ตอนที่แล้วระบบใช้จ่ายตอนที่294
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไประบบใช้จ่ายตอนที่296

ระบบใช้จ่ายตอนที่295


บทที่ 295: นี้เป็นการบีบบังคับ?

บ้าไปแล้ว!!!!

หงต้าหลี่รู้สึกราวกับว่ามีอัลปาก้าหมื่นตัวกําลังทะลุหัวใจของเขา เขารู้สึกโกรธ

เหตุผลที่พ่อของหลินหยูหยินเข้าหาเขาแบบนี้ ก็เพราะอยากขอให้เขามีลูกกับหลินหยูหยิน

นี้มันสถานการณ์อะไร?!

แม้ว่าพ่อของหยูหยินมีเหตุผลเพียงพอและฉันเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดที่จะทําเช่นนั้น แต่มันไม่ได้ผิดที่จะถามคําถามดังกล่าวตรงไปตรงมาใช่ไหม? ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นสุภาพบุรุษ! เขาพยายามจะล่อลวงฉันให้เป็นอาชญากรรมงั้นเหรอ?

แม้ว่าความคิดของเขาจะปั่นป่วน แต่เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ที่แท้จริงของเขา หงต้าหลี่ถูคาง เขาคิดทบทวนและพูดไม่หยุดว่า "นี่เป็นปัญหาที่ยากลําบาก... ลุงหลิน คุณก็รู้ว่าผมมีคู่หมั้นแล้ว..."

"ฉันรู้สถานการณ์ของนายดี" หลินเจียยุนถอนหายใจเบา ๆ "นั่นเป็นเหตุผลว่าทําไมฉันถึงไม่บังคับคุณ แค่ทําให้ดีที่สุด ยังไงก็ตาม ยังมีเวลา ตอนนี้หยูหยินของเราเพิ่งจะอายุแค่ 18 ปีเองนะ"

หงต้าหลี่พูดว่า "ปัญหาคือผมต้องการมีชีวิตอยู่อีกสักสองสามปีน่ะสิ..."

แม้ว่าหงต้าหลี่จะมีไหวพริบช้า แต่เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาพยายามมาที่จะทำอะไรหลินหยูหยิน ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าจะเป็นการที่เขาตายด้วยน้ำมือเธอ ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเลย!

“หยูหยินน่ะสนใจเครื่องจักรและอาวุธปืน ถ้าเธอไม่ว่าอะไร เธอสามารถทํางานร่วมกับเธอได้ และพอนายเข้าใกล้เธอมากพอ เธอก็จะไม่เกลียดนายแล้ว อีกทั้งความเป็นไปได้ของความสําเร็จตอนนี้ก็มีอย่างน้อย 85%”

บ้าไปแล้ว! ไม่น่าแปลกใจเลยที่หยูหยินฉลาดแบบนั้น มันเป็นกรรมของพันธุกรรมแน่นอน การขอให้ต้าหลี่มาหาลูกสาวอันเป็นที่รัก แน่ใจนะว่ามันจะไม่นําไปสู่จุดจบของโลก?

"ผม... ผมจะพยายามอย่างให้ดีที่สุดแล้วกัน..." หงต้าหลี่พูดด้วยความสิ้นหวัง "หวังว่าผมจะมีหลานสืบทอดตระกูลนะ..."

หลินเจียยุนยืนขึ้น เขาตบไหล่ของหงต้าหลี่และพูดว่า "โอเค ช่วยหยูหยินให้ได้ล่ะ ฉันจะพยายามช่วยให้ได้มากที่สุด ถึงฉันจะช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ถ้าเรื่องตำรวจฉันจัดการให้เอง"

ทําให้มันง่ายสําหรับฉัน จะให้ฉันบีบบังคับเธอได้ยังไง?

รอเดี๋ยว คุณจะจัดการเรื่องกับตํารวจ?

พระเจ้า เขาหมายถึงว่าจะให้เราข่มขืนเธอเลย และเขาก็จะไม่เรียกตํารวจเนี่ยนะ?

หงต้าหลี่ตกตะลึงกับสิ่งที่เขาได้ยิน "นั่น... คือว่าช่วยอย่าใจร้อนขนาดนั้นได้ไหมครับ? ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์ไปอย่างช้าๆก็ได้..."

หลินเจียยุนพูดอย่างช้า ๆ ขณะที่เขาเดินจากไป "ฉันกังวลว่าหยูหยินจะสูญเสียอารมณ์ของเธออย่างสมบูรณ์่นะสิ ต้องจัดการให้ไว ในขณะที่เธอยังคงชอบนายอยู่ ฉันไม่รู้ว่าหยูหยินจะกลายเป็นอะไร ถ้าเวลาผ่านไป เฮ้อออ..."

เมื่อหลินเจียยุนก้าวออกจากบาร์ ในที่สุดหงต้าหลี่ก็รู้สึกราวกับว่าเขาสูญเสียพลังงานของเขาไปมาก เขาพูดว่า "อะไรล่ะเนี่ย..."

ลี่เนียนเหว่ยยิ้มและพูดว่า "ท่านนายน้อยค่ะ ที่จริงแล้ว หยูหยินก็เป็นคนที่ค่อนข้างสวย ถ้าท่านนายน้อยต้อง... ฉันคิดว่า คุณมู่ซินจะไม่รังเกียจ" เธอหน้าแดงและยังคงพูดต่อ "ฉันไม่คิดว่าคนอื่นจะรังเกียจเช่นกัน"

"พอเลย พอเลย ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องรังเกียจไม่รังเกียจแล้ว“หงต้าหลี่พูด”สิ่งสําคัญคือฉันไม่สามารถทำแบบนี้ได้ เพราะว่า ..."

ลี่เนียนเหว่ยถอนหายใจ

ท่านนายน้อยอาจไม่แสดง แต่เขาค่อนข้างแคร์เรื่องความสัมพันธ์ แม้แต่เธอเอง ก็คงจะหนีไม่พ้นเหมือนคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม หงต้าหลี่ไม่เคยมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มันเป็นเพราะเธอเต็มใจที่จะให้เขา

ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขารู้สึกกังวล หลินหยูหยินไม่ได้มีความรู้สึกมากนักในตอนนี้ มันคงไม่ยาก ถ้าหงต้าหลี่อยากได้เธอจริงๆ เขามีโอกาสประสบความสําเร็จสูง ถ้าเขาวางยาเธอหรืออะไรสักอย่าง แต่หงต้าหลี่ไม่อยากทําอะไรแบบนั้น

ลี่เนียนเหว่ยคิดสักพักและถามว่า "ท่านนายน้อยค่ะ ตอนนี้เราควรไปที่ไหน? กลับไปที่ห้องปฏิบัติการเพื่อตามหาหยูหยินไหมคะ?"

เพราะเขาคิดไม่ออกว่าจะทํายังไง "ลืมมันไปเถอะ" นี่เป็นหนึ่งในจุดแข็งของหงต้าหลี่ เรื่องเกี่ยวกับหลินหยูหยินนั้นยากมาก ส่วนใหญ่เป็นเพราะหงต้าหลี่ไม่รู้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับหลินหยูหยินหลังจากได้ยินสิ่งที่หลินเจียยุนพูดยังไง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจว่าเขาจะไม่กลับไปที่อาคารเฉินหุย แต่เขาจะหาวิธีอื่นที่จะคลายเครียด "ถ้าเรากลับไปตอนนี้ ฉันคงอายแน่ ๆ เนียนเหว่ยไปช็อปปิ้งกันเถอะ"

ลี่เนียนเหว่ยเป็นเหมือนพี่สาวคนโต "โอเคค่ะ" เธอยิ้มและจับมือหงต้าหลี่ "เราจะไปทุกที่ที่ท่านนายน้อยอยากไป"

หงต้าหลี่เกาจมูก "ใช่ ไปเดินเล่นกันเถอะ ฉันไม่ได้ไปช็อปปิ้งมานานแล้ว ไปดูกันว่ามีอะไรสนุก ๆ ไหม"

"โอเค"

พวกเขาสองคนออกไปข้างนอก ถนนเต็มไปด้วยผู้คนและแออัดมาก

เมื่อเร็ว ๆ นี้พื้นที่ถนนสี่แยกวงเวียนมีการเปลี่ยนแปลง หลายคนกําลังคิดหาวิธีและย้ายเข้ามาในพื้นที่นี้ เมื่อราคาของอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้น ปริมาณการจราจรของมนุษย์ในพื้นที่ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน

หงต้าหลี่มองไปที่การจราจรโดยรอบ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้นและอุทานว่า "เนียนเหว่ย แค่ไม่กี่วันเองตั้งแต่ฉันอยู่ที่นี่ เปลี่ยนไป... มันเปลี่ยนไปมากขนาดนี้เลยเหรอ? เมื่อก่อนที่นี่ ฉันจําได้ว่ามีคนไม่มาก"

ในวันนี้พวกเขาทั้งสองเหมือนโดนปกปิดตัวตนเพราะคนแออัด หงต้าหลี่ได้พาลี่เนียนเหว่ย หมอนของเขามาด้วย ในขณะที่ก่อนหน้านี้เขาได้พบกับหลินเจียยุน คนส่วนใหญ่ไม่ได้สังเกตเห็นว่าพวกเขาเป็นใคร สิ่งสําคัญคือทั้งคู่สวมแว่นกันแดดและแต่งตัวค่อนข้างสบายชิล ๆ ดังนั้นพวกเขาไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากนัก

ลี่เนียนเหว่ยยิ้มกว้างและพูดว่า "นับตั้งแต่พบเต่ายักษ์ หลายคนซื้อบ้านที่นี่ค่ะ ท่านนายน้อยจัดกิจกรรมฟรีมากมายที่นี่ ดังนั้นความนิยมของพื้นที่แถวนี้จึงเพิ่มขึ้น"

"โอ้ ... เป็นแบบนี้นี่เอง ..." หงต้าหลี่มองไปรอบ ๆ และทันใดนั้นก็เห็นเด็กชายตัวเล็ก ๆ เล่นกับรถควบคุมระยะไกล ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงทักษะใหม่ที่เขาพึ่งได้มา การสลายเครื่องจักร การประกอบและการเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรที่เขาไม่สามารถสร้างได้ แต่ความคิดที่จะรวบรวมรูปแบบการควบคุมระยะไกลที่สมบูรณ์แบบ แค่คิดเกี่ยวกับมันก็ทําให้เขารู้สึกอยากจะเล่น

ยิ่งหงต้าหลี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากขึ้น เขาก็ยิ่งตื่นเต้น เขารีบไปหาเด็กผู้ชายคนนั้น เมื่อต้าหลี่อยู่ข้างหน้าเขา เขาถามว่า "เด็กน้อย นายชื่ออะไร?"

เด็กชายตัวเล็ก ๆ ดูดีและสะอาด ผิวของเขาเป็นธรรมชาติกับทรงผมตัดบ๊อบ เด็กชายอายุประมาณสิบขวบหันศีรษะและมองไปที่หงต้าหลี่ เขายิ้มและพูดว่า "สวัสดีครับ พี่ชายและพี่สาว ผมชื่อวังโม"

"โอ้ วัง วัง..." ฟังดูแปลก ๆ หงต้าหลี่พึมพำ "ฉันหมายถึง โม โม นายซื้อรถรุ่นรีโมทคอนโทรลของนายมาจากไหน? มันแพงไหม?"

วังโมกําลังเล่นกับรถควบคุมระยะไกลแบบไร้สาย รถถูกสร้างขึ้นอย่างซับซ้อน แต่ราคาถูก ตามขนาดของมัน

80 หยวน น่าจะเป็นราคาที่เหมาะสมกับรถบังคับระยะไกลนี้

วังโมชี้ไปที่ร้านขายของใกล้ ๆ ขณะที่เขาเล่นกับของเล่นของเขา "มันก็ไม่แพงนิ คุณสามารถไปซื้อได้ในราคา 80 หยวน ผมซื้อจากร้านตรงนั้น พี่ชาย คุณชอบรถบังคับเหมือนกันเหรอ?"

หงต้าหลี่พยักหน้า "เอ่อ ... ฉันก็ชอบนะ ร้านนั้นมีแพงที่สุดเท่าไหร่?"

วังโมตัวน้อยก็ได้เงยหน้าขึ้นมองหงต้าหลี่ "ราคาที่แพงที่สุดเหรอ? ที่แพงที่สุดน่าจะประมาณ 10,000 หยวนครับ ผมคิดว่ามันเป็นเครื่องบินจําลอง ผมได้ยินมาว่ามันสามารถบินขึ้นท้องฟ้าได้จริง ๆ มันเจ๋งมาก!"

หงต้าหลี่ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที! "จริงเหรอ?"

เครื่องบินจําลอง? มันสามารถบินขึ้นท้องฟ้าได้! ถ้าเขาสามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบ

ทําไมเขาถึงไม่คิดไอเดียดี ๆ ได้ก่อนหน้านี้?

ถึงเวลาที่จะได้ทำอะไรสนุก ๆ แล้ว แล้วจะรออะไรล่ะ? หงต้าหลี่ดึงมือลี่เนียนเหว่ยเพื่อวิ่งบุกเข้าไปร้านค้า "ไปซื้อเครื่องบินจําลองกันเถอะ!"

ดวงตาของวังโมสว่างขึ้น "พี่ชาย คุณจะซื้อมันจริง ๆ เหรอ? พี่พาผมไปด้วยได้ไหม? ผมอยากได้เครื่องบินรุ่นนั้นมานานแล้ว แต่ว่ามันแพงเกินไป ผมขอร้องให้แม่ซื้อให้ผมแล้ว"

เด็กคนนี้

หงต้าหลี่หยุดทันทีและหัวเราะ "โม โม แม่เธออยู่ไหน? ฉันจะไปทักทายแม่นาย ก่อนที่นายจะมาเล่นกับฉัน ไม่อย่างนั้น แม่ของนายคงจะกังวล"

วังโมชี้ไปที่ร้านใกล้เคียง "โอ้ แม่ของผมอยู่ที่นั่น" เขาพูดว่า "ร้านเครื่องแต่งกายคอสเพลย์นั้นเป็นของครอบครัวของผม เสื้อผ้าคุณภาพดี!"

ร้านชุดคอสเพลย์? ก็ดีนะ!

หงต้าหลี่ไปที่ร้านทันทีกับวังโมและลี่เนียนเหว่ย ขณะที่เขาเดิน หงต้าหลี่ก็พูดว่า "โมโม ร้านของครอบครัวนายพึ่งเปิดใหม่เหรอ? ธุรกิจนี้ไม่เลวร้าย!"

วังโมเอียงหัวอย่างภาคภูมิใจ "ก็อย่างที่ผมบอก! ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณความคิดดี ๆ ของพี่ต้าหลี่ ตั้งแต่งานเทศกาลเกม แม่ของผมคิดว่ามันจะทํากําไรได้ เมื่อขายชุดเหล่านี้ ดังนั้นเธอจึงเปิดร้าน ครอบครัวของผมได้รับเงินมากทุกเดือน!"

ลี่เนียนเหว่ยทำอะไรไม่ได้และหลุดหัวเราะออกมากับสิ่งที่โมโมพูด

เด็กน้อยคนนี้ยังคงไม่รู้ว่าชายที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นพี่ชายที่ฉลาดสุด!

หงต้าหลี่รู้สึกอายเล็กน้อยหลังจากได้ยินเด็กน้อยพูดสรรเสริญเขา "อ้า ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า ไม่หรอก" เขาหัวเราะอย่างเขิน ๆ และเขาพูด "จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้ฉลาดนักหรอก ฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่า!"

เมื่อพวกเขาเข้าไปในร้าน พวกเขาได้ยินเสียงหญิงสาวคนหนึ่งพูดว่า "ยินดีต้อนรับค่ะ คุณทั้งสองคนอยากซื้ออะไรจ๊ะ? ร้านค้าเล็ก ๆ ของเรามีทุกอย่างของเกมและเครื่องแต่งกายอะนิเมะ ของทั้งหมดสั่งตรงมาจากโรงงานและมีการรับประกันคุณภาพ"

หงต้าหลี่หันหน้าไปมอง เธอเป็นผู้หญิงที่ดูเหมือนจะอายุประมาณสามสิบปีกว่า รอยยิ้มของเธอสดใสและจริงใจ เธอดูจิตใจดี ไม่ดุ ถึงแม้ว่าจะมีวังโมตัวน้อยที่ไม่ค่อยน่ารักนักก็ตาม หงต้าหลี่ยิ้มและพูดว่า "ใช่ เรามาที่นี่เพื่อดู"

ผู้หญิงคนนั้นมองไปที่หงต้าหลี่ แล้วมองไปที่ลี่เนียนเหว่ย ในที่สุดเธอก็มองไปที่วังโม "โมโม พวกเขาทั้งสอง ... ลูกรู้จักพวกเขาไหม?

วังโมพยักหน้า แล้วส่ายหัวเขา "มัมมี่ ผมพึ่งรู้จักพวกเขาเอง พี่ชายคนนี้บอกว่าเขาอยากซื้อเครื่องบินจำลอง ผมอยากจะไปกับพี่เขา แต่พี่ชายกลัวว่ามัมมี่จะกังวล ดังนั้นพวกเขาเลยมาบอกมัมมี่ก่อน"

"นี่..." ลูกของเธออยากออกไปเล่นกับคนที่เขาเพิ่งเจอ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เธอจะกังวล โชคดีที่หงต้าหลี่และลี่เนียนเหว่ย ทั้งสองคนดูเป็นมิตรและนิสัยดี พวกเขาดูไม่เหมือนคนค้ามนุษย์ ดังนั้นแม่ของโมโมจึงโล่งใจ อย่างไรก็ตามเธอยังคงส่ายหัวและถามว่า "โมโม ลูกยังทําการบ้านไม่เสร็จนะ อย่าออกไปเล่นเลย ไม่อย่างนั้น วันพรุ่งนี้ครูของลูกจะดุเอาได้นะ"

วังโมสะกิดไหล่อย่างช่วยไม่ได้ "โอเค งั้น... พี่ชาย วันนี้ผมไปไม่ได้"

ความน่ารักของเขา ทําให้ลี่เนียนเหว่ยยิ้ม เธอถอดแว่นกันแดดและยิ้มให้ผู้หญิง "สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลี่เนียนเหว่ย ส่วนนี้คือท่านนายน้อยหงต้าหลี่ ฉันเชื่อว่า.. คุณน่าจะเคยได้ยินชื่อพวกเรามาก่อนนะคะ?"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด