ตอนที่แล้วEp.685 - ฉากไม่ธรรมดา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.687 - วิวัฒนาการของภูเขาศักดิ์สิทธิ์

Ep.686 - ตงหยางปรากฏตัว


1/4

Ep.686 - ตงหยางปรากฏตัว

ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงออกสำรวจทะเลเป็นระยะเวลานานไม่ยอมขึ้นฝั่ง เพียงเพื่อต้องการค้นหาภูเขาศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อเขากลับมา ไม่คาดคิดเลยว่ามันจะปรากฏขึ้น

เรียกได้ว่าคลาดกันแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

แต่ด้วยเหตุนี้ ทำให้เขาอดเป็นคนแรกที่ได้กินเนื้อปู!

‘แต่ในชีวิตนี้ฉันฆ่าเขมือบฟ้าไปแล้ว ดังนั้นไม่น่ามีสัตว์ทะเลต่างมิติที่ทรงพลังอยู่ใกล้เคียงกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์อีก อย่างน้อยยังถือว่ามีโอกาสอยู่!’

กระนั้น ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบัน มันไม่อนุญาตให้ฉินเฟิงจากไป เพราะท้ายที่สุดแล้ว กองทัพสัตว์ทะเลมีจำนวนมากเกินไป!

กองทัพสัตว์ทะเลเหล่านี้จำต้องถูกกวาดล้างก่อน

ฉินเฟิงมองไปยังเบื้องหน้าของเขมือบฟ้า คลื่นทะเลยังคงซัดสาด หอบนำสัตว์ทะเลนับไม่ถ้วนเข้าชายฝั่ง หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉินเฟิงก็จะถูกตรึงอยู่ที่นี่ ไม่ได้ออกไป

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องแก้ปัญหาที่นี่ก่อน”

ฉินเฟิงขับเคลื่อนพลังสมาธิ ดาวเคราะห์เพชรเริ่มหมุนวน อักษรรูนมืดนับไม่ถ้วนพรั่งพรูออกมา

ตูมมม!

เสาแสงทมิฬ ระเบิดออกจากร่างของฉินเฟิง ลุกฮือขึ้นสู่ท้องฟ้า

เมื่อเสาทมิฬกระทบกับเมฆหมอกเบื้องบน มันก็เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว มองไปคล้ายกระแสวังวนกำลังก่อตัว แผ่ขยาย สร้างเมฆดำนับไม่ถ้วน

ลากยาวกว้างไกลนับพันเมตร!

เลเวล B คนอื่นๆไม่ทราบว่าฉินเฟิงคิดจะทำอะไร แต่สายตาที่ถูกภูเขาศักดิ์สิทธิ์ดึงดูดไป ได้ย้อนกลับมายังฉินเฟิง

“เทคนิคสายฝนแห่งการทำลายล้าง!”

เมฆทะมึนเริ่มเปียกชื้น โปรยปรายเม็ดฝน เม็ดฝนตกลงผสมปนเปื้อนกับทะเล ไม่ว่าสัตว์ทะเลจะทรงพลังเพียงใด พวกมันล้วนติดเชื้อจากรูนมืด

สัตว์ทะเลระดับต่ำตกตายลงอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นหุ่นเชิดแห่งความตายของฉินเฟิง ฉินเฟิงที่ควบคุมพวกมันส่งคำสั่งเดียวนั่นคือให้ปลดปล่อยสัญชาตญาณ ‘กิน’ ออกมา

หุ่นเชิดแห่งความตายไม่รอช้า อ้าปากใหญ่ของพวกมัน หันไปกัดสัตว์ทะเลที่อยู่ข้างตนทันที

และอย่าลืมนะว่าในทะเลยังมีรูนมืดปนเปื้อน เมื่อร่างของสัตว์ทะเลถูกฉีกกัด เลือดไหลซึมออกมา ก็ยิ่งติดเชื้อได้ง่าย

เพียงพริบตา ท้องทะเลก็ชุ่มไปด้วยเลือด สิ่งที่ตามมาคือซากศพเน่าเปื่อยที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น

ฟุฟ ฟุฟ ฟุฟฟฟ

กองทัพสัตว์ทะเลร่วงตายเป็นเบือ เฉพาะทะเลในส่วนเบื้องหน้าฉินเฟิง บัดนี้ราวกับทุ่งสังหารที่ถูกต้มจนเดือด ยิ่งนานยิ่งขยับขยายขอบเขตการล่า กระจายเป็นวงกว้าง

แต่ในช่วงเวลานี้เอง ฉินเฟิงถือว่าได้บรรลุเป้าหมายบางอย่างแล้ว เพราะหากมีหุ่นเชิดแห่งความตายเหล่านี้คอยขวางทาง ต่อให้กองทัพสัตว์ทะเลระลอกใหม่ถูกหอบเข้ามา ก็เหมือนปะทะเข้ากับกำแพงอุปสรรค ช่วยยื้อเวลาให้ผู้ใช้พลังเบื้องหลังเขา สามารถไล่สังการสัตว์ทะเลที่หลุดเข้ามาในท่าเรือได้

พลังที่สำแดงออกมาของฉินเฟิง สร้างความประทับใจแก่คนเหล่านี้ ความเคารพและชื่นชมยิ่งมองยิ่งสูงขึ้น สายตาที่พวกเขามองไปยังเด็กหนุ่ม ไม่ต่างจากยามมองเลเวล A !

“ฉินเฟิงคนนี้ มีภูมิหลังยังไงกัน ทำไมแข็งแกร่งถึงขนาดนี้”

“เขาไม่ใช่เลเวล B หรอกหรอ? แต่ทำไมที่ฉันเห็น เหมือนกำลังรบของเขาจะอยู่ในกลุ่มเลเวล A แล้ว”

“ต่อให้จ้าวพรมแดนมาเอง ฉันไม่คิดว่าเขาจะระเบิดพลังทำลายล้างได้เท่าฉินเฟิง”

“ฉันก็ว่างั้น ท่านจ้าวพรมแดนไม่น่าจะ -- อ๊า ท่านจ้าวพรมแดน!”

ผู้ใช้พลังคนนั้นต้องการจะบอกว่าต่อให้เป็นจ้าวพรมแดนก็คงทำแบบฉินเฟิงไม่ได้ แต่ยังไม่ทันเอ่ยจบประจบ เขาก็เห็นร่างๆหนึ่งยืนหยัดอยู่บนผิวน้ำ ซึ่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครทราบ!

ไม่คาดฝันเลยว่าตงหยางจะปรากฏตัว!

ตงหยางยิ้มและกล่าว “ไม่เป็นไรหรอก พูดออกมาเถอะ เพราะการสังหารระดับนี้ ต่อให้เป็นฉันก็ทำไม่ได้จริงๆ

หรือบางทีใช่ว่าจะทำไม่ได้ แต่เป็นเพราะตงหยางคิดว่าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้นต่างหาก

เนื่องจากการกระทำดังกล่าวต้องใช้พลังสมาธิมากเกินไป และสัตว์ร้ายที่ปรากฏบนชายฝั่งตอนนี้ พวกมันเป็นแค่เลเวล C และ D เท่านั้น มีเลเวล B อยู่เพียงเล็กน้อย มองในมุมนี้ การกระทำของฉินเฟิง ไม่ต่างไปจากการใช้มีดฆ่าวัวเชือดไก่

ซ่า ซ่า …

ตงหยางโต้คลื่นตรงไปทางฉินเฟิง ก้าวขึ้นไปยังเขมือบฟ้า

“ฉินเฟิง”

“จ้าวพรมแดนตง!” ฉินเฟิงพยักหน้า ไม่ประหลาดใจอะไรกับการมาเยือนของอีกฝ่าย

เพราะอำนาจทำลายล้างของกองทัพสัตว์ทะเลครั้งนี้รุนแรงนัก อาจพูดได้เลยว่า หลังวิกฤตในครั้งนี้ พืชไร่ในเมืองตงไห่ ทั้งหมดคงถูกน้ำท่วมเสียหาย แต่เนื่องจากสัตว์ทะเลที่ถูกหอบลึกเข้าไปมีจำนวนไม่มากนัก ผู้ใช้พลังเมืองตงไห่เลยยังพอสามารถต้านทานมันได้

อย่างไรก็ตาม วิกฤตที่ท่าเรือกลับยังไม่ผ่านพ้น ทั้งเหมือนว่าจะมีโอกาสเกิดอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีกระลอก!

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องโล่พลังงานถูกทำลาย จำเป็นต้องใช้เวลาสั่งสมพลังงานพักหนึ่งถึงสามารถเปิดมันได้อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้เอง ตงหยางถึงตัดสินใจออกมาที่นี่

“เขมือบฟ้าของคุณ ท่ามกลางสถานการณ์คลื่นยักษ์ถาโถม มันกลับต้านทานยืนหยัดได้ ดังนั้นลูกอื่นๆ ก็น่าจะเหมือนกัน” ตงหยางกวาดสำรวจเขมือบฟ้าของฉินเฟิงด้วยความชื่นชม เห็นได้ชัดว่ามีสัตว์ร้ายจำนวนมากกำลังพยายามโจมตีมัน แต่ผิวชั้นนอกของเขมือบฟ้าทนทานมาก สัตว์ทะเลระดับต่ำไม่สามารถทำลายได้ เกรงว่าคงมีเพียงสัตว์ร้ายระดับสูงถึงสามารถ อีกอย่างสารสังเคราะห์ที่เคลือบบนตัวเขมือบฟ้า เป็นเซลล์ที่มีหน่วยความจำ หากถูกโจมตีจนผิดรูป มันจะฟื้นฟูตัวเอง กลับคืนสู้รูปลักษณ์เดิมได้โดยอัตโนมัติ

กล่าวได้ว่าเรือดำน้ำทะเลลึกลำนี้ เทคโนโลยีของมันเหนือล้ำ ก้าวหน้าจากปัจจุบันไปมากโข

ฉินเฟิงพอได้ยินคำพูดของตงหยาง ในหัวใจก็ตระหนักถึงความหมายของอีกฝ่าย เร่งกล่าวว่า “นั่นไม่มีปัญหา ต่อให้พุ่งเข้าชนมันก็สามารถรับมือได้”

ตงหยางยิ้ม พยักหน้าและกล่าว “งั้นพวกเราไปกันเถิด”

“รับทราบ”

ฉินเฟิงไม่เอ่ยถามเรื่องไม่จำเป็น เขาตระหนักดี ว่าตงหยางคงทราบถึงจุดประสงค์ที่ตนปลดปล่อยสายฝนแห่งการทำลายล้าง

ว่าเป็นเพราะต้องการเร่งเก็บกวาด แล้วเดินหน้าออกสำรวจความลี้ลับของเสาแสงที่อยู่ไกลออกไป!

ความประทับใจของตงหยางที่มีต่อฉินเฟิงในเวลานี้ เพิ่มขึ้นหลายส่วน เพราะจริงๆแล้วฉินเฟิงจะละทิ้งที่นี่ไปเลยก็ได้ สามารถออกไปสำรวจเสาแสงได้ทันที แต่เขายังเลือกร่วมสู้อยู่เบื้องหลัง มีความคิดรู้จักรับผิดชอบ

เมื่อเป็นแบบนี้ ตงหยางเลยไม่กล้ารั้งฉินเฟิงไว้ที่นี่เพื่อช่วยเขาปกป้องชายฝั่งทะเลตะวันออกอีก มิฉะนั้น หลังจากเหตุการณ์นี้ มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ทั้งสองจะไม่ได้ร่วมมือกันอีกเลย และเกิดช่องว่างความห่างเหินขึ้น

ฉินเฟิงนำตงหยางเข้ามาด้านในของเขมือบฟ้า

ปัจจุบันภายในเขมือบฟ้า มีผู้ใช้พลังอยู่ไม่กี่คน ฉินเฟิงกระจายเสียงผ่านพลังสมาธิโดยตรง

“ขอให้พวกคุณใช้ตัวเชื่อมมิติ กลับไปยังเฟิงหลีหรือเมืองลาวาเดือดทันทีเพื่อความปลอดภัย”

ไม่กี่คนที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังเป็นช่างเทคนิคของกลุ่มเฟิงหลี พวกเขาไม่แข็งแกร่งอะไรมากมาย เป็นแค่เลเวล D เท่านั้น หากไม่ใช่เพราะประสิทธิภาพของเขมือบฟ้า คนเหล่านี้ไม่มีทางลงทะเลได้ ยิ่งเป็นช่วงวิกฤตเช่นนี้ หากรั้งอยู่พวกเขาอาจตายได้ทุกเมื่อ

ตอนนี้ ที่ท่าเรือเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย เมืองตงไห่ก็ไม่สามารถย้อนกลับไปได้ เป็นธรรมดาที่คนเหล่านี้มีตัวเลือกแค่กลับไปยังรัฐทะเลเหนือ

“รับทราบท่านประธาน”

“ขอท่านประธานแคล้วคลาดปลอดภัย”

หลายคนพยักหน้า นำตัวเชื่อมมิติออกมาแล้วกลับไปยังถิ่นตน

สุดท้ายบนเขมือบฟ้าเหลือแค่ฉินเฟิงกับตงหยาง ฉินเฟิงเปิดใช้งานสิทธิ์อำนาจแรกของเขา หลอมรวมพลังสมาธิเข้าสู่ร่างของเขมือบฟ้าทันที

หากไม่ใช่เพราะมันมีเครื่องจักรติดตั้งเอาไว้เยอะเกินไป เขมือบฟ้ายังสามารถใช้เป็นหุ่นเชิดแห่งความตายแบบปกติได้ แน่นอน ว่ามีแค่พลังสมาธิของฉินเฟิงคนเดียวเท่านั้น ถึงจะมากพอครอบคลุมทั้งเขมือบฟ้า ที่กล่าวมานี้รวมไปถึงระบบอาวุธปืนเช่นกัน

“ลุยกันเถอะ”

ฉินเฟิงเปิดปากของเขา วินาทีต่อมา เขมือบฟ้าก็เริ่มอ้าปากใหญ่ของมัน

สภาพแวดล้อมภายนอก คราคร่ำไปด้วยสัตว์ทะเลกระจุกตัวกันหนาแน่น ทั่วบริเวณใกล้ปาก พวกมันทั้งหมดถูกสูบกลืนเข้ามาโดยเขมือบฟ้า

สัตว์ทะเลเหล่านี้ คือหุ่นเชิดแห่งความตายที่ฉินเฟิงควบคุมมันก่อนหน้านี้ ปัจจุบันเขาถอนการควบคุม ปล่อยพวกมันลงสู่ความตายที่แท้จริง เพื่อดูดซับพลังงาน และเมื่อพวกมันเคยกลายเป็นหุ่นเชิด ดังนั้นสัตว์ร้ายธรรมดาๆเหล่านี้ ย่อมก่อร่างแก่นพลังงานที่ใช้ควบคุม ฉินเฟิงเริ่มเก็บรวบรวมมัน

สรุปโดยสังเขป หลังจากแก้ปัญหาอันตรายได้ระดับหนึ่งแล้ว เขมือบฟ้าก็เริ่มออกเดินทางทันที

แหวกว่ายด้วยความเร็วสูง!

ใช้เวลาไม่ถึงห้านาที คลื่นยักษ์ก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าอีกครั้ง

ทว่าเขมือบฟ้ามิได้ดำดิ่งลงไปใต้น้ำ มันเลือกตรงเข้าบดขยี้คลื่นยักษ์โดยตรง อาศัยร่างมหึมาของตน ไม่หวั่นเกรงคลื่นใด

โครม!

บังเกิดการสั่นสะเทือนดั่งสวรรค์และปฐพีถูกเขย่า เขมือบฟ้าแหวกฝ่าคลื่นยักษ์ พอไปถึงชายฝั่งคลื่นยักษ์คงลดทอนอานุภาพลงหลายส่วน ส่วนตัวมันยังคงมุ่งหน้าต่อไป

ตงหยางขมวดคิ้วด้วยความกังวล แต่สุดท้ายไม่ได้เอ่ยคำใด ทั้งไม่หยุดฉินเฟิง ปล่อยให้เขาจัดการควบคุมไปข้างหน้า

เพราะตงหยางทราบดี ว่าเบื้องหน้า มีสมบัติกำลังเฝ้ารอพวกเขาอยู่!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด