ตอนที่แล้วตอนที่ 104 ระดับสีน้ำเงินขั้นต้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 106 ภูผาลาวา

ตอนที่ 105 หน่วยทหารยักษ์เถื่อน


ตอนที่ 105 หน่วยทหารยักษ์เถื่อน

หลังจากผ่านไปอีกครึ่งวันไนเรลก็ปรับตัวเข้ากับระดับสีน้ำเงินขั้นต้นได้สำเร็จ จากนั้นเขาก็ใช้เวลาอีกหนึ่งวันในการดูดซับแก่นพลังงานที่เหลือทั้งหมด ซึ่งก็ไม่เกินความคาดหมายของไนเรลที่พลังงานจะเพิ่มมาถึง 12600 หน่วยจาก 10500 หน่วยมากกว่าที่คาดการไว้เล็กน้อยเท่านั้น

แต่ทั้งหมดนี้ต้องแลกมาด้วยก่อนพลังงานของระดับ 4 มากกว่า 10 ชิ้น ดูเหมือนว่าถ้าไนเรลต้องการแก่นพลังงานที่มากกว่านี้คงจะต้องไปปล้นคลังเก็บของของพวกยักษ์เถื่อนอีกหลาย ๆ ครั้ง แต่มันก็คงจะไม่ง่ายอย่างที่คิดอีกแล้ว เพราะคลังที่ไนเรลปล้นมานั้นคือคลังที่สร้างไว้ทุก ๆ อุโมงค์หลัก

ดังนั้นนั่นหมายความว่าไนเรลจะต้องไปที่อุโมงค์หลักต่อไปของพวกยักษ์เถื่อน แต่แน่นอนว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะการจะไปที่นั่นจะต้องผ่านกองทัพยักษ์เถื่อนแทบจะเรียกว่าทั้งเผ่าเลยก็ว่าได้ และไนเรลคงไม่โง่เอาชีวิตของตนเองนั้นไปทิ้งอย่างแน่นอน

อีกอย่างตอนนี้ไนเรลก็คิดว่ามันคงถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องไปคิดบัญชีกับอูคาและออกไปจากที่นี่ โลกใต้พิภพแห่งนี้ เพราะดูจากการคาดการของไนเรลตั้งแต่ออกเดินทางมานั้นมันก็เลยเวลาที่เขาบอกกับนิเรียมากแล้ว

หลังจากที่ไนเรลปรับสภาพตัวเองเสร็จ เขาก็ใช้แรงของตนเองเพียงเล็กน้อยผลักประตูหินและเดินออกจากห้องหิน

ไนเรลเดินออกมาไม่ไกลก็มาถึงที่คิงและเด็กทั้งสามคนอยู่ เมื่อทุกคนเห็นไนแลกเปลี่ยนก็ยิ้มออกมา เด็กทั้งสามรู้ว่าถึงภายนอกไนเรลจะดูน่ากลัวที่ก็ไม่ได้ใจร้ายกับพวกตน ดังนั้นพวกเขาจึงเลิกกลัวไนเรลแล้ว

เมื่อเห็นว่าไนเรลเข้ามาใกล้จึงรีบวิ่งไปทักทายทันที

“พี่ชายหายป่วยแล้วใช่ไหมครับ”

“พี่ชายดูแข็งแรงขึ้นมากเลยค่ะ”

ดูเหมือนว่าเด็ก ๆ จะเข้าใจผิดว่าเขานั้นไม่สบายจึงหายไปหายวัน ไนเรลมองไปที่เด็กน้อยทั้งสองคนที่ตอนนี้รูปร่างมีน้ำมีนวลต่างจากตอนแรกพอสมควร หลังจากที่พวกเขาได้กินอาหารอย่างไม่อดยากเหมือนในช่วงแรกอีกแล้ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาจะดูแข็งแรงขึ้นมาก

เด็กสาวที่ทำหน้าที่เป็นพี่สาวรีบเข้ามาพาเด็ก ๆ ออกไปเมื่อเห็นว่าทั้งสองดูจะซนมากขึ้น

ไนเรลไม่ได้ว่าอะไร เขาเพียงแค่หยิบเนื้อแห้งชิ้นเล็ก ๆ ส่งให้ทั้งสองเป็นของกินเล่นจากนั้นก็หันไปพูดกับคิงที่นั่งอยู่ด้านข้างกำลังจัดการขูดเนื้อสัตว์ออกจากหนังสัตว์ เพื่อทำเป็นเสื้อให้กับเด็ก ๆ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นของที่ได้มาจากไนเรลก่อนที่เขาจะแยกตัวออกไป

“คุณกับพวกเด็ก ๆ รออยู่ที่สักสองสามวัน เดี๋ยวผมจะออกไปจัดการสืบเรื่องแถวอุโมงค์ก่อน หลังจากนั้นเดี๋ยวผมกลับมารับ แล้วก็ระวังตัวด้วยอย่าออกไปจากที่นี่ไกลมากนัก” ไนเรลกล่าวเสร็จก็หยิบดาบและมีดออกมาให้กับคิงเพื่อใช้ในการป้องกันตัวเอง

คิงรับมีดจากไนเรลมาและพยักหน้าเป็นการบอกว่าเข้าใจแล้ว คิงรู้ว่าไนเรลคงไปเรื่องที่อันตรายจึงไม่สามารถพาพวกเขาไปด้วย หลังจากมองร่างไนเรลที่หายไปในแนวป่าคิงก็พาเด็ก ๆ เข้าไปหลบในที่ ๆ ปลอดภัย

สองชั่วโมงต่อมาไนเรลเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็วจนมาถึง ณ จุดหนึ่งที่พวกยักษ์รวมตัวกันกลายเป็นจุดแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่

จุดแลกเปลี่ยนพวกนี้เป็นเหมือนกับที่พักของยักษ์เถื่อนที่ต้องการจะออกไปที่อุโมงค์หลัก ต้องบอกก่อนว่ายักษ์เถื่อนที่ออกไปข้างนอกนั้นไม่ได้มีแค่มียักษ์เถื่อนที่ขึ้นตรงกับพวกกองกำลังของเผ่าอัคคี

แต่ยังมียักษ์เถื่อนที่เป็นเหมือนกับนักล่าอิสระอยู่พอสมควร

ไนเรลหาที่มุมหนึ่งที่ซึ่งมียักษ์เถื่อนเดินผ่านทางอยู่บ่อยครั้ง หลังจากที่รออยู่ไม่นานก็มีสองยักษ์เถื่อนที่ใส่ชุดเกราะเดินโซซัดโซเซมาตามทาง ซึ่งดูแล้วเหมือนจะเมาได้ที่แล้ว

เหตุที่ไนเรลเลือกดักตรงนี้ก็เพราะรู้มาจากปากของยักษ์เถื่อนไคที่ไนเรลจัดการเก็บไปแล้วว่ามันจะเป็นเส้นทางเลี่ยงที่ยักษ์เถื่อนใช้บ่อย ๆ ในช่วงออกมาจากค่าย

ขณะที่ทั้งสองตนกำลังเดินอยู่นั้นก็พูดถึงเรื่องของเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น อยู่เช่นกัน ไนเรลที่ได้ยินก็รู้สึกสนใจพอสมควรดังนั้นจึงตามทั้งสองไปอย่างเงียบ ๆ

“เจ้าคิดว่าพวกเราจะตามจับมนุษย์ผู้นั้นมาได้หรือไม่ ถ้าข้าจับได้จะต้องเฆี่ยนตีมันจนตาย เพื่อแก้แค้นให้เหล่าพี่น้องที่ตายไปอย่างแน่นอน” ยักษ์เถื่อนที่ไว้หนวดยาวกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่หยาบคาย ขณะที่กระดกขวดเหล้าที่ตนถืออยู่ไปอีกหลายอึก

“เหอะเจ้าแค่ทรมานมัน แต่ถ้าเป็นข้านะจะจับมันแยกร่างฉีกแขนขาจนมันตาย ฮ่า ๆ” ทหารยักษ์อีกตนที่เดินมาข้อง ๆ กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่อวดเบ่ง ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเสนอวิธีการทรมานไนเรลข่มกันไปมาโดยไม่มีใครยอมใคร

ไนเรลที่แอบฟังอยู่ก็รู้สึกหนังตากระตุกไปมาเล็กน้อย แต่แล้วขณะที่ยักษ์ทั้งสองตนก็พูดถึงเรื่องที่ไนเรลรอคอยสักที

ขณะที่ยักษ์เถื่อนทั้งสองตนเดินแวะเข้าข้างทาง วางบอลแสงลาวาไว้ข้างหลังและจัดการยิงกระตายใส่กำแพงอยู่ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข

“พรุ่งนี้หน่วยของพวกเราจะต้องออกไปตามล่าเจ้านั้นแล้ว ข้าว่าเรารีบกลับหน่อยดีกว่า”

“อืมข้าก็คิดเช่นนั้น เออว่าแต่เจ้าเป็นใคร” ยักษ์เถื่อนผู้ไว้หนวดกล่าวออกมาพร้อมกับหันไปมองไนเรลที่อยู่ด้านของ

“ก็คนที่เจ้าจะไปจับอย่างไง” ไนเรลกล่าวออกมาแบบยิ้ม ๆ แต่สำหรับยักษ์เถื่อนทั้งสองตนแล้วนั้นมันเหมือนกับรอยยิ้มของมัจจุราช

ยังไม่ทันที่ทั้งสองตนจะได้ทำอะไร ไนเรลที่ตอนนี้อยู่ในร่างของยักษ์เถื่อนก็ลงมือเหวี่ยงดาบที่แดงฉานเต็มไปด้วยความร้อนที่เหมือนพึ่งออกมาจากเตาหลอมก็ไม่มีผิดที่อยู่ในมือของไนเรลโจมตีออกไปตัดขาทั้งสองข้างของยักษ์เถื่อนที่ไว้หนวด

ฉึบ!

เสียงของดาบเหล็กผสมโลหะพิภพ ตัดผ่านเกราะเข้าไปจากพลังของไนเรลอย่างง่ายดาย

อ๊าก ๆ!!!

ยักษ์เถื่อนผู้ไว้หนวดตนนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ตอนนี้สติของมันแจ่มชัดเป็นอย่างมาก แม้แต่เหล้าที่ดื่มเข้าไปก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้ทำให้มันเมาได้อีกแล้ว

“เจ้า ๆ เจ้าทำอะไร” ยักษ์เถื่อนอีกตนที่ตกใจกลัวจนแม้แต่กระสุนที่ให้ยิงกระต่ายอยู่ก็หดหายตามปืนไป มันตกใจอย่างมากอยู่ ๆ ก็มีทาสมนุษย์โผล่มาด้านหลังและลอบโจมตีพวกมันผู้เป็นถึงระดับ 3

เมื่อเห็นสภาพเพื่อนของตนที่โดนดาบตัดขาขาดก็ไม่รอช้าหันหลังวิ่งทันที โดยไม่คิดจะอยู่รั้งรอเพื่อนของตนอีกแม้แต่น้อย

“หึ คิดจะหนีหรือ” ไนเรลหายเข้าไปในเงาไปโผล่ขวางหน้ายักษ์ทหารพร้อมกับลูกแตะที่ส่งเข้าไปที่ช่องท้องจนร่างของมันเกราะกลับไปอยู่ที่เดิม

ยักษ์เถื่อนที่โดนแตะหงายท้องอยู่ข้าง ๆ ยักษ์หนวดที่โดนตัดขา ถ้าสังเกตให้ดี ๆ จะเห็นรอยยุบลงของเกราะ

ไนเรเดินมาอย่างไม่รีบร้อนจากนั้นก็จับไปที่ตัวของยักษ์เถื่อนทั้งสองเดินเข้าไปหามุมมืด ๆ แต่แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะหยิบบอลลาวาที่อยู่ตรงพื้นและจัดการเก็บหลักฐานรอบ ๆ จนเหมือนกับว่าที่นี่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

....

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง มุมหนึ่งของถนนแถว ๆ นั้นก็มีซากของยักษ์เถื่อนสองตนที่แทบจะไม่เหลือชิ้นดี แววตาของทั้งสองมืดมัวไร้แสงแห่งชีวิต ไนเรลที่ตอนนี้กำลังเช็ดเลือดออกมามือพลางขมวดคิ้วไปด้วย

“ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้แล้วว่าเราหลุดออกมาแล้ว ไม่ใช่สิพวกมันไม่น่าจะรู้ขนาดนั้น แต่น่าจะรู้แค่ว่าเป็นทาสมนุษย์คนหนึ่งเท่านั้น ดูเหมือนพรุ่งนี้มันจะใช้วิธีการปูพรมค้นหาสินะ ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องจัดของขวัญให้พวกมันซะหน่อยแล้ว” ไนเรลมองไปที่ร่างทั้งสองจากนั้นก็ใช้ความสามารถของ [ร่างกาบหอยแครงปีศาจ F] กินร่างทั้งสอง

“ดูเหมือนว่าจะได้พลังงานไม่ถึงหกสิบหน่วย ดูท่าคงต้องกินพวกระดับ 4 ขึ้นไป” ไนเรลกล่าวเสร็จก็หายเข้าไปในความมืดอีกครั้ง

หลังจากนั้นเช้าวันต่อมาที่อุโมงค์หลัก หมายเลข 3 มียักษ์เถื่อนจำนวนมากกำลังรวมตัวกันอย่างเป็นระเบียบ แยกออกเป็นหน่วย หนึ่งหน่วยย่อยมี 11 คนรวมหัวหน้าหน่วยยักษ์เถื่อนระดับ 4 รวมทั้ง 200 หน่วย ที่มีอูคายักษ์เถื่อนขั้น 5 เป็นผู้บัญชาการ

อูคาเดินออกมาข้างหน้ามองไปที่ยักษ์เถื่อนนับพันธุ์ ใบหน้าของอูคานั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นราวกับใบหน้าของภูมิผีก็ไม่ปาน

“พวกเจ้าคงรู้เรื่องที่มีทาสมนุษย์หนีออกมาและเข้าไปปล้นคลังของพวกเราแล้ว ข้าจะพูดแค่สั่น ๆ นั้นก็คือใครหรือหน่วยไหนก็ตามที่ค้นหา จับตัวหรือฆ่ามันได้ นั้นจะได้รับรางวัลและโอกาสในการเลือนระดับจากข้าอย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเจ้าจงไปไล่ล่าตอนหนูตัวนั้นซะ!!!” อูคาตะโกนออกมาพร้อมกับคำมั่นสัญญานั้นทำให้ทหารยักษ์เถื่อนทุกหน่วยที่เลือดร้อนออกไปไล่ล่าปูพรมในทันที

หลังจากที่อูคามองไปที่หน่วยยักษ์ต่าง ๆ กระจายตัวกันออกไปตัวอูคาก็เดินกลับไปที่พักเพื่อรอฟังข่าว

......

หนึ่งในหน่วยยักษ์เถื่อนที่แยกตัวออกมา พร้อมกับที่ใช้บอลแสงลาวาคนละลูกส่องไปรอบ ๆ หลังจากกระจายตัวออกมาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ระหน่วยก็แยกห่างกันมากขึ้น

“หัวหน้า ท่านว่าที่ท่านอูคาบอกว่ามีทาสมนุษย์หนีออกมาและวางระเบิดฆ่าพวกเราไปกว่า 400 ตนนั้นเป็นความจริงหรือไม่?”

“นั้นนะสิข้าก็สงสัยเช่นกัน เหตุใดถึงมีทาสมนุษย์หนีอยู่ในโลกใต้พิภพได้ หรือท่านอูคาเห็นว่าพวกเราว่างกันจึงสั่งให้มาทำอะไรไร้สาระบบนี้หรอกนะ ท่านหัวหน้า ท่านคิดเหมือนพวกข้าหรือไม่”

ยักษ์เถื่อนทั้งหมดดูเหมือนจะส่งเสียงสนับสนุนทหารยักษ์ผู้ที่กล่าวกันอย่างถ้วนหน้า แต่ดูเหมือนหัวหน้าหน่วยนั้นจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นักจึงกล่าวตักเตือนออกไปในทันที

“ระวังปากของพวกเจ้าหน่อย ถึงกับกล้านินทาท่านอูคา หรือพวกเจ้าอยากโดนโทษทัณฑ์ของกองทัพหลังจากที่กลับไปหรือ” เสียงของหัวหน้าหน่วยกล่าวออกมาด้วยสีหน้าดุดัน

ทหารยักษ์เถื่อนทั้งหมดที่ได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดพากันเงียบปากไม่พูดอะไรอีก

แต่หลังจากเดินมาสักพักพวกเขาก็รู้สึกว่าหน่วยของตนจำนวนมันดูแปลก ๆ ไป

“ทำไมข้ารู้สึกว่าในหน่วยของพวกเราถึงมีคนมากขึ้น” หัวหน้าหน่วยกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่แปลกไป

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด