ตอนที่แล้วEp.704 - เทคนิคฝึกฝนเลเวล S
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.706 - แต่งตั้งนายพล

Ep.705 - คัดเลือกนายพล


5/5

Ep.705 - คัดเลือกนายพล

แม้ไม่มีเทคนิคฝึกยุทธใดเหมาะสมกับเขาก็ตาม แต่ฉินเฟิงยังคงทำตามคำพูด มอบทรายธารเวลาแก่ซางฮัน

จากนั้น ทั้งสองก็กลับมายังสำนักงาน

“ในเมื่อพวกเราต่างอยู่พร้อมหน้า งั้นก็ทำการเชื่อมต่อกับโลกแห่งจิตสำนึกที่นี่ซะเลย ฉันจะได้ช่วยแก้ปัญหาทั้งหมดในคราวเดียว!”

เวลาของซางฮันมีค่ามาก แต่การพาฉินเฟิงไปเลือกวรยุทธโบราณเลเวล S ก็สำคัญเช่นกัน มิฉะนั้นเธอคงให้คนอื่นรับหน้าที่พาฉินเฟิงไปแทนแล้ว

จากนี้ สิ่งที่ต้องทำแน่นอนว่าเป็นการยื่นเรื่องขอตำแหน่งนายพลแก่ฉินเฟิง

ทุกคนหยิบอุปกรณ์เชื่อมต่อจิตสำนึกออกมา มุ่งหน้าเข้าสู่โลกแห่งจิตสำนึกของพันธมิตรมนุษย์

ภายในโลกแห่งจิตสำนึก สี่ตัวอักษรจีนใจความว่า ‘พันธมิตรหัวเซี่ย’ ถูกสลักไว้บนอาคารสูง

ฉินเฟิงยืนอยู่บนถนน และได้รับข้อความแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว

【ผู้ใช้พลังเลเวล B ฉินเฟิง ถูกเสนอชื่อให้เข้ารับการคัดเลือกนายพลเลเวล B แห่งพันธมิตรมนุษย์ , ผู้เสนอชื่อจ้าวพรมแดนภูมิภาคเหนือซางฮัน … ต้องการรับข้อเสนอหรือไม่! 】

ฉินเฟิงแน่นอนย่อมเลือกยอมรับ

ณ เวลานี้ ภายในโลกแห่งจิตสำนึก เลเวล B คนอื่นๆล้วนได้รับข้อความ เชื้อเชิญพวกเขาให้เข้าร่วมชม!

วิสัยทัศน์ของฉินเฟิงเปลี่ยนแปลงไป ช่วงเวลานี้ภาพเบื้องหน้าเขากลายเป็นโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศเคร่งขรึม ฉินเฟิงยืนอยู่ตรงกลาง และมีอัฒจันทร์ที่นั่งคนดูล้อมรอบสี่ทิศ ดูยิ่งใหญ่และอลังการ

เริ่มจากทางซ้าย เป็นซางฮันที่กำลังนั่งอยู่ และอีกสามตำแหน่ง ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ใช้พลังเลเวล A !

เหล่าเลเวล A ทั้งสี่คนนี้ ล้วนมาจากภูมิภาคเหนือ

ไม่ว่าจะเป็นผู้การรัฐฮั่นชวน นามฮั่นโหมว

อดีตผู้การรัฐซิงหมัง และยังเป็นถึงอาวุโสในภูมิภาคเหนือประจำพันธมิตรหัวเซี่ย นามหยางหลง

สุดท้ายนายพลประจำภูมิภาคเหนือเหลียวผิงอัน

เดิมซางฮันคิดขอให้ฮั่นโหมวไม่ก็เหลียวผิงอันเป็นผู้เสนอชื่อฉินเฟิง แต่ผลคือหลังจากฉินเฟิงกลับมา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทั้งหนานกงชิและตงหยางต่างอาสายื่นข้อเสนอให้ฉินเฟิงขึ้นเป็นนายพลด้วยตนเอง หากไม่ใช่เพราะฉินเฟิงปฏิเสธแล้วล่ะก็ เกรงว่าฉินเฟิงคงหลุดจากมือเธอไปแล้ว

บางที ข้อเสนอนี้ อาจเป็นช่องทางให้พวกเขาแสดงความปรารถนาดี ดังนั้นซางฮันไม่สามารถน้อยหน้าได้

“สุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การตรวจสอบเลื่อนยศที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น ขอบคุณทุกท่านที่ยอมสละเวลาว่างจากตารางงานแสนยุ่งวุ่นวาย จากนี้ ฉันจะแจกจ่ายข้อมูลของฉินเฟิง เพื่อให้ทุกท่านทำการตรวจสอบ”

จากนั้น ซางฮันก็แจกจ่ายข้อมูลของฉินเฟิง ในโปรไฟล์ มันได้เขียนถึงบันทึกการต่อสู้อันยอดเยี่ยมอย่างยากจะหาผู้ใดเปรียบของฉินเฟิง

ภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่เพียงสามารถรับภารกิจกำลังเสริมถึงสองครั้ง ทว่าในแต่ละครั้ง เขาล้วนสร้างผลงานโดดเด่นเหนือกว่าจินตนาการของผู้คน

มีเลเวล B แค่ 20 คนที่ถูกให้มาช่วยตรวจสอบ แต่ละคนมีคะแนนโหวต 2 เสียง รวมทั้งสิ้น 40 เสียง

บนที่นั่งฮั่นโหมวและเลเวล A คนอื่นๆ หนึ่งคนมี 20 คะแนนเสียง

นั่นหมายความว่า ตราบใดที่ได้รับการสนับสนุนจากเลเวล A ทั้งสามคน ตำแหน่งนายพลย่อมไม่หลุดจากมือฉินเฟิง

ฮั่นโหมวอ่านข้อมูลข้างต้น บังเกิดความประหลาดใจขึ้นในดวงตาเขา แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว

“ฉินเฟิง? ฟังดูเหมือนเป็นชื่อของผู้ชนะอันดับหนึ่งในงานประลองลูกรักของพระเจ้าที่เมืองหลวงมังกรครั้งก่อนเลย คนที่เป็นตัวแทนของภูมิภาคเหนือคนนั้นน่ะ”ฮั่นโหมวเอ่ยถาม

ซางฮันพยักหน้า “ใช่! เป็นเขา”

เมื่อถึงจุดนี้ ฮั่นโหมวย่อมนึกถึงลูกชายของตัวเองเป็นอับดันแรก อายุก็ใกล้เคียงกัน แต่อีกฝ่ายสามารถมาได้ไกลถึงขนาดนี้เชียวหรือ?

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนลูกชายของเขากลับมา ปากบ่นไม่หยุด ว่าน่าจะเป็นตนที่ได้รับอันดับหนึ่งประจำภูมิภาคเหนือ!

คาดไม่ถึงเลยว่า คนที่ลูกชายบ่น เจ้าหนูชื่อฉินเฟิง จะประสบความสำเร็จถึงขนาดนี้!

สามารถก้าวขึ้นสู่เลเวล B !

อาศัยระยะเวลาแค่ครึ่งปี อีกฝ่ายปีนป่ายไปถึงเลเวล B ได้แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่นึกฝันมาก่อนจริงๆ

“อืม เขาน่าประทับใจมาก แต่สุดท้ายอายุยังน้อย มันจะดีกว่าไหมหากปล่อยให้เขาไปสั่งสมประสบการณ์มากกว่านี้ ตอนนี้ข้อมูลในปัจจุบัน ฉินเฟิงอายุแค่ 18 ปี? อายุเท่านี้ มันไม่เด็กเกินไปหน่อยหรอ? ตำแหน่งนายพลมีความสำคัญมาก ถ้ามีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น ฉันกลัวว่าทหารทั้งกองทัพของเขาจะถูกกวาดล้าง สูญเสียไพร่พลไม่ใช่เรื่องตลก นี่ไม่ได้เป็นแค่เกม!”

ซางฮันตะลึง เธอไม่คิดเลยว่าจู่ๆฮั่นโหมวจะเอ่ยเช่นนี้ออกมา

ฮั่นโหมวคือผู้การรัฐฮั่นชวน แม้ทั้งสองต่างเป็นเลเวล A แต่ซางฮันคือจ้าวพรมแดน ขณะที่ฮั่นโหมวเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาเธอ แต่ตอนนี้กลับปฏิเสธข้อเสนอของเธอต่อหน้าผู้คนอย่างกะทันหัน

ส่งผลให้สีหน้าของซางฮันเปลี่ยนเป็นน่าเกลียด

“อายุกับความสามารถส่วนบุคคล ไม่ถือว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกัน!” ซางฮันกล่าวเสียงหม่น

ฮั่นโหมวไม่ตอบคำใด แต่แสดงท่าทีชัดว่าฉินเฟิงไม่มีคุณสมบัติ หรือบางที อาจเพราะเขาไม่ต้องการให้ฉินเฟิงก้าวหน้าไปมากกว่านี้

“นี่คือความคิดส่วนตัวของฉัน ฉินเฟิงอายุแค่ 18 ปีก็จริง แต่อนาคตของเขาไร้ขีดจำกัด โปรดเปิดโอกาสให้บ้างเถอะ แบบนี้มันจะได้ยุติธรรมกับคนอื่นๆ”

“ที่คุณพูดว่ายุติธรรมกับคนอื่นๆมันหมายความว่ายังไง? ถ้าฉินเฟิงได้เป็นนายพล แบบนั้นต่างหากไม่ยุติธรรมกับคนอื่นๆในกองทัพเขา”

“สรุปง่ายๆเลยว่าเขายังเด็ก รออีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร!”

ไม่คิดเลยว่าจู่ๆซางฮันกับฮั่นโหมวจะทะเลาะกัน

เลเวล A อีกสองคนได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความตกใจ ชัดเจนว่าไม่นึกว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เมื่อเห็นทัศนคติที่ฮั่นโหมวแสดงออกมา ทำให้แม้ผ่านไปพักหนึ่งแล้ว แต่พวกเขาก็ยังลังเล

บางครั้ง การทำให้สุภาพชนรู้สึกขุ่นเคือง ก็ยังดีกว่าไปขัดใจคนร้าย

ความหมายก็คือ หากพวกเขาสนับสนุนซางฮันในครั้งนี้ บางทีฮั่นโหมวอาจถึงขั้นตัดเยื่อใย นั่นจะทำให้พวกเขาลำบากใจ

ขณะเดียวกัน หากเลือกสนับสนุนฮั่นโหมว แม้ซางฮันจะไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ในฐานะสุภาพชนอย่างเธอ ย่อมไม่มีทางปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างเลวร้าย หรือจงใจแก้แค้นอย่างแน่นอน

ดังนั้นในกรณีนี้ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะให้การสนับสนุนฮั่นโหมว แบบนี้จึงเหมาะกับพวกตนมากกว่า

ซางฮันเมื่อเห็นอีกสองคนลังเล ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เรื่องที่จากเดิมไม่น่ามีโอกาสผิดพลาด จู่ๆกลับกลายเป็นพลิกผันจริงหรือ? แบบนั้นมันใช่ที่ไหนกัน? แต่ไม่รอให้เธอได้เอ่ยปาก ฉินเฟิงที่ยืนอยู่กลางฝูงชน ก็พูดขึ้นมาเสียก่อน

“ในเมื่อพูดแบบนั้น งั้นทำไมผู้การฮั่นที่รั้งตำแหน่งมาหลายปีแล้ว ถึงไม่ยอมสละตำแหน่ง แล้วมอบโอกาสให้ผู้ใช้พลังเลเวล A คนอื่นบ้างเล่า? งานของผู้การรัฐคืออะไร? ไม่ใช่ก้าวสู่สนามรบแล้วออกไปเข่นฆ่าศัตรูหรอกหรือ!”

ณ วินาทีนี้ สายตาของฮั่นโหมวเบนออก ตกลงบนร่างของฉินเฟิง เขาจ้องมองอีกฝ่าย มุมปากยกยิ้มเย็นชา

“ฉันเป็นคนสร้างรัฐฮั่นชวนขึ้นมาด้วยมือตัวเอง กรรีนี้จะเทียบกับคนอื่นๆได้อย่างไร!”

ดวงตาของฉินเฟิงเย็นลงเช่นกัน ปากกล่าวว่า “บันทึกการต่อสู้ในข้อมูล นั่นถือเป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผมแล้ว ทำไมผมถึงไม่มีคุณสมบัติเป็นนายพลอีก? ผมสังหารสัตว์ร้ายไปกี่ตัว? ผมช่วยชีวิตคนไปตั้งเท่าไหร่? ผลงานคุณสามารถเทียบกันได้หรือ?”

สีหน้าของฮั่นโหมวเปลี่ยนเป็นดำเมี่ยมทันที

“ฉินเฟิง นี่แกคิดหาเรื่องฉัน?”

“เห~ ผมคงไม่กล้าทำถึงขนาดนั้นหรอก ก็แค่เป็นการแสดงความกระจ่างจากข้อเท็จจริงก็เท่านั้นเอง ว่าอย่างไร สนใจลองนำความสำเร็จทางทหารของคุณ มาเปรียบเทียบกับผมไหม ว่าใครฆ่าได้มากกว่ากัน”

ฮั่นโหมวกัดฟันกรอด แต่เขามิได้เอ่ยคำใดออกมา

เพราะความบ้าคลั่งของฉินเฟิง ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นๆสามารถเทียบเปรียบได้ โดยเฉพาะการกำจัดเขมือบฟ้าซึ่งเป็นจักรพรรดิเลเวล A อาศัยแค่บันทึกการต่อสู้ครั้งนั้น ก็มากพอที่จะสยบความบันทึกความการต่อสู้นับไม่ถ้วน

ยิ่งไปกว่านั้น ฮั่นโหมวผู้ก่อตั้งรัฐฮั่นชวนเพียงลำพัง เป็นคนที่แทบไม่ได้ออกนอกอาณาเขตตนเองเลย

อีกทั้งหลังกลับมาเกิดใหม่ ฉินเฟิงยังรู้ความลับอีกเพียบ!

ความลับที่ว่าก็เช่น เพื่อยกระดับขึ้นสู่เลเวล A ฮั่นโหมวถึงขั้นทำการคุมขังปรมาจารย์ด้านตัวยาที่มีชื่อเสียง บังคนให้เขาพัฒนาเม็ดยาขนานแรงเพื่อพัฒนาตนขึ้นสู่สถานะเลเวล A แต่ว่ายาตัวนี้ มีผลข้างเคียงที่ค่อนข้างรุนแรง

ส่งผลให้กำลังภายในของฮั่นโหมว น้อยกว่าคนอื่นๆถึงครึ่งหนึ่ง

ด้วยเหตุนี้ หากพูดถึงเรื่องการต่อสู้ ฮั่นโหมวถือว่าเสียเปรียบคนอื่นๆเป็นอย่างมาก เพราะเหตุนี้เอง เขาจึงปฏิเสธที่จะเลื่อนขั้นเป็นอาวุโสหรือนายพลมาโดยตลอด ป้องกันไม่ให้ตนถูกจัดส่งไปเป็นกำลังเสริมแก่สนามรบแห่งอื่น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด