ตอนที่ 282 อย่าล้ำเส้น
เธอรู้สึกแย่อีกครั้ง เมื่อคิดว่าเขาแต่งงาน
“20 ปีแล้วเหรอ?”
เหมาเยซื่อพยักหน้าเงียบ ๆ แต่เว้นระหว่างห่าง
“ถ้าอย่างนั้น เธอน่าจะรู้จักฉันดีพอที่จะรู้ว่าที่จริงแล้ว แม้แต่เพื่อนสนิทของฉัน หรือครอบครัวของฉัน ก็ไม่สามารถล้ำเส้นได้”
การแสดงออกของเซินโย่วเปลี่ยนไปทันที
เธอกะพริบตาอย่างไม่คาดคิด
“อาซื่อ...”
เหมาเยซื่อตัดบทเธออย่างไม่พอใจ
“ฉันไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรกับเมียนเมียน เขาไม่ได้บอกอะไรฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ฉันหวังว่าเธอจะไม่สร้างปัญหา หากช่วงระยะเวลาแห่งมิตรภาพของเรายังคงมีความสำคัญ เธอก็ควรจะรักษามันไว้”
“เขาคือคนที่ฉันห่วงใย ฉันไม่คาดหวังว่าเธอจะปฏิบัติต่อเธอแบบที่ฉันทำ แต่อย่างน้อยที่สุดฉันหวังว่าเธอจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีเพราะเห็นแก่ฉัน”
“ถ้าเธอทำไม่ได้ จะเป็นการดีที่สุด ถ้าเราไม่ต้องเจอกันบ่อยนัก”
เซินโย่วกำหมัดแน่น ฝังเล็บลงบนฝ่ามือของเธอ
“งั้น...เธอคือคนสำคัญที่สุดของคุณงั้นสินะ”
เหมาเยซื่อไม่ได้ปฏิเสธมันและเขาก็ไม่ตอบสนองเธอโดยตรง
“เซินโย่ว อย่าได้แตะต้องคนสำคัญของฉัน ฉันไม่ต้องการใช้วิธีที่ไร้ความปรานีในการจัดการกับเพื่อนของฉันหรอกนะ”
เขาเน้นคำว่า “เพื่อน”
“ฉันหวังว่าเราจะยังคงเป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิตเหมือนที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้”
เหมาเยซื่อขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะที่เขานึกถึงสิ่งที่เฉียวเมียนเมียนเพิ่งพูด เขาพยายามที่จะรับมือกับประเด็นดังกล่าวอย่างมีชั้นเชิง
เซินโย่วเป็นเด็กผู้หญิงที่ฉลาดมาก
ถ้าเธอสนใจเขาอย่างนั้นจริง ๆ เธอควรจะได้รับข้อความเป็นนัย
“เป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิตงั้นเหรอ?” เซินโย่วพูดซ้ำคำพูดนี้ขณะที่ใบหน้าของเธอซีดลงเรื่อย ๆ
เหมาเยซื่อมองเธอด้วยสายตาที่ชัดเจนของเขา
“ใช่ เป็นเพื่อนกันไปตลอดชีวิต”
“อาซื่อ คุณ...” ริมฝีปากของเซินโย่ว สั่นสะท้านราวกับว่าเธอสูญเสียการควบคุมอารมณ์และกำลังจะเปิดเผยความลับที่เธอเก็บไว้มานานหลายปี
แต่เหมาเยซื่อไม่ได้ให้โอกาสเธอทำเช่นนั้น
ก่อนที่เธอจะพูดออกไป เขาก็ชิงพูดว่า
“ฉันยังมีเรื่องที่ต้องทำ เธอออกไปก่อนได้แล้ว”
เซินโย่วกัดริมฝีปากของเธอ ความเย็นชาบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาราวกับจะทิ่มแทงหัวใจของเธอ หน้าที่ซีดของเธอเปลี่ยนไป เมื่อน้ำตาเริ่มคลอเป้า
เธอหันไปทันทีที่น้ำตาหยดแรกไหลลงแก้มของเธอ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องรักษาศักดิ์ศรีของตนเอง
“เอาล่ะ ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว”
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงหันกลับมาและจากไป
...........
หลังจากชำระสิ่งนี้ เหมาเยซื่อก็ไม่รู้ดีขึ้นเลย
ในความเป็นจริง เขารู้สึกรำคาญเหมือนเดิม
ราวกับว่ามีธุระที่ยังทำไม่เสร็จ ความขัดแย้งบางอย่างที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขซึ่งกำลังกัดกินเขา
เขาปลดกระดุมเสื้อด้วยความหงุดหงิด
ความคิดเกี่ยวกับดวงที่แดงและบวมของเฉียวเมียนเมียน ทำให้เขาไม่ได้พอใจจริง ๆ
เขาสงสัยว่าเอยังคงร้องไห้อยู่หรือเปล่า
เธอยังอยู่ในช่วงเวลาของตัวเองและไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป จะเป็นไรไหม ถ้าท้องของเธอเริ่มเจ็บอีกครั้ง เพราะอารมณ์แปรปรวนกะทันหัน?
เขาใช้คำพูดรุนแรงเกินไป ไหนจะคำพูดทิ้งท้ายก่อนออกมาอีก
เขาไม่เคยพูดอะไรที่รุนแรงกับเธอเลยตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งงานกัน
เธอจะทนได้หรือเปล่า?
ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความเจ็บปวด เมื่อภาพใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอพร้อมกับร่างที่โค้งงอของเธอฉายผ่านความคิดของเขา