรอยของความหวาดกลัวที่ปรากฏขึ้น

เขาไม่คาดคิดเลย ว่าจะมีคนจากหัวเซี่ยเข้ามาแทรกแซง!

อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ว่าเขาโจมตีไปถึงสามครั้งยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และทั้งสามครั้งไม่สามารถสังหารฉินเฟิงได้ ตาปีศาจได้แต่ยอมรับ ว่านี่คือความสามารถของฉินเฟิง

เมื่อนึกได้แบบนั้น ตาปีศาจก็ไม่คิดให้ความสนใจกับเรื่องนี้อีก หาหมายเลขคนที่ติดต่อมารายงานเขาก่อนหน้านี้ แล้วส่งข้อความกลับไป

“ฉันจะกลับแล้ว ส่วนเจ้าเด็กนั่น ไม่ต้องไปยุ่งกับเขาอีก! นับจากนี้ไปถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆ อย่าติดต่อหาฉัน!”

“ขอรับท่านผู้ใหญ่ ผู้น้อยเข้าใจแล้ว”

ชายคนนั้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก ตอบกลับไป อย่างไรก็ตาม เขาพลันเอะใจถึงข้อความของอีกฝ่าย

“นี่มันหมายความว่ายังไงกัน? ที่บอกว่าอย่าไปยุ่งอีก? เป็นไปได้ไหมว่าฉินเฟิงจากประเทศหัวเซี่ยยังไม่ตาย ทั้งๆที่ท่านผู้ใหญ่ลงมือด้วยตัวเอง?”

เมื่อความคิดนี้ผุดออกมา เขาก็กระโดดตัวลอยทันที

ไม่นานหลังจากนั้น พันธมิตรมนุษย์ของวู้ดแลนด์ก็จัดการประชุมกันอีกครั้ง เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้

เนื่องจากตาปีศาจคร้านจะอธิบาย พวกเขาเลยยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าฉินเฟิงได้กลับไปยังพันธมิตรหัวเซี่ยแล้ว แต่กลับไปแล้วมันวางใจได้หรอ? หากฉินเฟิงคิดแก้แค้น อีกฝ่ายสามารถใช้ตัวเชื่อมมิติกลับมาได้ทุกเมื่อ!

ดังนั้น คนเหล่านี้จึงรู้สึกว่านี่คือเรื่องใหญ่มาก

“ไม่มีทาง! เราจะปล่อยให้ฉินเฟิงจากหัวเซี่ยคนนี้มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ เขาแข็งแกร่งเกินไป ถ้าเขาบุกเข้ามาสังหารหมู่อีก พวกเราจะไม่เหลือใครเลย!”

“ทรัพยากร! สิ่งสำคัญที่สุดคือทรัพยากร! ทุกที่ที่เขาบุกถล่ม มันแทบไม่เหลืออะไรทิ้งไว้ข้างหลังเลย ฉันไม่รู้ว่าเขาเอามันไปได้ยังไง!”

“แล้วแบบนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี?”

“หรือว่า … จะยอมปล่อยเขาไป หยุดไล่ล่าเขา ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา เลเวล A ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉินเฟิง! อีกอย่างท่านผู้ใหญ่ก็ไม่คิดยุ่งเรื่องนี้แล้ว …”

“จะยอมปล่อยมันไปได้อย่างไร อ๊า! คิดหาหนทาง! รีบช่วยกันคิดเร็วเข้า ให้ไวเลย!”

คนเหล่านั้นเค้นสมองจนหมดเปลือก จนในที่สุดคนหนึ่งก็นึกหาทางออกได้

จากนั้นไม่นาน ในพันธมิตรหัวเซี่ย จ้าวพรมแดนภูมิภาคเหนือก็ได้รับจดหมายร้องเรียน

ณ เมืองเฟิงหลี วิกฤตได้ผ่านพ้นไปแล้ว คนธรรมดาล้วนลืมเลือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ในมุมมองของพวกเขา ทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือของเจ้าเมืองฉินและท่านผู้ใหญ่ไป๋ ซึ่งทั้งสองล้วนเป็นตัวตนทรงพลังยากหาผู้ใดเทียบ

แต่พวกเขาคงไม่อาจทราบได้เลย ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันวิกฤตขนาดไหน พวกเขารู้เพียงแค่ว่า เป็นอบิลิตี้ของฉินเฟิงที่สามารถสกัดกั้นพลังงานมหาศาลนั่นไว้ได้ ส่วนพลังงานในครั้งต่อมา ถูกยิงสกัดจากสถานที่ห่างไกล คาดว่าอาจยิงมาจากเมืองลาวาเดือด

ช่วงเวลานี้ ภายในวิลล่า ฉินเฟิงได้รับการติดต่อจากซางฮัน!

“ฉินเฟิง คุณทำอะไรลงไปในวู้ดแลนด์? พวกเขากล่าวหาว่าคุณสังหารพลเรือนในเมือง ดังนั้นร้องขอให้เนรเทศคุณจากวู้ดแลนด์ทันที”

ฉินเฟิงอึ้งไปวูบหนึ่ง จากนั้นก็คล้ายนึกอะไรบางอย่างออกอย่างรวดเร็ว และอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขัน

“ผมช่วยพวกเขาแท้ๆ แต่น่าเสียดาย ที่ดันไม่ได้รับคำขอบคุณ”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ซางฮันยังสับสนเล็กน้อยตอนนี้

ซางฮันมีเรื่องมากมายที่ต้องทำ ดังนั้นไม่ค่อยติดตามข่าวสาร ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ส่งลูกน้องตนออกไปทำภารกิจในสถานที่ห่างไกล

กระนั้น ภารกิจกำลังเสริมจากทางพันธมิตรวู้ดแลนด์ กลับเสร็จสิ้นลงภายในวันแรก ซื่อฉิงเมื่อกลับมา ก็เอ่ยยกย่องในความแข็งแกร่งของฉินเฟิงแก่ซางฮันเป็นการใหญ่

แต่ไม่นึกเลย ว่าฉินเฟิงที่รั้งอยู่ในวู้ดแลนด์ต่อ จะก่อเรื่องราวใหญ่โตขึ้น

ฉินเฟิงไม่ได้ปิดซ่อนความจริงจากซางฮัน สารภาพไปตามตรงว่าเขาทำอะไรบ้าง มีเฉพาะในช่วงที่เขาถูกโจมตีอย่างโหดเหี้ยมโดยตาปีศาจ เขากล่าวอ้างแค่ว่ามีตัวตนแข็งแกร่งบางคนเข้าช่วย แต่ไม่ได้พูดถึงแซด

เมื่อเล่าถึงจุดนี้ ซางฮันตกตะลึงกับฉินเฟิงอย่างสิ้นเชิง

“คุณกำลังจะบอกว่า คุณได้สังหารผู้ใช้พลังเลเวล A จากพันธมิตรวู้ดแลนด์ไปเก้าคน และเลเวล B อีกหลายร้อยคน เลเวล C อีกเป็นพันคนงั้นหรอ???”

ฉินเฟิงกระแอมไอ “ถ้าจะพูดให้ถูกต้อง พวกเขาทั้งหมดคือพันธมิตรองค์กรมืดของวู้ดแลนด์!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด