ตอนที่แล้วตอนที่ 109 ปิดตาของคิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 111 เส้นทางที่ปิดลง

ตอนที่ 110 อูคาสิ้นชีพ


ตอนที่ 110 อูคาสิ้นชีพ

ช่วงเวลาที่ไนเรลและทหารยักษ์เถื่อนเข้าต่อสู้กันนั้นมันรวดเร็วมากผิดกับระยะทางที่ยาวไกล ไนเรลที่หลบลูกศรดำที่ยิงเข้ามาพร้อมกับฟันไปที่ยักษ์เถื่อนอย่างต่อเนื่อง

เลือดเนื้อและแขนขาถูกตัดขาก ดาบที่แตกออกจากการฟันของไนเรลถูกทิ้งไว้อยู่เบื้องหลัง โดยที่ตัวของไนเรลนั้นแทบจะไม่เป็นอะไรเลย

การต่อสู้ระหว่างไนเรลและทหารยักษ์เถื่อนยังคงดำเนินต่อ เสียงร้องตะโกนทั้งโกรธและเจ็บปวดก็ดังขึ้นอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายสิบนาที ไนเรลก็ฝ่ามาถึงบันไดทางขึ้น แต่ตลอดทั้งทางนั้นมันกลับเมไปด้วยร่างของทหารยักษ์เถื่อนที่ถือโล่เกราะหนักปิดไว้

“ปลดปล่อยเพลิงกักขัง” เสียงร้องสั่งการของยักษ์เถื่อนดังขึ้น

พร้อมกันนั้นเหล่าทหารยักษ์เถื่อนก็ปลดปล่อยเปลวเพลิงและโจมตีผสานกันกดดันไปทางไนเรล

ตูม!

เสียงอันดังสนั้นก็ดังขึ้นพร้อมกับที่เพลิงร้อนแรงออกมาจากยักษ์เถื่อนนับพันตรงหน้า สร้างเป็นกำแพงเพลิงทั้งสี่ทิศบีบอัดเข้าหาไนเรล

ไนเรลเมื่อเห็นดังนั้นเขาก็พลันดึงสิ่งของบางอย่างออกมาจากเงานั้นก็คือกางเขนมนุษย์ ขางเขนมนุษย์ที่อยู่ในมือของไนเรลเป็นเหมือนกับฆ้อนทุบตีไปที่กำแพงเพลิงกังขังอย่างรุนแรง

ปัง! ปัง! ปัง!

ทหารยักษ์เถื่อนที่สนับสนุนพลังเข้าไปที่กำแพงเพลิงกักขังอย่างต่อเนื่อง ก็ถึงกับหน้าเปลี่ยนสีที่เห็นการกระทำของไนเรล เป็นเหมือนกับสัตว์ประหลาด

ไนเรลผสานความสามารถต่าง ๆ ที่ตนมีอยู่เข้าด้วยกันทั้งความสามารถ [เทพไททัน A] [พละกำลัง 50 เท่า B] [อมนุษย์กิ้งก่า B]

ด้วยความสามารถพวกนี้ทำให้พลังของไนเรลนั้นเพิ่มจนถึงขีดสุด จนเขาสามารถบอกได้ว่ามีพลังใกล้เคียงระดับสีน้ำเงินขั้นกลางเลยทีเดียวในความรู้สึกของไนเรล

ปัง!

เสียงจากการโจมตีของไนเรสุดท้ายนั้นดังสนั่นมาก หลังจากนั้นสักพักกำแพงเพลิงกักขังก็เริ่มปรากฏรอยร้าวขยายออกเหมือนดังใยของแมงมุม

ทหารยักษ์เถื่อนที่เห็นแบบนั้นก็ถึงกับกลืนน้ำลายลงไป แต่มันก็ไม่มีน้ำลายให้กลืน เพราะลำคอของพวกมันนั้นแห่งผากราวกับดินทราย

และแล้วกำแพงเพลิงก็ไม่อาจจะรักษาโครงร่างของมันเอาไว้ได้อีก เพราะทหารยักษ์เถื่อนที่ส่งพลังเข้าไปในกำแพงเพลิงต่างก็หมดสภาพเหนื้อยล้ากการรีดเค้นพลังออกมา อีกทั้งตอนนี้ไนเรลนั้นก็ก้าวเดินออกมาจากด้านใน

ตามตัวของเขาก็มีเปลวเพลิงอาบไร้ไปตามร่าง ๆ ราวกับเทพแห่งเพลิง

ไนเรลมีสีหน้าที่ยิ้มเยาะเย้ยมองไปทางทหารยักษ์เถื่อน ตัวที่มีขนาดเท่ากับยักเถื่อน แขนข้างหนึ่งมีโซ่โลหะพิภพพันอยู่ ในมือมีกางเขนมนุษย์ขนาดใหญ่ ส่วนอีกฝั่งมีดาบยาวที่ใช้ตัดแขนของอูคาอยู่

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาฉับพลันนั้นไนเรลก็เข้าไปฆ่าพวกมันราวกับถางต้นหน้าตามทาง

ไนเรลก้าวเดินไปบนทางพร้อมกับศพที่ทิ้งไว้ที่ด้านหลัง แต่ถึงกระนั้นเขาก็เลือกที่จะเก็บศพของพวกระดับ 4 ไปในเงาถ้าสามารถทำได้

และในตอนนั้นเองที่เขากำลังจะฟันไปที่ทหารยักษ์เถื่อนตนหนึ่ง แต่อยู่ ๆ ก็รับรู้ได้ถึงอันตรายที่แอบลอบโจมตีเข้ามา

ไรเรลรู้ได้ทันทีว่ามันคือใคร แต่ก่อนนั้นเขาต้องหลบการโจมตีนี้ก่อนโดยการเอี้ยงตัวไปด้านข้าง

ถึงอย่างนั้นดาบของคนที่ลอบโจมตีเขาก็ยังคงกวาดตามมาแต่มันก็โดนไนเรลใช้ดาบปัดออกไปอย่างง่ายดาย อูคาที่ตอนนี้เผยตัวเองมาแล้วก็มองไปที่ไนเรลด้วยสายตาอาฆาตมาดแค้น

“มนุษย์!!! คู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้าอูคาผู้นี้ มาสู้กัน” อูคากล่าวด้วยเสียงเย็นยะเยือกและตรงเข้าหาไนเรล

“หึ ผู้ที่พ่ายแพ้ไปแล้วอย่างแกยังมีสิทธิ์พูดคำนั้นอีกอย่างนั้นหรือ” ไนเรลกล่าวออกมาด้วยสายตาที่ดูถูกอูคาอย่างไม่ปิดบัง

ตอนนี้อูคาเป็นแค่คนที่แพ้ให้กับเขาแล้ว เมื่อเขาเคยชนะมันมาครั้งหนึ่งแล้วก็จะต้องมีครั้งที่สองอย่างแน่นอน

ไนเรลที่หันกลับไปเผชิญหน้ากับอูคาอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้ไนเรลไม่คิดจะปล่อยอูคาไปเขาจะจัดการปิดบัญชีอูคาให้เร็วที่สุด

ไนเรลที่ปะทะเขากับอูคาอย่างรุนแรง ส่งผลให้ร่างของอูคานั้นถอยกลับไปหลายก้าว ดูเหมือนว่าพลังต่อสู้ของอูคาจะลดลงเป็นอย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้ผิดจากที่ไนเรลคิดเพราะอูคานั้นสูญเสียแขนไปหนึ่งข้างเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนอีกทั้งก็ยังบาดเจ็บหนักในเวลาที่ผ่านมาอูคาไม่มีทางที่จะฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วแน่นอน

ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่พลังต่อสู้ของอูคาก็มีมากกว่าระดับ 4 อยู่ขั้นหนึ่ง แต่มันไร้ความหมายสำหรับไนเรล เพราะขนาดอูคาที่มีพลังเต็มร้อยตอนที่ทั้งสิงดวลกันที่ภูผาลาวาอูคายังพ่ายให้กับเขาดังนั้นสภาพอูคาในตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

“ย้า!!!” ไนเรลฟันไปที่อูคาด้วยดาบผสมโลหะ อูคาก็ใช้ดาบในมือที่เหลือข้างเดียวของตนรับด้วยใบหน้าที่ซีดเล็กน้อย แต่มันก็ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะไนเรลใช้กางเขนมนุษย์ทุบไปที่ช่องว่างด้านข้างอย่างรุนแรง

ปัง!

ส่งผลให้อูคาร่างกระเด็นถอยไปตามทางเดิน ไนเรลรีบโจมตีซ้ำไปในทันทีอูคาที่เห็นแบบนั้นก็ใช้ความสามารถถนัดของตนเอง แต่แน่นอนว่าไนเรลนั้นไม่มีทางให้เขาได้ลงมือแน่นอนจึงใช้เพลิงของตนเองเช่นกัน

ความสามารถในการควบคุมเพลิงของอูคาและไนเรลปะทะกันอย่างรุนแรง เนื่องจากระดับความสามารถของทั้งสองที่เท่ากัน แต่เพราะไนเรลตอนนี้มีพลังที่เหลือล้นจึงเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างรวดเร็ว

“ไม่ข้าไม่ยอม” อูคาพยายามดิ้นให้หลุดแต่ก็โดนเพลิงที่อันแอ่นของไนเรลจนกลายเป็นคลื่นเพลิงยิ่งเข้าไปที่กลางหน้าอกจนร่างของมันกระเด็นลอยไปกลางอุโมงค์หลัก หมายเลข 3

ไนเรลที่เห็นดังนั้นก็กระโดนตัวขึ้นไปอยู่เหนือร่างของอูคาพร้อมกับที่เหยียบอูคาลงไป

ถึงแม้จุดที่ไนเรลและอูคาปะทะกันจะไม่สูงมากนัก แต่เพราะได้แรงส่งจากไนเรลก็ทำให้มันรุนแรงพอสมควร

ไนเรลและอูคาร่วงลงไปยังเบื้องล่างที่มีทหารยักษ์เถื่อนนับร้อยรวมตัวกันอยู่ราวกับมด

ตูม!

เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างของอูคาที่จมลงไปในพื้นดิน เผยให้เห็นหลุมที่ลึกประมาณ 5-6เมตรใต้เท้าไนเรล

ไนเรลมองไปที่อูคาที่สภาพตอนนี้ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงรับรู้ด่าอูคายังคงมีลมหายใจอยู่

แต่ก่อนที่ไนเรลจะได้ทำอะไรอยู่ก็มีศรดำยิงเข้ามาถากเข้าไปที่ไหล่ของเขา โชคยังดีที่ไนเรลนั้นหลบได้ ถึงแม้มันจะมีเลือดออกเล็กน้อยพร้อมกับเกล็ดจากความสามารถ [กิ้งก่ายักษ์ B]

ไนเรลที่ตอนนี้เมื่อได้เลือดเล็กน้อยเขาก็ต้องหาที่หลบเพราะตอนนี้ศรดำและหน้าไม้ทุกเครื่องเล็งตรงมาที่เขา

ในขณะเดียวกันทางฝั่งของยักษ์เถื่อนก็ต้องเจอเข้ากับปัญหาเช่นกันเพราะตอนนี้ศรดำกำลังจะหมดลง เพราะถึงแม้ศรดำจะเป็นศรที่ทรงพลังแต่มันก็มีน้อยตอนนี้พวกมันก็ยิงไปเกือบหมดแล้วในเวลาที่สั่น ๆ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะไนเรลมีความสามารถอย่าง [เงา S] ที่เคลื่อนที่หลบได้อย่างรวดเร็วละก็ถ้าเป็นระดับ 5 คนอื่นคงร่างพรุนไปแล้ว

“ศรดำหมดแล้วงั้นก็เปลี่ยนไปใช้ศรเหล็กธรรมดาแทน ส่วนศรดำที่เหลือไม่กี่ด้ามใช้ยิงเฉพาะตอนที่มั่นใจว่าโดนเท่านั้น” เสียงสั่งการที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่องนั้นก็คือที่ปรึกษาเรนที่ตอนนี้เห็นอูคาเพลี่ยงพล้ำไปแล้ว แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงส่งการอย่างไม่สะทกสะท้าน

สำหรับที่ปรึกษาเรนนั้นมันมีแค่เป้าหมายคือ ฆ่าไนเรลหรือกักขังไว้ให้ได้แล้วให้พวกพิพากษามาจัดการ

ไนเรลเมื่อเห็นว่ามีศรระดมยิ่งเข้าใส่เขาอย่างต่อเนื่องก็รีบหาที่หลบ แต่เขายังคงจับร่างของอูคามาด้วย แต่แน่นอนว่าก้นหลุมอุโมงค์หมายเลข 3 นั้นไม่ได้มีซ่อนตัวมากนัก นอกจากศพที่เกลือนไปหมดของทหารยักษ์เถื่อนนับร้อย ๆ ตน เลือดไหลไปตามทางน้ำใต้ดินผสมจนมันข้นไปหมดไม่ต่างจากประหลอด ไนเรลเห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้าหยิบบางอย่างออกมาและใช้มือประกบมันเข้ากับศพ ๆ หนึ่ง

สิ่งที่อยู่ในมือของไนเรลก็คือเมล็ดของต้นกาบหอยแครงปีศาจนับ 10 ที่ตอนนี้เขากำลังเร่งการเจริญเติบโตอยู่

ต้นกาบหอยแครงปีศาจที่ได้เลือดเนื้อของทหารยักษ์เถื่อนจำนวนมากที่ตายอยู่ก็เติบโตอย่างรวดเร็วด้วยตาที่สังเกตุเห็นได้

ยักษ์เถื่อนที่กำลังวิ่งเข้ามาห่างจากไนเรลไปม่กี่เมตรก็ต้องหยุดชะงักลง ปากของทหารยักษ์เถื่อนที่อยู่ภายใต้หมวกเกาะต่างก็เปิดอ้าออกกว้างเพราะ ณ ขณะนี้ที่เบื้องหน้าของพวกมันกับมีต้นไม้งอกมาพร้อมกับที่ศพของทหารยักษ์เถื่อนแห้งกังไปเหลือแต่เศษเกราะเหล็กซึ่งเกิดจากความสามารถของไนเรลอย่าง [เร่งการเจริญเติบโตของพืช A]

ต้นกาบหอยแครงปีศาจที่สูงกว่า 5 เมตรทั้ง 10 ต้นซึ่งมีพลังโจมตีไม่น้อยกว่าระดับ 4 ได้รับคำสั่งให้จัดการฆ่าทุกอย่างที่เข้ามาให้หมดไม่มีการระเว้น

ยักษ์เถื่อนที่อยู่โดยรอบไม่รอช้าเข้าไปปะทะกับต้นกาบหอยแครงในทันที ทั้งไฟและอาวุธทุกชนิดที่โจมตีเข้ามาอย่างรุนแรงทำให้กาบหอยแครงเสียเปรียบเล็กน้อย เพราะถึงแม้มันจะต้านทานไฟได้ แต่ก็ไม่ใช่การต้านทานที่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ อีกทั้งการโจมตีทางกายภาพนั้นก็ได้เปรียบมันไม่น้อย แต่มันก็แค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะยิ่งผ่านไปทหารยักษ์เถื่อนก็ตายมากขึ้นและมากขึ้น ยิ่งเพิ่มอาหารและพลังให้กับต้นกาบหอยแครงปีศาจ

แต่ทั้งหมดนี้ไนเรลที่หลบอยู่ตรงกลางไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขากำลังจัดการกับอูคาอยู่อูคาที่พึ่งได้สติขึ้นมาก็พยายามขัดขืนไนเรล แต่ก็ไม่เป็นผลไนเรลเหยียบลงไปที่แขนข้างหนึ่งของอูคา

“แกยังจำนี่ได้ไหม” ไนเรลหยิบกางเขนมนุษย์พร้อมกับโซ่โลหะพิภพออกมาให้อูคาได้ดู

“เจ้าต้องการอะไร ถึงอย่างไรเจ้าก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอนยอมแพ้ซะ” อูคายังคงพูดขู่กับไนเรลอยู่เล็กน้อย

“หึ เข็มทิศนี่คืออะไร?” ไนรลไม่สนใจคำพูดของอูคาเขารีบถามในสิ่งที่ตนเองอยากรู้ทันที เพราะไนเรลรู้ว่าเวลาของตนนั้นไม่ได้มีมากนักน่าจะแค่ไม่เกิน 2 นาทีก่อนที่ต้นกาบหอยแครงปีศาจจะต้านไม่ไหว

“เจ้าไม่ได้ยินงั้นหรือว่ายอม....อ๊าก ๆ” อูคาพยายามกล่าวชักจูงวไนเรลอีกครั้ง แต่มันก็ถูกเขาใช้กางเขนมนุษย์ทุบไปที่ข้อมือที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวจนมันแหลกเละผสมไปกับดิน

“บัดซบ ไอ้ลูก...เอ๊ย เจ้าต้องตาย ต้องตายไม่มีหลุดฝั่ง” อูคาดาออกมาราวกับคนเสียสติจากความเจ็บปวด ภาพเหตุการณ์นี้มันดูทับซ้อนกับภาพเวลาช่วงที่ไนเรลนั้นโดนในครั้งแรกที่ถูกจับตัวมาจะต่างกันก็แค่ตอนนั้นอูคาตัดเอ็นของไนเรลและไนเรลก็ไม่ได้ร้องสักคำ

แต่ขณะนี้ทุกอย่างมันสลับกัน อูคาแหกปากร้องด้วยความเจ็บปวดแทน

“ฉันถามว่าเจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร” ไนเรลยืนเข็มทิศชีพไปที่หน้าของอูคา แต่ดูเหมือนอูคาจะไม่จนใจตอบคำถามไนเรลเลยแม้แต่น้อย

ถุย! อีกทั้งยังเลือกที่จะถุยน้ำลายในปากไปที่มือของไนเรลที่ถือมันอยู่อีก ไนเรลที่เห็นดังนั้นก็ถึงกับหน้าบึ้งคิ้วขมวด เขาเก็บเข็มทิศชีพที่ได้มาจากตอนที่ฆ่าไคยักษ์เถื่อนตนนั้น ซึ่งในตอนแรกไนเรลก็ยังแปลกใจว่าทำไมของสิ่งนี้ไปอยู่กับไคยักษ์เถื่อนผู้คุมนั้นได้ แต่เขาก็ไม่สนใจ

อีกอย่างที่เขาถามอูคากับของสิ่งนี้ เพราะแค่อย่างรู้ว่ามันมีความสามารถอย่างที่เขาเดาหรือไม่ก็เท่านั้น แต่ในเมื่ออูคาไม่ยอมตอบเขานั้นก็เท่ากับว่าอูคาหมดประโยชน์ไปแล้ว

“ในเมื่อแกเลือกอย่างนั้นก็ตามใจ” ไนเรลกล่าวออกมาจากนั้นก็ยักกางเขนมนุษย์ที่ใหญ่ยาวกว่า 5 เมตรขึ้นมา จากนั้นก็ทุกเข้าไปที่หัวของอูคาอย่างแรง

“เดียว...” อูคาที่ไม่คิดว่าอยู่ไนเรลก็เลือกที่จะฆ่าตนเองในทันทีเมื่อไม่ได้คำตอบก็ทำให้เขารู้สึกเสียใจกับคำพูดของตนก่อนหน้านั้น

แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะเขาพูดได้คำเดียวก็โดนกางเขนมนุษย์ทุบหัวจนเละคาหมวกเกราะ สมองเลือดและสิ่งต่าง ๆ ไหลออกมา ร่างของอูคากระตุกไปมาไม่กี่ทีก็แน่นิ่งไป

เป็นการปิดฉากหนึ่งในยักษ์เถื่อนระดับ 5 อัศวินอูคาลง ณ ที่ก้นหลุมอุโมงค์หลักหมายเลข 3

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด