ตอนที่แล้วตอนที่ 11 [ชื่อตอนขอปิดไว้ เพราะจะเป็นการสปอยตอนหน้าครับ]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 13: เนื้อสัตว์ปราณที่น่าอร่อย

ตอนที่ 12: ครีมเค้ก (ส่วนที่ 2 )


*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

--------------------------------------------------------------------------------------------

“อะไรเนี่ย?. ลู่หยานมองของที่ชิยูเอามาให้และสายตาของเธอก็ดูเปล่งประกายเพราะกลิ่นหอมหวานที่อยู่ด้านหน้าของเธอ. ที่จานด้านหน้าของเธอมีของหวานมันๆสีขาวอยู่5ชิ้น. เมื่อมันวางอยู่บนโต๊ะมันก็สิ่งกลิ่นหอมอบใหม่ๆโชยขึ้นมา.

 

“นี่คือสิ่งที่ชั้นทำเพื่อเธอเป็นพิเศษยังไงล่ะ” ชิยูตอบ “นี่คือขนมเค้กครีมสด. ชั้นมั่นใจว่าเธอต้องชอบแน่”.

 

หลินฟ่านหยิบชิ้นนึงมาแล้ววางใส่มือของลู่หยานแล้วเขาก็หยิบอีกชิ้นขึ้นมาให้ตัวเอง. เค้กมีครีมอยู่บนหน้าเยอะมากแล้วก็ผลไม้จำนวนนึงด้วย. ครีมนั้นทั้งนุ่มและหวาน มันต่างจากขนมเค้กของจีนที่เขาเคยกินมาเลย. ในโลกปัจจุบันเค้กนี้คือปีศาจสำหรับผู้หญิงที่ต้องการลดน้ำหนักเลยทีเดียว.  (ขนมเค้กของจีนอาจหมายถึงขนมไหว้พระจันทร์ก็ได้ครับ เพราะขนมไหว้พระจันทร์ฝรั่งเรียกว่ามูนเค้ก Moon cake)

 

เป็นดังที่คิด พอกัดไปหนึ่งคำลู่หยานก็ติดใจ. ทั้งหมดมี5ชิ้น เธอกิน3ชิ้นที่เหลือทันที. เมื่อเธอกินหมด4ชิ้นแล้ว เธอก็รู้สึกอายขึ้นมาทันที “โทดที ชั้นห้ามตัวเองไม่อยู่”

 

เสี่ยวฉีก็มองด้วยสายตาอิจฉา เธอก็อยากกินบ้าง……

 

ชิยูสังเกตเห็นสายตาของเสี่ยวฉีจึงลูบหัวเธอ. เธอไม่ได้ทำเยอะเพราะมันใช้เวลานาน. ยิ่งไปกว่านั้นเธอต้องรับลูกค้า “อันนี้เป็นของแขกเรานะ, พอกลับถึงบ้านแล้วเดี๋ยวพี่จะทำให้กินนะจ๊ะ”

 

“อื้อ อื้อ” เสี่ยวฉีพยักหน้า “พี่สาวไปทำงานเถอะนะคะ. ไม่ต้องห่วงหนู!”

 

ชิยูจึงไป.

 

ลู่หยานรู้สึกอายมากกว่าเดิม. เธอไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน. มันต้องเป็นเพราะหลินฟ่านอยู่ข้างๆเธอแน่เธอจึงไม่ทันระวังตัว. พอหน้าแดงสุดขีดลู่หยานจึงสะบัดมือแล้วกล่องหยกก็ปรากฏมาบนมือเธออย่างน่าอัศจรรย์. เธอมอบกล่องนั้นให้เสี่ยวฉี “ในกล่องนี้มีโสมหยกอยู่. พี่ให้เป็นของขวัญนะจ๊ะ”

 

เสี่ยวฉีส่ายหัวแล้วดวงตากลมโตของเธอก็เต็มไปด้วยความความมุ่งมั่น “พี่คะมันแพงเกินไปหนูรับไว้ไม่ได้ค่ะ”

 

ลู่หยานยิ้ม “หนูรู้ได้ไงจ๊ะว่ามันแพง?”

 

เสี่ยวฉีจ้องไปทางชิยูแล้วตอบ “พี่สาวหนูบอกงั้นค่ะ. ถ้ามันเป็นของขวัญ มันก็มีราคาแพงมาก”

 

“ฮ่าๆๆๆ” หลินฟ่านหัวเราะชอบใจ. เขาอุ้มเสี่ยวฉีขึ้นมานั่งบนตักเขา “ถ้าของขวัญของพี่หยานแพงไปล่ะก็งั้นพี่จะให้นี่ โอเคมั้ยคะ?” เขาสะบัดมือแล้วลูกกวาดหนึ่งไม้ก็โผล่มา.

 

ทันทีที่เธอเห็นลูกกวาด ตาของเสี่ยวฉีก็ลุกเป็นไฟ.

 

“ค่ะ!”

 

ตอนที่เธอมองอยู่นั้นเธอกำลังเตรียมวัตถุดิบอยู่. เธอเกือบจะเผลอตัดนิ้วตัวเอง.

 

เกิดอะไรขึ้น?

 

ทำไมเสี่ยวฉีถึงไปนั่งบนตักของหลินฟ่าน?

 

ความคิดของเธอพุ่งทะลุเพดานไปแล้ว. อย่าบอกนะว่าโชคชะตาของหลินฟ่านกับเสี่ยวฉีต้องกันแล้ว และในอนาคตเสี่ยวฉีก็ต้องแต่งงานกับเขา. จากที่นิยายของเออ กูเขียนแล้ว หลินฟ่านนั้นมีฮาเร็มเยอะกว่า10คนอีก.

 

ชิยูตกใจมาก. ในโลกนี้ที่เพื่อนเธอสร้างขึ้นมา พระเอกกับนางเอกนั้นมีเสน่ห์แรงมาก. ใครก็ตามที่พบกับพวกเขาจะหลงเสน่ห์ในทันที.

 

แต่เธอคิดว่าเสี่ยวฉีเป็นน้องสาวแท้ๆจึงไม่ยอมให้เสี่ยวฉียอมแบ่งผู้ชายกับคนอื่นแน่.

 

เธอคิดอยู่นาทีนึงจึงตะโกนออกมา “เสี่ยวฉีจ๊ะ มาช่วยพี่หยิบหัวหอมหน่อย!”

 

เสี่ยวฉีกระโดดลงจากตักของหลินฟ่านทันทีแล้วรีบวิ่งไปช่วยพร้อมๆกับเคี้ยวลูกกวาดในปาก.

หลินฟ่านไม่ทันสังเกตความไม่พอใจของชิยู แต่ลู่หยานเห็น.

 

ลูกกุ้งนั้นพร้อมจะขายแล้ว. พอเตรียมทุกอย่างเสร็จเธอจึงเอาถ้วยใบใหญ่ให้หลินฟ่านกับลู่หยานแล้วไปทำเมนูผักเพิ่มปล่อยให้พวกเขาสนุกกับอาหาร.

 

เนื่องจากวันนี้พวกเขามีแขก จึงมีอาหารขายน้อย. เมนูลูกกุ้งถูกขายหมดอย่างรวดเร็ว. ลูกค้าหลายคนไม่พอใจ ชิยูจึงไม่มีทางเลือกเลยเอาตราให้พวกเขา. เธอบอกลูกค้าว่าถ้าพรุ่งนี้กลับมาพร้อมกับตรานี่จะให้ลูกกุ้งเพิ่มครึ่งจิน. พวกลูกค้าจึงพอใจแล้วก็ออกร้านไป.

 

เมื่อลูกค้าจากไปหมดแล้ว ชิยูก็ปิดประตู.

 

คุณตากับเด็กคนอื่นๆช่วยกันทำความสะอาดร้าน, ถูพื้น, ล้างจาน เช็ดโต๊ะ. มีแค่ชิยูที่นั่งอยู่กับหลินฟ่านและลู่หยาน.

 

“พวกเธอพอใจกับรสชาติอาหารรึป่าว?” ชิยูถาม. ถ้าเป็นเรื่องอาหารล่ะก็ เธอไม่ทำเล่นๆแน่นอน. เธอมั่นใจในวิชาทำอาหารของเธอมาก. ตราบใดที่เธอมีวัตถุดิบที่ถูกต้อง เธอสามารถทำให้หลินฟ่านจุกตายเพราะอาหารที่เธอทำได้เลย.

 

“แน่นอน พวกเราชอบมาก” ไม่ว่าเขาจะเจ้าเล่ห์ขนาดไหน เขาก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี.

 

“พวกนายเห็นด้วยตาตัวเองแล้วใช่มั้ย ร้านเราก็ไม่ได้ขายแย่. แล้วลูกกุ้งพวกนั้นก็แค่เสี้ยวหนึ่งของความสามารถชั้น”

 

“เธอทำอาหารอย่างอื่นได้ด้วยหรอ?” หลินฟ่านสนใจ. เขาไม่ใช่คนรักการกินแต่รสชาติอาหารพวกนี้ทำให้เขาจะรักแล้ว.

 

“แน่นอนสิ. ยิ่งวัตถุดิบดีเท่าไหร่ รสชาติก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้นแหละ. ชั้นมั่นใจวิชาทำอาหารของชั้นมาก”

 

“ถ้าเธอว่าแบบนั้น ชั้นก็จะตั้งตารออาหารที่เธอทำจากเนื้อสัตว์ปราณนะ”

 

ชิยูยักไหล่ “ชั้นก็อยากอยู่แต่มันแพงเกิน. ชั้นไม่มีพลังพอจะจับมันด้วยตัวเองด้วย. เอางี้สิ, ถ้านายได้เนื้อมาก็ส่งมาให้ชั้น. ชั้นจะทำให้นายฟรีๆเลย”

 

“ได้เลย”

 

“งั้นก็เข้าเรื่องกันเลย.หลินฟ่าน ชั้นจะให้กำไรจากร้านนี้ครึ่งนึง นายจะได้เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้. อย่าเพิ่งปฏิเสธชั้น. ชั้นมีบางอย่างที่จะขอนาย. ในอนาคตนายจะได้เป็นใหญ่และตระกูลหลินเองก็จะรุ่งเรืองเพราะนายด้วย. ถ้าพวกเรามีคนคอยคุ้มกันล่ะก็ เราก็จะได้ทำการค้าได้ง่ายๆ. ดังนั้นเพื่อให้การค้าของชั้นรุ่งเรืองแล้ว ชั้นยินดีที่จะแบ่งให้เลย” ชิยูกล่าว.

 

หลินฟ่านถาม “แล้วทำไมเธอไม่เลือกคนอื่นล่ะ?”

 

เธอคือคนเดียวที่บอกได้ว่าสร้อยนั่นมีความลับซ่อนอยู่. เขาไม่เชื่อหรอกว่าเธอไม่มีความลับซ่อนอยู่.

 

“ชั้นเป็นคนธรรมดานะแล้วชั้นก็ไม่อยู่ที่นี่ไปจนตายแน่” ชิยูตอบ “ชั้นอาจจะไม่อยู่นี่ แต่ครอบครัวชั้นจะอยู่. ชั้นหวังว่าจะมีคนปกป้องพวกเขา”

 

ชิยูทนรอที่จะสำรวจโลกนี้อยู่. โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาลและเธอก็โหยหาจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยด้วย.

 

หลินฟ่านไตร่ตรองอยู่. ปกติแล้วเขาเป็นคนที่ถ้าได้อะไรมา ก็จะต้องให้บางอย่างเช่นกัน. ถ้าเขายอมรับร้านอาหารนี้มา เขาก็ต้องปกป้องมัน.

 

แต่เขาก็ตอบตกลงอย่างเร็ว. เสี่ยวฉีทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและชิยูเองก็คืนสร้อยให้เขาด้วย. ตอนนี้เขาแข็งแกร่งมากกว่าเดิม. ถ้าเขาปกป้องพวกเธอ ก็เท่ากับว่าเขามีคนคอยสนับสนุนเมื่อตัวเองล้มลง. ถ้าเรื่องแค่นี้เขารับมือไม่ไหวแล้วเขาจะเป็นใหญ่ในอนาคตได้ยังไง?

 

“แต่ชั้นขอบอกเธอก่อนนะ. ชั้นจะเอาเสี่ยวฉีกลับไปด้วย” เขาตอบ.

 

เมื่อเขาเห็นชิยูขมวดคิ้ว เขาจึงรีบอธิบาย “ตะกี้นี้ ชั้นตรวจเสี่ยวฉีแล้ว. เธอเหมาะสำหรับการฝึกวิชา. ถ้าเด็กคนนั้นตามเธออยู่ล่ะก็ เด็กคนนั้นก็จะไม่มีวันได้พัฒนา. เสียดายพรสวรรค์นะ”

 

อะไรนะ? เสี่ยวฉีฝึกวิชาได้หรอ?

 

นอกจากชิยูตกใจแล้ว ทุกๆคนที่อยู่รอบๆโต๊ะก็ตกใจเช่นกัน.

 

แล้วชิยูก็เปิดปากตอบ “ถ้าเป็นอย่างงั้น, ชั้นก็จะไม่ห้ามนาย. แต่นายช่วยตรวจน้องๆคนอื่นของชั้นได้มั้ย? พวกเขาฝึกวิชาได้รึป่าว?”

 

หลินฟ่าน: “........”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด