ตอนที่แล้วตอนที่ 110 อูคาสิ้นชีพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 112 ทางออก

ตอนที่ 111 เส้นทางที่ปิดลง


ตอนที่ 111 เส้นทางที่ปิดลง

ไนเรลยกกางเขนมนุษย์ออก โดยตรงที่ทุบหัวของอูคายังคงมีเลือดติดอยู่ มันไหลหยดลงอย่าง ๆ ช้า แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรแปลก เพราะอันที่จริงแล้วทั้งกางเขนมนุษย์และดาบไนเรลมันก็มีเลือดเปรอะเปื้อนทั่วทั้งอาวุธอยู่แล้ว

ไนเรลค่อย ๆ ควานหาไปจุดที่เละของหัวอูคาแล้วเขาก็เจอเข้ากับบางสิ่งนั้นก็คือเขาสีน้ำเงินของอูคา สำหรับยักษ์เถื่อนแล้วมันสามารถนำไปใช้เพื่อถ่ายทอดความสามารถได้ทำให้สามารถยกระดับความสามารถอัคคีได้ โดยเฉพาะพวกทหารระดับต่ำที่เกิดมามีพลังเพลิงระดับต่ำ สามารถยกระดับเพลิงเป็นระดับ A ได้

แต่สำหรับมนุษย์มันเป็นแค่แก่นพลังงานเท่านั้น อันที่จริงแล้วนั้นถ้ามนุษย์สามารถผ่านระดับก้าวข้ามชีวิตมาแล้ว เมื่อตายไปคริสตัลที่หน้าผากจะหลอมรวมความสามารถต่างและคงรูปและพลังไว้ได้

(แก่นพลังงาน = คริสตัลพลังงาน = เขาของยักษ์เถื่อน)

เมื่อมีมนุษย์ธรรมดากินลงไปก็จะส่งผลให้มีความสามารถของมนุษย์ชั้นสูง โดยมีพลังความสามารถเหมือนกับเจ้าของแก่นพลังงานเดิมที่กินลงไป

อันที่จริงมันดีกว่าผลคริสตัลวิวัฒนาการอีก เพราะมันจะได้ระดับพลังตามที่มนุษย์ชั้นสูงผู้เป็นเจ้าของแก่นพลังงานมีนั้นเอง

ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรียกว่า การสืบทอดพลัง แต่การทำแบบนี้ต้องใช้แค่แก่นพลังงานของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น ถ้าใช้ของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ มันก็จะไม่มีผลอะไรเป็นแค่แก่นพลังงานทั่วไปเท่านั้น

ซึ่งเคยมีเหตุการณ์ที่มนุษย์ธรรมดากินแก่นพลังงานสัตว์กลายพันธุ์ไปเพราะคิดว่าจะสามารถได้รับพลังและกลายเป็นมนุษย์ชั้นสูงได้ แต่มันกับทำให้ร่างของมนุษย์ธรรมดาผู้นั้นระเบิดตายไปในทันทีจากพลังงานภายในแก่นพลังงาน

ไนเรลสัมผัสไปที่แก่นพลังงานนั้นจากนั้นก็เก็บมันลงไปพร้อมกับร่างไร้วิญญาณของอูคา ตอนนี้มันยังไม่ใช่เวลาที่จะมากินและดูดซับแก่นพลังงานระดับ 5 นี้ เพราะตอนนี้ยักษ์เถื่อนมันใกล้จะฝ่าต้นกาบหอยแครงเข้ามาได้แล้ว

.....

หลังจากที่ไนเรลจัดการตรงหน้าเสร็จ เขาก็หันมาสนใจเรื่องของทหารยักษ์เถื่อนและเส้นทางที่จะออกไป

เพราะการต่อสู่กับอูคาตอนนี้เขาจึงลงมาอยู่ด้านล่างอีกครั้ง

แสงที่แทบจะสองลงมาไม่ถึงด้านล่างของอุโมงค์มันคงน่าจะมีระยะทางสัก 5-6 กิโลเมตรในแนวดิ่ง ไนเรลมองไปทางเส้นทางที่หมุนวนจนไปถึงข้างบนมันคงช้าเพราะบันไดนั้นเต็มไปด้วยยักษ์เถื่อน ดังนั้นไม่รอช้าด้านหลังของเขาจึงมีปีกงอกออกมา

ไนเรลได้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกบินขึ้นไปแทน หลังจากปีกงอกจนสุดแล้ว ไม่รอชาไนเรลก็สั่งให้ต้นกาบหอยแครงปีศาจสู้กับพวกทหารยักษ์เถื่อนอย่างสุดชีวิตพร้อมกับที่ใช้ความสามารถเร่งการเจริญเติบโตให้มันอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าจัดการทุกอย่างแล้วปีกด้านหลังของเขาก็กระพือปีกขึ้นลงส่งเสียงดัง พรึบ! จากนั้นเขาก็ถีบตัวส่งขึ้นไปบนอากาศ

พร้อมกันนั้นต้นกาบหอยแครงก็โจมตีทหารยักษ์เถื่อนรอบข้างเพื่อกันไม่ให้ขัดขวางไนเรล

ไนเรลมองไปที่ทหารยักษ์เถื่อนที่เป็นเหมือนกับมดที่อยู่ด้านล่างก้นอุโมงค์เหมือนกับในเครื่องปั่นโดยมีต้นกาบหอยแครงทั้งสิบเป็นใบมีดบดบี้พวกมันตายไม่หยุด

ตั้งแต่เกิดการต่อสู้มันผ่านมาหลายสิบนาทีแล้ว ทางฝั่งของยักษ์เถื่อนต่างบาดเจ็บล้มตายไปหลายร้อยหลายพันนายแล้ว ตอนนี้พวกที่ประจำการอยู่ด้านล่างนั้นเมื่อเห็นพวกตนตายไปจำนวนมากก็เกิดการหวาดกลัวขึ้นเรื่อย ๆ

พวกมันทั้งสู้ทั้งถอยหนีในเวลาเดียวกัน

ท่านที่ปรึกษาเรนผู้ที่รอดอยู่ตอนนี้กำลังมองลงมาจากด้านบนอุโมงค์ มือของเขาสั่นเทาและลำคอก็แห้งผาก หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

และทำได้แค่กลืนน้ำลายพร้อมกับสั่งออกไป

“อย่า...อย่าให้มันบินขึ้นมาได้ เตรียมกางตาข่ายออกและใช้แผนตอบโต้ทางอากาศ” เรนสั่งออกมา

เมื่อทหารที่รับหน้าที่ถ่ายทอดคำสั่งไม่มีการตอบสนองจากคำสั่งของท่านที่ปรึกษาเรนเขาจึงสั่งอีกครั้ง ทหารยักษ์เถื่อนตนนั้นจึงทำตามและถ่ายทอดคำสั่งออกไป

แผนป้องกันทางอากาศก็คือการใช้ตาข่ายและลูกศรที่มีโซ่ติดไว้เมื่อยิงถูกมันก็เหมือนกับฉมวกแทงปลา เพียงแค่ถึงสิ่งที่โดนยิงมันก็จบสิ้นไม่มีทางหนีรอด แต่แน่นอนว่านี่ไม่ใช่แผ่นขั้นสุดท้ายที่ท่านที่ปรึกษาใช้จัดการกับไนเรล

แต่ถ้าพูดถึงแผนนั้นเรนก็ไม่อยากจะใช้มันเพราะไม่รู้ว่าจะคุ้มค่าหรือไม่กับการต้องแลกสิ่งนั้นกับมนุษย์เพียงแค่คนเดียว

ไนเรลเริ่มสัมผัสได้ถึงละอองฝนเมื่อบินขึ้นมาสูงกว่า 2,000 เมตรจากก้นอุโมงค์ แต่แล้วเขาก็ต้องขมวดคิ้วเมื่ออยู่ ๆ ในระยะทางทุก ๆ 1,000 เมตรที่เหลือกับมีเสาเหล็กที่มีตาข่ายโลหะหนาถึงสี่ชั้นปิดลงมาจำกัดการปิดกั้นทางด้านหน้าไว้

พร้อมกันนั้นพวกมันยังคงมีเครื่องยิงธนูลักษณะเฉพาะที่ไนเรลพึ่งสังเกตเห็นตอนนี้ยิงศรมาที่ไนเรล

ฟิ้ววว!!!

เสียงของศรจำนวนมากยิงมาไนเรลได้แต่บินหลบซ้ายไปขวามา ทำให้ศรทั้งหมดนั้นไม่โดนไนเรล และมีบางอันที่เกือบจะโดนแต่เขาก็ใช้กางเขนมนุษย์อันใหญ่ป้องกันไว้ได้

ถึงจะเป็นแบบนั้นพวกยักษ์เถื่อนก็ยังคงไม่หยุดยิง ไนเรลมองดูการกระทำที่ไร้ประโยชน์นั้นและรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลก ๆ เขาจึงระวังตัวและเลือกที่จะรีบออกไปจากอุโมงค์นี้โดยเร็วที่สุด เพราะเมื่ออกไปข้างนอกได้แล้วต่อให้พวกมันจะยกกันมาอีกหลายกองทัพก็ไม่มีทางหยุดเขาได้

ไนเรลบินมาถึงตาข่ายเล็กชั้นแรกก็ใช้ดาบโลหะผสมที่อยู่ในมือฟันไปที่ตาข่ายนั้น

เคร๊ง ๆ

เสียงของเหล็กกระทบกันจนมันเกิดประกายไป แต่ภาพตรงหน้าก็ทำให้ไนเรลตะลึง เพราะปรากฏว่าตาข่ายนั้นมันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก

ด้านของท่านที่ปึกษาเรนมองไปที่ไนเรล เมื่อเห็นไนเรลนั้นโจมตีตาข่ายเหล็กไม่ขาดก็เรียกความมั่นใจกลับคืนมาเล็กน้อย

“ฮ่า ๆ เจ้ามนุษย์ผู้โง่เขาคิดหรือว่าตาข่ายที่ประจำอยู่อุโมงค์หลักของเผ่าอัคคีเรานั้นจะเป็นของธรรมดา โจมตียิงมันให้ร่วงหล่นลงมา” เรนสั่งออกมาด้วยเสียงดังพลางคิดว่าถึงอย่างไรก็ต้องหยุดไนเรล อย่างน้อยให้มันถอยกลับไปให้ได้

แต่แล้วเรนก็ต้องหน้าเปลี่ยนสี เพราะไนเรลเลือกจะบินไปที่ทางบันไดทางขึ้นที่ติดอยู่กับตาข่าย ซึ่งตรงนั้นมันมีช่องทางให้ผ่านได้อยู่

ไนเรลได้แต่คิดว่ายักษ์เถื่อนพวกนี้โง่เง่ากันหรืออย่างไร

เพราะถึงอย่างไนเรลจะบินมาถึงตรงนี้ แต่ต้องไม่ลืมว่าเขาก็มีเท้าเดินดินได้เช่นกัน ในเมื่อบินไม่ได้ก็ไปทางบันไดสิ

“เร็วหยุดมัน” เรนที่ไม่คิดว่าจะมาตายด้วยความคิดตื้น ๆ อย่างการใช้ตาข่ายขวางไนเรล ถ้าไนเรลเป็นแค่สัตว์บินกลายพันธุ์ระดับ 5 ก็คงจะต้องบังคับให้เขาถอยไปได้ แต่ตอนนี้ไนเรลไม่ใช่

ไนเรลจัดการฆ่ายักษ์เถื่อนที่ขวางทางอยู่ไม่กี่ตนเพราะทางเดินที่แคบนั้นได้กลายเป็นอุปสรรคในการต่อสู้แบบหมู่ไปซะแล้ว

ไนเรลกระโดดไม่กี่ที่ก็ผ่านไปสองตาข่ายแล้ว

“ไม่ ย่แล้วจะปล่อยมันหนีไปไม่ได้ ถ้ามันหนีไปได้ข้าคงหนีไม่พ้นโทษตายอย่างแน่นอน ที่ใช้ทั้งกองทัพและหนึ่งอัศวินเทพไททันก็ไม่สามารถหยุดมนุษย์นั้นได้ สั่งการลงไปเปิดใช้งานแผนสุดท้ายซะ” เรนสั่งออกมาด้วยความร้อนรน

“ท่านที่ปรึกษาเรนไม่สามารถทำแบบนั้นได้นะขอรับ สิ่งนี้มันอยู่นอกเหนืออำนาจของท่านไปแล้ว” ทหารยักษ์เถื่อนที่อยู่ด้านข้างค้านในทันทีโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย

“เจ้ากล้าค้านคำสั่งข้างั้นหรือ...งั้นก็ตายซะ” ท่านที่ปรึกษาเรนต่อยเข้าไปที่หน้าอกของยักเถื่อนตนนั้นด้วยหมัดที่อาบไร้ไปด้วยเพลิง นั้นจึงแสดงให้เห็นว่าท่านที่ปรึกษาเรนนั้นมีพลังไม่น้อยเลย ถึงจะไม่สามารถบอกได้ว่าเขามีพลังระดับ 5 ได้ แต่แน่นอนว่ามันก็อีกไม่นานดูเหมือนเขาใกล้จะข้ามผ่านระดับแล้ว

“เจ้า....อั๊ก” ยักษ์เถื่อนตนนั้นกระอักเลือดไม่กี่ทีก็แน่นิ่งตายไปทั้งอย่างนั้น

“เห็นแค่พวกระดับต่ำกล้าขัดคำสั่งข้างั้นหรือ แค่อุโมงค์เดียวเจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้ผลที่เกิดขึ้นอย่างงั้นหรือ” หลังจากกล่าวจบเขาก็มองไปที่ไนเรลอีกครั้ง ท่านที่ปรึกษาเรนคิดอยู่ในใจว่าทำไมระดับสูงอย่างองค์ชายใหญ่ถึงสนใจมนุษย์นั้นนัก แต่อย่างไรเขาก็ไม่สน อย่างไรตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ก็รับคำสั่งมาจากองค์ชายสามอยู่แล้ว ส่วนอัศวินอูคานั้นก็เป็นแค่เบี้ยที่หลงเข้ามาในแผนขององค์ชายใหญ่และองค์ชายสามก็เท่านั้น ดูเหมือนว่าไนเรลนั้นจะเป็นที่สนใจตั้งแต่ข่าวที่เขานั้นฆ่าเลฟอนตายไปตั้งแต่ตอนแรกแล้ว

เมื่อยักษ์เถื่อนตนอื่น ๆ ในระดับสั่งการที่เห็นดังนั้นก็ไม่ต้องให้ท่านที่ปรึกษาเรนพูดซ้ำทำตามที่เขาบอกในทันที

พร้อมกับที่พากันถอยห่างไปจากอุโมงค์หลักหมายเลข 3 ไปหลายกิโลเมตร

ไนเรลที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ แต่เขาก็ไม่สนใจ เพราะอีกไม่ถึง 2000 เมตรเขาก็จะออกไปจากอุโมงค์นี้แล้ว แค่กระพือปีกบินอีกไม่กี่ที่ก็ออกไปได้แล้ว

แต่แล้วไนเรลก็ต้องตกใจถึงขนาดขนลุกขนชันกันเลยทีเดียวเพราะเขาเห็นแสงที่คุ้นเคยจากรอบ ๆ ปากอุโมงค์โครงสร้างนั้น

ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามันคือระเบิดแบบเดียวดับที่เขาได้มาจากคลังเก็บของจำนวนมากนั้น และแล้วในที่สุดไนเรลก็รู้ว่าทำไมถึงมีระเบิดมาขนาดนั้น ดูเหมือนที่อยู่ในคลังจะเป็นแค่ของเหลือที่เก็บกลับมาหลังจากที่พวกมันวางระเบิดรอบ ๆ อุโมงค์แล้ว

“บัดซบเอ๊ย!!! พวกแกจงเกลียดจงชักอะไรฉันนักวะถึงกับต้องระเบิดอุโมงค์กันเลยงั้นหรือไง!!!” ไนเรลที่ทนไม่ไหวถึงพฤติกรรมของพวกยักษ์เถื่อนที่เอะอะก็ใช้ระเบิดไม่รู้จักสู้กับเขาแบบซึ่งหน้า ๆ แต่ดูเหมือนไนเรลจะลืมเรื่องที่ตนก็พึ่งทำกับพวกยักษ์เถื่อนที่ภูผาลาวาไปแล้วเช่นกัน

ถึงไนเรลจะร้องโอดครวญอย่างไรมันก็ไม่มีทางหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นได้

บูม!!!!

เสียงระเบิดที่เกิดขึ้นพร้อมกับอากาศที่อัดลงมาด้านล่างถึงกับทำให้ไนเรลไม่สามารถบินขึ้นไปต่อได้ ไนเรลเสียหลักหล่นลงไปติดกับตาข่ายโลหะด้านล่างทันที

บูม! ๆ ๆ

ระลอกแรงลมระเบิดมาติด ๆ กันอีกนับสิบนับร้อยลูกตัวเขาที่ติดอยู่กับตาข่ายถึงกับหน้าซีด ตอนนี้ใบหน้าของเขาราวกับว่ามีคนเอาเครื่องปั้มลมมาฉีดปะทะอยู่ตลอดเวลาจนหน้าสั่นไปหมด

ไนเรลลืมตามองไปที่ฝุ่นควันหลังจากนั้นมันก็ตามมาด้วยผนังของอุโมงค์ที่ไม้รู้ว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง แต่ขนาดของมันตั้งแต่ 10 เมตรจนถึงหลายร้อยเมตรกำลังถล่มลงมา

ดูเหมือนพวกนั้นยอมเสียสละพวกทหารยักษ์เถื่อนที่อยู่ด้านล่างทั้งหมดแล้ว แต่ไนเรลก็ต้องคิดผิด เพราะพวกที่เหลือกว่าครึ่งพากันหนีไปตั้งนานแล้ว เหลือก็แต่เขาที่ใกล้กับระเบิดที่สุด

แต่มันก็ไม่แปลกที่ทหารยักษ์เถื่อนพวกนั้นจะรู้และได้รับการแจ้งเตือนก่อน เพราะนี่คือถิ่นของยักษ์เถื่อน

ครั่งนี้ไนเรลได้รับบทเรียนพอสมควรว่า เมื่อไปที่รังของศัตรูอย่าประมาทเด็ดขาด เพราะเราไม่รู้ว่าพวกมันซ่อนอะไรเอาไว้บ้าง

“ฉันไม่ยอมมาโดนพวกมันทับตายอย่างนี้แน่นอน” ไนเรลไม่ยอมตายอย่างนี้แน่

เขามองหาทางออกในทันที ต้อให้ใช้ความสามารถ [เงา S] ก็คงเป็นไปไม่ได้ จะให้กลายร่างเป็น [กิ้งก่ายักษ์ B] แค่เลือกเป็นเนื้อเละก้อนใหญ่ขึ้นเท่านั้น

ไนเรลก็ดูเหมือนจะคิดอะไรได้

...

หลังจากสิ้นสุดการระเบิดผนังอุโมงค์ทั้งหมดก็ถล่มลงมา มันเป็นเหมือนกับวันสิ้นโลกก็ไม่ปาน โดยเฉพาะพวกลูกศรและตาข่ายที่ยิงไปใส่ไนเรลในตอนแรก ตอนนี้มันเป็นเหมือนกับเส้นใยมัดรวมดินหินเล็กรวมกันแล้วถล่มลงมา

หลังจากผ่านมาสักพักทุกอย่างก็จบลงอุโมงค์หลักหมายเลข 3 ก็ถูกปิดตายคนนอกไม่สามารถเข้าได้ คนในไม่สามารถออกทางอุโมงค์นี้ได้อีก โดยมีท่านที่ปรึกษาเรนมองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ

“อย่างน้อยข้าก็ทำดีที่สุดแล้วส่วนหลังจากนี้ก็แล้วแต่ชะตากรรมก็แล้วกัน” ท่านที่ปรึกษาเรนดูเหมือนจะแก่ขึ้นมาอีกหลายปี

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด