ตอนที่แล้วEp.702 - สามฝ่ายดึงตัว
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.704 - เทคนิคฝึกฝนเลเวล S

Ep.703 - กลับสู่เป่ยหัว


3/5

Ep.703 - กลับสู่เป่ยหัว

“ว่าไงนะ? เขาน่ะหรอฉินเฟิง!”

ในช่วงเวลาสั้นๆ ชื่อเสียงของฉินเฟิงได้ติดปีกพุ่งทะลุเพดานเป็นที่เรียบร้อย

ไม่ว่าจะเป็นสังหารเขมือบฟ้า , ปกป้องท่าเรือจากสึนามิ , สังหารกองทัพสัตว์ทะเล ไหนจะออกเดินทางไปยังทะเลนรกพร้อมจ้าวพรมแดนตงหยาง และกลับมาอย่างปลอดภัย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหน ก็คุ้มค่าแก่การพูดคุย และเรื่องราวเหล่านี้คงอยู่ในวงสนทนาไปอย่างน้อยเดือนถึงสองเดือน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากผู้คนล่วงรู้ถึงผลสมบัติที่เกิดจากการปะทุของรอยแยกมิติในครั้งนี้

ชื่อของทรายธารเวลาได้รับการยืนยันจากพันธมิตรหัวเซี่ย นอกจากนี้ยังใช้งานได้เป็นอย่างดี ดังนั้น วัตถุที่ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพในการยกระดับเช่นนี้ ย่อมก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาลพวกคนจากตระกูลใหญ่

และในข่าวที่คนอื่นๆได้รับ ฉินเฟิงเองก็เข้าร่วมการต่อสู้นี้เช่นกัน แม้ไม่มีการระบุว่าเขาได้รับทรายธารเวลามาหรือไม่ก็ตาม แต่เกรงว่าจะได้รับวัตถุดิบและสมบัติฟ้าดินมาครอบครองไม่น้อย!

ในพริบตา ดวงตาของฝูงชนที่มองไปยังฉินเฟิง ทั้งหมดต่างกระพริบไหว แสดงออกคล้ายกำลังคิดอ่านในใจว่า : จะวิเศษแค่ไหนหากสมบัติที่ว่าอยู่ในกำมือของพวกเขา

ท่าทีของฝูงชนแสดงออกชัดถึงความอิจฉา!

ฉินเฟิงเพิกเฉยต่อสายตาของคนเหล่านั้น ตรงไปยังตึกรักษาการณ์ ขอยุติภารกิจกำลังเสริม

แม้ว่าฉินเฟิงจะไม่ได้เข้าปฏิบัติภารกิจกำลังเสริมในช่วง 20 วันที่ผ่านมา แต่ฝ่ายตงหยางยืนยันความจริงที่ว่าฉินเฟิงยังคงอยู่ในเขตเมืองตงไห่ ดังนั้นไม่ถือว่าละเลยหน้าที่ของเขา

ไม่ต้องกล่าวถึงช่วงเวลาเกิดสึนามิ ฉินเฟิงมีบทบาทสำคัญยิ่ง ใช้อบิลิตี้มืดสังหารสังหารสัตว์ร้ายนับไม่ถ้วน และที่เกิดขึ้นทั้งหมดล้วนมีหลักฐานบันทึกอยู่ในวิดีโอ

บวกกับรางวัลสองเท่าที่ตงหยางกล่าวไว้ ทำให้เขาได้รับเงินมากยิ่งกว่าเดิม

แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เงินที่ว่ายังไม่อาจเทียบเปรียบได้กับการสังหารเขมือบฟ้า และสมุนไพรวิญญาณที่ฉินเฟิงเก็บรวบรวมมาได้จากภูเขาศักดิ์สิทธิ์

อย่างไรก็ตาม เวลานี้ฉินเฟิงไม่สนใจเงินจำนวนนี้อีกต่อไป

อาศัยความแข็งแกร่งที่เพิ่มพูนขึ้น ประสิทธิภาพในการรบของฉินเฟิงในปัจจุบัน มันได้ก้าวข้ามจุดสูงสุดในชีวิตก่อนของเขาแล้ว กระทั่งศักยภาพและอำนาจยังมหาศาล อนาคตไร้ขีดจำกัด

【ภารกิจกำลังเสริมได้ยุติลงแล้ว!】

ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!

หลังส่งข้อความออกไป ซางฮันยกอุปกรณ์สื่อสารขึ้นโทรหาเขาทันที

“ฉินเฟิง ในที่สุดคุณก็กลับมา”

“ครับ จ้าวพรมแดนซาง ผมทำภารกิจกำลังเสริมเรียบร้อยแล้ว แต่ยังเหลือบางอย่างที่ต้องจัดการในทะเลตะวันออก ขอเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงเดี๋ยวผมจะกลับไป ไม่จำเป็นต้องให้คนมาส่งตัวเชื่อมมิติแก่ผม เพราะผมพอมีติดไม้ติดมืออยู่บ้าง”

ซางฮันพอได้ฟัง เธอจะไม่เข้าใจความหมายของฉินเฟิงได้อย่างไร? ในหัวใจเธอบังเกิดทั้งความสุขและความยินดี

“ตกลงตามนั้น ฉินเฟิง ฉันจะรอให้คุณหวนคืนที่เป่ยหัว”

“ครับ แล้วเจอกันในอีกหนึ่งชั่วโมง”

ฉินเฟิงวางสายสื่อสาร จากนั้นทยอยโทรหาโกวก๋วน , หยูหยางเต๋า และคนอื่นๆ

แน่นอน หากไม่นับคนเก่า หยูหยางเต๋าได้สร้างทีมใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นผู้ใช้พลังเลเวล C คนเหล่านี้ล้วนมีพื้นเพจากเมืองตงไห่ ในอนาคตจะได้เป็นบุคลากรประจำที่นี่

กลุ่มเฟิงหลีจะจัดหาเทคโนโลยีและอุปกรณ์ให้แก่พวกเขา คนทั้งหมดมีหน้าที่ทำงานแก่ฉินเฟิง

“นับจากนี้ไป สถานที่แห่งนี้ขอฝากไว้ในมือคุณ โกวก๋วนจะถอนตัวเช่นกัน หยูหยางเต๋า หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง!” ฉินเฟิงกล่าวอย่างช้าๆ

โกวก๋วนคือชายชราผู้ติดตามฉินเฟิง เขามาที่นี่เพื่อจัดตั้งสาขา มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีค่อนข้างสูง แม้พลังจะอยู่ในระดับค่อนข้างอ่อนแอ แต่ยังถือว่าเป็นคนสนิทของฉินเฟิง เดิมหยูหยางเต๋าคิดว่าอย่างน้อยฉินเฟิงน่าจะทิ้งโกวก๋วนไว้เป็นหัวหน้าเพื่อตรวจสอบงานและยอดเงินเสียอีก

แต่ไม่คาดคิดเลย ว่าฉินเฟิงจะไว้ใจมอบหมายความรับผิดชอบทั้งหมดนี้แก่ตนเพียงผู้เดียว

ทว่าเมื่อสายตาของเขาหันไปมองฉินเฟิง หยูหยางเต๋ารู้สึกเย็นเยียบในหัวใจอีกครั้ง

ความแข็งแกร่งของฉินเฟิง ช่างน่าประหลาดที่มันยกระดังขึ้นอีกแล้ว

จากภารกิจกำลังเสริมระยะเวลาสั้นๆไม่ถึงเดือนครึ่ง ความแข็งแกร่งของฉินเฟิงยกระดับถึงสี่ขั้น!

นี่ถือเป็นอะไรที่น่าหวาดกลัวมาก หากเขาทรยศอีกฝ่าย หยูหยางเต๋ามั่นใจมากๆว่าตนคงตายอย่างน่าสยดสยอง!

และเกรงว่าต้องพบจุดจบแย่กว่าเลเวล C ลูกน้องเก่าที่เคยหักหลังหยูหยางเต๋าอย่างแน่นอน!

“ท่านประธานโปรดวางใจ ฉันจะดูแลที่นี่ให้เอง!”

“ดีมาก ถ้ามีอันตรายอะไร สามารถติดต่อผมได้ตลอดเวลา และผมหวังว่าช่วงที่เกิดอันตราย คุณจะโชคดี ไม่ไปโผล่ในที่ลับตาคนหรือสัญญาณสื่อสารส่งไปไม่ถึง!”

“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว!”

ฉินเฟิงอธิบายบางสิ่งเพิ่มเติมอีกเล็กๆน้อยๆ และเวลาหนึ่งชั่วโมงของเขาก็หมดลง

“ถ้างั้นผมขอตัว”

ฉินเฟิงกล่าวอำลาหยูหยางเต๋า ก่อนหันมาพยักหน้าให้ไป๋หลี

ไป๋หลีเปิดช่องว่างมิติต่อหน้าหยูหยางเต๋า

และทั้งสองก็หายวับไปทั้งๆอย่างนั้น ช่วงเวลานี้ หยูหยางเต๋าถึงค่อยเข้าใจ ถึงความหมายของคำพูดเมื่อครู่ของฉินเฟิง

ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก เขาก็ตะหงิดๆว่าเด็กสาวข้างๆให้ความรู้สึกแปลกๆ ที่แท้เธอก็ครอบครองความสามารถอันน่าหวาดกลัวอย่างกะทันหัน

หรือพูดอีกอย่างนึงก็คือ หากหยูหยางเต๋าทรยศฉินเฟิงจริงๆ เกรงว่าต่อให้เขาหนีไปสุดขอบโลก คงมิแคล้วถูกความสามารถของเด็กสาวตามล่า และสังหารลงอยู่ดีใช่หรือไม่?

ณ เมืองเป่ยหัว นับตั้งแต่ที่ฉินเฟิงแวะเวียนครั้งก่อน เวลาก็ผ่านมาได้ครึ่งปีแล้ว

อย่างไรก็ตาม ที่นี่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ฉินเฟิงมาถึงสำนักงานของซางฮัน  พนักงานเมื่อเห็นเขาก็เร่งผุดลุกขึ้น ตรงเข้ามาต้อนรับอย่างอบอุ่น

“รองเทศมนตรีฉิน โปรดเชิญทางนี้ จ้าวพรมแดนกำลังรอคุณอยู่”

ฉินเฟิงมีสถานะเป็นรองเทศมนตรีกิตติมศักดิ์ของเมืองเป่ยหัว แม้ฉินเฟิงจะไม่โผล่หัวนานกว่าครึ่งปี แต่สำหรับผู้ใช้พลังที่ทำงานในสำนักงาน ทั้งหมดล้วนเคยต้อนรับคนระดับสูง เมื่อพบกับเด็กชายที่อายุยังน้อยแต่กลับทรงพลังถึงเพียงนี้ เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะให้การต้อนรับอย่างดี

“อืม! คุณไม่จำเป็นต้องนำ ผมพอจะรู้ทางอยู่แล้ว”

ฉินเฟิงส่ายมือให้แก่พนักงานหญิง และพาไป๋หลีขึ้นลิฟต์

พวกเขาเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่ง ฉะนั้นจดจำทางเดินได้

ไม่นาน ฉินเฟิงกับซางฮันก็ได้พบกันอีกครั้ง

“คุณยกระดับมาถึงเลเวล B แล้วจริงๆ! แถมยังดูแกร่งยิ่งกว่าเลเวล B ทั่วๆไปซะอีก”

ซางฮันกล่าวด้วยอารมณ์ที่แปลกไปเล็กน้อย เพราะเธอบังเกิดความคิดขึ้นมาว่า บางทีอีกไม่กี่ปีจากนี้ ฉินเฟิงอาจแซงเธอ

“ต้องขอบคุณสวรรค์ที่ปล่อยโชคหล่นทับ ให้ผมสามารถทำกำไรก้อนใหญ่จนยกระดับเป็นเลเวล B1 ได้!”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ …” ซางฮันพยักหน้า จากนั้นก็ไม่คิดอ้อมค้อมอีก กล่าวตามตรงว่า “ด้วยความแข็งแกร่งและคุณสมบัติของคุณ คุณสามารถสมัครรับตำแหน่งนายพลได้แล้ว นั่นคือเหตุผลที่ฉันเรียกตัวคุณมาในครั้งนี้ จากนี้พวกเราจะไปยังโลกแห่งจิตสำนึกของพันธมิตรมนุษย์!”

“เข้าใจแล้ว”

“แล้วก็อีกอย่าง …” สีหน้าของซางฮันแสดงออกถึงความลังเลเล็กน้อย แต่ยังคงเอ่ยปากกับเขา “คุณเฟิง คุณมีทรายธารเวลาอยู่ในมือบ้างไหม?”

อันที่จริง นี่คือจุดประสงค์หลักที่ซางฮันเรียกตัวฉินเฟิงมาในครั้งนี้

หนานกงชิกับตงหยางล้วนได้รับผลประโยชน์ แต่เก๋อหลางเสียชีวิต ส่วนซางฮัน เนื่องจากอยู่ไกลจึงไม่ได้ส่งใครไป และเหตุการณ์นี้ยังนำไปสู่การพลาดโอกาสครั้งสำคัญ

หากเป็นแค่ของธรรมดา ซางฮันจะไม่สนใจ แต่บังเอิญเจ้าสิ่งนี้ มันไม่ธรรมดาเนี่ยสิ

ทรายธารเวลา สามารถเปลี่ยนแปลงดินให้กลายเป็นภูเขาจิตวิญญาณได้ มันสามารถสร้างสถานชุมชนเล็กๆที่แสนธรรมดา ให้กลายเป็นเมืองหลวงมังกรแห่งที่สอง

ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมซางฮันถึงยอมเอ่ยปาก

“อ่า ผมพอมีอยู่บ้าง!”

ซางฮันเมื่อได้ยินฉินเฟิงตอบ ดวงตาของเธอเปล่งประกายสว่างไสว จากนั้นตัดสินใจกล่าวว่า “ฉันรู้ว่าคำขอนี้อาจทำให้คุณลำบากใจ แต่กระนั้น ฉันหวังว่าคุณจะแบ่งทรายธารเวลาให้กับฉัน แลกกับ … แลกกับหุ้นของเมืองเป่ยหัวเป็นการแลกเปลี่ยน!”

เมื่อถึงจุดนี้ ฉินเฟิงเบิ่งตามองซางฮันด้วยความประหลาดใจ

เพราะซางฮันเต็มใจกรีดเลือดจ่ายมัน

สำหรับหุ้นของเมืองเป่ยหัว ถือเป็นเรื่องยากมากที่จะได้มาครอบครองหรือใช้แลกเปลี่ยน

ไม่ต้องกล่าวถึงอำนาจการควบคุมของเป่ยหัว ที่แม้เขาจะได้ส่วนแบ่งมาแค่เล็กๆ แต่เมืองๆนี้หยั่งรากลึกมานาน เสมือนดั่งสมบัติล้ำค่า ไม่สามารถใช้สิ่งใดเทียบเปรียบได้โดยง่าย

ฉินเฟิงรู้สึกใจระส่ำเล็กน้อย

“ไม่ทราบว่าจ้าวพรมแดนซางต้องการเท่าไหร่?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด