ตอนที่แล้วบทที่ 54 ปฏิบัติการ "เคลื่อนย้าย" (4)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 56 การกลับมาของราชาปีศาจ (2)

บทที่ 55 การกลับมาของราชาปีศาจ (1)


บทที่ 55 การกลับมาของราชาปีศาจ (1)

“ทุกคนจงมีกำลังใจ!”

“อีกไม่ไกลเราก็จะมาถึงแม่น้ำเนียร์ สิ่งที่เราต้องทำคือกำจัดทหารออกไปให้พ้นทาง!”

หลังจากผ่านไปมากกว่าหนึ่งวันผู้ลี้ภัยก็เริ่มเคลื่อนย้าย

สุขภาพของผู้ลี้ภัยซึ่งมีชีวิตที่ย่ำแย่มาเป็นเวลานานนั้นแย่ลงกว่าที่เรย์น่าคิดไว้มาก

ไม่ว่าเรย์น่าจะพยายามเข้าหาพวกเขาเพื่อให้กำลังใจมากแค่ไหน มันก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นผล

“เจ้าหญิง ข้าว่ามันจะเป็นการดีที่เราจะหยุดพักสักหน่อย”

วิคเตอร์ซึ่งเฝ้าดูขบวนอยู่พูดด้วยสีหน้าแน่วแน่

อย่างไรก็ตามพาเวลต่อต้านมัน

“ไม่! อีกครึ่งวันค่อยพัก!”

“แต่ข้าไม่คิดว่าพวกเขาจะอยู่ได้ถึงครึ่งวัน!”

“แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ ถ้ากองทัพของเคานต์จับได้”

“ข้าคิดว่าพวกเขาจะล้มลงก่อนที่จะถูกจับได้ซะอีก”

เรนะตัดสินใจในขณะที่อัศวินทั้งสองยังคงขัดแย้งกันกับความคิดเห็นของพวกเขา

“เราจะหยุดพักหนึ่งชั่วโมง ในระหว่างนี้จงกินให้อิ่มท้องและนอนหลับให้เพียงพอ”

เมื่อคำสั่งของเธอจบลง เส้นเดินทัพก็หยุดลง

คนที่เหนื่อยล้าก็เอนหลังและนั่งลง คนที่หิวโหยก็เติมเต็มความหิวด้วยอาหารอะไรก็ตามที่พวกเขาหาได้

“เจ้าหญิงกินนี่สิ”

เรย์น่านั้นยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน

เป็นเพราะพวกเขาพยายามกระตุ้นให้ผู้คนเคลื่อนไหวแทนที่จะใช้เวลาในการรับประทานอาหาร

ดังนั้นเมื่อเธอเห็นชามซุปอุ่นๆที่พาเวลนำมาให้ เธอจึงรู้สึกหิวขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม…

“ท่านนำมันไปให้ผู้อื่นเถอะ”

“เจ้าหญิงเป็นจุดแข็งของประชาชน คนอื่นๆก็มีความสำคัญอย่างแน่นอน แต่มันจะเป็นเรื่องใหญ่หากเจ้าหญิงนั้นล้มลง”

"ขอบคุณนะ"

แต่ในขณะที่เรย์น่ากำลังจะตักชุปขึ้นมา แผ่นดินก็เริ่มสั่นสะเทือน

ดุ๊ดดดดด!

"นี้! กองทัพที่เคานต์ส่งมา!”

“ทุกคนยืนขึ้น! เราต้องออกไปเดี๋ยวนี้!”

วิกเตอร์และคนรับใช้คนอื่นๆ เริ่มตะโกนบอกผู้ลี้ภัยอย่างร้อนรน

ผู้ลี้ภัยที่ลุกขึ้นเริ่มวิ่งหนี อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่มีพลังงานมากพอที่จะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดพวกเขาก็ถูกหน่วยทหารม้าแมงปป่องล้อม

‘ไอ้บ้าเอ้ย! อีกนิดเดียวเราก็จะถึงแม่น้ำอยู่แล้ว… ’

‘ถ้าเรามีเพียงพลังที่จะหยุดพวกมันได้ล่ะก็!’

ความรู้สึกสิ้นหวังและโกรธเกรี้ยวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเจ้าหญิง

เมื่อการล้อมเสร็จสิ้น ชายคนหนึ่งที่สวมหมวกหลากสีก็ก้าวไปข้างหน้า

มันก็คือหัวหน้าของหน่อยทหารม้าแมงป่อง ไวเปอร์

“เจ้าหญิง ท่านรู้ไหมว่าการหลบหนีออกจากความเมตตาของท่านเคาต์โมนาร์ชมันน่าระอาเพียงใด!”

“ความเมตตาของท่านเคานต์? เจ้ากำลังพูดถึงอะไร? เคานต์เคยทำอะไรให้เราด้วยหรอ?”

วิคเตอร์ตะโกนแทนเรย์น่า

“เมื่อตอนที่พวกเจ้าเหล่าผู้ลี้ภัยมาซุกหัวนอนอยู่ในเมืองนั่นก็คือพระคุณที่ข้าพูดถึง!”

"หุบปาก! พูดอย่างกับเราได้พักฟรี เราจ่ายภาษีให้กับพวกเจ้าถึงสองเท่า และเวลามีปีญหาอะไร พวกเราก็มักจะถูกเกณฑ์ไปใช้แรงงานอีก”

แค่นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับผู้ลี้ภัย

อย่างไรก็ตามไม่มีใครคิดว่าผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าจะเป็นกลุ่มคนผู้ลี้ภัยจริงๆ พวกมันเห็นพวกเขาเป็นนักล้วงกระเป๋าและให้พวกเขาทำงานโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สายตาของพวกเขาเย็นชาต่อผู้ลี้ภัยเสมอ

ไวเปอร์บีบจมูกของเขาขณะที่วิกเตอร์พูดถึงการเลือกปฏิบัติที่พวกเขาได้รับในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“หึนั่นไม่ใช่ปัญหาของข้า ฟังนะ เจ้าหญิงเรย์น่า ถ้าท่านตามพวกเราไปอย่างโดยดี เราก็จะปล่อยคนของท่านไป อย่างไรก็ตามหากท่านเลือกที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเรา มันก็อาจจะมีการนองเลือดของสัตว์ร้ายเกิดขึ้นที่นี่”

ไวเปอร์ได้รับคำสั่งจากเคานต์โมนาร์ช ให้นำเจ้าหญิงกลับคืนมาโดยไม่ทำร้ายแม้แต่เส้นผมของเธอ

พวกเขาต้องการทำตามคำสั่ง แต่มีโอกาสที่เจ้าหญิงจะทำร้ายตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะพูดออกไปก่อน

ทหารที่ขู่ด้วยมีดในมือ ทำให้ผู้ลี้ภัยที่หวาดกลัวเริ่มถอนตัวออกไป

‘นี่มันหมายถึงอะไรกัน เอลคาสเซิล’

เรย์น่ามองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วถาม

หากนั่นคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการเธอก็ตัดสินใจที่จะไม่รู้สึกสิ้นหวังและยอมรับมัน

ถ้าเธอเสียใจมันก็จะมีแค่อย่างเดียว นั่นก็คือเธอคงไม่สามารถไปพบกับลุคที่เธอชอบ

“อย่าเลยเจ้าหญิง!”

“เราจะเปิดเส้นทางให้ท่านเองและเจ้าหญิงก็จะได้หนี…”

เรย์น่าพยายามเดินหน้าต่อไป แต่คนรับใช้ก็ต่อต้านมัน

อย่างไรก็ตามเรย์น่ายังคงยืนกราน

“ข้าเป็นราชวงศ์คนสุดท้ายของอาณาจักรโวลก้า ข้าจะละทิ้งคนของข้าแล้วหนีไปได้อย่างไร”

ราชวงศ์โวลก้าไม่เคยละทิ้งผู้คน

แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่ความผิดพลาดก็จะไม่หายไป

แทนที่จะละทิ้งผู้คนของเธอ เรย์น่าคิดว่ามันคงจะดีกว่าที่จะยอมสละตัวเองแล้วไปเป็นนางบำเรอของเคานต์โมนาร์ช

“เจ้าหญิง! โปรดกำจัดความคิดที่ไร้ความสามารถเหล่านั้นออกไปจากหัวของท่านด้วย!”

“เจ้าหญิง! ท่านจะไปไม่ได้นะ!”

หญิงชราและคนอื่นๆกำลังร้องไห้ทั้งน้ำตาและขอร้องให้เธอหยุด

“ถ้าข้าไปกับเจ้าโดยไม่ขัดขืน เจ้าจะปล่อยคนของข้าไปจริงๆใชไหม”

เธอมองไปที่ไวเปอร์

ไวเปอร์พยักหน้า

“แน่นอน ข้าจะไม่กล้าแตะต้องแม้แต่นิ้วของพวกเขาด้วยซ้ำ”

ไวเปอร์โกหกอย่างไร้ยางอาย

เรย์น่าซึ่งไม่รู้ถึงความชั่วร้ายของเขา จึงกลายเป็นตัวประกันของหน่วยทหารม้าแมงป่องเพื่อช่วยคนของเธอ

เมื่ได้ตัวเจ้าหญิงมาแล้ว ไวเปอร์ก็เริ่มแสดงสีที่แท้จริงของเขา

“เนื่องจากเจ้าหญิงปลอดภัยแล้ว จงฆ่าคนอื่นๆให้หมด! ท่านเคานต์บอกว่าเขาไม่ต้องการขยะเพิ่ม!”

“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!”

“เขา.. เขาหลอกเรา!”

ขณะที่กองทหารก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับดาบดาบ ผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าที่ตกใจก็เริ่มกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก

เรย์น่าตะโกนใส่ไวเปอร์ที่ชั่วร้าย

“ไหนเจ้าบอกข้าว่าเจ้าจะปล่อยคนของข้าไปถ้าข้ามากับเจ้า!”

“คุคุคุ เจ้าเป็นเจ้าหญิงที่ไร้เดียงสาดสียจริง สัญญานั้นมีไว้เพื่อทำลาย”

ไวเปอร์ยิ้มกว้าง

‘อ๊ะอ๊ะ! โอ้พระเจ้า! ทุกอย่างจะจบลงแบบนี้จริงๆเหรอ!? ’

เมื่อระยะห่างระหว่างทหารม้าและผู้ลี้ภัยชาวโวลก้าเริ่มแคบลงเท่าไหร่ น้ำตาตาของเจ้าหญิงเรย์น่าก็เริ่มไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น

ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหนเธอสาบานว่าจะไม่ร้องไห้ต่อหน้าผู้คนของเธอ แต่เธอก็ทำผิดคำสาบานนั้นโดยไม่รู้ตัว

“ฮ่าฮ่าฮ่า! ในที่สุดหลังจากนั้นไม่นานเราจะได้ลิ้มรสเลือด!”

“ใครอยากเดิมพันบ้าง ว่าใครจะฆ่าได้มากที่สุด?”

กองทหารม้าแมงป่องยกดาบขึ้นด้วยรอยยิ้มที่โหดร้าย

พวกเขาชี้ดาบไปที่ผู้ลี้ภัย

แต่แล้วในขณะนั้นเอง

ฮวาร์ก!?

เปลวไฟลุกโชนขึ้นระหว่างทหารม้าและผู้ลี้ภัย

พวกมันเป็นเปลวไฟสีม่วงสว่างซึ่งไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน....

ฝากนิยายครับผม

ติดตามอ่านต่อได้ที่เพจ : นอนน้อยโนเวล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด