ตอนที่แล้วบทที่ 91 ป่าไม้ลวงตาคร่าชีวิต
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 93 อย่าได้ออมมือ

บทที่ 92 ของขวัญพบหน้ากันครั้งแรก


บทที่ 92 ของขวัญพบหน้ากันครั้งแรก

กุนไท่นึกสงสัยในตัวตนของอีกฝ่าย แท้จริงแล้วชายชราผู้นี้ถูกขังอยู่ในป่าแห่งนี้ได้อย่างไรกัน? เขาเป็นใครกันแน่? แม้จะสงสัยแต่กุนไท่ก็รู้ว่าไม่สมควรที่จะถามออกไป หากอีกฝ่ายอยากจะบอกก็ต้องรอถึงเวลาที่เหมาะสม

“ข้าจะเฝ้าบริเวณนี้ไว้เจ้าพักผ่อนได้ตามสบาย!”

ผู้อาวุโสโต่งกล่าวจบก่อนจะอันตรธานหายไป กุนไท่พยายามติดต่อกับกุนหยูอีกครั้งทว่าผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิมจนเขาเริ่มเป็นกังวลขึ้นมา ชายหนุ่มเลิกคิดเกี่ยวกับพี่ชายของตนก่อนจะหยิบแก่นปีศาจกลืนกินชีวิตออกมาตรวจสอบ

กลิ่นอายมารที่อัดแน่นภายในชวนรู้สึกขยะแขยง เขาสังเกตดูแต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์สำหรับเขาได้ สำหรับสมาคมชาวยุทธ์สมาชิกที่ทำผลงานดีจะได้รับกันทุกคน มันถือว่าไม่ได้หายากหรือมีค่าแต่อย่างใด ในตอนแรกเขาคิดว่ามันจะมีประโยชน์แต่มันกลับไม่มีประโยชน์อะไรเลยจึงตัดสินใจทำลายมันทิ้ง

กุนไท่นั่งลงขัดสมาธิบนหินแล้วบ่มเพาะพลัง ยามนี้เขาอยู่ในโลกแห่งความฝันต่อไปก็ไม่ได้มีประโยชน์แล้ว จึงคิดว่าจะบ่มเพาะที่นี่ต่ออีกสักเดือนแล้วค่อยกลับ ตอนนี้เขาใช้เวลาอยู่ที่นี่ถึงสองเดือนเมื่อกลับโลกแห่งความจริงไปแล้ว จะทำให้เหลือเวลาในการเดินทางถึงทวีปทรายทมิฬอีกเพียงเดือนเดียว

“ที่แห่งนี้มีความลับอะไรซ่อนไว้อยู่กันแน่!? เหตุใดการบ่มเพาะที่นี่ถึงได้เร็วกว่าข้างนอก ถึงจะไม่ได้เห็นผลมากนัก แต่ก็ดีกว่าข้างนอกอย่างน้อย 2 ใน 10 ส่วน!”

กุนไท่รู้สึกประหลาดใจเมื่อรู้ว่าที่นี่ช่วยฝึกฝนได้เร็วกว่าข้างนอกนั้น แต่เขาก็ข่มความตื่นเต้นของตนเองไว้ก่อนจะบ่มเพาะต่อไป

หนึ่งเดือนผ่านไป

ความแข็งแกร่งของชายหนุ่มเพิ่มมากถึงหลายส่วน หากเขาสู้กับชายผอมสูงกับชายเตี้ยดำอีกครั้ง เขามั่นใจว่าสามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างง่ายดาย! แต่หากเจอกับปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นกลางที่เป็นอัจฉริยะ เขาก็คงทำได้แค่หนีเท่านั้น

“ขอบพระคุณผู้อาวุโสมาก ได้เวลาที่ข้าต้องไปแล้ว!”

กุนไท่ลุกขึ้นยืนพร้อมกับโค้งคาราวะไปโดยที่ไม่ได้เห็นชายชรา จากนั้นเขาก็ออกจากป่าไม้ลวงตาคร่าชีวิตโดยที่ไม่พบสัตว์อสูรสักตนเดียว กุนไท่รู้ได้ทันทีว่าเป็นเพราะผู้อาวุโสโต่งเป็นแน่ ในตำรากล่าวเอาไว้ว่าในป่าแห่งนี้ สัตว์อสูรที่อ่อนแอที่สุดนั้นอยู่ในระดับทลายขอบเขตมนุษย์!

กุนไท่ใช้เวลาเดือนเดียวในการไปหาผู้อาวุโสถาง ที่ได้ตกลงกับนางเอาไว้ว่าจะพานางออกไปด้วย!

“เจ้ามาแล้ว!”

ถางเสี่ยวหลินดูตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อเห็นกุนไท่ปรากฏตัวขึ้น

“ได้เวลาแล้วผู้อาวุโส สงครามครั้งนี้คงต้องหวังพึ่งความสามารถของท่านด้วย!”

กุนไท่ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับใช้พลังจิตและพลังปราณครอบคลุมร่างของนางเอาไว้ ทำให้ทั้งคู่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอบ!

ณ โลกแห่งความจริง

กุนไท่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นว่าอยู่ในห้องของตนเองก่อนจะออกจากห้องไป ตอนนี้กุนไท่ต้องการไปหาบิดาของตนเพื่อนำทรัพยากรไปให้เหล่าผู้อาวุโสอีกด้วย

ถางเสี่ยวหลินรู้สึกแปลกใจและตกใจ นางไม่เคยเห็นค่ายกลเคลื่อนย้ายที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน นางตามหลังกุนไท่ไปพลางมองซ้ายมองขวาด้วยความสนอกสนใจ นางปรากฏตัวขึ้นที่ใดก็ไม่ทราบ แต่ระหว่างเดินนั้น กุนไท่ได้อธิบายทุกอย่างให้นางฟัง เรื่องของสำนัก เรื่องของสงคราม รวมถึงเรือลำนี้อีกด้วย!

นางตกตะลึงกับทุกสิ่งที่ได้ยิน นี่มันราวกับเป็นอีกโลกหนึ่งเลยด้วยซ้ำ แม้สำนักลิขิตสวรรค์จะไม่ได้แข็งแกร่งเทียบเท่ากับนิกายอาชาหมื่นลี้แต่ก็ไม่ได้ด้อยกว่าเท่าใดนัก แท้จริงแล้วสำนักลิขิตสวรรค์ไม่ได้ด้อยไปกว่านิกายที่นางเคยอยู่อาศัยเลย

ภายใต้การนำของกุนไท่ ทั้งสองใช้เวลาไม่นานก็มาถึงห้องพักบิดาของตน เขาได้เคาะประตูเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่ามีคนมา

ก๊อก ก็อก!

“เข้ามาได้!”

เสียงของกุนจวินดังขึ้น ประตูเปิดออกพร้อมกับปรากฏเงาร่างสองร่างขึ้นมา เงานั้นคือกุนไท่และถางเสี่ยวหลิน!

“คาราวะท่านพ่อ!” กุนไท่ทักทายบิดาของตน

“คาราวะท่านจ้าวสำนัก!”

ถางเสี่ยวหลินโค้งคำนับกุนจวินด้วยเช่นเดียวกัน นี่คือคนที่นางจะต้องให้ความเคารพต่อจากนี้ นางจะต้องไม่เสียมารยาทต่อบุคคลที่อยู่เบื้องหน้า

“ไท่เอ่อร์คนข้างๆเจ้าเป็นใครรึ?”

กุนจวินรู้สึกสงสัยในตัวตนของสตรีผู้นี้

“ท่านพ่อ! นี่คือปรมาจารย์แกะสลักที่หาได้ยาก นางมีชื่อว่าถางเสี่ยวหลิน ต่อไปนี้นางจะมาอยู่ในสำนักลิขิตสวรรค์ด้วย”

“ปรมาจารย์แกะสลัก? ขออภัยที่เสียมารยาทต่อท่านด้วย! ข้ายินดีต้อนรับท่านปรมาจารย์!”

กุนจวินรู้สึกประหลาดใจ มันยิ่งทำให้รู้สึกเหมือนไม่ได้รู้จักกับบุตรของเขาผู้นี้มากพอเลย แม้ว่าจะสงสัยใคร่รู้แต่ก็ไม่อยากทำให้บุตรชายต้องลำบากใจ เมื่อถึงเวลาของมันแล้วกุนไท่จะบอกเล่าด้วยตัวของเขาเอง

“คาราวะท่านจ้าวสำนักกุน! ข้าแซ่ถาง นามเสี่ยวหลิน นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปข้าจะขอเข้าร่วมกับสำนักลิขิตสวรรค์!”

ถางเสี่ยวหลินก้มตัวลงอย่างสง่างามกุนจวินพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม การที่ได้ปรมาจารย์แกะสลักมาเข้าร่วมด้วยถือเป็นโชคเลยก็ว่าได้ เขารู้สึกตื่นเต้นในใจก่อนจะกลับมาสงบลงอีกครั้งแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มแย้ม

“นี่คือของขวัญครั้งแรกที่พบเจอกัน”

“ขอบพระคุณท่านจ้าวสำนักมาก”

ถางเสี่ยวหลินนางรู้สึกดีใจก่อนจะรับโอสถที่อยู่ในมือของอีกฝ่ายไป ด้วยประสบการณ์ของนางโอสถที่อีกฝ่ายให้มาล้ำค่ามาก นางติดอยู่ขอบเขตปรมาจารย์ยุทธ์ขั้นสูงสุดมาเกือบสิบปีแล้ว

หากนางกลืนมันลงไปมันทำให้นางทะลวงเข้าสู้ขอบเขตยอดฝีมือได้อย่างแน่นอน การที่ได้ติดตามกุนไท่มานั้นถือได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง!

โอกาสก็เหมือนสายลมที่พัดผ่านมา แล้วก็พัดผ่านไป คว้าได้เราก็ได้ คว้าไม่ได้เราก็อด!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด