ตอนที่แล้วบทที่ 3 ผู้สืบสายเลือดของไวท์เคานต์รากันต์ (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 5 ผู้สืบสายเลือดของไวท์เคานต์รากันต์ (4)

บทที่ 4 ผู้สืบสายเลือดของไวท์เคานต์รากันต์ (3)


บทที่ 4 ผู้สืบสายเลือดของไวท์เคานต์รากันต์ (3)

ในวันรุ่งขึ้น เซย์ม่อนไม่สิ ลุคก็ยังไม่สามารถขจัดความขุ่นมัวที่อยู่ในจิตใจของเขาได้

เขามาเดินเล่นในสวนเพื่อบรรเทาความโกรธให้เย็นลง ในขณะนั้นเองเขาก็ได้เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินมาทางเขา

หนึ่งในนั้นคือคนรับใช้ของตระกูลรากันต์และหัวหน้าพ่อบ้านฮานส์ ส่วนอีกคนคือชายหนุ่มร่างอ้วนที่มีท่าทางหยิ่งผยองและผู้คุ้มกันของเขา

มันดูเหมือนไม่สิ่งใดที่จะสามารถทำให้เขาหวาดกลัวได้ และท่าทางการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็ดูเป็นอะไรที่ขัดหูขัดตา

“ข้าบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้ นายน้อยยังคงป่วยอยู่นะ”

“อย่าคิดจะมาหยุดข้าให้ง่าย ข้าจะไม่เชื่อจนกว่าจะได้เห็นเขาด้วยตาของตัวเอง.. โอ้นั่นไงๆ”

เมื่อชายหนุ่มเห็นเซย์ม่อนเข้า เขาก็ดูดีใจอย่างมาก มันเหมือนกับหมาป่าที่ได้พบกับเหยื่ออันโอชะของมัน

เด็กหนุ่มผลักคนรับใช้ของตระกูลรากันต์ออกและรีบเดินตรงเข้ามาหาลุค

“เป็นอย่างไรบ้างขอรับนายน้อย?”

“อะไรของมันวะ?”

เมื่อเห็นสายตาของเซย์ม่อนที่มองมาอย่างรำคาญ ชายหนุ่มก็เริ่มมีท่าทีไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะเริ่มกล่าวแนะนำตัวเอง

“ท่านไม่คิดว่าจะเจอข้าใช่ไหมละ? ข้าเองเทริน ผู้จัดการของบริษัทอาลอน”

“บริษัท? นี่ข้าต้องให้ความสนใจเจ้าด้วยเหรอ?”

ลุคมองไปยังฮานส์ด้วยสายตาที่ไม่แยแส มันเหมือนกับจะบอกเขาเป็นนัยๆว่า ให้เอามันไปดูแลแทนเขาที

แต่เทรินยังคงดื้อดึง

“หึๆ ท่านต้องสนใจมันอย่างแน่นอน เพราะท่านได้ทำการกู้เงินไป 30,000 เปโซ เพื่อทำการพัฒนาเหมืองในปีที่แล้วยังไงล่ะ และกำหนดชำระหนี้ก็เหลือเพียงแค่อีก 1 เดือนเท่านั้น” เทรินกล่าวขณะที่กำลังดึงกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาให้พวกเขาดู

มันคือโฉนดเงินกู้

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของลุคยังคงนิ่งสงบและไม่แยแสต่อสิ่งใดเหมือนเคย เงิน 30,000 เปโซอาจจะเป็นจำนวนเงินที่มาก แต่มันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่มากมายเลยเมื่อเทียบกับสถานะครอบครัวของเขา

“ข้ามาที่นี่เพื่อแจ้งว่าคฤหาสน์แห่งนี้ถูกวางไว้เพื่อเป็นหลักประกันแน่นอนว่าหากท่านคิดว่ามันเป็นอะไรที่ยากที่จะจ่ายหนี้ให้ทันกำหนด ท่านก็สามารถที่จะมอบคฤหาสน์หลังนี้ให้กับข้าได้เลย”

“ข้าไม่รู้และไม่สนด้วย ไปถามพวกคนรับใช้เอาสิ”

แน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่น่ารำคาญ แต่การตัดสินใจของเขาก็เป็นอะไรที่ถูกต้อง  พ่อแม่ของลุคนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนที่เขายังเป็นเด็กแล้ว  มันทำให้เขาต้องรับผิดชอบอสังหาริมทรัพย์มากมายตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก

“ในเมื่อนายน้อยพูดออกมาแบบนี้ เจ้าคิดว่ายังไงละ เจ้าสามารถที่จะจ่ายได้ทันภายใน 20 วันไหม?”

เหงื่อเย็นเริ่มไหลออกมาจากศีรษะที่ล้านของ ดิคสัน ซึ่งเป็นคนจัดการเรื่องที่ดินของตระกูล

เทรินเริ่มจ้องเขาตาเขม่งและพูดขึ้นเสียงดัง

“ถ้าอย่างนั้นแล้วข้าก็ขอรับหลักประกันนี่แทนเลยก็แล้วกัน แม้ว่ามันจะไม่ได้มีค่าเหมือนเมื่อก่อนแต่ตอนนี้ข้าก็ยินดีที่จะรับมันเอาไว้”

“ชิ ถ้าเจ้าต้องการมันมากก็เอาไปเลย”

“ไม่ เรื่องแบบนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้น!”

ชายวัยกลางคนรู้สึกประทับใจในชายที่สวมเครื่องแบบอัศวินเป็นอย่างมากที่เขากล้าคัดค้านขึ้นมาแบบนั้น

“ยังไงที่ดินแห่งนี้ก็กำลังจะถูกกองกำลังติดอาวุธและกิกันท์เข้ายึดภายใน 3 ปี อย่างนั้นแล้วใครมันจะไปอยากซื้อที่ดินผืนนี้กัน? ท่านจะยอมก้มหัวให้กับราชวงศ์ข้างเคียงอย่างนั้นเหรอ?”

ในปัจจุบันแม้จะผ่านไปกว่า 500 ปีหลังจากการตายของเซย์ม่อน แต่ความสำคัญของชื่อเสียงและเกียรติยศก็ยังคงเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่ และเมื่อพูดถึงการรักษาความปลอดภัย พลังของกิกันท์ก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงของประดับที่จะซื้อมาขายไปได้ง่ายๆ

“อ่าโอเคๆ ข้าจะไม่ขายกิกันท์หรอกเพราะงั้นสบายใจได้”

ในเวลานั้นเอง คนรับใช้อีกคนก็เสนอวิธีแก้ปัญหาและข้อเสนอ

“แล้วการเก็บภาษีละ...”

“นี่เจ้าไม่รู้รึไงว่าทุกวันนี้ผู้คนใช้ชีวิตกันยังไง ถ้าพวกเขาเลือกที่จะย้ายออกไปแทนที่จะจ่ายละ เจ้าจะมีแผนรับมือยังไงละ?”

ที่ดินของไวท์เคานต์รากันต์นั้นตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลจากตัวจักรวรรดิ แม้ว่าจะมีพื้นดินที่กว้างใหญ่แต่ที่ดินส่วนมากก็เป็นที่รกร้างเนื่องจากเมืองนี้มีประชากรเป็นจำนวนน้อย มันจึงทำให้รายได้จากการเก็บภาษีน้อยตามไปด้วย

“ถ้ายังงั้นแล้วเราก็ควรที่จะขายกิกันท์ไหม?”

“แน่นอนว่าไม่!”

ลุคกำลังนั่งอยู่บนม้านั่งขณะที่มองดูเหล่าคนรับใช้พูดคุยกันหาทางแก้ปัญหากัน

“หึ บางทีฉันควรเข้าไปดูตัวบ้านซักหน่อย”

ลุคกำลังเดินเข้าไปยังบ้านของรากันต์ ชายผู้ปลิดชีพของเขา

ในตอนนั้นเอง เทรินก็เริ่มเบื่อที่จะนั่งฟังพวกคนรับใช้ที่พยายามจะหาทางแก้ไขกัน

“นี่ทุกคน ถ้าสิ่งนั้นและสิ่งนู้นมันไม่เวิร์ค แล้วทำไมพวกคุณถึงไม่ลองสิ่งนี้ดูละ”

“อะไร?”

“ข้าจะยอมรับข้อเสนอทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคฤหาสน์หรือกิกันท์ แต่ข้าต้องการให้ครอบครัวของนักรบผู้ยิ่งใหญ่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องทางการเงินของบริษัทเราสักหน่อย”

แม้ว่าชื่อเสียงของอัศวินของรากันต์จะไม่ได้ส่งผลอะไรมากนักต่อผู้คน แต่มันก็ยังคงสร้างผลกระทบอย่างมากต่ออัศวินและผู้ที่อยากจะเป็นอัศวิน

อัศวินส่วนใหญ่นั้นมีความฝันแบบเดียวกันเมื่อได้ยินตำนานของรากันต์ ชายผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเอาชนะราชาปีศาจและกองทัพแห่งความมืดของมัน

“เอาแบบนี้แล้วกัน ทำไมพวกท่านถึงไม่ส่งสิ่งนั้นมาให้ข้าแทนล่ะ?”

“สิ่งนั้น?”

สายตาของทุกคนพุ่งตรงไปยังทิศทางที่นิ้วของเทรินชี้ไป

มันคือปราสาทหอคอยขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขาซึ่งอยู่ไม่ไกลมากจากที่นี่ ปราสาทแห่งนี้เดิมทีคือบ้านของเซย์ม่อนที่ถูกรากันต์ยึดไปและตั้งชื่อใหม่ให้กับมันว่า “ปราสาทของราชาปีศาจ”

“ก็ดีเหมือนกัน ถ้ามันเป็นปราสาทนั่น..”

“อืม ช่วงนี้ผู้คนที่มาเข้าชมก็มีจำนวนน้อยลงซะด้วยสิ”

“ดี มันดีกว่าการยกกิกันท์หรือคฤหาสน์ให้เป็นร้อยเท่าเลย”

นอกเหนือจากฮานส์และอีกสองสามคนแล้ว ทุกคนล้วนเห็นด้วยกับการมอบปราสาทนั่นให้กับเทริน

นอกจากนี้เทรินยังคงกล่าวต่อ

“หากท่านมอบปราสาทและที่ดินใกล้เคียงให้กับบริษัทของเรา เราจะช่วยเหลือคุณในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเข้าชมปราสาทราชาปีศาจ ซึ่งนั่นจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นและทำให้พวกคุณได้ประโยชน์จากเหล่านักท่องเที่ยวไปด้วยยังไงล่ะ”

และในขณะนั้นเอง

“หึ ไอ้เวรนี่!”

เสียงตะโกนดังออกมาจากบุคคลที่พวกเขาคาดไม่ถึง ลุค! ใบหน้าของเขาในตอนนี้ดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก เขาเดินตรงเข้าไปหาเทริน คว้าคอเสื้อของเขาและซัดหน้าของมัน

การกระทำนี้ออกมาจากจิตวิญญาณของเซย์ม่อน ชายผู้เลือกเดินในเส้นทางแห่งความมืดด้วยเหตุผลเพียงเหตุผลเดียวนั่นคือ

“การแก้แค้น!”

เพจ : นอนน้อยโนเวล

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด