ตอนที่แล้วEp.709 - เชิญพวกเขาขึ้นมา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.711 - ปราบปราามกองกำลังมืด

Ep.710 - สัญญาเป็นโมฆะ


5/5

Ep.710 - สัญญาเป็นโมฆะ

“ยอดเยี่ยม!”

ไป๋หลียังคงเค้นสอบถาม ใช้เวลาไม่ถึงอึดใจ อีกฝ่ายก็รับสารภาพโดยไม่คิดขัดขืนอีก

“ใช่ ฉันถูกส่งมาจากตระกูลเซิ่งแห่งเมืองหลวงมังกร!”

“แล้วคุณมาที่นี่เพื่ออะไร?”

“มาเพื่อ … เพื่อทรายธารเวลา!”

เป็นแบบนั้นจริงๆ!

มุมปากของฉินเฟิงยกยิ้มเย็นชา เขารู้อยู่แล้ว ว่าต้องมีคนคิดไม่ดีต่อเขา แค่ไม่นึกว่ากลุ่มแรกที่เคลื่อนไหว จะเป็นตระกูลเซิ่ง!

ฉินเฟิงอดใช้สมองขบคิดไม่ได้ ว่าสำหรับเรื่องนี้ เขาต้องจัดการแก้ปัญหาอย่างไรดี

ฆ่าไปเลยดีไหม? หรือแสร้งทำเป็นไม่รู้ จะได้ไม่ต้องฉีกหน้าอีกฝ่าย

หรือไม่ก็ …

ในใจของฉินเฟิง เริ่มสรุปถึงความเป็นไปได้ต่างๆ

หากเป็นเมื่อก่อน ฉินเฟิงคงหลีกเลี่ยงปัญหานี้ แต่ปัจจุบัน มันไม่จำเป็นอีกแล้ว

เพราะด้วยความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบัน บวกกับไป๋หลี แค่นี้ก็ไม่ต้องหวาดกลัวผู้ใช้พลังเลเวล A ในเมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมถึงต้องยอมหลีกเลี่ยงอีก?

และบางที มันอาจถึงเวลาแล้ว ที่จะทำให้พวกเขาตระหนักถึงการดำรงอยู่ของตนเอง

สองปีที่ยอมหลบอยู่ในมุมมืด แม้ก้าวสู่แสงสว่างก็ได้แต่ก้าวในจุดที่คลุมเครือ ฉะนั้นวันนี้มิใช่สมควรเป็นวันแห่งการประกาศศักดาหรอกหรือ?

ฉินเฟิงโทรติดต่อเซิ่งเหลียนผ่านอุปกรณ์สื่อสารโดยตรง เป็นเพราะฉินเฟิงได้บุกเข้าไปในดินแดนล่มสลายของเผ่าวิญญาณ ได้รับมาซึ่งเทคโนโลยี หลังจากเซ็นสัญญากับตระกูลเซิ่ง เขาก็ได้รับหมายเลขนี้มา

เวลานี้เซิ่งเหลียนยังไม่หลับเป็นธรรมดา คุณค่าของทรายธารเวลา เขาย่อมรู้ ดังนั้นแม้ชีวิตจะผ่านพ้นคลื่นลมและคลื่นฝนมานับไม่ถ้วน แต่ ณ จุดๆนี้เขาอดกระวนกระวาย  อยู่เฉยไม่ได้จริงๆ

แต่ในระหว่างนั้นเอง จู่ๆเสียงของอุปกรณ์สื่อสารพลันดังขึ้น นี่ทำให้หัวใจเขาเต้นแรง เร่งยกข้อมือดูทันใด

อย่างไรก็ตาม หมายเลขที่ปรากฏบนอุปกรณ์สื่อสาร มันทำให้หัวใจของเซิ่งเหลียนเต้นไม่เป็นจังหวะ

เพราะคนที่โทรมา คือฉินเฟิง!

ทันใดนั้น บรรยากาศกลายเป็นเงียบงัน เซิ่งเหลียนบังเกิดความลังเล เขาไม่ทราบว่าควรรับสายนี้ดีหรือไม่

ตรงกันข้าม อีกฝ่ายคล้ายไม่มีความอดทนเช่นเขา สายแรกไม่รับ สายต่อไปก็โทรจี้ตามมาติดๆ

สุดท้ายไม่มีทางเลือก เซิ่งเหลียนกัดฟันและกดตอบรับการเชื่อมต่อ

ใบหน้าอ่อนเยาว์ของฉินเฟิงปรากฏขึ้นในอากาศที่ว่างเปล่า

“สวัสดีครับท่านประมุขตระกูลเซิ่ง” ฉินเฟิงเอ่ยเสียงหม่น

“นี่คุณ … อา! สวัสดีๆ” การทักทายที่ดูเป็นมารยาทเช่นนี้ ทำให้ความคิดในใจของเซิ่งเหลียนแปรเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว --เป็นไปได้ไหมว่าฉินเฟิงจะไม่ทราบแผนการของตน? ถ้างั้นแล้วการติดต่อในครั้งนี้ มันเพื่ออะไรกัน?

แน่ล่ะ โชคแบบฟลุ๊คๆ มันไม่มีอยู่จริง

ฉินเฟิงเปิดปากอีกครั้ง น้ำเสียงเย็นเยียบ ไร้ซึ่งร่องรอยของห้วงอารมณ์ใด คล้ายกับว่าเป็นการแจ้งมาเพื่อให้ทราบเท่านั้น

“ประมุขเซิ่งควรจะรู้จักคนๆนี้ใช่หรือไม่?” บนอุปกรณ์สื่อสารฝั่งฉินเฟิง ขยับกล้องไปทางร่างของเซิ่งหัว จากนั้นขยับไปยังอีกคนที่ถูกตัดจนไม่อาจมองเห็นเค้าเดิม

เสียงของฉินเฟิงที่กำลังถามคำถามนี้ เสมือนปีศาจจากขุมนรก

“อา ต้องขออภัยจริงๆ เพราะอีกคนหนึ่งผมไม่มีเวลาเค้นถาม เขาดันตกตายอย่างน่าอนาถซะก่อน แต่คุณน่าจะรู้จักดี เพราะยังไงซะพวกเขาคือคนที่คุณส่งมา!”

เซิ่งเหลียนลอบคร่ำครวญในใจ แต่ตนอยู่ในตำแหน่งสูงเป็นเวลานาน ฉะนั้นไม่มีทางถูกคำพูดยั่วยุเอาได้ง่ายๆ

“ฉินเฟิง คุณหมายความว่ายังไงกัน? นี่คุณกำลังตั้งคำถามกับฉัน? หรือว่าตั้งใจจะเรียกค่าไถ่กันแน่? ถ้ามันไม่มากเกินไป ฉันยังพอยอมได้!”

เซิ่งหัวเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเซิ่ง ส่วนอีกคนเป็นแขกอาวุโสที่เชิญมา ไม่ใช่คนของตระกูล ดังนั้น เซิ่งเหลียนยังพอระงับความโกรธได้ในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อฉินเฟิงได้ยินคำพูดของเซิ่งเหลียน ก็อดหัวเราะอย่างดูแคลนออกมาไม่ได้

“เหอ เหอ ประมุขตระกูลเซิ่งช่างกล้าหาญจริงๆ ในเมื่อคุณยอมรับแล้ว ฉะนั้นฝั่งผมเองก็ไม่คิดตีพุ่มไม้ล่องูอีก --ประมุขเซิ่งกล้าละเมิดสัญญาอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ งั้นจากนี้ไป สัญญาระหว่างเราถือเป็นอันโมฆะ เทคโนโลยีที่พวกเราร่วมมือกัน จะถูกเผยแพร่สู่เครือข่ายนักสู้ สำหรับเซิ่งหัว เห็นแก่ประโยชน์ของพันธมิตรมนุษย์ ผมจะยอมปล่อยเขาไป!”

ว่าจบ ฉินเฟิงก็ตัดสายสื่อสารทันที

เซิ่งเหลียนตะลึงแข็งค้าง เขาไม่คาดคิดว่าฉินเฟิงจะตอบสนองเช่นนี้ แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของฉินเฟิง เซิ่งเหลียนต้องตกใจ

เมื่อหกเดือนที่ผ่านมา ฉินเฟิงเซ็นสัญญากับตระกูลต่างๆในเมืองหลวงมังกร และมีกฏถูกร่างเอาไว้เช่นนั้นจริงๆ ไม่มีใครสามารถรุกรานฉินเฟิงได้ มิฉะนั้นจะถูกฉีกสัญญา แล้วเผยแพร่ความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์ออกไป

ต้องรู้นะว่า เทคโนโลยีที่ฉินเฟิงร่วมมือกับทางตระกูลเซิ่งเป็นของดีมาก ในช่วงหกเดือนมานี้ ตระกูลเซิ่งลงทุนลงแรงไปมากมายเพื่อศึกษาค้นคว้า หากมันถูกเผยแพร่ออกไป เงินที่ใช้ในการวิจัยและจัดซื้อวัสดุ ไม่เท่ากับไหลลงท่อน้ำทิ้งไปหรือ?

“ไอ้สารเลวฉินเฟิง!” ใบหน้าของเซิ่งเหลียนแทบกลายเป็นบิดเบี้ยว เขาคิดว่าฉินเฟิงจะใช้เซิ่งหัวขู่ตน แต่ไม่นึกฝันเลย ว่าฉินเฟิงจะใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้

เซิ่งเหลียนก้าววนไปเวียนมา คล้ายกำลังทบทวนว่าจะคืนดีกับฉินเฟิงดีหรือไม่ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองตงไห่ ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก จนตัดสินใจแตกหักกับฉินเฟิง!

“กวนประสาทนัก อย่าลืมสิว่าฉันเป็นเลเวล A แล้วแบบนี้ทำไมยังต้องเกรงกลัวเขา?”

สีหน้าของเซิ่งเหลียนหม่นหมอง

แต่ทางฝั่งฉินเฟิง เขาลงมือเร็วกว่าที่เซิ่งเหลียนจินตนาการเอาไว้มาก

ไม่ถึงสิบนาที ข้อมูลก็ถูกกระจายไปในเครือข่ายนักสู้ สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้พลังได้เป็นจำนวนมาก

【ข้อมูลงานวิจัยร่วมของพันธมิตรหัวเซี่ย】

【กลุ่มเฟิงหลีมีเจตนารมณ์ให้ความร่วมมือกับตระกูลเซิ่ง】

【แต่นี่คือวิดีโออันน่าเหลือเชื่อ เป็นพยานหลักฐานที่บ่งบอกชัดว่าทางตระกูลเซิ่งละเมิดสัญญา】

【ดังนั้นข้อตกลงเป็นอันโมฆะ ผลงานวิจัยที่ร่วมมือกับทั้งหมดจึงถูกเผยแพร่สู่เครือข่ายนักสู้ 】

【ระบบเริ่มการปลดปล่อยข้อมูลให้ดาวน์โหลดได้อย่างอิสระ】

【สามารถดาวน์โหลดผลงานวิจัยได้ที่นี่】

แม้คำประกาศจะร่างขึ้นอย่างฉุกละหุก แต่เนื้อหาดาวน์โหลดที่อยู่เบื้องหลัง เรียกความสนใจของผู้คนและกองกำลังมากมาย

ทุกคนแทบกลายเป็นบ้า!

ไม่คาดฝันเลย ว่าจะมีคนกล้าเผยแพร่ข้อมูลระดับสูงเช่นนี้จริงๆ

ในเวลานี้ ผู้คนในเมืองหลวงมังกร ทั้งหมดต่างตกใจ

สำหรับผู้ใช้พลังเลเวล A พวกเขามักเก็บตัวอยู่ตามลำพัง หากไม่ถึงคราวจำเป็น จะไม่ยอมมารวมตัวกันง่ายๆ แต่คนหนุ่มสาวในตระกูล หรือพวกพ่อบ้าน เพื่อผลประโยชน์ของตระกูลแล้ว มักเข้าร่วมงานสังสรรค์อยู่บ่อยครั้ง

ในตอนนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน คนเหล่านี้จึงถือโอกาสในงานเลี้ยงฉลอง เข้าล้อมวงสนทนา

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ๆฉินเฟิงถึงประกาศเผยแพร่เทคโนโลยีที่ร่วมมือกับตระกูลเซิ่ง?”

“นายยังไม่ได้เห็นวิดีโอนั่นหรือ?”

“แต่ไม่ใช่ว่าตอนนั้นฉินเฟิงบอกว่า ข้อมูลจะถูกเปิดเผยออกมาหลังเขาตายเท่านั้น …”

“เจ้าโง่ ถ้าฉินเฟิงตาย ข้อมูลก็ถูกเผยแพร่ทั้งหมดสิ ไม่ใช่แค่ของตระกูลเดียว ในตอนเซ็นสัญญา ได้มีข้อตกลงเผื่อเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นข้อตกลงทั้งรุกและถอย ตระกูลเซิ่งได้ส่งเลเวล B เข้าไปก่อเรื่องชั่วร้าย แล้วแบบนี้ฉินเฟิงจะทนได้อย่างไร? นี่มันผิดสัญญาแล้ว!”

“ตระกูลเซิ่งไปทำอะไรกันแน่?”

“ฉันได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ฉินเฟิงเพิ่งกลับมาจากทะเลเมืองตงไห่!”

“และดูเหมือนว่านี่จะเป็นเพราะ … ฉินเฟิงครอบครองทรายธารเวลา!”

วินาทีนี้ สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยนไป

แผ่นดินของหัวเซี่ยมีความอุดมสมบูรณ์ แม้ในยุคสมัยแห่งโลกาวินาศ บ่อยครั้งที่รอยแยกมิติมิใช่วิกฤต หากแต่เป็นโอกาส และคนที่ได้รับโอกาส ย่อมสามารถทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า

ในตอนนี้ ผู้คนที่ได้รับโอกาสครั้งล่าสุด ทั้งหมดต่างเก็บตัว นี่ยังถือเป็นการยืนยันทางอ้อม ถึงสมบัติที่พวกเขาได้รับ

ส่วนฉินเฟิงเป็นเลเวล B เพียงคนเดียวที่รอดชีวิต เป็นธรรมดาที่จะกลายเป็นจุดสนใจของผู้คน

และการปฏิบัติของฉินเฟิงในครั้งนี้ ทำให้หลายคนอดที่จะระมัดระวังตัวไม่ได้

“ตระกูลเซิ่งคงตกเป็นไก่ที่ถูกเชือดให้ลิงดู”

ชายคนหนึ่งทอดถอนหายใจด้วยอารมณ์ คนอื่นๆต่างแสดงออกว่าเห็นด้วย

เมื่อตระกูลเซิ่งได้รับบทเรียนเช่นนี้ เชื่อเถอะว่าตระกูลอื่นย่อมไม่กล้าทำอะไรผลีผลามอีก

“แต่แบบนั้นมันจะคุ้มหรอ? ฉินเฟิงทำให้เซิ่งเหลียนโกรธ แบบนั้นจะฆ่าแกงกันเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องอันตรายต่อฉินเฟิงเช่นกัน”

“ยังไงก็เถอะ … ได้ยินมาว่าฉินเฟิงเองก็สามารถยกระดับขึ้นสู่เลเวล B ได้แล้ว!”

ช่วงเวลานี้ ทุกคนต่างเริ่มตื่นตัว บังเกิดห้วงอารมณ์อันหลากหลายในดวงตาของพวกเขา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด