ตอนที่แล้วตอนที่ 97 คิง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 99 กาบหอยแครงปีศาจ

ตอนที่ 98 แร่ฝุ่นดวงดาว


ตอนที่ 98 แร่ฝุ่นดวงดาว

คิงหยิบมีดที่ไนเรลเอาออกมาจากไหนไม่รู้ข้ามามันคือมีดสั้นเขี้ยวงูขั้น 2 ที่ไนเรลเคยเก็บไว้ ตอนนี้ด้วยร่างกายของไนเรลถ้าใช้มีดธรรมดามันก็คงเป็นเรื่องยากสำหรับคิงในการตัดเนื้อของเขา

เมื่อคิงเริ่มลงมือใบหน้าของไนเรลก็แสดงถึงความเจ็บปวด โซ่ที่ทะลุอยู่กลางกระดูกทำให้คิงต้องตัดไปที่กระดูกฝั่งหนึ่งของไนเรล มันใช่เวลามากพอสมควรจึงสามารถตัดกระดูกออกได้อย่างยากลำบาก

โซ่ที่ทำจากโลหะพิภพถูกดึกออกพร้อมกับเลือดที่ไหลออกมา คิงรีบห้ามเลือดไนเรลในทันที แต่แล้วไนเรลก็บอกกับเขาว่าให้หยิบขวดที่โผล่มาจากด้านข้างที่ข้างในมีของเหลวสีแดงอยู่เทลงไปที่บาดแผล

หลังจากเทลงไปแล้วแผลของไนเรลก็ค่อย ๆ รักษาตัวเองอย่างน่าอัศจรรย์ แต่ว่ามันก็ยังไม่ได้หายสนิทซะที่เดียว ไนเรลให้คิงลงมือจัดการกับอีกข้างในทันที และก็เทยาที่เหลืออีกครึ่งลงไปในแผลโดยตรงเช่นเคย

ไนเรลที่ค่อย ๆ เกร็งร่างกายขึ้นมานั่งหลังจากที่โดนจับตอกไว้กับกางเขนมนุษย์มาหลายวัน กระดูกและข้อต่อมันก็ดังออกมาเล็กน้อยจากการที่เส้นยึด

ไนเรลยังไม่ค่อยมีแรงหรือขยับตัวได้มานักเนื่องจากว่าเส้นเอ็นของเขาส่วนใหญ่ยังคงไม่ได้รักษาด้วย โลหิตชีวิต เพราะเขาต้องทำการจัดการกับโซ่ที่ติดกับขาทั้งสองออกก่อน

เขามองไปที่ขาทั้งสงข้างขอตัวเองจัดการนำโซ่ออกอย่างรวดเร็ว แม้แต่คิงที่อยู่ด้านข้างก็มองด้วยสีหน้าซีดเล็กน้อย เพราะในใจคิดว่าถ้าเป็นตนเองคงร้องออกมาเพราะเจ็บไปแล้ว

เลือดที่กระเด็นออกมาบางส่วนยังไปโดนใบหน้าของคิงเล็กน้อย จนเขาคิดว่าไนเรลเป็นคนอย่างไรถึงโหดร้ายกับตนเองแบบนี้ ในใจส่วนหนึ่งก็เตือนให้เขาระวังไนเรลไว้เช่นกัน

หลังจากไนเรลจัดการทุกอย่างเสร็จเขาก็หยิบโลหิตแห่งชีวิตที่ตอนนี้มีเหลืออีกแค่สองขวดออกมา ในช่วงหลายวันมานี้เนื่องจากว่าเขานั้นอยู่ใต้พิภพทำให้ไม่สามารถรับแสงของดวงอาทิตย์ในช่วงเชาได้ จึงไม่ได้สร้างโลหิตแห่งชีวิตขึ้นมาอีก

ซึ่งที่มีทั้งสามขวดก็ได้มาจากตอนก่อนที่เขาลงมาที่ด้านล่างนี้

ไนเรลที่ร่างกายค่อย ๆ ฟื้นคืนสภาพอย่างรวดเร็ว บาดแผลและร่างกายที่ได้รับความเสียหายเริ่มหายอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็คงต้องรอให้โลหิตแห่งชีวิตออกฤทธิ์จนเสร็จก่อน ไนเรลคาดการไว้ว่าน่ากลับมาสมบูรณ์พร้อมประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างต่ำ

หลังจากนั้นไนเรลก็ยื่นมือเข้าไปในเงาหยิบเนื้อไก่ป่ากลายพันธุ์ตัวใหญ่ออกมาย่างกินในทันที เนื่องจากความหิวที่สะสมหลายวันไนเรลจึงกินอย่างมูมมาม

ในขณะที่คิงและเด็ก ๆ ทั้งสามคนนั้นก็ได้แต่ตกใจในตอนแรกที่ไนเรลหยิบเนื้อสัตว์ออกมาจากความว่างเปล่า และต่อมาก็มีเปลวไฟที่สว่างมาก

ซึ่งก็ทำให้พวกเธอและคิงที่อยู่ตรงนั้นถึงกับมองไปด้วยความตะลึงพร้อมกับหรี่ตาหลบแสงเล็กน้อย ทั้งหมดมองไปที่แสงอย่างหลงใหล เนื่องเพราะปกติแล้วการจะมีแสงได้นั้นก็มาจากบอลแสงลาวา แต่แน่นอนว่าอันที่ให้แสงสว่างมาก ๆ นั้น คนอย่างคิงและเด็ก ๆ ไม่มีทางหามาได้อย่างแน่นอน

พวกเธอได้แต่ใช้อันที่ให้ความสว่างไม่มากนักและพลังงานของมันก็ใกล้จะหมดแล้วด้วย

ในตอนนั้นเอง เด็กน้อยที่จับแขนเสื้อของพี่สาวก็ชี้ไปทางเนื้อย่างของไนเรลและพูดออกมาด้วยความหิว “พี่หอมจังเลย”

ทุกคนมองไปตามที่เด็กน้อยชี้ไป แม้แต่คิงก็ยังคงกลืนน้ำลาย แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าที่จะขอและในตอนนั้นเองไนเรลที่สังเกตเห็นทาทีของพวกเขาก็พูดออกมา

“คุณเอาไปแบ่งกับเด็ก ๆ กินเถอะถือซะว่าเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยผม” ไนเรลส่งชิ้นเนื้อที่ย่างจนชุ่มฉ่ำน้ำขนาดใหญ่ส่งให้คิง

ซึ่งแน่นอนว่าคิงก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ หลังจากที่เขาเอาเนื้อย่างไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ลงมือกินทันที กลับตัดแบ่งให้เด็ก ๆ ทั้งสามคนก่อนและตนถึงจะกิน

ไนเรลที่กินเนื้อไปจำนวนมาก แม้ก่อนที่เขาจะถูกจับมานั้นจะสามารถล่าสัตว์ไว้ได้หลายตัว แต่การกินในครั้งนี้ก็ทำให้ไนเรลเหลือเนื้อของสัตว์กลายพันธุ์แค่สองตัวเท่านั้น

ทั้งสองตัวคือ ผีเสื้อมายาตัวเท่าท่อนแขนที่สามารถล่ามาได้แค่ตัวเดียวเท่านั้น และอีกตัวคือพังพอนตัวเท่าผู้ใหญ่เต็มวัยอีกตัว ไนเรลเลือกที่จะทั้งสองไว้ก่อน และหันมาสนใจกับสิ่งที่พึ่งจะได้มา

เพราะในตอนที่กินอยู่นั้นเขากับได้ความสามารถใหม่มา

[ความกลัว D] ซึ่งเป็นความสามารถที่ได้มาจากไก่ป่ากลายพันธุ์ เมื่อรู้ว่าเป็นความสามารถนี้ไนเรลก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ออกมา เขาคิดไม่ถึงว่าไก่ป่ากลายพันธุ์พวกนี้จะให้ความสามารถแบบนี้มา

แต่ถึงแบบนั้นไนเรลก็ยังคงลองใช้มันดู ซึ่งพอใช้ความสามารถ [ความกลัว D] ออกมามันกลับทำให้ร่างกายของเขากลัวขึ้นมาทันที จนต้องถอยเข้าไปในมุมหนึ่งและพยายามปัดหมอกที่ลอยอยู่ในอากาศไปมา

ไนเรลรีบยกเลิกความสามารถในทันที เขาตกใจอยากมากกับพฤติกรรมของตนเองเมื่อสักครู่ ที่จริงมันไม่ใช่แค่เขา แต่ยังรวมถึงคิงและเด็ก ๆ ด้วยที่เกิดกลัวขึ้นมาเพราะอยู่ ๆ ไนเรลก็ทำท่าทางแปลก

“คุณเป็นอะไรหรือไม่?” คิงถามออกมา

ไนเรลจึงต้องแก้ตัวกลับไปในทันทีว่าไม่เป็นอะไร และถามเขาว่าหมอกนี้มันคืออะไรคิงที่เห็นว่าไนเรลไม่ได้เป็นอะไรเขาก็เล่าให้ฟังในทันทีว่า หมอกพวกนี้มันเป็นหมอกพิษที่จะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและเหนื่อยง่าย แต่มันแค่สำหรับคนธรรมดาเท่านั้น

ถ้าเป็นมนุษย์ชั้นสูงมันจะทำให้สูญเสียพลังงานอยู่ตลอดเวลา และที่มันมีอยู่ในเหมืองแห่งนี้ก็เพราะแร่ชนิดหนึ่งมันคือแร่ฝุ่นดวงดาว ซึ่งคิงก็ไม่รู้ว่าพวกยักษ์นั้นต้องการเอาไปทำอะไร

แต่มันจับมนุษย์ธรรมดาเขามาเป็นทาสเหมืองและขุดมันขึ้นมา ซึ่งทุก ๆ 7 วันมันจะเปิดปากหลุมทางเข้าและให้ทาสนำแร่ที่ตนเองขุดได้ไปแลกกับของจำเป็นที่คนต้องการ ซึ่งก็จะมีทั้งน้ำ อาหาร และอุปกรณ์ต่าง ๆ

แต่สิ่งที่พวกทาสต้องการมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นอาหาร เพราะในเหมืองนี้ไม่มีอาหารอะไรให้กินเลย และบอลแสงลาวาคือสิ่งที่รองลงมานั้นก็เพราะในถ้ำเหมืองพวกนี้มืดมากจึงต้องการแสงสว่างที่ช่วยในการใช้ชีวิต

ส่วนน้ำนั้นมันก็มีตามธรรมชาติอยู่ แต่ส่วนใหญ่น้ำสะอาดจะถูกทาสมนุษย์ที่แข็งแรงยึดครองไปแล้ว

เมื่อถามต่อไปอีกคิงก็เล่าว่าทำไมเขาถึงรู้มากนักก็เพราะเขาเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่เข้ามาในที่แห่งนี้ส่วนเด็กพวกนี้ก็ได้เขาช่วยดูแลจึงรอดมาได้นานขนาดนี้

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็ต้องถามคำถามที่คาใจมามากที่สุดนั้นก็คือ ทำไมพวกเขาไม่หาทางหนีออกไป

“มันเป็นไปไม่ได้ เหมืองแห่งนี้ไม่มีทางออกนอกจากประตูทางเข้า อีกทั้งลึกลงไปก็จะมีเส้นทางที่สลับซ้อนถ้าไม่ระวังหลงเข้าไปก็ไม่สามารถหาทางออกมาได้”

“เคยมีทาสคนหนึ่งเขาพยายามรวบรวมลูกบอลแสงลาวาเพื่อสำรวจส่วนลึกของเหมือง แต่แล้วพอแสงหมดลงเขาก็เกิดหลงทางและตายอยู่ในนั้น จนกระทั่งมีคนไปพบศพเขาตายอยู่ไม่ลึกมากนัก ซึ่งอันที่จริงเขาคงเดินจนออกมาจากส่วนลึกได้ แต่ก็ตายซะก่อนที่จะได้ออกมาส่วนนอกซะก่อน”

“อีกอย่างมันมีพืชกินเนื้ออยู่กระจายไปทั่วซึ่งใครไม่ระวังและหลงเข้าไปก็มีแต่ตายเท่านั้น” คิงเล่าออกมาขณะที่ฉีกเนื้อกิน

ไนเรลได้ยินดังนั้นก็ต้องคิดหนักจากที่คิงเล่ามา เขาสรุปได้สองสามอย่างคือ

หนึ่งเหมืองนี้ไม่มีทางออกจะออกได้คือทางที่พวกเขาเข้ามา

สองคือหมอกนี่และอาหารที่น้อยส่งผลต่อพวกมนุษย์ชั้นสูงแบบพวกเขา จนเมื่อเวลาผ่านไปคงจะทำให้พวกมนุษย์ชั้นสูงแบบพวกเขาขาดแคลนพลังงานจนไม่ต่างกับคนธรรมดา

ซึ่งมันก็คลายข้อสงสัยให้ว่าทำไมพวกมันไม่กลัวที่มนุษย์ชั้นสูงจะหนี เพราะเมื่อเข้ามาที่นี่อีกไม่นานพวกมนุษย์ชั้นสูงก็จะไม่มีพลังในการขัดขืนต่อสู้

และสุดท้ายคือพวกทาสมนุษย์จะต้องหาแร่ฝุ่นดวงดาวเพื่อแลกของประทังชีวิต

ไนเรลคิดหนักทันทีหลังจากที่ได้ข้อสรุป ถ้าจะหนีเขาก็คงมีเวลาก่อนที่พลังงานจะหมดเท่านั้น

“คุณมีแร่ฝุ่นดวงดาวอยู่หรือไม่” ไนเรลถามคิงซึ่งคิงนั้นก็ลังเลที่จะหยิบมา แต่เมื่อคิดว่าไนเรลนั้นแบ่งอาหารให้กับตนเขาก็หยิบออกมา

เมื่อไนเรลมองแร่ฝุ่นดวงดาวที่อยู่ในถุงน้ำหนักประมาณ 100 กรัมซึ่งเขาก็รู้สึกสนใจอย่างอดไม่ได้

แร่ฝุ่นดวงดาวนั้นเป็นประกายที่ขาวดำราวกับดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า นั้นคือสิ่งที่ไนเรลสังเกตเห็น แต่นอกจากนั้นไนเรลก็ไม่รู้ว่ามันเอาไว้ทำอะไรอีก เขาจึงสงมันคืน

หลังจากนั้น 2 วันไนเรลที่ได้นั่งพักฟื้นจนคิดว่าตนเองเริ่มหายดีกว่า 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว เขาก็คิดจะสำรวจรอบ ๆ ด้าน ซึ่งก็โชคดีที่ได้แผนที่แสดงเส้นทางทั่วไปในเหมืองมาจากคิงหนึ่งฉบับ

ซึ่งหลังจากที่ไนเรลแยกจากคิงมาเขาก็เดินไปตามแผนที่ อันที่จริงคิงบอกว่ามันก็พอมีของที่กินอยู่ในเหมืองแห่งนี้อยู่นั้นก็คือพืชแปลกประหลาดชนิดหนึ่ง แต่แน่นอนว่าพืชนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะให้มนุษย์แบบพวกเขากินมันได้ และที่สำคัญพวกนั้นก็เป็นแค่อาหารของคนที่สิ้นหวังจริง ๆ แล้วเท่านั้น

ไนเรลได้เอาบอลแสงลาวาของพวกที่จะกินเขามาด้วย แต่ตอนนี้แสงของมันสว่างมากกว่าแต่ก่อนมาก เหมือนกับของใหม่ก็ไม่มีผิด เพราะไนเรลได้ใช้ความสามารถไฟของตนในการเติมเข้าไป

ถึงมันจะอยู่ได้ไม่นานเหมือนกับการเติมลาวาแต่มันก็ยังดีกว่าไม่มี ซึ่งเมื่อเขาลองนึกย้อนดูมันก็คงเป็นเหตุผลที่พวกเกลที่พามนุษย์ชั้นสูงธาตุไฟคนนั้นไปตอนที่อยู่ปากทางเข้า

ตลอดทางที่ผ่านมาไนเรลเจอกับทาสมนุษย์หลายคน ส่วนใหญ่พวกเขาจะเอาแต่ใช้เครื่องมือขุดเหมืองอย่างพวกจอบ เสียม อีเต้อ ขุดหาแร่ฝุ่นดวงดาวอยู่ไม่หยุด

ไนเรลใช้เวลาไม่นานเดินมาจนถึงปากทางเข้าอุโมงค์หนึ่งที่ดูน่ากลัวมาก เมื่อสองไฟเข้าไปก็เจอเข้ากับรากไม้และต้นไม้ที่เหมือนกับกาบหอยแครง

พวกมันถูกเรียกว่า กาบหอยแครงปีศาจ พวกมันมีลักษณะราวกับพืชธรรมดาที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติเท่านั้น แต่เมื่อลองสังเกตดูจะเห็นว่าหนวดและรากของวันเคลื่อนไหวไปมาราวกับมันมีชีวิตรอคอยให้เหยื่อมาติดกับอยู่

และเหตุที่ไนเรลมาที่นี่ก็เป็นเพราะว่า เขาคิดที่จะใช้ประโยชน์จากมัน แต่ก่อนที่เขาจะทำอย่างนั้นได้ก็คงต้องจัดการหาเมล็ดพันธุ์ของมันให้เจอซะก่อน

ไนเรลเดินเข้าไปหามันทีละก้าวอย่างช้า ๆ มันก็ยังคงไม่มีการตอบสนองอะไร เขาใช้บอลแสงลาวาสองไปบริเวณรอบ ๆ ทั้งถ้ำแห่งนี้ตั้งแต่บนลงล่างเต็มไปด้วยต้นกาบหอยแครงปีศาจ แต่ส่วนใหญ่มันมีแต่ต้นย่อยเท่านั้น ถ้าเขาจะหาเมล็ดหรือแก่นกลางห้เจอก็จำเป็นต้องหาต้นหลัง

แก๊ก!

ทันใดนั้นไนเรลก็เหยียบเข้ากับางสิ่งมันก็คือกระดูกที่คล้ายกับมนุษย์มีให้เห็นอยู่ตามพื้นด้านล่างไม่มากก็น้อย

“กระดูกของยักษ์เถื่อน” ไนเรลก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาดูนั้นแสดงให้เห็นว่าที่เหมืองแห่งนี้เมื่อก่อนมันมีทาสเหมืองที่เคยเป็นยักษ์เถื่อนอยู่ แต่ดูเหมือนว่าพอพวกมันจับมนุษย์ได้ก็เลยใช้มนุษย์แทน

แต่มันก็ไม่แปลก เพราะยักษ์เถื่อนทุกตนที่เกิดมาก็มีพลังที่เทียบเท่ากับขั้น 2 ขึ้นไปแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงร่างกายของพวกมันที่แข็งแกร่งมาก ๆ

นั้นทำให้หมอกพิษพวกนี้ส่งผลกระทบถึงพวกยักษ์เถื่อนทุกคนไม่ต่างจากมนุษย์ชั้นสูง

“บางที่โครงกระดูกพวกนี้อาจจะเป็นพวกยักษ์ต่างจากเผ่าหลักทั้ง 3” ไนเรลเลิกสนใจกระดูกเหล่านั้น

เขาเริ่มมาเตรียมการล่อให้เจ้าต้นกาบหอยแครงปีศาจออกมาเพื่อเผชิญหน้ากับต้นเองแล้ว เพราะไนเรลไม่ต้องการที่จะเสียเวลาอีกแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด