ตอนที่แล้วEp.666 - สมบัติของเขมือบฟ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปEp.668 - ทัศนคติกลุ่มเฟิงหลี

Ep.667 - ดิ้นรนอย่างมีความหวัง


2/5

Ep.667 - ดิ้นรนอย่างมีความหวัง

เขมือบฟ้าอาละวาดในท้องทะเล ฉินเฟิงไม่ทราบว่าเกิดภัยพิบัติอะไรขึ้นภายนอก แต่เขากับหยูหยางเต๋าที่อยู่ภายใน เห็นได้ชัดว่าได้รับผลกระทบอย่างมาก

อย่างแรกเลยพวกเขาถูกถาโถมโดยแรงกดดันอันน่าหวาดกลัว

แต่ภายใต้แรงกดดันนี้ ฉินเฟิงกับหยูหยางเต๋า ต่างคนต่างพยายามปรับตัวเข้ากับมัน หรืออาจกล่าวว่าจำเป็นต้องปรับตัวก็ได้

ทั้งหน้าของหยูหยางเต๋าผุดพรายไปด้วยเหงื่อเย็น กัดฟันกล่าวออกมา “ก่อนหน้านี้ฉันเคยได้ยินมาว่าเมืองหลวงขององค์กรมืดมีเขตแดนลับพิเศษ สำหรับใช้กักขังสัตว์ร้ายระดับเทวะ เพราะแรงกดดันของสัตว์เทวะสามารถกระตุ้นศักยภาพของผู้คนได้ ช่วยยกระดับพลังสมาธิ เมื่อก่อนไม่เคยเชื่อ แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว”

เขมือบฟ้ายังไม่ถึงระดับสัตว์เทวะ แต่ก็คงน่าหวาดกลัวไม่แพ้กัน!

“เจ้าสิ่งนี้สามารถช่วยกระตุ้นศักยภาพได้อย่างแน่นอน แต่นั่นคงสำหรับบางคนเท่านั้น เพราะส่วนใหญ่ฝืนทนไม่ไหว!”

หยูหยางเต๋าไม่ทราบ ว่าภายใต้แรงกดดันนี้ สภาวะของเขากับฉินเฟิงมันต่างกันโดยสิ้นเชิง

เพราะท้ายที่สุดแล้ว ฉินเฟิงไม่เพียงกำลังปลดปล่อยปราณกำลังภายใน แต่เขายังปลดปล่อยรูนมืดออกไปข้างนอกอีกด้วย ใช้กระทั่งโล่พลังสมาธิปิดกั้นแรงกดดันอันน่าหวาดกลัวนี้ ด้วยศักยภาพพลังสมาธิระดับ SS ของเขา ยังแทบไม่สามารถรับมือกับมันได้

หากแรงกดดันนี้ตกลงบนร่างของหยูหยางเต๋าตรงๆ ฉินเฟิงเชื่อสนิทใจ ว่าสมองของอีกฝ่ายคงแหลกเละ จบชีวิตลงในทันที

ช่วงเวลานี้ ฉินเฟิงหนึ่งทางคอยป้องกัน อีกหนึ่งทางพยายามขุดรูลึกลงไปในผนังกระเพาะอาหาร แล้วเขายังค้นพบว่าความสามารถในการรักษาตัวของเขมือบฟ้าช่างยอดเยี่ยมนัก สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ว่าเลือดเนื้อเกิดการดิ้นพล่าน พยายามขดตัวปิดบาดแผลอย่างรวดเร็ว จนทางเข้าเดิมถูกปิดลง กล่าวได้ว่าฉินเฟิงถูกขังอยู่ภายในเนื้อของมันเป็นที่เรียบร้อย

“ผมกังวลว่าถ้าเขมือบฟ้าคำรามอีกครั้ง คุณจะยังพอทนได้ไหม?” ฉินเฟิงถาม

“ถ้านายสัญญาว่าจะขุดผ่านร่างของเขมือบฟ้า จนสามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้จริงๆ ฉันจะทนให้ดู!” หยูหยางเต๋าเรียกกำลังใจให้ตัวเอง ตอบกลับฉินเฟิง

ก่อนหน้านี้เขามองไม่เห็นความหวังใดๆ ดังนั้นหยูหยางเต๋าเลยไม่คิดดิ้นรน ได้แต่เฝ้ารอเวลาตาย แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นแสงสว่างแล้ว เป็นธรรมดาที่เขาจะไม่ยอมแพ้

ฉินเฟิงส่ายหัว “ต่อให้ขุดจนหลุดออกไปข้างนอกได้ พวกเราก็ไม่รอดชีวิตอยู่ดี”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นั่นก็จริง เพราะเมื่อออกไปข้างนอก พวกเราจะไม่สามารถทำร้ายเจ้าเขมือบฟ้าได้แม้แต่ปลายขน” หยูหยางเต๋าหัวเราะร่า แล้วกล่าวเสริมว่า “แต่ในความเป็นจริง สถานการณ์ของพวกเราในตอนนี้บอกไปคงไม่มีใครเชื่อ เพราะผู้ใช้พลังมากมายที่ถูกกลืนกินโดยเขมือบฟ้า ตกลงสู่ท้องของมัน ทั้งหมดล้วนถูกกัดกร่อน ไม่มีโอกาสรอด แต่ตอนนี้พวกเรากลับยังรอดชีวิตมาได้!”

เมื่อเอ่ยถึงจุดนี้ หยูหยางเต๋าก็มองไปทางฉินเฟิง ในแววตาทอประกายประหลาดใจ ขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยความชื่นชมจากใจจริง

เพราะสถานการณ์สามารถดำเนินมาถึงจุดนี้ได้ ทั้งหมดเป็นฝีมือของฉินเฟิง

หยูหยางเต๋าถูกเขมือบฟ้ากลืนในคำเดียว ผลลัพธ์น่ะหรือ? เมื่อถูกส่งมายังกระเพาะ รูนมืดก็เริ่มกัดกร่อนรูนลมของเขา เจ้าตัวไม่อาจต้านทานได้ และเกรงว่าใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที คงตกตายด้วยความสิ้นหวัง

ตรงกันข้ามกับฉินเฟิง กระทั่งถึงปัจจุบันก็ยังสามารถรอดชีวิตมาได้ เขาพยายามดิ้นรน และปราณกำลังภายในคล้ายไม่ถดถอยลงเลย ถ้าที่ฉินเฟิงบอกว่าด้วยกำลังภายในของตนสามารถยื้อได้สิบวันถึงครึ่งเดือนจริงๆล่ะก็ ..

หยูหยางเต๋าสารภาพตามตรง เขาไม่ทราบจริงๆ ว่าสมควรให้คำนิยามฉินเฟิงอย่างไรดี

‘ถึงก่อนหน้านี้จะไม่เคยได้ยินเรื่องของฉินเฟิงมาก่อน แต่ถ้าสามารถออกไปได้จริงๆ ฉันจะต้องตรวจสอบประวัติของเขาให้จงได้ แล้วถ้าเขาสามารถไปถึงเลเวล B ฉันจะเสนอตัวเป็นลูกน้องแก่เขา ตอบแทนน้ำใจในการช่วยเหลือครั้งนี้’

หยูหยางเต๋ากำลังคิดจะเป็นม้าเป็นวัว ชำระหนี้บุญคุณในครั้งนี้

ขณะเดียวกัน ฉินเฟิงชักมีดกษัตริย์ครามออกมาอีกครั้ง เขมือบฟ้าสะดุ้งสะบัดตัว ทั้งสองเสียหลักล้มลงทันที พื้นที่รอบๆเกิดการสั่นสะเทือน กระทั่งเลือดเนื้อก็เริ่มบีบรัดตัวมากขึ้น

“เทคนิคล่องนภา!”

หยูหยางเต๋าใช้ออกด้วยอบิลิตี้ ล่องนภาเป็นอบิลิตี้ระดับต่ำ แต่ในเวลานี้ มันกลับมีประโยชน์เป็นอย่างมาก

รูนลมห่อหุ้มทั้งสอง สนับสนุนให้ร่างของพวกเขาลอยในอากาศ แค่นี้การสั่นสะเทือนรอบๆ ก็ไม่มีผลต่อพวกเขาอีกต่อไป

ในกรณีเดียวกัน มันยังช่วยให้ฉินเฟิงสามารถรักษาสมดุลให้กลับมามั่นคง มีดกษัตริย์ครามตวัดออกไปอีกครั้ง

มีดกษัตริย์ครามกวัดแกว่งดั่งพายุทอร์นาโด ทั้งสับทั้งแล่เนื้อเขมือบฟ้าออกมา ยังไม่พอ ฉินเฟิงไม่คิดทิ้งไปเปล่าๆ เขาเก็บเลือดเนื้อทั้งหมดที่หั่นเข้าไปในอุปกรณ์รูนมิติของตน

และยังกระทำการที่บ้าคลั่งยิ่งกว่า เขาใช้ออกด้วยอบิลิตี้ไฟ ย่างเนื้อจนสุก หั่นแบ่งแล้วโยนไปให้หยูหยางเต๋า

“กินมันซะ นั่นน่าจะส่วนเพิ่มแรงให้กับคุณได้” ฉินเฟิงกล่าว

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ในเมื่อมีเนื้อจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล A มาเคาะประตูถึงที่ ฉันก็ขอน้อมรับไว้ด้วยความยินดี!” หยูหยางเต๋าหัวเราะลั่น

ปัจจุบันห้วงอารมณ์ของเขาได้อำลาความสิ้นหวังในตอนแรกไปแล้ว เจ้าตัวกระทั่งแสดงความป่าเถื่อนเล็กน้อย คว้าชิ้นเนื้อ อ้าปากกัดกระชากอย่างมูมมาม

เพียงครั้งแรกที่เนื้อไหลลงคอ เขาสัมผัสได้ถึงกระแสพลังงานระเบิดออกมาจากในร่างกาย พลังงานของเขมือบฟ้า ช่วยให้หยูหยางเต๋ารู้สึกสดชื่น ปลอดโปร่งอย่างบอกไม่ถูก

ความรู้สึกอ่อนล้าที่เพิ่งถูกรูนมืดกัดกร่อนก่อนหน้านี้ คล้ายหายเป็นปลิดทิ้งพร้อมกับชิ้นเนื้อที่ลงกระเพาะ รู้สึกดีขึ้นหลายส่วน

ฉินเฟิงเอง เมื่อได้กลิ่นอันหอมหวน ก็ตัดสินใจสวาปามมันลงไปเช่นกัน ทันใดนั้นเขาบังเกิดความรู้สึกว่ากำลังลิ้มรสอาหารอันโอชะที่สุดของโลกใบนี้

ก่อนเกิดใหม่ ฉินเฟิงไม่เคยกินเนื้อสัตว์ทะเลที่หรูหราเป็นอันดับต้นๆขนาดนี้มาก่อน

แต่ตอนนี้ เมื่อได้รับประทานลงไปคำหนึ่ง ก็คล้ายเกิดความรู้สึกว่าเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ ฉินเฟิงกัดกินมันมากขึ้น กระชากเนื้อแล้วกลืนลงท้องไม่หยุด

ประเด็นก็คือ ตัวเขาน่ะไม่เหมือนกับหยูหยางเต๋า ระดับการดูดซึมของฉินเฟิงเรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว หลังจากกินเนื้อเหล่านี้แล้ว เขาก็ได้รับพลังงานกลับมา กระทั่งกำลังภายในยังได้รับฟื้นฟูเล็กน้อย ในส่วนของรูนมืดยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง!

ช่วงเวลาค่อยๆไหลผ่านไป ฉินเฟิงยิ่งมายิ่งเชือดเฉือนรุนแรง!

ขณะเดียวกัน ภายในทะเลนรก พายุอันน่าสะพรึงได้ก่อตัวขึ้น เขมือบฟ้าดิ้นพล่าน กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันพลิกตัวหมุน แหวกว่ายไปมาอย่างรวดเร็ว ก่อกำเนิดคลื่นยักษ์และน้ำวนในทะเล กระทั่งพายุทอร์นาโด ฯลฯ ตามมาไม่หยุดยั้ง

ส่วนผู้ใช้พลังบางคนที่โชคร้าย เมื่อเจอสถานการณ์นี้เข้า ก็เร่งถอยหนีอย่างบ้าคลั่ง

“นั่นเขมือบฟ้า!”

“ชิบเป๋งแล้ว รีบหนีเร็ว!”

“ล่าถอยเต็มกำลัง! เปิดใช้งานโล่พลังงาน 200% เปิดใช้งานความเร็ว 200%! เร่งมือเร็วเข้า”

เสียงแผดร้องอันน่าหวาดกลัว ก้องกังวานอย่างต่อเนื่อง

“ฮู้มมมมมมม!”

เสียงคำรนของเขมือบฟ้า แรงกดดันอันน่าสะพรึงได้ปกคลุมไปทั้งสวรรค์และปฐพี เรือดำน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด มือปืนเลเวล C เลือดทะลักออกจากทวารทั้งเจ็ดในทันที พวกเขาอ้าปากค้าง ตาเหลือกหมดสติไป เหลือเพียงเลเวล B ที่ครอบครองพลังสมาธิแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย ที่ยื้อสติตนเองเอาไว้ได้

พวกเขาฝืนทน และเร่งควบคุมเรือหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

และโชคดีก็คือ เขมือบฟ้ามิได้ไล่ตามพวกเขาไป เลยรอดพ้นจากความตายมาได้

เมื่อหลุดพ้นระยะแรงกดดัน เลเวล C ก็กลับมาได้สติ ทั้งหมดโผเข้ากอดกันและกัน ร้องไห้ระงม บังเกิดความยินดีในเวลาเดียวกัน

“บอส ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เจ้าเขมือบฟ้าตัวนั้น เสียงร้องของมันดูเหมือนกำลังโหยหวนด้วยความเจ็บปวด”

“นั่นสิ ฟังจากเสียง เหมือนมันกำลังเจ็บปวดมาก”

“เป็นไปได้ไหมว่าเขมือบฟ้าจะถูกสัตว์ทะเลต่างมิติโจมตี? นรกเถอะ! ยังมีสัตว์ร้ายที่ทรงพลังยิ่งกว่าเขมือบฟ้า ‘ร้อยกรงเล็บ’ และ ‘ปีศาจขุนเขา’ อีกหรือ?”

เลเวล B ที่ฟังคำสนทนาของคนเหล่านั้น ส่ายมืออย่างอ่อนแรงและกล่าวอย่างอ่อนล้าว่า “ฉันไม่เห็นว่ามันถูกตัวอะไรโจมตี และไม่ต้องการที่จะเห็นด้วย แค่พวกเรารอดมาได้ ก็ถือว่าสวรรค์โปรดแล้ว อย่ามัวขบคิดถึงเรื่องไร้สาระอยู่เลย รีบเดินทางกลับเถอะ ก่อนที่จะไม่ได้กลับกัน”

เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาเพิ่งเปิดใช้งานเรือดำน้ำเต็มกำลัง พลังงานของมันใกล้หมดแล้ว!

อีกด้านหนึ่ง เรือดำน้ำเฟิงหลี กับเรือดำน้ำของหยูหยางเต๋า ทั้งสองได้กลับมาถึงท่าเรือเมืองตงไห่

หลังออกจากทะเลนรก ใช้เวลาหาสัญญาณสักพัก เหอเจี๋ยก็ได้ส่งข่าวแก่หม่าหลาน

แต่เมื่อจอดเทียบชายฝั่ง เหอเจี๋ยกลับพบว่าเรือเหาะของเฟิงหลีที่ฉินเฟิงเรียกมายังไม่จากไป คนของเฟิงหลีเองก็วุ่นกับงาน ไม่ได้หยุดพัก

เดิมทีเธอคิดว่า หลังจากการตายของฉินเฟิง กลุ่มใหญ่ของเขาจะแตกกระจายไปคนละทิศทาง แบบนี้เกรงว่าพวกเขาคงยังไม่ทราบข่าวร้าย!

ด้วยเหตุนี้ เหอเจี๋ยพยายามตั้งสติปรับอารมณ์ เร่งก้าวไปข้างหน้า ตรงเข้าหาโกวก๋วน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด