ตอนที่แล้วEp.701 - ผู้ชนะในตอนท้าย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.703 - กลับสู่เป่ยหัว

Ep.702 - สามฝ่ายดึงตัว


2/5

Ep.702 - สามฝ่ายดึงตัว

ฉินเฟิงใช้เวลาอีกกว่าสิบวันเพื่อเก็บรวบรวมทรายธารเวลาจากพรายทารกครวญ จากนั้นก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง ปัจจุบันเหลือเพียงร้อยกรงเล็บ แต่เขายังต้องระมัดระวังตัวให้ดี

สิ่งที่ทำให้ฉินเฟิงทั้งรู้สึกสงสัยและขอบคุณก็คือ ช่วงระหว่างการเก็บกู้ทรายธารเวลาจากทั้งสองจักรพรรดิ ร้อยกรงเล็บไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับเขา

อันที่จริง หากพรายทารกครวญไม่เลือกหลบหนีไป ฉินเฟิงคงไม่มีทางเก็บรวบรวมทรายธารเวลาได้มากขนาดนี้

สำหรับร้อยกรงเล็บ ฉินเฟิงไม่สามารถโค่นมันได้จริงๆ โชคยังดีที่ร้อยกรงเล็บไม่สามารถขยับได้ในตอนนี้ มิฉะนั้น กระทั่งเวลาคิดข้างต้นนี้คงยังไม่มี

แต่พูดก็พูดเถอะ แค่สามารถชิงทรายธารเวลามาจากจักรพรรดิทั้งสองตัวได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว!

เรือรบลำยักษ์นามเขมือบฟ้า เริ่มออกเดินทาง กลับสู่เมืองตงไห่

ส่วนใต้ทะเลลึก ในที่สุดร้อยกรงเล็บก็สามารถดูดซับทรายธารเวลาของตนได้อย่างปลอดภัย เกรงว่าในระยะเวลาอีกไม่เกิน 2 - 3 ปี ร้อยกรงเล็บย่อมกลายพันธุ์เป็นสัตว์ร้ายที่น่าหวาดกลัว แต่ก็นั่นแหละ เรื่องนี้ฉินเฟิงไม่สามารถหยุดมันได้

“ไม่รู้ว่าตอนนี้ในเมืองตงไห่จะเป็นยังไงบ้าง”

ตั้งแต่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พังทลาย ปัจจุบันผ่านมาอีก 20 กว่าวัน เรียกว่าจวนจะครบเดือนแล้ว ฉินเฟิงได้กลายเป็นบุคคลหายสาบสูญอีกครั้ง แต่เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มเฟิงหลีวิตกกังวล ฉินเฟิงมักจะโยนของบางอย่างเข้าไปในสุสานเทพสงครามทุกวัน สิ่งนี้ได้กลายเป็นวิธีสื่อสารระหว่างฉินเฟิงกับผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มเฟิงหลีในกรณีที่ไม่สามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารได้ไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่อาจไม่ยกขึ้นมาพูดได้เลยก็คือ กำลังรบจากพื้นที่ใกล้เคียงทะเลจีนตะวันออก ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

ผู้ใช้พลังระดับสูงมากมายได้จบชีวิตลง

อย่างน้อยที่ฉินเฟิงทราบในตอนนี้ ทางฝั่งพันธมิตรหัวเซี่ยเองก็มีเลเวล A เสียชีวิต!

“เก๋อหลาง … ไม่น่าแปลกใจเลยว่าในชีวิตก่อนฉันถึงไม่เคยเห็นเขา แต่ไม่มั่นใจเหมือนกัน ว่าที่จริงแล้วเขาตายเพราะเหตุการณ์นี้รึเปล่า”

ฉินเฟิงเคยพบเก๋อหลางในเมืองหลวงมังกร แต่ไม่มีความประทับใจใดๆกับบุคคลนี้ ทั้งยังเดาได้ว่ายามตนแข็งแกร่งขึ้น อีกฝ่ายคงหายไปแล้ว

และปัจจุบัน มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ

หากไม่นับเก๋อหลาง ทางหัวเซี่ยเองก็มีผู้เสียชีวิตรายอื่นเช่นกัน กระทั่งฝั่งพันธมิตรตะวันตก , ญี่ปุ่น , ฟิลิปปินส์ เองก็มีคนตายค่อนข้างมาก

และในจำนวนผู้เสียชีวิต มีเลเวล B อยู่เป็นจำนวนมาก

สำหรับพันธมิตรหัวเซี่ย นี่ถือเป็นเรื่องร้ายแรงครั้งใหญ่

แน่นอน มีข้อเสียย่อมมีข้อดี การปรากฏขึ้นของทรายธารเวลา จะทำให้อนาคตของพันธมิตรหัวเซี่ย ถือกำเนิดตัวตนทรงอำนาจเลเวล S และนอกจากนี้ยังสามารถถือกำเนิดเลเวล B กับ A คนใหม่ได้อีกด้วย

อาชีพผู้ใช้พลังมันก็อันตรายเช่นนี้แล พวกเขาสามารถตายได้ทุกเมื่อ

ทว่าตราบใดที่พวกเขาได้รับโอกาส ย่อมสามารถติดปีกทะยานสู่ฟากฟ้า!

ระหว่างกำลังขบคิดเกี่ยวกับมัน เขมือบฟ้าก็ค่อยๆเริ่มใกล้เข้ามายังทิศทางของเมืองตงไห่ และมาถึงจุดที่สามารถรับสัญญาณได้แล้ว

【ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด】

ข้อความจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับเด้งแจ้งเตือนขึ้นมา ฉินเฟิงเปิดดู และพบว่ามันส่งมาจากซางฮัน , ตงหยาง และหนานกงชิตามลำดับ

【ฉินเฟิง สถานการณ์ฝั่งคุณเป็นอย่างไรบ้าง】

【คุณสามารถหนีออกมาได้ไหม?】

【ฉินเฟิง ฉันได้รู้จากกลุ่มของคุณแล้วว่าคุณยังปลอดภัย หลังได้รับข้อความนี้ ขอให้ส่งภารกิจกำลังเสริม แล้วติดต่อฉันทันที ฉันจะส่งคนไปมอบตัวเชื่อมมิติให้แก่คุณ ฉันมีเรื่องบางอย่าง แต่ขอคุยกันที่เมืองเป่ยหัว】

【จำไว้ให้ดี ! ถ้าได้รับข้อความแล้วขอให้ติดต่อฉันเป็นคนแรก】

ทั้งหมดนี้เป็นข้อความจากซางฮัน ฉินเฟิงขบคิดเล็กน้อย แล้วไม่นานเขาก็ทราบว่าเหตุผลคืออะไร!

ฉินเฟิงไม่ได้โทรหาซางฮันในทันที เขาเลือกอ่านข้อความของหนานกงชิกับตงหยางแทน

หลังจักรพรรดิสัตว์ร้ายทั้งสามปรากฏตัวขึ้น ผู้คนก็หลบหนีกระจัดกระจาย หนานกงชิกับตงหยางไม่พบร่องรอยของฉินเฟิง พวกเขาวิตกกังวลมาก เกรงว่าฉินเฟิงจะพลาดพลั้งตกตาย จึงติดต่อหาบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพราะคิดว่าฉินเฟิงน่าจะกลับไปยังเมืองตงไห่แล้ว

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงติดต่อกับคนกลุ่มเฟิงหลี และสิ่งที่โชคดีก็คือ ทางกลุ่มสามารถติดต่อกับฉินเฟิงผ่านสุสานเทพสงคราม เมื่อทราบว่าอีกฝ่ายยังมีชีวิตอยู่ก็ทำได้แค่อดทนรอ

ตงหยางส่งข้อความขอฉินเฟิงมากมาย แต่ฉินเฟิงเลือกอ่านบรรทัดล่างสุดแทน

【ฉินเฟิง ถ้าคุณกลับมา อย่าลืมแจ้งฉัน! ครั้งนี้โชคดีที่มีคุณอยู่ด้วย อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ฉันต้องการเตรียมจัดการเลี้ยงฉลองให้แก่คุณ ครั้งนี้ฉันได้รับสมบัติมากมายจากในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ และส่วนใหญ่ได้มาเพราะคุณ ดังนั้นฉันต้องการตอบแทนน้ำใจ!】

【ย้ำ กลับมาแล้วอย่าลืมแจ้งฉัน!】

ในทางกลับกัน หนานกงชิตรงไปตรงมากว่ามาก

【ฉินเฟิง ด้วยผลงานที่คุณแสดงในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ฉันว่าคุณน่าจะพร้อมสมัครตำแหน่งนายพลแล้ว ไม่ทราบว่าคุณสนใจเรื่องนี้ไหม? ถ้าได้เป็นนายพล โปรดเลือกมาประจำการที่ดินแดนทางใต้ของเรา!】

เลเวล A ทั้งสามคน แสดงออกบ้างลับๆล่อๆบ้างเปิดเผย แต่ทั้งหมดกำลังแย่งชิงสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของฉินเฟิง!

“เมื่อขึ้นเป็นเลเวล B จะสามารถยื่นเรื่องขอรับตำแหน่งนายพลได้!”

อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งนายพลของพันธมิตรมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รับ มันจำเป็นต้องได้รับการเสนอชื่อจากสามเลเวล A และทำการสุ่มบุคลากรเพื่อตรวจสอบความประวัติ ก่อนจะได้รับมันมา

แน่นอน สำหรับฉินเฟิงในปัจจุบัน แม้เขาจะปฏิเสธหนานกงชิ , ตงหยาง หรือซางฮันก็ตาม แต่เขาก็ยังมีบุคคลอื่นให้การยอมรับ นอกจากนี้ฉินเฟิงยังมีวิธีให้สามารถผ่านการตรวจสอบ

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ในแต่ละรัฐ ไม่ได้มีเลเวล A แค่คนเดียว!

ฉินเฟิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้สักพัก สุดท้ายเลือกส่งข้อความหาหนานกงชิเป็นคนแรก ปฏิเสธอีกฝ่ายไปอย่างสุภาพ จากนั้นก็โทรหาตงหยาง

อีกฝ่ายรับสายอย่างรวดเร็ว น้ำเสียงฟังดูค่อนข้างตื่นเต้น

“ฉินเฟิง คุณกลับมาแล้วหรือ? ได้รับบาดเจ็บรึเปล่า?”

“ขอบคุณจ้าวพรมแดนตงที่เป็นห่วง ผมสบายดี!”

“ยอด ยอดไปเลย ได้ยินแบบนั้นก็ดี!”

“จ้าวพรมแดนตง ที่ผมโทรมา ผมเกรงว่าคงต้องปฏิเสธการต้อนรับอันอบอุ่นของคุณ เพราะผมยังมีบางอย่างที่ต้องกลับไปทำในเมืองเฟิงหลี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำในครั้งนี้ ทั้งหมดก็เพราะภารกิจกำลังเสริม!”

นี่นับเป็นครั้งที่สองแล้ว ที่ฉินเฟิงปฏิเสธตงหยาง

ปลายสาย รอยยิ้มของตงหยางค่อยๆจางหายไป หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง ก็อดทอดถอนหายใจไม่ได้

“ฉินเฟิง คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันกำลังหมายถึงอะไร”

“ครับ ผมทราบ”

“ถ้าอย่างนั้นทำไมกันล่ะ? เป็นเพราะกลุ่มของคุณหรือ? ถ้าแค่เรื่องนั้นคุณสามารถย้ายกลุ่มคุณมาตั้งรกรากที่ทะเลตะวันออกได้นะ ที่นี่เหมาะสมกับคุณมากกว่า!”

ฉินเฟิงตอบอย่างใจเย็น “จ้าวพรมแดนตง ผมไม่ใช่ผู้ใช้อบิลิตี้น้ำ หากอยู่ในทะเล สุดท้ายความแข็งแกร่งของผมจะถดถอยลง”

กำลังรบที่แข็งแกร่งที่สุดของฉินเฟิงในตอนนี้คือวรยุทธโบราณ หากเขารั้งอยู่ในทะเลตะวันออก มันจะส่งผลตรงกันข้ามให้ความแข็งแกร่งของเขาถดถอย

หากไม่ใช่เพราะการปรากฏของทรายธารเวลา ฉินเฟิงคงไม่มีความคิดมาที่นี่!

“แต่คุณมีเขมือบฟ้า!” ตงหยางแสดงออกชัดว่าไม่เห็นด้วยกับคำพูดของฉินเฟิง

“อาศัยความช่วยเหลือจากกำลังรบภายนอก ผมคงไม่สามารถไปได้ไกลกว่านี้ เขมือบฟ้าของผมจะยังคงรั้งอยู่ในทะเลตะวันออก ภายใต้การควบคุมโดยผู้ใต้บังคับบัญชาของผม --หยูหยางเต๋า เขาจะช่วยทะเลตะวันออกขจัดสัตว์ร้าย สำหรับประเด็นนี้ จ้าวพรมแดนตงไม่ต้องกังวลไป”

ตงหยางพอฟัง ในหัวใจบังเกิดความคับข้อง แต่เขาทราบดี ว่านี่ถือเป็นโคตรน้ำใจของฉินเฟิงแล้ว

เพียงแต่ตงหยางยังไม่รู้ ว่าเขมือบฟ้าที่ตนคิดว่าสำคัญหนักหนา ในสายตาของฉินเฟิง มันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น ดังนั้นไม่มีความตั้งใจจะนำมันกลับไป

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันคงไม่สามารถดื้อด้านรั้งคุณไว้อีก ส่วนภารกิจกำลังเสริม ฉันจะมอบรางวัลให้เป็นสองเท่า!”

“ขอบพระคุณจ้าวพรมแดนตง!”

ณ จุดนี้ ฉินเฟิงไม่คิดเกรงอกเกรงใจ!

จนกระทั่งทั้งสองสนทนาจบลง เขมือบฟ้าภายใต้การควบคุมของฉินเฟิงก็เข้าเทียบท่าเรือ กลุ่มเลเวล B ชุดใหม่ที่เข้ามาประจำการ เมื่อเห็นสัตว์ร้ายขนาดยักษ์ดูน่าหวาดกลัว ทั้งหมดต่างตกใจ

“นี่มันอะไรกัน? เป็นสัตว์ร้ายหรือ? ทำไมถึงไม่มีสัญญาณเตือนภัย!”

“ไม่ใช่! นั่นเขมือบฟ้า หมายความว่าเขายังไม่ตายจริงๆ!”

“ใครกันยังไม่ตาย? แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้าสิ่งนั้น?”

“ใครน่ะหรือ … ? ก็จะเป็นใครไปซะอีก--”

“--ถ้าไม่ใช่ฉินเฟิง!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด