ตอนที่แล้วตอนที่ 117 เสียบไม้ย่าง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 119 อารอน ผู้อยู่ในรายชื่อเฝ้าระวัง

ตอนที่ 118 ผู้พันเจ


ตอนที่ 118 ผู้พันเจ

ไนเรลที่อยู่ในร่างของกิ้งก่ายักษ์ไม่รอช้าจัดการกินกบหนองพิษที่อยู่ด้านหน้าอย่างรวดเร็ว นั้นรวมถึงแก่นพลังงานระดับ 5 ของมันด้วย

รสชาติของกบหนองพิษระดับ 5 นั้นมันเหมือนกับไก่อย่างไม่ผิด แต่ก็มีบางส่วนที่น่าขยะแขยงอยู่นั้นก็คือบริเวณผิวหนังที่พุพองของมัน แต่ไนเรลที่อยู่ในร่างกิ้งก่าก็กินมันเท่าที่ได้

หลังจากย่อยเสร็จมันก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง แต่ก็คุ้มค่าเพราะว่าไนเรลได้ความสามารถใหม่มา นั้นก็คือ [หมอกพิษ A]

[หมอกพิษ A] ปลดปล่อยพิษออกจากผิวหนังสังหารสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในรัศมี 1 กิโลเมตร

จากนั้นไนเรลก็เลือกเก็บโครงกระดูกที่แข็งแกร่งไว้ เพื่อที่ตอนกลับไปที่สมาพันธ์นักล่าจะได้ให้เมสันใช้พวกมันเป็นวัตถุดิบสร้างอาวุธระดับ 5

ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มสว่างแล้ว แต่เพราะร่างลายของไนเรลโดนกรดพิษ เมื่อเขาคืนร่างตามตัวของเขาจึงเต็มไปด้วยรอยแผลเหมือนกับผิวหนังโดนลอกออกไปเหลือแต่กล้ามเนื้อเท่านั้น

แต่มันก็ไม่นานนัก เพราะทันทีที่แสงแรกของวันส่องมาที่เขา ไนเรลก็ใช้ความสามารถ [โลหิตแห่งชีวิต A] รักษาบาดแผลส่วนต่าง ๆ ผิวหนังที่หายไปก็เริ่มกลับมาเติมเต็มอีกครั้ง

หลังจากนั้นไนเรลก็ปล่อยเซลี่ เกลและพรรคพวกออกมา ทุกคนดูจะตกใจกับภาพตรงหน้ามากเพราะที่นี่มันเหมือนกับมีพึ่งผ่านสงครามใหญ่มา พื้นที่กว่า 10 กิโลเมตรบางจุดก็มีไฟไหม บางจุดก็เปลี่ยนเป็นบึงพิษอยู่จำนวนมาก

“ไปกันเถอะ” ไนเรลพาทุกคนกลับมาที่บึงพิษ ตอนนี้ไอรินาและฮาร์มกำลังพาทุกคนปีนขึ้นมาทางที่ถล่มของถ้ำอีกฝั่ง และยังมีบางส่วนก็ลากซากกบหนองพิษมารวมกัน พวกนั้นช่วยกันหาแก่นพลังงานที่มีอยู่จากกบหนองพิษระดับ 2 และ 3 มันมีแค่ไม่กี่ชิ้นเท่านั้นจากกบหนองพิษนับร้อยตัว

ไนเรลมองพวกนั้นไม่นานก็เลิกสนใจ เพราะของพวกนี้ไม่มีประโยชน์กับเขาอีกแล้ว เมื่อคนของไอรินาและฮาร์มเห็นดังนั้นก็ถอนหายใจโล่งอก เพราะถึงอย่างไรถ้าไนเรลต้องการแก่นพลังงานพวกนี้ใครจะกล้าหยุดเขา

หลังจากหาแก่นหลังงานในตัวกบหนองพิษจนหมด พวกเขากับไม่ได้เอาเนื้อของกบหนองพิษไป เพราะเนื้อของมันเต็มไปด้วยพิษซึ่งไม่สามารถกินได้ ยกเว้นก็แต่ไนเรลละนะแต่ไนเรลก็คงไม่คิดจะกินพวกนั้นเช่นกัน

ไนเรลเดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าไอรินา ไนเรลก็หยิบผลยกระดับทั้งหมด 42 ผลออกมาวางไว้ตรงหน้าของเธอ

ไอรินาและฮาร์มมองไปที่ผลยกระดับด้วยความละโมบ แต่ทั้งสองก็หักห้ามใจไว้ ไอรินาเลือกที่จะหยิบมาแค่ 15 ผลเท่านั้น

ซึ่ง 10 ผลสำหรับทองทัพที่เธอยืมปืนใหญ่พลังงาน E2 มาและอีก 5 ผลของเธอเท่านั้น

“ขอบคุณ” เธอกล่าวออกมาและเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรอีก

ฮาร์มที่เห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วกับการกระทำของไอรินา แต่เขาก็เลือกทำแบบเธอหยิบไปแค่ครึ่งเท่านั้น แต่แน่นอนว่าฮาร์มก็ยิ้มทักทายไนเรลก่อนจะเดินออกไป โดยไม่รู้ว่าในใจของเขาคิดอะไรอยู่กันแน่

แต่ไนเรลไม่ได้รู้สึกดีกับคนแบบฮาร์มเลยแม้แต่น้อย คนแบบนี้หน้าไหว้หลังหลอก ไว้ใจไม่ได้ ใครก็ตามที่ล้มฮาร์มก็พร้อมที่จะข้ามทันที เพราะขนาดคนของค่ายโลหะที่ตอนนี้เขากลับไม่เห็นใครคงโดนฮาร์มเก็บไปแล้ว

แต่ก็นั้นและเพราะโลกใบนี้ถึงเหมาะสมกับคนแบบฮาร์มและไนเรลก็เช่นกัน เขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อให้คนของตนอยู่รอดเช่นกัน

ไนเรลเก็บผลที่เหลือ 22 ผลไป เขารู้ว่าที่ไอริน่าทำเช่นนี้ เพราะรู้สถานะของตนเองดี ส่วนไนเรลก็ไม่เกรงใจอะไร

ไนเรลและเกล พร้อมกับคนอื่น เดินแยกออกมาจากพวกไอรินาและฮาร์มทันทีที่จบเรื่องแล้ว เมื่อไนเรลคิดว่าเดินมาไกลพอสมควรแล้วเขาก็หยุดลงมองไปที่เกล

“เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดคือทางไหน” ไนเรลหันไปถามเกล

“ทางทิศเหนือไป 300 กิโลเมตรที่นั่นเป็นเมืองขนาดเล็กเป็นฐานย่อยของพวกทหารซึ่งเป็นจุดรวมกันของพวกค่ายต่าง ๆ เช่นกัน และจากเมืองนั้นมีก็มีค่ายหลักทั้งสามล้อมรอบ...” หลังจากนั้นเกลก็อธิบายเรื่องของเมืองค่ายนั้นให้ไนเรลฟัง

“นี่ของนาย อีกอย่างฉันขอเตือนให้พวกนายรีบไปที่เมืองย่อยที่ปลอดภัยโดยเร็วจะดีกว่าอีกไม่นานป่าจะกลายเป็นที่นองเลือด” ไนเรลโยนผลยกระดับให้กับเกลพร้อมกับเตือนเขา จากนั้นก็พาเซลี่จากไป

......

ที่นอกเมืองขนาดเล็ก เมืองแลกเปลี่ยนที่เกลพูดตอนนี้ไนเรลได้บินมาถึงแล้ว

กำแพงเมืองแลกเปลี่ยนทั้งหมดถูกสร้างขึ้นมาจากไม้ขนาดใหญ่ พวกเขาใช้ไม้สร้างทุกสิ่ง เพราะตอนนี้ทรัพยากรที่เห็นจะมีเหลือกินเหลือใช้ก็คือต้นไม้

ด้านหน้ามีทหารที่กำลังตรวจสอบทุกคนที่เข้าและออก ไนเรลเดินเข้าไปโดยไม่ได้ปิดบังสถานะของตนเองที่เป็นมนุษย์ชั้นสูง นั้นจึงสร้างความแตกตื่นให้กับมนุษย์ธรรมดาคนอื่น ๆ และในหมู่มนุษย์ชั้นสูงเองก็เช่นกัน เพราะระดับของไนเรลนั้นสูงมาก

ทหารที่เห็นก็รีบเข้ามาทักทายไนเรลทันที

“สวัสดีครับ ผมสิบตรีมากาส ยินดีที่ได้พบคุณ” ท่าทีของทหารคนนี้นั้นแตกต่างไปจากปกติมาก ดูเหมือนจะประจบไนเรลหน่อย ๆ

แต่ไนเรลก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะตอนนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ผ่านมาพอสมควร พลังของเหล่ามนุษย์ชั้นสูงน่าจะแสดงให้คนของทั้งรัฐบาลและกองทัพเห็นแล้วดังนั้นท่าทีของทหารที่แสดงออกแบบนี้ก็ไม่ผิดจากที่คาดไว้มากนัก

“เข้าไปด้านในต้องทำอย่างไร” ไนเรลถามออกไปตรง ๆ ถึงเขาจะเป็นมนุษย์ชั้นสูงแต่ก็ไม่ได้อยากจะแหกกฎอะไรกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้โดยไม่จำเป็น

“เรื่องนั้นไม่จำเป็นทางเรายินดีต้อนรับมนุษย์ชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่ต้องเสียค่าผ่านทาง แต่คนธรรมดานั้นต้องเสีย 150 เหรียญไทกีล่าหรือ 10 G” ทหารคนนั้นกล่าวออกมาพร้อมกับมองไปทางเซลี่

ไนเรลที่ได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม ๆ ออกมาจากนั้นก็หยิบการ์ดเก็บเงินออกมาและโอนเงิน G ให้กับทหารพวกนั้น

เมื่อทหารคนนั้นเห็นการ์ดเก็บเงินสีดำด้านหน้ามีรูปเพชรสีสันสวยงาม ทหารคนนั้นก็ต้องตกใจดูเหมือนชายคนนี้จะเป็นคนสำคัญของสมาพันธ์นักล่า

ทหารคนนั้นรับการ์ดเก็บเงินระดับเพชรของไนเรลมาจากนั้นเงินจำนวน 10 G ก็ถูกโอนออกไป ทหารคนนั้นส่งการ์ดคืนกับไนเรล

แต่ขณะที่ไนเรลรับการ์ดคืนมาเขาก็ถามออกมา “ฉันขอพบหัวหน้าที่ควบคุมที่นี่ได้หรือไม่”

ทหารคนนั้นลังเลเล็กน้อย แต่ก็ตอบตกลงไปจากนั้นก็หันไปสั่งการพลทหารด้านหลังและพาไนเรลเดินเข้าไปด้านใน

ภายในเมืองแลกเปลี่ยนนั้นไม่ใหญ่มากนัก แต่มันกับเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ซึ่งทั้งหมดนั้นแทบจะเป็นนักล่า มันมีดาบเงาตั้งแต่ระดับ 2-3 วางขายอยู่รวมทั้งเนื้อและอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

ข้างทางยังคงมีอาหารหลากหลายที่ปรุงขึ้นมาจากเนื้อสัตว์กลายพันธุ์และผลไม้ต่าง ๆ ที่นี่ทุกคนดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากพอสมควร แต่ก็ไม่แปลกเพราะการที่พวกเขาเข้ามาอยู่ลึกในสถานที่นี้ได้นั้นต้องไม่มีใครอ่อนแออย่างแน่นอน

ตอนนี้ดูเหมือนว่าเงิน G ของสมาพันธ์นักล่าจะกระจายไปตามกลุ่มต่าง ๆ และโดยเฉพาะนักล่า เพราะตอนนี้ตลอดทางเดินไนเรลเห็นนักล่าทั้งคนธรรมดาและมนุษย์ชั้นสูงเลือกใช้เงิน G เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนจำนวนมาก

ไนเรลมาที่นี่โดยมีจุดมุ่งหมายเพียงอย่างเดียวนั้นก็คือติดต่อกลับไปที่สมาพันธ์นักล่าเพื่อแจ้งข่าวของเขา แต่เพราะที่นี่นั้นไกลเกินกว่าที่สัญญาณจะมาถึง ดังนั้นไนเรลคิดจะยืมเครื่องติดต่อของพวกทหารในการติดต่อและส่งข้อมูลบางอย่างไปที่สมาพันธ์นักล่า จากนั้นก็จะเดินทางกลับไปที่เมืองย่อยสักเมืองแล้วก็กลับไปที่สมาพันธ์นักล่าเมื่อไปถึงบางที่ข้อมูลเหล่านั้นคงจะจัดการวิเคราะห์เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ทหารผู้นั้นเดินพาไนเรลมาหยุดอยู่ที่หน้าที่พักชั่วคราวมันมีลักษณะเป็นเหมือนกับบ้านชั้นเดียว ทหารหนุ่มเดินเข้าไปพูดกับทหารที่เฝ้ายามอยู่สองสามประโยค ไนเรลรออยู่สักพักทหารที่เฝ้ายามก็ให้เขาเข้าไปด้านใน

ระหว่างที่ไนเรลเดินผ่านเข้าไปทหารทั้งสองที่เฝ้าประยูมองเขาด้วยสายตาเคารพ ไนเรลที่เห็นดังนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย แต่เมื่อเขาคิดดูก็เข้าใจว่าพวกนั้นเคารพในพลังที่เขามี

ไนเรลตามมาด้านในที่พักกชั่วคราวต้องบอกว่ามันต่างจากที่เขาคิดไว้พอสมควร ด้านในมีเครื่องมือมากมาย พร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ทำงานกันอย่างวุ่นวาย

“คุณไนเรลรออยู่ตรงนี้สักครู่นะครับ เดียวผมจะเข้าไปตามผู้พันมาก่อน” ทหารคนนั้นกล่าวเสร็จก็รีบออกไปรายงานผู้พันที่เขาพูดถึงทันที

ทิ้งให้ไนเรลยืนอยู่ด้านในแบบงง แต่ไนเรลก็ไม่ได้คิดมากอะไร เขามองพวกเจ้าหน้าที่ ดูเหมือนว่าพวเขากำลังส่งเอกสารตัวอย่างที่วิเคราะห์แล้วส่งกลับไปที่ฐานกองกำลังที่เมืองย่อยอยู่ที่อยู่ใกล้ที่สุด

อันที่จริงแล้วแถวนี้ก็มีค่ายลี้ภัยที่รัฐบาลเคยใช้อยู่แต่มันพังทลายไปแล้ว มันคือค่ายลี้ภัย 78 หรือก็คือถ้ำที่ไนเรลเคยใช้ตอนนั้นเอง

.....

รออยู่สักพักทหารคนนั้นก็เดินกลับมาพร้อมกับทหารหญิงผู้หนึ่ง จากนั้นทหารคนนั้นก็ทำความเคารพเขาและกลับไปทำหน้าที่ที่ประตูทางเข้าเมืองแลกเปลี่ยน ปล่อยให้ทหารหญิงพาเขาไปพบกับผู้พันที่เคยพูดถึง

“ท่านผู้พัน คนที่ต้องการพบท่านมาแล้วค่ะ” ทหารสาวคนนั้นรายงานออกไป

“ขอบคุณมาก เธอไปพักเถอะ” ผู้พันสั่งออกมาทหารหญิงคนนั้นก็ถอยกลับออกไป แต่สายตาของผู้พันนั้นแทบจะไม่ละออกจากไนเรล มันเต็มไปด้วยความตะลึงและคาดไม่ถึง

“ฉันฝากดูแลเด็กคนนี้หน่อยนะ” ก่อนที่หญิงสาวจะเดินออกไป ไนเรลก็บอกกับทหารหญิงผู้นั้น เธอดูลังเลเล็กน้อย แต่พอผู้พันธุ์พยักหน้าให้เธอ ทหารหญิงคนนั้นก็พาเซลี่ออกไป

ไนเรลเดินมาหยุดอยู่หน้าผู้พันจากนั้นก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม

“สวัสดี ฉันคือไนเรล อาโรเดีย นายคงเคยได้ยินชื่อมาบ้างสินะ” ไนเรลถามผู้พันคนนั้นโดยตรง เพราะดูท่าทีแล้วผู้พันคนนี้จะรู้จักเขา

“ผมพันตรีเจ การ์เเลน เรียกแค่พลตรีเจเฉย ๆ ก็ได้ ผมพอจะได้ยินเรื่องของคุณมาพอสมควร ว่ากันว่าคุณหายตัวไปสักพักแล้ว ทำไมอยู่ ๆ คุณถึงมาปรากฏตัวที่ทางใต้ได้” พันตรีเจกล่าวด้วยท่าทีที่จริงจัง แต่นังคงแฝงไว้ด้วยความหวาดหวั่นเล็กน้อย

“คุณลองเดาสิ...” ไนเรลกล่าวออกมาแบบยิ้ม ๆ เขาไม่มีทางบอกคนของกองทัพแน่ ๆ ถึงเรื่องที่เขาไปที่โลกใต้พิภพของยักษ์เถื่อน

“เฮ้อ...ช่างมันเถอะ เราเข้าเรื่องกันดีกว่าคุณมาที่นี่ต้องการอะไร” ผู้พันเจเลือกที่จะไม่เรื่องที่ไนเรลมาอยู่ ๆ นี่ได้อย่างไรอีก เขาถามเข้าตรงประเด็นทันที

ไนเรลยิ้มออกมา จากนั้นก็บอกออกไปตรง ๆ เช่นกัน “ฉันแค่ต้องการจะยืมเครื่องมือตืดต่อสื่อสารติดต่อกับทางสมาพันธ์นักล่าเท่านั้น”

“ไม่ได้!” พันตรีเจพูดปฏิเสธอย่างรวดเร็วโดยเทจะไม่ต้องคิดเลย

“ใจเย็นก่อนฉันไม่ได้จะยืมฟรีหรอกนะ” ไนเรลวางมือไปบนโต๊ะ พอเขาดึงมือกับก็มีแก่นพลังงานหนึ่งชิ้นปรากฏขั้น

“มันคือ...แก่นพลังงาน” พันตรีเจหยิบแก่นพลังงานขึ้นมาเขาสงสัยว่ามันคือระดับอะไร

และไนเรลก็ไม่รอใช้เขาเดาก็กล่าว “มันคือแก่นพลังงานระดับ 4 ถือเป็นค่าตอบแทนเรื่องที่ยืมใช้เครื่องมือก็แล้วกัน”

พันตรีเจวางแก่นพลังงานลงและสายหัว ไนเรลที่เห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วและรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย

เมื่อพันตรีเจเห็นท่าทีของไนเรลและบรรยากาศรอบ ๆ ที่เริ่มร้อนขึ้นจนน่าอึดอัดมาจากตัวของไนเรลเขาก็รีบพูดออกมาทันที “ใจเย็นก่อนคุณไนเรล ผมไม่ได้ต้องการแก่นพลังงาน อันที่จริงแล้วสามารถให้คุณยืมเครื่องมือได้ เพียงแต่...”

“แต่อะไร?”

“เพียงแต่อย่างจะให้คุณช่วยเรื่องหนึ่งเท่านั้น แล้วทางเราจะให้คุณยืมเครื่องสื่อสารของเราตามแต่จะใช้เลย” พันตรีเจกล่าว

“ให้ช่วย ลองอธิบายมาหน่อย” ไนเรลเคราะนิ้วไปที่โต๊ะเพื่อรอฝังเรื่องที่พันตรีเจจะเล่า

“คือผมต้องการให้คุณช่วยถล่มรังของซอมบี้ฝูงหนึ่ง มันมีซอมบี้สติปัญญาระดับ 4 เป็นผู้นำและมีซอมบี้สติปัญญาอีก 5-6 ตัวที่อยู่ในฝูงด้วย จากการคำนวณคราว ๆ มีซอมบี้ตั้งแต่ระดับ 2-4 ประมาน 100 ตัวและซอมบี้ธรรมดาอีกหมื่นตัว..............ผมอยากยืมพลังของคุณเพื่อใช้ในภารกิจนี้” พันตรีเจบอกเล่าเรื่องของซอมบี้อย่างละเอียดจนหมด

“ความหมายของนายก็คือต้องการให้ฉันร่วมกับหน่วยของนายเข้าไปเอาตัวอย่างซอมบี้นางพญามาและถ้าเป็นไปได้ก็ให้ฆ่าซอมบี้สติปัญญาสินะ” ไนเรลถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ใช่ แต่อันที่จริงไม่ได้มีแค่คุณ แต่ยังมีมนุษย์ชั้นสูงคนอื่น ๆ อีก เพราะตอนนี้ซอมบี้ฝูงนี้มันออกฆ่าสิ่งมีชีวิตทั้งหมดอย่างหิวกระหาย เพื่อนำอาหารที่ล่าได้ให้ซอมบี้นางพญา ถ้ายังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปทางตอนใต้ของไทกีล่าจะต้องกลายเป็นของซอมบี้ทั้งหมดแน่จากจำนวนที่เพิ่มขึ้น คุณจะตกลงช่วยพวกเราหรือไม่อย่างน้อยก็เพื่อมนุษย์ก็ยังดี” พันตรีเจมองไปที่ไนเรลอย่างรอค่อย

ไนเรลคิดอยู่เงียบ ๆ สักพัก

“ตกลง” แต่แล้วไนเรลก็ตอบตกลงไป อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจเรื่องทางตอนใต้จะโดนซอมบี้ยึดครอง แต่ที่เขาสนคือซอมบี้สติปัญญาทั้ง 7 ตัวโดยเฉพาะตัวระดับ 4 นั้น ไนเรลอยากจะกลืนกินมัน เพื่อพัฒนาความสามารถ [คำบัญชาเผ่าพันธุ์ E] เพราะตอนนี้ระดับของไนเรลนั้นสูงถึงระดับ 5 ขั้นต้นแล้ว แต่ความสามารถนี้ซึ่งมันจำเป็นอย่างมากมันกับตามไม่ทันดังนั้นไนเรลคิดว่าในเมื่อมีโอกาสในการล่าซอมบี้สติปัญญาแล้วเขาก็ควรจะคว้ามันไว้

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด